Bloggang.com : ตรีนุช3903 : ไปงานแต่งใกล้ๆเมือง Rouen

ไปงานแต่งใกล้ๆเมือง Rouen

2-3 Fév 2008

Rouen (ครู-ออง) « Capital de la Normandie »
เป็นเมืองหลวงของแคว้นนอร์มองดี (Haute Normandie)
ใน département ชื่อ Seine Maritime

ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของฝรั่งเศส มีแม่น้ำแซนน์
(Seine) ไหลผ่าน (( แม่น้ำแซนน์สายเดียวกะที่คุณเห็นสวยๆ
ในปารีสนั่นแหล่ะค่ะ ))

ที่เที่ยวที่มีชื่อเสียงของเมือง Rouen เป็นพวกสถาปัตยกรรม
สวยๆตามโบสถ์ อะไรต่อมิอะไรมีเยอะเลย ขนาดแค่พิพิธภัณฑ์่
ในแผ่นพับที่การท่องเที่ยวแจกมาก็ปาไป 14 แห่งแล้ว

แต่ดิฉันไม่ได้แวะไปซักที่ เพราะมีเวลาแค่สองวัน จริงๆ คิดกันไว้กะสามีว่าอยากไปพิพิธภัณฑ์กับบ้านของโฟรแบร์
แต่แค่เดินชมเมืองดูโน่นดูนี่ก็หมดเวลาแล้วค่ะ เลยต้องติดไว้ก่อน
คราวหน้าค่อยมาใหม่ (ใช้มุขนี้ทุกทีที่เที่ยวไม่หมด)

ดิฉันไปช่วงเซลล์อาทิตย์สุดท้ายของที่นี่ เจอของลดราคากระหน่ำ
ซัมเมอร์เซลล์ลดแล้วลดอีกปาเข้าไปแปดเก้าสิบเปอร์เซนต์
อดใจไม่ไหว ช้อปไปครึ่งวัน แล้วไหนยังต้องไปงานแต่งงานอีก
เวลาเที่ยวเลยหดเหลือจึ๋งเดียว

ตอนแรกที่เดินไปถึงถนนสายช้อปปิ้ง ลืมไปแล้วด้วยนะว่ายังไม่หมด
ช่วงเซลล์ พอเห็นร้านค้าเรียงรายละลานตาเต็มไปหมด โอ๊ย ชอบๆๆ
เล็งใหญ่เลยว่าเดี๋ยวจะมาแวะร้านไหน

สามีสะกิดบอกเธอๆ แหงนหน้าดูตึกด้านบนซิว่าสวยแค่ไหน
ศิลปะแถวนอร์มองดีไม่เหมือนแถวที่เราอยู่นะ เท่านั้นแหล่ะ
ถึงได้คิด กร๊ากกก เรามาเที่ยวนี่นา เอ้อ มันสวยจริงๆด้วยแฮะ

เดินไปเดินมาปิ๊งร้านนี้ค่ะ เห็นแล้วหิวหนมขึ้นมาทันที
ขายขนมกะช็อคโกแลต ชอบๆ โดยเฉพาะเจ้ามากาคงสีสวยๆ

จุดประสงค์ที่ไปเที่ยว Rouen ครั้งนี้เพราะว่าน้องสาวเพื่อนสนิท
สามีแต่งงานที่เมืองใกล้ๆกัน สามีดิฉันรู้จักคุ้นเคยกะครอบครัวนี้
นานแล้ว

ตอนแรกที่ได้การ์ดเราก็ยังไม่ได้คุยกันเป็นเรื่องเป็นราวว่าจะไป
หรือไม่ไปดี เลยไม่ได้ตอบตกลงทางเจ้าภาพ ได้แค่ส่งเช็ค
ของขวัญไปให้ทางไปรษณีย์กันเหนียวไว้ก่อน แต่สุดท้าย
เราก็ได้ไปร่วมงานเค้าด้วย

การแต่งงาน (อย่างถูกกฎหมาย) ของที่นี่ส่วนใหญ่จดทะเบียนกัน
ที่อำเภอ (เหมือนเมืองไทยนั่นแหล่ะ)

