เขียนเรื่องราวของหนังไปเรื่อยเปื่อยของคนบ้าหนังเข้าเส้น
<<
มิถุนายน 2555
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
27 มิถุนายน 2555

[สกู๊ปพิเศษ] The Amazing Spider-Man กำเนิดใหม่ไอ้แมงมุมขยุ้มหลังคา

Marvel Comics ชื่อนี้สำหรับแฟนๆการ์ตูนแนวซูเปอร์ฮีโร่เดนตายคงจะรู้จักเป็นอย่างดี ตลอดระยะเวลา 50 กว่าปีที่ผ่านมา ในยุคของ สแตน ลี และ แจ็ค เคอร์บี้ ทั้ง 2 ได้รวมพลังกันสรรสร้างเหล่าซูเปอร์ฮีโร่ขวัญใจมหาชนออกมามากมาย อาทิ The Fantastic Four,The Incredible Hulk,Iron Man,The Mighty Thor มาจนถึง X-Men ก่อนจะนำมารวมเป็นทีมใหญ่ยักษ์อย่าง The Avengersที่มีการข้ามเรื่องราวของซูเปอร์ฮีโร่ทุกตัวอย่างสนุกสนาน แต่ยังมีอีกหนึ่งซูเปอร์ฮีโร่ที่เป็นที่กล่าวขานอย่างมาก ซึ่งแน่นอน สแตน ลี เป็นผู้คิด แล้วมอบหมายให้ สตีฟ ดิทโค้ เป็นคนวาด เรื่องราวของ หนุ่มเนิร์ดมุ่งแต่เรียนอย่าง ปีเตอร์ พาร์คเกอร์ ผู้อาศัยอยู่กับ ลุงเบน และ ป้าเมย์ ผู้แสนอ่อนโยน ทว่าเหมือนโชคชะตาเล่นตลกในการไปชมงานที่ห้องวิทยาศาสตร์แห่งหนึ่ง ปีเตอร์ ประสบอุบัติเหตุโดนแมงมุมที่มีกัมตรังสีกัดเข้าให้ ค่ำคืนอันแสนโหดร้ายและเจ็บปวดของ ปีเตอร์ ผ่านพ้นไปได้ด้วยความทรมาน แต่พอถึงเช้าวันใหม่ทุกสิ่งทุกอย่างก็เปลี่ยนไป ครับ เขากลายเป็น ไอ้แมงมุม หรือ Spider-Man นั้นเอง

มันน่าแปลกตรงที่อายุเขาก็ค่อนข้างจะมากแล้วพอสมควร (50 ปีตั้งแต่มีการตีพิมพ์ในการ์ตูนชุด Amazing Fantasy) แต่ดีไซน์ กับแก่นของเรื่องราวไม่เคยจะเก่าเลย มันกลับดูสดใหม่ ทันสมัย สามารถนำมาเล่าซ้ำแล้วซ้ำอีกดัง บ้านทรายทอง และละครไทยบ้านเรา ทำไมน่ะหรือ? แน่นอนว่า สแตน ลี คือผู้บุกเบิกการสร้างซูเปอร์ฮีโร่ที่มีปัญหา เปล่าเลยมันไม่ใช่ปัญหาที่จะไปปราบเหล่าร้ายแบบไหนถึงจะชนะได้ แต่เป็นปัญหาของเหล่าฮีโร่แต่ละตัวตน ซูเปอร์ฮีโร่ในยุคของ ลี และ เคอร์บี้ มีทั้งทุกข์ สุข เหมือนคนธรรมดาทั่วไป มันทำให้คนอ่านอย่างเราๆที่เป็นมนุษย์ธรรมดาสามารถเข้าถึงได้ ไอ้แมงมุม เป็นตัวอย่างที่สามารถเห็นได้ชัด แม้เขาจะมีพลังวิเศษอลังการ ประสาทการรับรู้อันว่องไว ไต่ตึก ปีนผนัง มีใย ส่วนตัว แต่เขามักจะกลายเป็นฮีโร่ที่สุดแสนจะอาภัพที่สุด ไม่ว่าจะด้านปัญหาการเงิน (จำได้ว่าแกเป็นตัวละครฮีโร่ที่จนสุดๆน่ะ) ความรัก (ระหองระแหงกับ แมรี่ย์ เจน บ่อยๆ) การปกป้อง (ป้าเมย์) เหล่าประชาชน เพื่อนรัก (อย่าง แฮรี่ ออสบอร์น) เป็นต้น ในแต่ละตอนของการ์ตูน เราจะได้เห็นการบ่น การจัดการปัญหาของ ปีเตอร์ พาร์คเกอร์ เกี่ยวกับชีวิตของตัวเขาเอง แล้วจึงไปใส่หน้ากากไล่ปราบเหล่าร้ายอีก ทำไมเขาถึงมาทำอะไรแบบนั้น จุดเปลี่ยนเกิดจากการที่เขาปล่อยให้ผโจรคนนึงหนีไปได้โดยที่เขาไม่ทำอะไรเลย ซึ่งโจรคนนั้นคือคนที่ฆ่า ลุงเบน ของเขา ก่อนตายลุงเบนได้มอบวลีอมตะที่เมื่อเราได้ยินก็ไม่ต้องสืบเลยว่ามาจากเรื่องไหน “พลังอันยิ่งใหญ่ มาพร้อมกับความรับผิดชอบอันใหญ่ยิ่ง” เพราะเหตุนั้นเอง ปีเตอร์ จึงขอใช้พลังของเขาในการจัดการทุกๆอย่าง เรื่อยมาจนล้มจักรวาล ชุบตัวใหม่ โคลนๆๆๆ ล้มจักรวาล จนถึงปัจจุบัน

