บันทึกของตรีนุช
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2549
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
15 ธันวาคม 2549
 
All Blogs
 
+++ ปราสาทชองบอร์ (Chambord) +++

วันนี้ดิฉันพาไปเที่ยวปราสาทลุ่มแม่น้ำลัวร์ที่ค้างไว้นานแล้ว
เราไปเที่ยวกันมาเมื่อเดือนมีนา 49 นี้เองค่ะ (แต่ดูเหมือนผ่านไปนานจัง)

ใครที่เคยอ่านกระทู้ที่ดิฉันเอามาแปะที่ห้องแม่บ้านต่างแดนแล้ว ขอให้ข้ามไปเลยนะคะ เพราะข้อมูลเหมือนกันเด๊ะ เนื่องจากเดือนที่แล้วลงโปรแกรมใหม่ในคอมที่บ้าน แล้วไฟล์ที่เป็นภาษาไทยของดิฉันหายหมดจดค่ะ เพราะฉะนั้น ข้อมูลอ้างอิงส่วนอื่นๆที่ยังไม่ได้เขียนลงในกระทู้นั้น ก็หายวับไปกับตาด้วย จะให้อ่านใหม่เขียนใหม่ ก็ไม่ไหวแล้วค่ะ ทั้งหมดที่เอาลงบล็อควันนี้และต่อๆไป ดิฉันก็อาศัยก๊อปมาจากคลังกระทู้เก่าทั้งนั้นเลยค่ะ
แต่จะมีรูปบางส่วนที่เพิ่มมา

บอกไว้นิดนึงนะคะว่าดิฉันถอดคำจากภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาไทย
ได้ไม่ตรงซะทีเดียว อาจจะมีผิดเพี้ยนไปบ้าง เพราะบางเสียงก็ไม่มีในวรรณยุกต์ไทยค่ะ ขอใช้ตัวอักษรที่ใกล้เคียงแทนแล้วกันนะคะ

§§§§§§§§§§§§§§§§§§§§§§§§§§§§§§§§§§§§§§§§§§§§§§§§§§§§§§§§

สมัยก่อนปราสาทบางแห่งก็คือป้อมปราการที่สร้างมาเพื่อป้องกันข้าศึกศัตรู มีกำแพงล้อมรอบอย่างแน่นหนา พอภายหลังบ้านเมืองสงบ จากศึกสงครามแล้ว ก็ตกแต่งเพิ่มเติมให้สวยงามขึ้น เพื่อใช้เป็นที่พักผ่อนหรือที่อยู่อาศัยของกษัตริย์หรือผู้มีอำนาจต่างๆ

ปราสาท Chambord ก็เช่นกันค่ะ มีคำสั่งให้เอาตัวป้อมด้านหน้าออก ประดับประดาด้านหน้าและระเบียงของปราสาทให้สวยขึ้น
เพิ่มหน้าต่าง ตกแต่งหลังคา แล้วสร้างผนังครอบตัวกำแพงด้านในอีกที
เพิ่มสวนสวยเข้าไป แค่นี้ป้อมปราการที่แต่ก่อนดูแข็งๆ
ก็กลายเป็นปราสาทที่ดูดีขึ้นทันตา



ประวัติคร่าวๆของผู้ที่ครอบครองปราสาทแห่งนี้
เริ่มจากพระเจ้าฟรองซัวร์ที่ 1 (François I) ผู้ริเริ่มให้มีการก่อสร้าง
ถัดมาก็จะเป็น พระเจ้าเฮนรี่ที่สอง (Henri II) ซึ่งเป็นพระราชโอรส ก็มีพระราชดำรัสให้สร้างต่อ ช่วงปี 1547-1559 แล้วก็มีกษัตริย์พระองค์อื่นๆรวมทั้งวงศาคนาญาติอีก 5 พระองค์

(ใครอยากทราบรายละเอียดมาติดต่อได้นะคะ ดิฉันเกรงว่าถ้าบอกหมดนี่คุณๆจะหลับกันซะก่อน)



จนมาถึงผู้ครอบครองท่านสุดท้ายคือ Comte de Chambord ซึ่งมีศักดิ์เป็นพระราชนัดดา (หลานชาย) ของพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 10 (Charles X) ผู้ซึ่งได้รับแต่งตั้งให้เป็นกษัตริย์ทรงพระนามว่า พระเจ้าเฮนรี่ที่ 5 (Henri V) แต่ไม่ทันจะได้ขึ้นครองราชย์ ก็สวรรคตในระหว่างถูกเนรเทศเมื่อปี 1883 ซะก่อน