ปรากฎว่าคู่บ่าวสาวเลือกวันได้เหมาะเจาะ

จดทะเบียนวันเดียวกะท่านประธานาธิบดีเลยค่ะ

ในรูปเป็นห้องที่ใช้ทำพิธีจดทะเบียน ดิฉันรีบแชะภาพห้องว่างๆ
ตอนที่ใครๆมัววุ่นถ่ายรูปคู่บ่าวสาว ก่อนที่เค้าจะมานั่งกันเต็ม
ถ่ายมาให้ดูเป็นตัวอย่างคร่าวๆนะคะ เขตแต่ละเมืองก็สวยงาม
แตกต่างกันไป ที่นี่เป็นเมืองต่างจังหวัดค่ะ แต่โดยรวมแล้ว
ก็เป็นห้องๆนึงเหมือนๆกัน

เด็กคนนี้ยุกยิกไม่อยู่นิ่งเลยค่ะ ตอนเค้าทำพิธีต้องติดสินบน
ด้วยบิสกิตช็อคฯ

จดทะเบียนเสร็จแล้วก็ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก แล้วไปฉลองดื่มอะไรกัน ที่ร้านอาหารหรือเช่าสถานที่เล็กใหญ่ขึ้นกะจำนวนแขกที่เชิญ
ซึ่งส่วนใหญ่เท่าที่เห็น ใกล้ๆที่ว่าการเขตหรือโบสถ์ต่างๆก็จะมี
ห้องจัดเลี้ยงให้เช่า

กินเลี้ยงตอนเย็นก็จะจัดกันที่ร้านอาหารหรือเช่าสถานที่ขึ้นกะ
งบประมาณเจ้าภาพอีกนั่นแหล่ะ

ส่วนใหญ่แล้วก็ไม่ได้จัดใหญ่โตอะไรกันมากมาย เนื่องจาก
ค่าเช่าสถานที่แพงโขอยู่

ที่เห็นคนไทยเราจัดงานเลี้ยงแต่งงานหรูหรา เชิญแขกเป็นร้อย
เป็นพันที่โรงแรม แต่ที่ฝรั่งเศสได้แค่งานเล็กๆเรียบง่ายเองค่ะ
บางทีก็เลี้ยงกันเองแค่ญาติสองฝ่าย ซึ่งต้องคอนเฟิร์มนับหัวกัน
ล่วงหน้าเพราะต้องจองก่อน

(งานเลี้ยงครั้งนี้นับว่าใหญ่เหมือนกันนะ เพราะดิฉันเคยไป กินเลี้ยงแต่งงานเพื่อนฝรั่งเศสที่ร้านอาหารเลี้ยงกันไม่กี่สิบ
คนเองค่ะ)

ห้องจัดเลี้ยงในรูปข้างบนใช้เป็นที่ฉลองดื่มกัน เสริฟแชมเปญ
และเครื่องดื่มอื่นๆ พร้อมขนมเล็กๆ พอเสร็จก็ขยายพื้นที่สำหรับ
งานเลี้ยงกลางคืน ซึ่งไม่รู้ว่ากี่โมง เพราะดิฉันกลับตอนทุ่มกว่าๆ
ยังไม่มีท่าทีจะเริ่มงานกันเลยอ่ะ

จริงๆสามีกะดิฉันคิดไว้แล้วหล่ะว่าไม่อยากร่วมงานเลี้ยงกลางคืน
เนื่องจากหนึ่งเกรงใจเจ้าภาพ เพราะไม่รู้ว่าจะออกมาแนวไหน
ฉลองกันเองระหว่างญาติหรือเปล่า สองเกรงว่าจะเอาเจ้าเอมไม่อยู่
เพราะกินเลี้ยงอย่างนี้ ดึกดื่นถึงเช้าเลยค่ะ ซึ่งเค้าก็ไม่ได้บังคับว่า
จำเป็นต้องอยู่ เพียงแต่เรารู้อยู่แล้วว่างานฉลองแต่งงาน
อาหารเสริฟช้าแน่ๆ ค่อยๆกินค่อยๆคุยเล่นเฮฮากันไป

รูปข้างล่างเป็นสำนักงานท่องเที่ยวของเมืองค่ะ

ก่อนเราลากลับคืนนั้นพ่อแม่กะเจ้าสาวก็คะยั้นคะยอให้มาฉลองกัน
กลางวันวันรุ่งขึ้นเพราะเค้าจองห้องจัดเลี้ยงนี้ไว้อีกวัน แต่เราสองคน
ได้แต่ยิ้มแหะๆไม่ตอบรับหรือปฎิเสธ แต่ก็แอบเปรยๆนะว่าลูกเล็ก
กลัวเดี๋ยวงอแง อะไรก็ว่าไปเรื่อย

