เห็นกระแสตัวหนังดีพอตัวเลยน่ะสำหรับหนังเรื่องChronicle เนี่ย ด้วยการนำเสนอเรื่องราวแบบฟุตเทจ ใช้กล้องแฮนด์เฮลด์ถ่ายทำเสมือนว่าตัวเรากำลังได้ดูเหตุการณ์ที่ว่านั้นเป็นเรื่องจริง ก่อนหน้านั้นมีการใช้วิธีการเล่าเรื่องแบบนี้ทั้ง ล่าแม่มด (แบร์ วิทช์ โปรเจ็ค) ไล่มาเป็นซอมบี้สยองปิดตึกอย่าง REC ต่อมากับ สัตว์ระหลาดผจญโลกอย่างCoverfiled  ซึ่งแน่นอนทุกเรื่องที่กล่าวมาประสบความสำเร็จทางรายได้งดงามเมื่อเทียบกับทุนสร้างอันน้อยนิด ซึ่งตัว Chronicle เอง ก็ใช้วิธีนี้ด้วยการเล่าเรื่องราวของ 3 หนุ่มที่มีพลังเหนือมนุษย์คล้ายจะเหมือนซุปเปอร์ฮีโร่ ตัวหนังประสบความสำเร็จทำรายได้ไปกว่า 120 ล้านเหรียญสหรัฐ จากทุนสร้าง 12 ล้านเหรียญสหรัฐเอง กำไรเห็นๆ แล้วหนังมันดียังไง ลองมาดูกันน่ะครับ

เรื่องราวหลักของตัวหนังจะไปเน้นที่ แอนดรูวส์ (แดน ดีฮาน) หนุ่มน้อยชอบเก็บตัว ขี้อาย พ่อชอบซ้อมชอบอาละวาดใส่เขา เขามีแม่ที่ป่วยมากๆต้องดูแล ด้วยความนั้นเองเขาจึงได้ทำการถ่ายวิดีโอเอาไว้ตลอด เหมือนเครื่องกั้นไม่ให้ได้เจอผู้คนตรงๆ และดูจะเป็นที่เอาไว้ระบายความในใจ เขามีเพื่อนคนหนึ่งซึ่งเป็นเหมือนญาติด้วยนาม แมท (อเล็กซ์ รัซเซล) ซึ่ง แมท เองจะคอยมารับมาส่ง แอนดรูวส์ ไปโรงเรียน ที่โรงเรียน เขาต้องถูกแกล้งสาระพัด ถูกมองเป็นไอ้เห่ย จนวันหนึ่งทุกอย่างต้องเปลี่ยนไป เมื่อเขา แมท และคนลงสมัครประธานนักเรียนนาม สตีฟ (ไมเคิล บี จอร์แดน) ได้ไปเจอกับหลุมประหลาดแห่งหนึ่ง ด้วยความอยากรู้ทั้ง 3 ลงไปแล้ว ไปเจอกับอะไรบางอย่างเหมือนแท่งคริสตัลสีฟ้า แล้วมันก็ตูม ตัดกลับมาเหมือนเช้าวันใหม่ทั้ง 3 มีพลังแฝงบางอย่าง ที่ยากจะมีมนุษย์คนใดทำได้ แรกเริ่มมันดูสนุก แต่หลังจากนั้นด้วยความที่ แอนดรูวส์ เป็นคนที่เก็บกดอะไรมามากมายทำให้เขาเริ่มใช้ในทางที่ผิด แมท จึงต้องเริ่มยับยั้งไม่ให้อะไรมันเลวร้ายไปกว่านี้ ส่วนเรื่องราวทั้งหมดไปตามดูต่อน่ะจ๊ะ