ท้ายที่สุดรัฐก็ซื้อต่อปราสาทหลังนี้จากทายาทของตระกูลของ Comte de Chambord เมื่อปี 1930

Chambord เป็นปราสาทที่ใหญ่มาก (ว่ากันว่าใหญ่ที่สุดในจำนวน ปราสาทลุ่มแม่น้ำลัวร์ทั้งหมด) มีทั้งหมด 440 ห้อง สร้างขึ้นเมื่อปี 1519 สมัยพระเจ้าฟรองซัวร์ที่ 1 แต่ยังตกแต่งไม่เสร็จนะคะ แม้แต่พระเจ้าฟรองซัวร์ที่หนึ่งเอง ก็็ไม่เคยเห็นปราสาททั้งหลังที่เสร็จสมบูรณ์อย่างที่เราเห็นกัน



Chambord นี่เค้าถือว่าเป็น Masterpiece of the French Renaissance เลยนะคะ ได้รับอิทธิพลจากอิตาลีค่ะ



ปราสาทต่างๆ สมัยเรอเนสซองซ์ มักจะให้ความสำคัญกับสวนและบันไดมากค่ะ
จริงๆ แล้วสวนรอบๆ ปราสาทสมัยก่อน นิยมปลูกผักสวนครัวกันนะคะ อย่างเช่นมะเขือเทศ กระหล่ำปลี มันฝรั่ง เป็นต้น ด้วยว่านอกจากจะสวยแล้ว ยังได้ประโยชน์นำมาประกอบอาหารได้อีกด้วย

บันไดที่ Chambord เด่นไม่แพ้ที่อื่นเลยนะคะ



ที่เห็นนี่เป็นยอดบนสุดของบันไดจากระเบียงด้านนอกปราสาทค่ะ
(ตอนที่ไปกำลังมีการบูรณะซ่อมแซมปราสาทบางส่วน เลยถ่ายมาได้อย่างงี้ค่ะ)



ทีนี้เรากลับมาเรื่องบันไดที่ Chambord กันต่อ บันไดวนโถงกลางของที่นี่ (Grand Escalier Central) จะเป็นสองบันไดสร้างขึ้นแบบพันกัน เพื่อที่ว่าคนขึ้นกะคนลงจะได้ไม่ต้องสวนกัน
ภาษาอังกฤษเรียกว่า the double-helix open staircase หรือ double-turn spiral staircase ค่ะ

รูปที่ดิฉันถ่ายเองไม่มีบันไดเต็มๆแบบสวยๆค่ะ ก็เลยเอามาให้ดูจากเวปนี้แทนค่ะ
//www.37-online.net/chateaux/chambord.html



ถ้าสังเกตุดีๆแล้ว ตรงเพดานของปราสาทที่นี่ จะเป็นสัญลักษณ์ตัวอักษรย่อของพระเจ้าฟรองซัวร์ที่ 1 (monogramme)
คือตัว 'เอฟ' สลับกับรูปตัวซาราแมนเด้อร์ (salamandre) ซึ่งพระองค์ท่านโปรดมาก เราจะเห็นสัญลักษณ์นี้ในปราสาทหลังอื่นด้วยนะคะ

แต่ในรูปข้างล่างนี้ถ่ายตรงส่วนที่สภาพไม่ค่อยสมบูรณ์ไปตามกาลเวลาแล้วนะคะ เลือนๆมองไม่ค่อยเห็นแล้วค่ะ แต่ยังไงทางภาครัฐก็พยายามบำรุงบูรณะซ่อมแซมไปเรื่อยๆ



มาฟังเกร็ดเล็กๆกันต่อนะคะ สมัยพระเจ้าฟรองซัวร์ที่ 1
นี่ยังไม่มีจานชามนะคะ เปิบด้วยมือแบบเราๆเลยค่ะ
น้ำก็จะใส่จอก แล้ววนๆส่งต่อกันดื่ม