คริๆ จริงๆเราสองคนคุยกันไว้ก่อนแล้วหล่ะว่าไม่เอา เพราะคงกินกัน
ไม่ต่ำกว่าสามสี่ชั่วโมง ดิฉันอยากใช้เวลาไปเที่ยวมากกว่า
(ต๊าย ถ้าท่านๆอ่านภาษาไทยออก จะเสียใจไหมเนี่ย)

ถ้าไปร่วมงานกะเค้า กว่าจะกินเสร็จก็ต้องรีบขับรถกลับบ้านอีกเมือง
ไม่ได้ดูอะไรกันพอดี

ขับรถกลับมาจอดไว้ที่โรงแรม แล้วเดินไปหาไรกินกัน โชคดีที่
แถวโรงแรมเป็นแหล่งร้านอาหารนานาชาติ เลือกเอาตามสบาย
จะไทย จีน ฝรั่ง แขก เราหม่ำร้านนี้ค่ะ

(ถ่ายรูปมาตอนเดินผ่านตอนเช้าอีกวันนึง)

หิวกันหน้ามืดค่ะ เพราะกว่าจะขับกลับมาก็ดึกแล้ว เลยสั่งกัน
คนละสองจาน ออร์เดิร์ฟของสามีเป็นสลัดเนยแข็งชนิดหนึ่งค่ะ
ดิฉันจำไม่ได้แล้วว่าเนยชื่ออะไร เนยที่ฝรั่งเศสมีตั้ง 300 กว่าชนิด

ดิฉันสั่งเจ้านี่หน้าตาแปลกหน่อย ชื่อว่า Os à moelle
เป็นกระดูกวัวเอามาปรุงรส โรยเกลือ แล้วตักมาทานกะหนมปังปิ้งค่ะ
อร่อยแต่มันเยอะสุดๆ ชวนอ้วนดีแท้

ถ่ายออกไม่ค่อยชัดเพราะอายค่ะ รีบยกกล้องขึ้นมาแชะแล้วเก็บ
วันนั้นนั่งโต๊ะใกล้เคาร์เตอร์บาร์ พนักงานเสริฟอยู่กันตรึม เดี๋ยวเค้า
จะหาว่ายัยเอเชี่ยนนี่ไม่เคยเห็นของกินหรือไง ถ่ายอยู่ได้ ฮ่าๆๆ

ส่วนลูกสาวเราสั่งเมนูเด็กพร้อมไอติมให้
เลือกได้ Steak Haché (เสต็ก อาช-เช่)
เป็นเนื้อสับก้อนคล้ายๆที่ใส่ในแฮมเบอร์เกอร์
ทานกะมันฝรั่งทอดค่ะ

เดี๋ยวนี้ดิฉันบ้าถ่ายรูปอาหารเนอะ

สามีสั่งจานหลักเป็นไรไม่แน่ใจ ดูจากรูปน่าจะเป็นแกะ (agneau)

ดิฉันขอเมนูเบาๆดีกว่า เลยขอเลือกปลา แต่แหม
พอประกอบกันปรุึงออกมา ไม่เบาหน่ะสิคะ ครีมเพียบ

ไม่ได้ถ่ายรูปด้านนอกโรงแรมที่ไปพักคราวนี้มาด้วย แปะรูปนี้แทนละกัน ถ่ายจากระเบียงห้องมองลงมาในถนน หน้าตาตัวตึกเหมือนๆกันนั่นแหล่ะ

ห้องคราวนี้ใช้ได้ ขนาดไม่ใหญ่ไม่เล็ก หลังจากใส่ไปแล้วสองเตียง
ยังมีที่เดินอยู่บ้าง

มีตู้เสื้อผ้า โต๊ะเขียนหนังสือ ทีวี แต่ไม่มีโซฟา ไม่มีตู้เย็น

ห้องน้ำที่นี่มีเป็นฝักบัวไม่มีอ่างค่ะ แถมประตูยังเป็นกระจกขุ่น
ให้มองเห็นวาบหวิววับๆแวมๆ ดิฉันยังสงสัยเลยนะ ว่าถ้าคนที่
ยังไม่ได้แต่งงานมาพักด้วยกัน คงเขินน่าดู ขนาดตัวเองลูกหนึ่ง
แล้วยังอายเลยอ่ะ แอบไปถอดมุมๆ หุหุ

