เขียนเรื่องราวของหนังไปเรื่อยเปื่อยของคนบ้าหนังเข้าเส้น
<<
เมษายน 2555
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
25 เมษายน 2555

The Girl With The Dragon Tattoo เถื่อน ดิบ วิปริต บ้า โดนใจ ตามสไตล์ ฟินเชอร์

the-girl-with-the-dragon-tattoo-2011

หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง The Social Network ได้ 25 วัน ผู้กำกับเดวิด ฟินเชอร์ ได้หอบเอาตัวเขาเอง ทีมงานทั้งกอง เดินทางไปยังประเทศสวีเดนเพื่อทำการถ่ายทำ The Girl With The Dragon Tattoo ผลงานจากการดัดแปลงจากหนังสือเล่มแรกจากชุดมิเลนเนี่ยมในชื่อเดียวกับตัวหนัง ซึ่งคนเขียนนาม สเตียจ ลาร์สสัน ชาวสวีเดนซึ่งถ่ายทอดเรื่องราวออกมาเป็นหนังสือที่ตนเองได้เขียนขึ้นเพราะเรื่องจากวัยเด็กที่ได้เห็นผู้หญิงโดนรุมขมขื่นแต่ไม่สามารถทำอะไรได้ นิยายที่ว่าด้วยการย่ำยีสตรีเพศ (แต่ตอนท้ายไอ้ตัวที่ย่ำยีก็โดนเอาคืนน่ะ สะใจ) สามารถทำยอดขายไปกว่า 60 ล้านเล่มทั่วโลก แปลไปถึง 46 ภาษา ถูกสร้างเป็นภาพยนตร์มาก่อนในฉบับของสวีเดน โดยได้ นูมิ ราเพซ มารับบทเป็นสาวสักลายมังกรผู้ชื่นชอบการเจาะ ลิสเบธ ซาเลนเดอร์ ถึง 3 ภาค อันได้แก่ The Girl With The Dragon Tattoo, The Girl Who Played with Fire และ  The Girl Who Kick the Hornests' net ซึ่งทั้งหมดสร้างจากหนังสือทั้ง 3 เล่ม ตามชื่อเดิม จนกระทั่ง เดวิด ฟินเชอร์ ได้รับมอบหมายภารกิจให้จัดการสร้างตัวหนังออกมาเป็นฉบับใหม่ซะ "มันไม่ใช่การรีเมกจากหนังของสวีเดน แต่เป็นการเอาเรื่องราวจากตัวหนังสือมาสร้างเองต่างหาก" ฟินเชอร์ บอกไว้

เรื่องราวเริ่มต้นที่ มิเคล บลูมควิสต์ (เดเนียล เครก) บรรณาธิการแห่งนิตยสาร มิลเลนเนี่ยม ผู้ที่กำลังจะแย่เนื่องจากไปเขียนเรื่องราวตีแผ่นักธุรกิจแห่งบริษัท เวนเนอร์สเตริน ถึงการไม่ชอบมาพากลของรายได้ของบริษัทที่ดูแปลกไป แต่ทว่าเมื่อเขาเริ่มจัดการตีแผ่เขาถูกฟ้องร้องจนแพ้คดี เสียเงินค่าปรับ ต้องติดคุก เสียเครดิตความน่าเชื่อถือแห่งการเป็นนักข่าวไปจนเกือบหมด ในขณะเดียวกัน เฮนริก วังเกอร์ (คริสโตเฟอร์ พลัมเมอร์) มหาเศรษฐีวัยชราผู้มีความเจ็บปวดในใจกว่า 30 ปี เนื่องจากเหตุการณ์ความวุ่นวายในวันนั้น วันที่เขาไม่ได้พบเจอหลาวสาวของเขา แฮร์เรียต ผู้ซึ่งหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยตราบจนทุกวันนี้ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเธอหายไปไหน เธอตายแล้วหรือเปล่า ทุกๆปีในวันเกิดของเขา เขาจะได้รับดอกไม้แห้งที่อัดกรอบมาอย่างดีส่งมาจากทุกมุมโลก แต่ละที่ไม่ซ้ำกัน ทำให้เขาปักใจเชื่อว่าฆาตรกรหรือใครสักคนไม่อยากให้เขาลืมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เขาจึงได้จัดแจงให้ผู้ช่วยไปเรียกตัว บลูมควิสต์ ให้มาช่วยไขคดีลับนี่ซักหน่อยโดยให้เขามาทำทีว่าเขียนหนังสือประวัติของตัวเขาเอง ซึ่งก่อนที่ บลูมควิสต์ จะมาได้เขาต้องถูกสืบค้นประวัติโดยลิสเบธ ซาลันเดอร์ (รูนี่ย์ มาร่า) สาววัย 20 นิดๆ ผู้ชื่นชอบการสัก การเจาะทั่วตัว เธอมีปัญหาเรื่องการปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น แต่ด้วยความสามารถในการแฮก การเรียบเรียงเรื่องราว ทำให้เธอสามารถหาเงินเลี้ยงดูตัวเธอได้เอง เธอเป็นคนที่ผ่านชีวิตมามากมายนับไม่ถ้วนซึ่งส่วนใหญ่เป็นแต่เรื่องเลวร้ายทั้งนั้น

