นับตั้งแต่ไปโชว์ตัวในหนังสือ Detective Comics ในปี 1939 นับดีๆ แบทแมน ได้เปิดตัวมา 70 กว่าปีแล้วผ่านยุคผ่านสมัยการเปลี่ยนแปลง ตั้งแต่ยุค 40,50,60,70,80,90,2000 ตราบจนปัจจุบัน แล้วค่อนข้างแน่นอนที่ว่าในอนาคต ตัวแบทแมน ก็จะยังได้รับความสนใจอยู่ดี (เอาล่ะถึงตรงนี้ ผู้เขียนไม่ได้มาสอนภาษาอังกฤษเรื่อง present simple future tense น่ะจ๊ะ )

การที่ตัวแบทแมนไม่อาจสูญหายไปจากใจผู้คนบนโลก อาจจะบอกได้ว่าเพราะเขาเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดา มีปมทางจิต มีชีวิตความเป็นอยู่ มีอารมณ์โกรธ ความหวาดกลัว รวมถึงแรงผลักดันที่จะทำในสิ่งที่มหาเศรษฐีหนุ่มรูปหล่อในชีวิตตอนปกติอย่างเขาไม่ต้องลงมือลงแรงทำอะไรเพื่อเมืองกอธแฮมที่เต็มไปด้วย อาชญากร การคอรัปชั่น ก็ยังทำได้

สืบเนื่องจากการเผชิญกับความเจ็บปวดในวัยเด็ก ที่ได้เห็นพ่อและแม่ของเขาถูกโจรยิงตายในตรอกซอย เพียงเพราะต้องการเงินเท่านั้น ทว่าในช่วงเวลาก่อนการตัดสินใจเปลี่ยนผันตัวเองมาสวมชุดใส่ผ้าคลุมออกปราบปรามเหล่าร้ายในเมืองกอธแฮม แต่เรื่องราวทั้งหมดกลับไม่ได้มีการกล่าวถึงในภาพยนตร์ตอนที่ผ่านๆมาอย่างจริงจัง

“มีช่วงหนึ่งที่ตัว บรูซ หายตัวไปจากกอธแฮมอย่างน้อย 7 ปี ในตอนแรกที่ผมได้คุยกับคริส ผมบอกเขาว่า ‘คุณต้องเล่าเรื่องราวนั้นน่ะ ช่วงเวลาที่เขาหายตัวไป’ และมันก็เป็นวิธีการสร้างเรื่องที่ใหม่และแตกต่าง”เดวิด เอส. โกเยอร์ เล่าถึงวันที่เขาพูดคุยกับ โนแลน ครั้งแรกผ่านทางโทรศัพท์นานเป็นชั่วโมงจนน้ำลายแตกฟอง

ทั้ง คริส และ เดวิด ต่างก็ห่วงเนื้อหาฉบับดั้งเดิมของแบทแมนอย่างมาก ถึงขนาดที่ คริส พา เดวิด เดินทางไปที่ ดีซี คอมิคส์ สตูดิโอผู้สร้างสรรค์เรื่องราว แบทแมน เพื่อทำการค้นคว้า หยิบยืม พูดคุย ถึงเรื่องราวต่างของแบทแมนตลอด 30 ปีที่ผ่านมา จนพวกเขาได้ข้อมูลที่น่าพอใจก่อนจะหยิบเอาเรื่องราวที่เขาคว้าหยิบมาได้จาก ดีซี คอมิคส์ เพื่อไปใส่ในบทหนัง Batman Begins ของพวกเขา

“สิ่งที่เราพยายามทำคือ ให้ทรัพยากรที่ดีที่สุดสำหรับผู้สร้างภาพยนตร์ เราจึงกลับไปทำทุกอย่างเพื่อค้นหาฉบับที่น่าสนใจที่สุด การเริ่มต้นของแบทแมน การปฏิบัติตนของเขาต่อผู้ร้าย วายร้ายที่น่าสนใจที่สุด เพื่อที่จะได้เป็นแรงบันดาลใจให้กับเขาทั้งสอง นำเอาไปใส่ในหนังได้” พอล เลวิทซ์ ประธานของดีซี คอมิคส์ ได้เล่าถึงวันมอบทรัพยากรอันทีค่าที่เขาพร้อมสนับสนุนอย่างเต็มที่ให้กับ คริส โนแลน และ คุณโกเยอร์