สมัยก่อนยังไม่มีพรมปูพื้นอย่างในปัจจุบัน เค้าใช้อะไรรู้ไหมคะ เค้าใช้ฟางหญ้ามาปูรองแทน หน้าหนาวก็มีเตาผิงให้ความอบอุ่น แถมข้าทาสบริวารก็นอนกันห้องเดียวกะกษัตริย์นี่แหล่ะค่ะ นอนกันตามพื้นนี่เลย เพื่อว่าเผื่อกษัตริย์ตื่นมา อยากได้อะไร จะได้รับใช้ได้ทันท่วงที

ห้องเด่นๆของที่นี่ก็มีห้องประทับของพระเจ้าฟรองซัวร์ที่ 1
François I's bedroom (la chambre de François I)




ซึ่งประดับประดาไปด้วยเครื่องเรือนที่แสดงให้เห็นความเป็นที่พัก
สมัยเรอเนสซองส์ มีการบูรณะซ่อมแซมเรื่อยๆตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 16 เป็นต้นมา อย่างเช่นเตาผิง ซึ่งได้เอาออกไปเมื่อสมัยศตวรรษที่ 17 หรือ 18 ก็มีการสร้างใหม่ภายหลังอีกที



ห้องประทับและห้องบรรทมของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14
Louis XIV's bedroom (L'appartement du roi)

เมื่อปี 1668 พระองค์ทรงมีรับส่งให้ตกแต่งห้องนี้ให้สวยเด่น สมกะฐานะกษัตริย์




ประกอบไปด้วยห้องย่อยๆก่อนที่จะมาถึงห้องประทับส่วนพระองค์จริงๆ
ตัวกำแพงตกแต่งทับไปด้วยไม้สีขาวและทอง



The royal bedchamber หรือ Chambre du roi อีกมุมนึงค่ะ



Queen's bedroom (La Chambre de la Reine)

ตั้งอยู่ด้านเหนือของปราสาทเป็นห้องบรรทมของพระนางมาครี แตแครสแห่งออสเตรีย (Marie-Therèse d'Autriche) ถัดมาก็เป็นมาดามเดอแมงเตอนง (Madame de Maintenon) ห้องนี้ที่พิเศษอย่างนึงคือไม่มีเตาผิงค่ะ เอาออกไปเมื่อปี 1785



อีกห้องนึงค่ะ จำไม่ได้แล้วว่าห้องของใคร (คุ้นๆว่าจดมาแต่หาไม่เจอแล้วค่ะ) อยากให้ดูเพราะว่าแปลกกว่าห้องทั้งหมดในปราสาทหลายๆ แห่งที่ไปเยี่ยมชม



เนื่องจากผ้าม่านและของประดับทั้งหลายเป็นลายดอกไม้หมดเลยค่ะ
ดูแล้วลายตาดี แต่ก็ช่วยเปลี่ยนบรรยากาศของความเคร่งขรึมจากห้องอื่นๆ



ห้องบรรทมอีกหนึ่งห้องค่ะ ซึ่งห้องนี้ดิฉันก็จำไม่ได้อีกแล้ว ว่าเป็นของกษัตริย์พระองค์ไหน พยายามหาข้อมูลอยู่พักใหญ่ๆ
แต่ยังค้นไม่เจอ ขอติดไว้ก่อนนะคะ ถ้าค้นเจอแล้วจะเอามาเขียนอีกที แต่จำได้ว่าเป็นกษัตริย์องค์สำคัญเช่นกันค่ะ



เนื่องจากสมัยก่อนกษัตริย์จะอยู่ไม่เป็นที่เป็นทาง คือไม่ได้อยู่ที่ปราสาทใดปราสาทหนึ่งนานๆ อย่างที่ Chambord นี้
พระเจ้าฟรองซัวร์ที่ 1 อยู่จริงๆแค่แปดอาทิตย์เองค่ะ บ้างก็ว่าแค่ 42 วัน
ตลอดระยะเวลา 32 ปี ที่ครองราชย์ ส่วนใหญ่ใช้เป็นที่ประทับเวลาล่าสัตว์
สม้ยก่อนสมบัติต่างๆก็ไม่ได้เก็บในตู้ แต่จะใส่หีบแล้วล็อคไว้

รูปข้างล่างนี้เป็นห้องโถง ภายในบริเวณปราสาทค่ะ



พระเจ้าเฮนรี่ที่ 2 (Henri II) ซึ่งเป็นพระราชโอรส ไม่สนพระทัยที่นี่เลยค่ะ ส่วนพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 9 (Charles IX) เสด็จประพาสน้อยมาก แค่เฉพาะ
ตอนออกล่าสัตว์ หรือแม้แต่ Comte de Chambord ผู้ครอบครององค์สุดท้ายเองก็เถอะ มาที่นี่แค่หนเดียวเองตอนปี 1871 ดูสิคะสวยๆขนาดนี้ เจ้าของกลับไม่สนใจมาพักเลยค่ะ