มาว่ากันที่ตัวหนัง อยากจะบอกว่าพล๊อตมันก็คล้ายกับภาพยนตร์ที่มีการสร้างมาก่อนหน้านั้น แนวๆผู้แพ้ก่อนแล้วค่อยมาเอาคืน แต่ทว่ามันไม่ได้มาเอาคืนแบบพระเอก แต่มาแบบโหดเหี้ยม อารมณ์ตัวหนังเหมือนกับเรื่องราวใน Carrie ผสมกับการเดินเรื่องแบบ ถ่ายวิดิโอเรียลลิตี้ จากนั้นก็มาผสมอีกกับ แอนิเมะเรื่อง Akiraซึ่งในฉากท้ายๆของตัวหนัง Chronicle เอง มีหลายฉากเหมือนกันที่ผมมองว่าเหมือน Akira พอสมควร ทั้งการที่ตัวเพื่อนมาปราบกันเอง เพื่อนอีกคนเริ่มควบคุมพลังตัวเองไม่ได้ แต่ที่แหวกไปก็เพราะมีการนำเสนอที่น่าสนใจ ท่านทั้งหลายไม่ต้องกังวลเลย เรื่องที่ว่ากล้องไม่นิ่ง หรือ เวียนหัว เพราะหนังเรื่องนี้มีวิธีการนำเสนอว่าทำไมคนถือกล้องถ่ายในหนังมันทำให้ดูนิ่งๆได้

ประเด็นที่น่าสนใจคือ เด็กมีปัญหา คุณจะเห็นว่า ในหนังได้ปูมาว่าตัว แอนดรูวส์ นั้นมีปัญหามากมายที่เขาเก็บเอาไว้ขนาดไหน ตัวพลังที่เขาได้รับมาก็เหมือนเป็นการปลดปล่อยเอาทุกอย่างที่เขาเก็บเอาไว้ระเบิดอออกมาด้วยนั้นเอง แม้ว่าเขาจะขี้กลัวในตอนต้น แต่เมื่อได้รับพลังอันมากมายขนาดนั้นการใช้มันไปในทางที่จะสนองความต้องการในตอนที่เขาทำมันไม่ได้นั้นก็ยิ่งเด่นชัด ทั้งการควบคุมอารมณ์ไม่ได้จึงใช้พลังที่มีอยู่ทำคนอื่น หรือ อะไรก็ตามให้ได้รับบาดเจ็บ คนแบบนี้น่าเห็นใจรวมกับน่าสงสารน่ะครับ แต่ดูไปดูมาหมั้นไส้เหลือเกิน ต้องชมการแสดงของ แดน ดีฮาน ที่ทำออกมาได้ดี เพราะเขาทำให้ผมไม่ชอบได้ แวดงว่าเล่นบทบาทได้ดีเยี่ยม มาที่ อเล็กซ์ รัซเซล คนนี้มานิ่งๆครับ ไม่ได้หวือหวาอะไรมากมาย อีกคนก็ ไมเคิล บี จอร์แดน ที่ออกมาแนวฮาๆมากกว่า นักแสดงคนอื่นๆไม่ค่อยได้เด่นเท่าใดนัก ทำหน้าที่ของตัวเองได้ดี เพราะตัวหนังเหมือนต้องการจะเน้นที่ 3 ตัวละครนี้

ทางด้านเทคนิคพิเศษของตัวหนังก็เข้าใจว่าทุนไม่ได้สูง บางอย่างทำออกมา หลอกตาพอสมควร แยกออกได้ชัดเจนมากๆ การต่อเลโก้ การเดินแหวกน้ำ แต่ทำได้ขนาดนี้ก็เจ๋งแล้วล่ะ แต่การลอยตัวตอนแรกๆผมมองว่าเนียนดี ผู้กำกับ จอช แทรงค์ ทำผลงานเปิดตัวได้ดีมากครับ นี่เป็นผลงานภาพยนตร์เรื่องแรกของเขา ก่อนหน้านั้นเขาอยู่กับวงการทีวีมาก่อน จนตอนนี้ได้รับการทาบทามให้สร้างภาคแยกของ Venom ตัวร้ายหลักของ Spider-Man และก็ยังได้ทาบทามให้มาสร้าง Fantastic Four หรือ 4 กายสิทธิ์ฉบับสร้างใหม่อีก เนื่องจาก คริส อีแวนส์ หนีไปเป็น กัปตันอเมริกา แล้ว

มันก็เหมือนกับ คนที่ใช้ปืนไม่เป็นแต่มีปืนในมือนั้นแหละครับ ราวๆนี้หนังเรื่องนี้ เรื่อยๆครับ ไม่ได้ชอบมากมาย แต่ดูได้กันน่ะครับผม

เหมือนเดิม แวะไปหา ไปอ่าน งานเขียนแบบกวนๆได้ที่ //www.nangnadoo.com/