“มีงาน 3 ชิ้นหรือ 3 ยุคของแบทแมน ที่มีอิทธิพลต่อคริสกับผมอย่างมากตอนเขียนเรื่องราวด้วยกัน” เดวิด กล่าวถึงหนังสือการ์ตูนของที่มีอิทธิพลกับหนังแบทแมนตอนใหม่นี้ เล่มแรกคือ Batman: The Long Halloween ซึ่งเป็นตอนพิเศษที่เยี่ยมมาก เขียนขึ้นโดยเจฟ โล้บ กับ ทิม เซล ออกตีพิมพ์ในปี 1996 ในตอนพิเศษมีการเปิดเผยเจ้าพ่อมาเฟียแห่งกอธแฮมอย่าง คาร์มีน ฟอลคอน ซึ่งเหมาะสมที่จะนำมาเป็นองค์ประกอบในหนัง หากจะทำเป็นหนังฮีโร่ที่สมจริง เพราะเขาก็เป็นคนปกติ แต่เป็นผู้มีอิทธิพลของเมือง

“มันเป็นการเข้าถึงตัวแบทแมนที่จริงจัง และเราก็ชอบมันมาก” เดวิด ยังกล่าวย้ำอีกว่าเพราะอะไร The Long Halloween จึงเป็นตอนที่มีอิทธิพลต่อเขากับ โนแลน อย่างมาก แต่ใช่ว่าตัวหนังจะสามารถสร้างได้จากหนังสือเล่มเดียวเท่านั้น องค์ประกอบจากเรื่องราวอื่นๆก็สำคัญ

แบทแมน ในยุค 70 ที่เขียนโดยแดนนี่ โอนีล และวาดภาพโดยนีล อดัมส์ ก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่มีส่วนเกี่ยวข้องในภาพยนตร์อย่างมาก เพราะมีการกำเนิดวายร้ายตัวใหม่ในตอนนั้นอย่าง ราซ อัง กูล รวมไปถึงการเดินทางไปยังนอกสถานที่ของกอธแฮม เดวิด ต้องการนำเอาฉากการเดินทางขึ้นเขาไปยังรังของ ราซ อัง กูล มาเป็นตัวขับเคลื่อนในช่วงแรกของตัวหนัง ซึ่งเขามองเห็นว่านั้นคือความแตกต่างในหนังแบทแมนของเขาและคริส

“จุดมุ่งหมายของ ราซ อัง กูล เป็นอะไรที่ใหญ่กว่าของ เพวนกิน หรือ โจ๊กเกอร์ อะไรทำนองนั้น” เดวิด ยังกล่าวย้ำอีกถึงวายร้ายที่เขาจะนำมาใส่ใน Batman Begins ก็แน่นอนที่จะมีเป้าหมายที่ใหญ่ เพราะ ราซ หมายมั่นปั้นมือจะล้างบางเมืองกอธแฮม ให้สิ้นซาก

ผิดจากจุดประสงค์ของ บรูซ/แบทแมน ที่เขาต้องการต่อสู้กับความอยุติธรรมในกอธแฮม เจออาชญากรรม หยุดมัน ทำลายเสียให้สิ้นซาก ในขณะที่ ราซ มองเห็นว่ามันควรถูกทำลายให้หมดในครั้งเดียว เพราะเวลาของเมืองกอธแฮม ใกล้จะหมดลงแล้ว เหมือนกับที่ คอนสแตนติโนเบิล และ โรม ต้องเผชิญ

ความขัดแย้งที่ให้อารมณ์บีบคั้น เพราะ ราซ ที่นอกจากจะภูมิใจตัวศิษย์ที่ดีที่สุดอย่าง บรูซ เขาก็มองเหมือนเป็นลูกชายของเขาเช่นกัน ด้วยอารมณ์ความขัดแย้งในอุดมการณ์ที่ต่างกันของพ่อและลูก ทำให้ตัวหนังน่าสนใจขึ้นอย่างมากว่าเหตุการณ์แบบนี้จะจบลงเช่นใด