รูปมงกุฎที่จัดแสดงในห้องค่ะ



ห้องด้านบนชั้นสองจัดเป็นพิพิธภัณฑ์ล่าสัตว์
เนื่องจากพระเจ้าฟรองซัวร์ที่ 1 ชอบการล่าสัตว์เป็นชีวิตจิตใจ เพราะฉะนั้นจะมีของสะสมเรียกว่าเป็นคอลเลคชั่นก็ว่าได้
พวกสิงสาราสัตว์ต่างๆ กับดักและอุปกรณ์การล่าสัตว์
ปืนผาหน้าไม้มีหมด



ข้อมูลทั้งหมดนำมาจาก

1. โบรชัวร์ที่ได้รับจากการเยี่ยมชมปราสาท

2. หนังสือ Le Figaro collection Les Châteaux de la Loire ฉบับที่ 3 เดือนกุมภาพันธ์ปี 2549 (ISBN: 2-907488-97-X) และ ฉบับที่ 5 เดือนเมษายน ปีเดียวกัน (ISBN: 2-907488-95-3)

3. อินเตอร์เนตทั้งที่ได้อ้างอิงชื่อเวปมาด้วย และจากเวปที่ไม่ได้กล่าวถึงบางส่วน (เนื่องจากเปิดอ่านทีละหลายๆเวป เลยลืมก๊อปไว้)

4.รายการทีวีชื่อ C'est pas sorcier ตอนประวัติ Château de la Loire เมื่อเดือนพฤษภาคมปี 2549 (2006)

ต้องขอขอบคุณผู้จัดทำแหล่งข้อมููลที่มาทั้งหมดที่ทำให้ดิฉัน ได้ทราบเรื่องราวประวัติความเป็นมาของปราสาทสวยๆแห่งนี้ค่ะ

**************
ขอเพิ่มเติมบทสรุปผู้ครอบครองปราสาทชองบอร์ดังต่อไปนี้นะคะ

1.พระเจ้าฟรองซัวร์ที่ 1 (François Ier) เป็นผู้ริเริ่มการสร้างปราสาทแห่งนี้ ครอบครองปีกด้านเหนือของปราสาท

2.พระเจ้าเฮนรี่ที่ 2 (Henri II) พระราชโอรส สร้างต่อปี 1547-1559

3.กาสตง ดอร์เลออง (Gaston d’Orléans) พระอนุชาของพระเจ้าหลุยส์ที่ 13 (Louis XIII) บูรณะปี 1641 และ 1643

4.พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 (Louis XIV) ครอบครองส่วนกลางของปราสาท

5.นายสตานิสลาส เลสซินสกี้ (Stanislas Leszczynski) ซึ่งเป็นพระสัสสุระ (พ่อตา) ของพระเจ้าหลุยส์ที่ 15 (Louis XV) ซึ่งเป็นอดีตกษัตริย์พระองค์หนึ่งของโปแลนด์ที่ถูกเนรเทศ อาศัยอยู่ช่วงปี 1725-1733

6.จอมพล เดอ แซกซ์ (Maréchal de Saxe) ได้รับพระราชทานปราสาทหลังนี้จากพระเจ้าหลุยส์ที่ 15 (Louis XV) หลังได้ชัยชนะจากสงครามที่ฟงเตอนัว (Fontenoy) เขาเสียชีวิตที่นี่เมื่อปี 1750

7.จอมพลแบร์ธิเย่ (Maréchal Berthier)(ชื่อเต็มๆคือ Louis Alexandre Berthier)ได้รับพระราชทานปราสาทหลังน ี้จากนโปเลียนที่หนึ่ง (Napoléon Ier)เมื่อปี 1809

8.ท่านเค้าท์เดอชองบอร์ (Comte de Chambord) พระราชนัดดา (หลานชาย) ของพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 10 (Charles X)

ได้รับแต่งตั้งให้เป็นกษัตริย์ทรงพระนามว่า พระเจ้าเฮนรี่ที่ 5 (Henri V) แต่ไม่ทันจะได้ขึ้นครองราชย์ก็สวรรคตในระหว่างถูกเนรเทศเมื่อปี 1883 ซะก่อน