ในเมื่อฉบับคอมิกประสบความสำเร็จถึงขนาดนั้นมีหรือจะไม่มีใครสนใจมาสร้างเป็นภาพยนตร์ใหญ่ยักษ์ แน่นอนผู้ที่เข้ามาดูแลบทแบบจริงๆจังๆก็คือ เจมส์ แคเมรอน เขาได้วางเรื่องราวเอาไว้ก่อนแล้ว จนกระทั่ง เฮียแกไปดังกับ Titanic เขาก็ไม่กลับมายุ่งกับโครงการนี้อีก จนในที่สุดโคลัมเบียสตูดิโอภายใต้เข้าของอย่าง โซนี่ ได้รับเอาผู้กำกับแนวผีสยองโลกอย่าง แซม ไรมี มากุมบังเหียนเอง เพราะ แซม เป็นแฟนตัวยงของ ไอ้แมงมุม การเดินเรื่องราวเป็นไปอย่างราบรื่นๆ มีการใช้ CGI มาใช้ในการสร้าง และอีกมากมาย จนกระทั่ง Spider-Man ได้ออกฉายในปี 2001 ซึ่งได้ตัวหนุ่มน้อยตาใส โทบี้ แมคไกวร์ มารับบทเป็น ปีเตอร์ พาร์คเกอร์,ได้ คริสเต็น ดัน มารับบทเป็น แมร์รี่ เจน,เจมส์ ฟรังโก้ เป็น แฮรี่ย์ ออสบอร์น และ วิลเลี่ยม เดโฟ เป็น นอร์แมน ออสบอร์น หรือ กรีน ก๊อบลิน ตัวร้ายหลักประจำภาค ตัวหนังสามารถกวาดรายได้กว่า 800 ล้านเหรียญสหรัฐ พร้อมทั้งคำวิจารณ์ที่น่าดูชม อย่ากระนั้นเลยในปี 2004 Spider-Man 2 ก็ได้ออกฉายอีกครั้ง มาครั้งนี้นอกจากจะมีนักแสดงชุดเดิมจากภาคที่แล้ว ยังได้เปิดตัวละครคนสำคัญในคอมิกอย่าง ด๊อกเตอร์ออคโตปุส มีทดลองพลังงานชินดใหม่แล้วเกิดผิดพลาดทำให้แขนกลทั้ง 4 ที่ติดอยู่กับตัวเขาควบคุมตัวเขาแทน แม้รายได้จะลดลงมาหน่อยเป็น 780 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่มันก็ยังเยอะอยู่ดีจริงไหม ผู้กำกับ แซม ไรมี ตื่นเต้นมากๆ เขาทำมาหมดแล้วทั้ง ชีวิตของ ปีเตอร์ พาร์คเกอร์ ในวัยรุ่น (ภาคแรก) วัยทำงานแบบจริงจัง (ภาคสอง) เมื่อภาคที่ 2 