บลูมควิสต์ ได้รับข้อเสนอที่เขายากจะปฏิเสธจาก วังเกอร์ ที่ว่า หากไขเรื่องราวทั้งหมดให้เขา เขาจะเปิดให้ขอมูลลับที่จะเปิดโปงความลับของบริษัท เวนเนอร์สเตริน ให้ บลูมควิสต์ จึงตกลง เขาเริ่มต้นสืบหาความจริงโดยการโยงใยเรื่องราวในครอบครัวตระกูล วังเกอร์ แต่เนื่องจากการหาข้อมูลต้องอาศัยผู้ชำนาญการเขาอยากได้ผู้ช่วย และผู้ช่วยที่เขาได้มาก็คือ ลิสเบธ ทั้งคู่จึงต้องออกไขคดีนี้ แต่ยิ่งสืบก็ยิ่งเจอเรื่องราวอันลึกลับของครอบครัว วังเกอร์ มากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งแต่ละคนก็อยากจะปิดมันเอาไว้เป็นความลับ แฮร์เรียต เธอหายไปไหน ? เธอตายแล้วหรือเปล่า ? ใครฆ่าเธอ ? ต้องไปตามดูกันน่ะครับ

บอกกันตามตรงว่าผมยังไม่เคยได้อ่านหนังสือ ยังไม่ได้ดูหนังฉบับสวีเดน ได้ดูฉบับนี้เท่านั้นจึงไม่ทราบว่าจะบอกอย่างไรดีหากจะเปรียบเทียบกับแบบอื่นๆ แต่ตัวหนังนั้นตามสไตล์ ฟินเชอร์ จริงๆครับ ด้วยโทนภาพที่ดูเข้ม ดำๆมืดๆ ฉากในสวีเดนดูกดดัน การเล่าเรื่องอาจจะงงๆช่วงแรกๆบ้าง แต่พอมากลางๆแล้วจะเริ่มเข้มข้นไปจนเกือบสุดครับ แต่ตอนจบผมว่ามันเดาง่ายเกินไป ไม่ได้เหมือนกับ Se7en ที่ทำเอาผมร้องตอนจบ แต่ก็มีการหักมุมบ้างเหมือนกันแต่มันก็ไม่ได้ตื่นเต้นอะไรมากมายครับ อาจเป็นเพราะคาดหวังไว้เยอะหรือเปล่าไม่แน่ใจ เนื่องจากกิตติศัพท์ของทั้งหนังสือ พร้อมตัวหนังที่สร้างไปก่อนหน้านี้ทำไว้ครับ

ทางด้านตัวดาราทำได้ดีทุกคนเลย ตอนแรกผมมักจะติดตามกับ พี่เครก ในบท เจมส์ บอนด์ มากกว่า แต่มาเรื่องนี้ไม่ใช่เลยเขาดูเป็นคนจริงๆ เจ็บจริงๆ เป็นนักข่าวที่ครุ่นคิดผู้เจอปัญหาหลายอย่าง จนถูกทรมาน (อีกแหละ) แต่ที่ต้องชมหนักๆ ก็ต้องเป็น รูนี่ย์ มาร่า ที่เคยร่วมงานกับ ฟินเชอร์ มาแล้วใน The Social Network รับบทเป็นแฟนสาวของ มาร์ค ซักเกอร์เบริก ตามเรื่องครับ เธอสลัดคราบของสาวน่าหวานมาเป็นสาวซัก พังค์ เจาะ เปลือย ทำทุกอย่าง โทรมมากมาย การแสดงของเธอก็ทำจิตๆดี แต่เสียงมันน่ารักไปครับ จึงไม่แปลกที่จะได้เข้าชิงออสการ์ดาราหญิงปีที่ผ่านมา

คำพูดคำจา บทสนทนายังคมคายเหมือนเดิมสำหรับหนังของพี่แก โดยเฉพาะที่โดนใจผมก็ตอนท้ายๆที่ มาร์ติน หลายชายและพี่ชายของ แฮร์เรียต ที่ได้บอกเอาไว้ตอนท้ายที่ว่า “น่าแปลกที่คนเรากลัวเสียน้ำใจมากกว่ากลัวเจ็บกลัวตาย” มันจี๊ดมากครับ

สรุปแล้วเป็นหนังทริลเลอร์ อาชญากรรม ที่น่าดูอีกเรื่องน่ะครับ ไปหามาดูซะ


ตามไปอ่านเรื่องราวข่าวสารได้ที่ //nangnadoo.com/ น่ะครับผม





Create Date : 25 เมษายน 2555
Last Update : 25 เมษายน 2555 22:42:26 น. 0 comments
Counter : 864 Pageviews.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ทับแก้วสาม
Location :
แพร่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ผมชอบดูหนัง ผมตามอ่านเรื่องราวของหนังพอสมควร เรื่องที่รู้ๆบ้างก็อยากจะมาเขียนให้คนรักหนังอ่านกันครับ
[Add ทับแก้วสาม's blog to your web]