(หมายเหตุ ชื่อเดิมของ Comte de Chambord คือ Henri d’Artois ได้รับบรรดาศํกดิ์ครั้งแรกเป็น Duc de Bordeaux อ่านรายละเอียดต่อได้ที่นี่ค่ะ//fr.wikipedia.org/wiki/Henri_d'Artois)

ท้ายที่สุดรัฐก็ซื้อต่อปราสาทหลังนี้จากทายาทของตระกูลของ Comte de Chambord เมื่อปี 1930



Create Date : 15 ธันวาคม 2549
Last Update : 19 ธันวาคม 2549 23:29:04 น. 20 comments
Counter : 2502 Pageviews.

 
สวยมากค่ะ

ขอบคุณที่เอาภาพสวยๆ และความรู้มาฝากนะคะ


โดย: ยิ้มซ่า@หน้าเหลือง วันที่: 15 ธันวาคม 2549 เวลา:3:02:36 น.  

 
ดูแล้วดูอีกได้มั้ยคะพี่ตรีนุช นัทยังอยากมองหาสิ่งลี้ลับอยู่

--------------------
แวะมาตอบคำถามด้วยค่ะ

นัทผ่าแบบส่องกล้องค่ะ เลยไม่มีแผล หมอให้กลับบ้านเลย
แต่คราวก่อนโดนกรีดที่หน้าท้อง กับเจาะสะดือ เผื่อฉีดสี+ส่องกล้อง เค้าก็ไม่ให้นอนนะคะ ทำเสร็จก็ให้กลับบ้านเลยเหมือนกัน

ตอนนี้ยังมีมึนๆอยู่เลยค่ะ แต่ออกไปเดินข้างนอกได้เยอะกว่าเมื่อวาน

ขอบคุณสำหรับกำลังใจที่ให้นัทด้วยนะคะ


โดย: Picike วันที่: 15 ธันวาคม 2549 เวลา:3:04:32 น.  

 
Very beautiful indeed.
Do you know how many king emtitle in this castle ka I just want to know as there are several that you mentioned , so I would like to know that how many kings have lived there? 5555

There are a lot of old castle in France...I like it but it is very high maintenance as well as some of them are just for sale for rersidential(not this one ...hehehe)but I like them though...hehehe

I have watch the TV program here ...calls Seachange....A couple went to France and buy a castle there as they think they will make it look good and perhaps they will be able to run the hotel. When they bought it , it cost I can't remember how many million dollars but when they got there and wanted to renovate , they found out later that it cill cost they fotune....555( can't do anything as there are a lot of problem and they run out of money)
I don't know that finally they either they got some money to renovate or sell it back ....555

By the way, I like this castle ka...So beautiful....!!!


โดย: PoomPim..TMB วันที่: 15 ธันวาคม 2549 เวลา:3:13:23 น.  

 
You may going to bed soon....555
Have a good sleep and sweet dream ka...

I am going to ask that how many kings are entitle to this castle ka? 55 wrong speeling as I was in a hurry...hehehe!!


โดย: PoomPim..TMB วันที่: 15 ธันวาคม 2549 เวลา:4:22:57 น.  

 
สวยมากๆเลยคะดีจังได้แวะเข้าไปในปราสาทด้วย เขาสามารถให้เช่าทำพิธีแต่งงานได้หรือเปล่าค่ะ ฮิฮิ เห็นพวกดารา ชอบแต่งงานในปราสาท ถ้าเช่านี้คงจะแพง ฮิฮิ


โดย: Hawaii_Havaii วันที่: 15 ธันวาคม 2549 เวลา:4:38:34 น.  

 

+++ สวัสดีคุณยิ้มซ่า@หน้าเหลืองค่ะ

+++ น้องนัทผ่าแบบส่องกล้องก็ดีสิจ๊ะ (แต่พี่ไม่ได้ผ่าแบบนี้ เพื่อนที่เคยผ่าเล่าให้ฟัง)

+++ คุณปุ๋มปิ๋มคะ ดิฉันยังไม่นอนค่ะ ที่ถามเรื่องกษัตริย์ขอติดไว้ก่อนนะคะ ไว้จะไปค้นมาตอบ