เตียงเดี่ยวของเจ้าเอม

เก็บข้อมูลโรงแรมมาให้ด้วย เผื่อกลับไปคราวหน้าอีก
จะได้ไม่ต้องไปค้น เพราะดิฉันว่าใช้ได้ดีทีเดียว
มีที่จอดรถภายในฟรี พร้อมระบบรักษาความปลอดภัย

ที่ไม่ชอบคือลิฟท์เก่าและเล็กจิ๋วเดียว เข้าไปสามคนพ่อแม่ลูก
ก็ไม่ต้องขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวใดๆทั้งสิ้น ดิฉันว่ายอมไต่บันได
ขึ้นลงดีกว่า

ชื่อโรงแรม Hôtel de Québec
ที่อยู่ 18-24 rue de Québec 76000 Rouen
Tél 02 35 70 09 38
//www.hotel-rouen.com
contact@hotel-rouen.com

ราคาอยู่ที่ห้องละประมาณ 80-100 ยูโร จำแน่นอนไม่ได้แล้วค่ะ
ไม่รวมอาหารเช้า อีกวันเราก็กินอาหารเช้ากันที่นี่แหล่ะ ประมาณ
10 ยูโรมั้ง เด็กไม่คิดค่ะ แต่จริงๆเจ้าเอมกินจุมากกก สงสารโรงแรม ไม่รู้คิดผิดหรือเปล่าน้อที่ไม่เก็บตังค์เด็กอายุต่ำกว่าสามขวบ

บุฟเฟ่อาหารเช้าเท่าที่ไปพักมาตามโรงแรมเล็กๆพวกนี้
ไม่ได้เต็มที่ไส้กรอกไข่ดาวหมูแฮมอย่างโรงแรมเมืองไทยนะคะ
จะเป็นพวกครัวซองค์กะขนมปังประเภทต่างๆ เนยแยม ผลไม้
ชากาแฟ นม น้ำส้ม ซีเรียล โยเกิร์ต ผลไม้ อาจจะมีเค้กหรือ
อะไรนิดๆหน่อยเพิ่มมาบ้าง แต่แค่นี้ก็อิ่มแล้วค่ะ

หม่ำอาหารเช้าเสร็จแล้วก็ไปเดินเที่ยวในเมือง
เริ่มด้วยตลาดนัดวันอาทิตย์ค่ะ ของถูกกว่าแถวบ้านดิฉันอีก

รูปด้านล่างนี้เป็นตลาดสดขายของวันธรรมดา เดินมาจนสุด
ถนนช้อปปิ้งก็ถึง

หลังคาที่เห็นรูปทรงเดิ้นๆนั่นเป็นโบสถ์ Jeanne d’Arc
(ไว้จะแปะให้ดูอีกทีคราวหน้าค่ะ ยังไม่ได้ย่อรูปเลย)

ตลาดตรงนี้ขายกันอยู่ไม่กี่เจ้ามีผักผลไม้ ดอกไม้ เนื้อสัตว์
อาหารทะเล แล้วที่พลาดไม่ได้คือร้านขายเนยแข็ง
เพราะแถบนอร์มังดีมีชื่อเสียงค่ะ

ม้าหมุนด้านหน้าเรียกลูกค้าตัวน้อยได้ชะงัดนัก

วันนี้ดิฉันแปะรูปไม่เข้าพวกกันเลยเนอะ อะไรก็ไม่รู้เต็มไปหมด
ไว้คราวหน้าจะเป็นพวกสถาปัตยกรรมสวยๆของ Rouen ค่ะ

Create Date : 03 มีนาคม 2551

Last Update : 3 มีนาคม 2551 0:26:31 น.

12 comments

Counter : 1200 Pageviews.