“จริงๆแล้ว จุดเริ่มต้นสำหรับผมคือตอนหนึ่งของการ์ตูนแบทแมนที่ชื่อ The Man Who Falls มันบอกถึงที่มาของการที่ บรูซ เวย์นพัฒนาตัวเองมาเป็นแบทแมน” คริสโตเฟอร์ โนแลน กล่าวถึงตอนพิเศษอีกตอนที่โดนใจสำหรับตัวเขาจนอยากนำเอามาใส่ไว้ในภาพยนตร์ ในตอน The Man Who Falls ยังกล่าวไปถึงความชอกช้ำ ความกลัวต่อค้างคาวในวัยเด็กของบรูซ ที่ตกลงไปในท่อแล้วเจอถ้ำค้างคาวในถ้ำรุมทำร้าย ก่อนที่เขาจะเติบใหญ่แล้วนำเอาความกลัวของเขามาแปรเปลี่ยนเป็นความกลัวต่อเหล่าอาชญากรที่เขาเผชิญแทน

“งานอีกชั้นหนึ่งที่มีอิทธิพลกับเราคือ Batman Year One ของ แฟรงค์ มิลเลอร์” เดวิด กล่าวถึงการ์ตูนอีกเล่มที่มีผลเช่นกัน แน่นอนว่าเรื่องราวใน Batman Year One กล่าวถึงการทำงานเป็น แบทแมน ปีแรกๆของ บรูซ ประจวบเหมาะที่จะนำเอาองค์ประกอบต่างๆในการ์ตูนฉบับนั้นมาใส่ไว้ในหนังที่เล่าที่มาการหายตัวไป 7 ปี ของ บรูซ ก่อนที่เขาจะกลับมาอีกครั้งในฐานะอัศวินรัติกาล

นอกจากนี้ แฟรงค์ มิลเลอร์ ยังเปิดประตูมิติของกอธแฮม ให้ดูลึกขึ้นด้วยการเล่าเรื่องของการคอรัปชั่นในกรมตำรวจของกอธแฮม ซึ่งในตอนนั้นตัวละครอย่าง เจมส์ กอร์ดอน ที่ตอนนั้นยังไม่ได้เป็นอธิการบดี เขาเป็นเพียงสายสืบที่ไม่สามารถพึ่งพาคนในกรมตำรวจได้อีกต่อไป เพราะคนพวกนั้นถูกซื้อตัวไปโดยผู้มีอิทธิพลหมดแล้ว เขาจึงต้องร่วมมือกับ แบทแมน ในการจัดการกับเรื่องราวทั้งหมดที่เขาคนเดียวทำไม่ได้แน่

วัตถุดิบอันมีค่ารวมไปถึงโปรดักชั่นการสร้างอันมีคุณภาพโดย คริสโตเฟอร์ โนแลน และทีมงาน สามารถสร้างสรรค์เรื่องราวกำเนิดใหม่ของ แบทแมน ได้อย่างสวยงามใน Batman Begins ถึงแม้จะเป็นการยกเครื่องใหม่แต่ถือเป็นการยกเครื่องใหม่ที่คุ้มค่าที่สุดเท่าที่เคยมีมาในอุตสาหกรรมการสร้างภาพยนตร์

Batman Begins ออกฉายในปี 2005 กวาดรายได้ไปถึง 372 ล้านเหรียญสหรัฐ กวาดคำวิจารณ์ไปอย่างท่วมท้น การกลับมาอีกครั้งในแบบสมจริง อุปกรณ์ไฮเทค รถทัมเบอร์ นักแสดงคุณภาพที่บางคนก็มีออสการ์ยืนเด่นอยู่ที่บ้าน ส่งผลให้ คริสโตเฟอร์ โนแลน และนักแสดงนำอย่าง คริสเตียน เบล ที่ว่าดังอยู่แล้ว มีชื่อเสียงกระฉ่อนขึ้นมาทันที นอกจากนี้ในตอนจบของหนังยังมีการปูทางไปหายอดวายร้ายอย่าง โจ๊กเกอร์ อีกด้วย

“มันเป็นเรื่องราวในระดับเดียวกับมหากาพย์” โนแลนสรุปภาพรวมของหนัง “นั่นสิ่งที่แบทแมนสมควรได้รับ และเป็นสิ่งที่เราพยายามทำ และผมคิดว่าการเล่าเรื่องราวในระดับนี้ท้าทายอย่างมาก แต่ในขณะเดียวกันก็สนุกมากทีเดียว” โนแลนกล่าวทิ้งทาย

ทับแก้วสาม จาก //www.nangnadoo.com

ที่มาการเขียน เบื้องหลัง DVD Special Batman Begins,Wiki,Google และอีกมากมาย

Create Date : 10 กรกฎาคม 2555
Last Update : 10 กรกฎาคม 2555 9:16:57 น.		0 comments
Counter : 2603 Pageviews.
Share Tweet