ปราสาทที่นี่เยอะจริงๆค่ะ มีหลายคนซื้อไปทำที่อยู่ โรงแรม หรืออื่นๆ ประสบความสำเร็จน้อยมั่งมากมั่ง

ดิฉันพอเห็นราคาบางที่ ไม่แพงเลยนะคะ บางทีถูกกว่าบ้านธรรมดาอีก แต่ค่าบำรุงรักษานี่ไม่ต้องพูดถึง
บางทีแพงกว่าค่าซื้อปราสาทอีกค่ะ เพราะส่วนใหญ่สภาพเสื่อมโทรม ต้องซ่อมอีกเยอะ ไหนจะค่าทำสวนและบริเวณรอบๆอีก ซึ่งไม่ใช่ทำหนเดียวเสร็จนะคะ ต้องจ้างคนทำสวน หรือถ้าเค้าพอทำกันเองไหว ก็ไม่ต้องทำอื่นแล้วค่ะ เพราะมันต้องทำต้องดูแลอยู่ตลอดเวลา

มีบางคนที่ซื้อไปเป็นที่อยู่ ทนกะค่าใช้จ่ายไม่ไหว ต้องเปิดให้คนอื่นเข้าชมแล้วเก็บตังค์ก็มีนะคะ


โดย: ตรีนุช3903 วันที่: 15 ธันวาคม 2549 เวลา:4:53:12 น.  

 

+++ปราสาทนี้เค้าคงไม่ให้เช่าค่ะคุณอ้อย เพราะเป็นของรัฐ
แต่ถ้าปราสาทอื่นๆคงได้ มีปราสาทเล็กๆหลายที่ (จริงๆก็ปราสาทใหญ่อยู่หรอกค่ะ แต่เมื่อเทียบกะที่นี่ ขอเรียกว่าเล็กแล้วกันนะคะ) เค้าทำเป็นโรงแรมนะคะ ที่นั่นคงเช่าสำหรับแต่งงานได้แน่นอนค่ะ


โดย: ตรีนุช3903 วันที่: 15 ธันวาคม 2549 เวลา:5:08:49 น.  

 
Thank you Kun ตรีนุช ka but I am not serious...555 you don't have to do the reserch for me ka...!!!!

I assume that therer would be many kings have lived in that castle as it is so niceeeeee...

I used to ask my husband about the old buildings or the castles in Europe that how much they are, are they expensive ? he said they are not outreges expesive but high maintaenace(water pipes and electrical wires are specially) as you said. So he said better get a normal house(in this care we talk about the local people ka) with low maintenance....555


โดย: PoomPim..TMB วันที่: 15 ธันวาคม 2549 เวลา:5:38:29 น.  

 
เข้ามาดูรูปค่ะ แต่ไม่ค่อยได้อ่านคำบรรยาย 555
ถนัด แต่ชอบดูรูป ค่ะ


ยังไง ขอบคุณนะคะ
ที่เอามาโพส




โดย: vodca วันที่: 15 ธันวาคม 2549 เวลา:7:48:21 น.  

 
สถาปัตยกรรมสวยมากค่ะ แต่ดูห้องบรรทมแต่ละห้องแล้ว...จะบรรทมหลับลงมั้ยล่ะเพคะ?

ขอบคุณทั้งรูป ทั้งข้อมูลเลยค่ะ...


โดย: Q.NUH วันที่: 15 ธันวาคม 2549 เวลา:10:03:59 น.  

 
ข้อมูลต่างๆ อ่านแล้วได้ประโยชน์เหลือหลายเลยนะค่ะ เพราะว่ารู้เอาไว้ แล้วได้ชมไปด้วยมันเหมือนเป็นรสชาดที่เติมเต็มอ่ะค่ะ ^_^


โดย: JewNid วันที่: 15 ธันวาคม 2549 เวลา:11:18:11 น.  

 
แวะมาดู รอบสองค่ะ
แต่ตอนนี้กำลังอ่าน "คำสารภาพของ มารีอังตัวแนตต์" อยู่ เลยอินกว่าครั้งแรกค่ะ

แฟนเอื้อยก็ชอบ ปราสาท มากๆ ค่ะ และชอบ เสื้อเกราะอัศวิน ด้วย เค้าอยากซื้อเอามาตั้งที่บ้านมากๆ ค่ะ แต่เอื้อยไม่ยอม ตอนนี้เลย มี แต่ หัวกับ ตัวเสื้อเกราะ ค่ะ ยังไม่มีขา


โดย: *พิณ* วันที่: 15 ธันวาคม 2549 เวลา:16:50:47 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณตรีนุช ...