ออกฉาย เขาได้ทำการเขียนบทภาคที่ 3 ทันที โดยกำหนดให้มีตัวร้ายเพียง 2 ตัวอย่าง แซนด์แมน หรือ ฟริ้นท์ มาโก้ ที่จริงๆแล้วเขาคือคนที่ฆ่า ลุงเบน ลุงสุดที่รักของ ปีเตอร์ พาร์คเกอร์ พร้อมทั้งการมาใหม่ของ กรีน ก๊อบลิน ที่สวมชุดโดย แฮรรี่ ออสบอร์น เพื่อนสนิทของ ปีเตอร์ เอง แต่แล้วทางผู้บริหารของ โซนี่ ในตอนนั้นได้บอกกับ แซม ว่า “แซม คุณได้ทำในสิ่งที่คุณต้องการไปใน 2 ภาคแรกแล้วน่ะ คุณน่าจะสนใจทำในสิ่งที่แฟนๆเรียกร้องบ้าง หลายคนรัก วีนอม น่ะ” สิ้นคำดังกล่าว แซม ก็ตกลงที่จะใส่ตัวละคร วีนอม ลงไปในหนังภาคที่ 3 ด้วย แน่นอน Spider-Man 3 ซึ่งออกฉายในปี 2007 สามารถกวาดรายได้ไปกว่า 890 ล้านเหรียญ ทำรายได้มากที่สุดในบรรดาทั้ง 3 ภาค แต่คำวิจารณ์ถึงตัวหนังออกมาไม่ดีเลย เพราะการที่มีตัวละครมากกเกินไป จนกระทั่งโครงการภาคที่ 4 ซึ่ง แน่นอน แซม ไรมี และทีมงานชุดเดิมจะกลับมาจัดการกับงานอีกครั้ง แต่ก็ถึงแยกทางจนได้ ข่าวลือมีไปสารพัดทั้ง โซนี่ แทรกแซงการทำงานของ แซม มากเกินไป และ แซม ไม่ได้อยากจะทำเรื่องราว ไอ้แมงมุม ในฉบับของเขาอีกต่อไปแล้ว ภาคที่ 4 ของ Spider-Man จึงเงียบไปชั่วขณะ แต่มีหรือที่ โซนี่ จะปล่อยของดีที่ทำรายได้เกือบๆ 2500 ล้านเหรียญให้สตูดิโอ ไปให้กับ มาร์เวล สตูดิโอ ที่ตอนนั้นเริ่มก่อตั้งแล้วปล่อย Iron Man ออกมาจนประสบความสำเร็จ สัญญาเดียวที่จะทำให้ ไอ้แมงมุม ยังอยู่กับ โซนี่ ได้ คือการต้องทำหนังเท่านั้น ในเมื่อภาคที่ 4 ไม่สามารถทำขึ้นมาได้แล้ว อย่ากระนั้นเลย ยกเครื่องใหม่ กลายเป็น The Amazing Spider-Man เลยแล้วกัน