ตอนนี้นิดล็อกอินเข้าได้แล้วค่ะ กว่าจะเข้าได้ก็เล่นเข้าไปหนึ่งวันเต็มๆ แน่ะคะ แบบว่าไม่คุ้นเคยกับการเข้าบล็อกไม่ได้ ฮ่า ฮ่า กำลังทำใจว่าจะได้ดองบล็อกอินเทรน แต่ว่าเมื่อเช้าลองเข้าดู ก็ปรากฏว่าเข้าได้แล้ว ... เดี๋ยวเหอะ จะอัพบล็อกบ่อยๆ ประชดเลย


โดย: JewNid วันที่: 16 ธันวาคม 2549 เวลา:0:10:46 น.  

 

+++ ใช่แล้วค่ะคุณปุ๋มปิ๋มอย่าได้หลงผิดคิดอยากเป็นเจ้าของปราสาทเลยนะคะ
ปล่อยพวกตังค์เหลือใช้ ให้เค้ารับผิดชอบไป 555

+++ มาดูรูปเฉยๆก็ไม่ว่ากันค่ะคุณวอดก้า

+++ คุณคิวหัวศิลป์อยู่แล้ว คงจะชอบดูพวกสถาปัตยกรรม ยิ่งเก่าๆอย่างงี้ยิ่งสวยเนอะคะ

+++ ดิฉันเดาว่าคุณนิดคนขยันอัพบล็อค คงหงุดหงิดตอนเข้าไม่ได้แน่ๆ

+++ คุณเอื้อยขา ถ้าเอาไปตั้งที่บ้าน ตื่นมาตอนดึกๆไม่ตกใจแย่หรือคะ เดี๋ยวนึกว่าคนจริงๆมายืนอยู่


โดย: ตรีนุช3903 วันที่: 16 ธันวาคม 2549 เวลา:3:57:19 น.  

 


ภาษิตและคติพจน์อังกฤษ
Self-conquest is the greats of victory.
การชนะใจตนเอง คือชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุด


สวัสดีค่ะ เจี๊ยบเข้ามาทักทายค่ะ
มาพร้อมกับรูปสวยๆ ภาษิต/คติพจน์ ดี ดี
และความรู้สึกดีๆ ที่มีให้เพื่อนๆ ค่ะ
Goodnight! หลับฝันดีน่ะค่ะ
December 16,2006



โดย: rayasuree (Jeab) (rayasuree ) วันที่: 16 ธันวาคม 2549 เวลา:4:22:41 น.  

 
วันนี้ขอดูรูปอย่างเดียวนะคะ
แหะๆ เนื้อหาต้องค่อยๆเข้ามาอ่าน
คิดถึงค่ะ


โดย: เพลงเสือโคร่ง วันที่: 16 ธันวาคม 2549 เวลา:13:56:26 น.  

 
ขอบคุณ ครับ


โดย: " IP: 203.113.117.65 วันที่: 29 ธันวาคม 2549 เวลา:14:01:42 น.  

 
ชอบมากค่ะ ดิฉันเคยไปมาแล้วครั้งหนึ่ง ขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆ ที่นำมาเล่าสู่กันฟัง


โดย: อิ๊ด IP: 221.128.77.32 วันที่: 11 ตุลาคม 2550 เวลา:19:39:12 น.  

 


โดย: เมย์ IP: 125.26.51.77 วันที่: 20 มกราคม 2551 เวลา:11:20:11 น.  

 
ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ

หาข้อมูล ทำรายงานยากมากเรย

ข้อมูลนี้ช่วยได้เยอะมากเลยค่ะ

;]]


โดย: LoOkTarn IP: 117.47.46.61 วันที่: 7 กันยายน 2551 เวลา:16:33:25 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ตรีนุช3903
Location :
อยู่ทางเหนือของ France

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




มีลูกสาวกะเค้าอยู่หนึ่งหน่วย
เปิดบล็อกไว้บันทึกเรื่องลูก
กะเรื่องเที่ยวแค่นั้นหล่ะก่ะ

ขอบคุณวิธีแต่งฉากหลังจากบล็อคของป้ามดค่ะ

ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนนะคะ
บันทึกของตรีนุช
Friends' blogs
[Add ตรีนุช3903's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.