ขณะที่ ผู้บริหารโซนี่ กำลังประชุมกันถึง ใคร ? จะมาสรรสร้างเรื่องราวในแนวใหม่ๆของ ไอ้แมงมุม ได้ จู่ๆผู้กำกับหนังอินดี้ที่คนชอบหนังรักต้องดูอย่าง มาร์ค เว็บบ์ แห่ง (500) Days of Summer ก็เปิดประตูเข้ามาเพื่อขอทุนไปทำหนังอินดี้ฟอร์มเล็กๆเรื่องนึง ผู้บริหารทุกคนในนั้นเมื่อเห็น เว็บบ์ แล้ว จึงตกลงที่ว่า “โอเค พวกเราจะให้ทุนคุณทำหนัง แต่หนังที่ว่าทุนสูงหน่อยน่ะ เพราะมันคือ The Amazing Spider-Man” วันนั้น เว็บบ์ บอกไว้ว่า “ผมไม่รู้จะบอกยังไงดี ผมแค่อยากทำหนังเล็กๆ ผมไม่เคยทำหนัง 3 มิติเลย ผมไม่ได้ตอบในทันที แต่สุดท้ายผมก็ตกลงที่จะทำมันครับ” เว็บบ์ กล่าวอีกว่า “มันน่าสนใจตรงที่ ไม่มีใครเคยบอกเลยว่า พ่อและแม่ ของ ปีเตอร์ เป็นใครกันแน่ แล้วเขาทิ้งลูกไปทำไม นั้นคือ แก่นของ The Amazing Spider-Man ครับ” ส่วนทางด้านนักแสดงคนที่ได้รับหน้าที่ ไอ้แมงมุม คนใหม่คือ แอนดรูวส์ การ์ฟิลด์ ซึ่งเขาเคยไปเป็นเด็กเรียนมาแล้วใน The Social Network ซึ่งแน่นอนว่า “ผมเคยซื้อแผ่น DVD ของ Spider-Man มาดูกับเพื่อนในห้อง สมัยที่ยังเรียนอยู่ ผมบอกเพื่อนผมว่า ผมจะเป็น Spider-Man แล้วเพื่อนผมก็บอกว่า ‘เอ็งเป็นไม่ได้หรอกโว้ย’ ตอนนี้ผมอยากจะบอกว่า ‘ผมได้เป็น ไอ้แมงมุม แล้วโว้ย’ “ การ์ฟิลด์ กล่าว ทางด้าน เอ็มม่า สโตน ที่ได้รับบทเป็น เกวน สเตซี่ ซึ่งตามคอมิกแล้ว เธอถือว่าเป็นรักแรกของ ปีเตอร์ ได้บอกไว้ว่า “ฉันไม่รู้จักเธอเลย แต่พอมาได้อ่านบทที่ เว็บบ์ ส่งมาให้ แล้วได้ตามดูการ์ตูนที่เกี่ยวกับเธอ ว้าว มันสุดยอดมากๆเลย เธอ (เกวน) เป็นผู้หญิงที่ยอดเยี่ยม” ตัวร้ายหลักประจำภาคนี้คือ เดอะลิซาร์ด ซึ่งจริงๆแล้วเขาคือ ดร.เคิร์ธ คอนเนอร์ส อาจารย์นักวิทยาศาสตร์ผู้สูญเสียแขนข้างขวาไป เขาอยากจะได้มันกลับคืนมา เขาจึงทดลองตัวเองด้วยการสกัดทางพันธุกรรมของ สัตว์เลื้อยคลาน ผลน่ะเหรอ เขาได้แขนเขาคืน แล้วก็ ได้กลายร่างเป็น กิ้งก่ายักษ์ ด้วย ตัวละครตัวนี้รับบทโดย รีส อีแวนส์

แน่นอนว่า The Amazing Spider-Man ถูกปรามาสไว้เยอะ ตั้งแต่เป็นหนังรีบูตของหนังภาคล่าสุดที่ยังมีอายุความไม่ถึง 10 ปีเลยเนี่ยน่ะ ภาพจากกองถ่ายที่เผยโฉมของ ไอ้แมงมุม หัวโหม่งๆ แต่พอตัวอย่างหนังออกมาThe Amazing Spider-Man กลับกลายเป็นหนังที่น่าจับตามองในปี 2012 นี้เลยทีเดียว จะเป็นยังไงทกท่านต้องไปพิสูจน์ในโรงด้วยตัวเอง 29 มิถุนายน นี้ ครับ


ทับแก้วสาม

www.nangnadoo.com






Create Date : 27 มิถุนายน 2555
Last Update : 27 มิถุนายน 2555 0:52:22 น. 0 comments
Counter : 2108 Pageviews.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ทับแก้วสาม
Location :
แพร่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ผมชอบดูหนัง ผมตามอ่านเรื่องราวของหนังพอสมควร เรื่องที่รู้ๆบ้างก็อยากจะมาเขียนให้คนรักหนังอ่านกันครับ
[Add ทับแก้วสาม's blog to your web]