เห็นภาพแล้วก็เสียดายตามค่ะพี่ เพราะว่าเมืองนี้
เป็นเมืองผ่าน ไม่ได้กะนอน เลยอดเข้าไปดูตัวเมืองเลยว่า
เป็นยังไง เห็นตึกรามบ้านช่องเค้าเน๊าะ คิดถึง Strasbourg
เลยอ่ะค่ะ คลาสิคดีสำหรับบ้านเก่าเมืองเกาคะ

พู่เองไม่เคยไปงานแต่งงานของฝรั่งเลย แต่ก็ได้เพื่อน
มาเล่าให้ฟังเหมือนกัน เพราะว่าเค้าไปสองหนแล้ว
เรื่องการแต่งงานก็แบบง่ายๆ เลยค่ะ บางทีก็จัดกันที่บ้าน
เฉพาะครอบครัว ส่วนเยอะมาอีกหน่อยก็เพื่อนสนิทเพิ่มแล้ว
ไปเช่าร้านเอา อันนี้ก็สะดวกดี แต่ก็ต้องนับแขกกัน
ให้ครบถ้วน เพราะเค้าก็จ่ายเป็นหัวเอา ...

ว่าแล้วฝรั่งเค้าประหยัดเพราะอะไรมันแพง แต่ว่าบ้านเรา
เน้นเอาใหญ่ไว้ก่อนเพราะหน้าตา .. บางทีเชิญมา ใครเป็นใคร
เจ้าบ่าว เจ้าสาวยังแอบงงเลยค่ะ

โดย: JewNid

วันที่: 3 มีนาคม 2551 เวลา:1:08:13 น.

สวัสดีค่ะพี่ตรีนุช หลังจากไม่เห็นพี่อัพบล๊อกหลายวัน วันนี้เห็นเลยรีบบึ่งมาเที่ยวด้วยเลยค่ะ ดีจังเลยอ่ะค่ะพี่ได้พากันออกไปเที่ยวโน่น เที่ยวนี่ ฝนกะครอบครัว ถ้าวันเสาร์จะออกไปซื้ออาหารเหมือนเช่นทุกครั้ง หรือบางทีฝนก็ไปพบปะเพื่อนๆ ส่วนวันอาทิตย์นี่เป็นวันสบายๆ ก็พักผ่อนอยู่บ้านส่วนใหญ่พ่อบ้านเค้าจะนอนๆๆๆ และนอน ฝนก็ถ้าอากาศดีบ้างทีก็ออกไปเดินเล่นกับลูกสองคน หรือถ้าพ่อบ้านไม่เพลียมาก ก็ไปด้วยกัน แต่ไม่ได้ไปไหนไกลๆ หรือไปต่างเมืองอะไรแบบนี้ค่ะ แต่ถ้าเป็นซัมเมอร์ก็อาจจะมีบ้าง บางทีฝนก็เซ็งๆ นะคะ เคยมีแง่วๆ กับเค้าเหมือนกัน แต่เค้าเหนื่อยเลยไม่ค่อยได้ไปไหนน่ะค่ะ

เป็นฝนเห็นร้านขายขนมร้านนั้น (เล็กๆ รถเข็น) ก็คงจะยิ้มเหมือนกันล่ะ เพราะว่าดูน่ารักกระจุ๋มกระจิ๋มดีจัง ช็อกโกแลต ที่ขายก็คงน่ากินนะคะ แอบเห็นในภาพนิดหน่อย

ดีจังเลยนะคะที่บ่าว สาว ได้จดทะเบียนกับประธานาธิปดี คงเป็นปลื้มน่าดู

ฝนก็เห็นด้วยกับพี่นะคะว่าจัดงานแต่งที่เมืองนอกนี่มันแพงจริงๆ ถ้าไม่ร่ำรวยมีทรัพย์จริงๆ ฝนว่าจัดแบบเรียบ ง่ายๆ ไม่ต้องใหญ่โตมโหฬารมากก็โอเคนะคะ ฝนเองก็ตอนแต่งก็เลือกเอาแต่ญาติสนิทๆ ของสามีและเพื่อนเจ้าบ่าว เจ้าสาว แค่นี้ก็หมดไปหลายหมื่นโครนเลยค่ะ

ฝนเองก็ไม่อยากได้งานใหญ่โตอะไรมากมายด้วยล่ะเพราะไม่อยากตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ ที่เมืองไทยไว้ซักวันค่อยไปจัดให้พ่อ ให้แม่ท่านเสียหน่อย

น้องเอมคงสนุกสนานน๊างานนี้ ได้กินๆๆ

ของเล่นแบบนี้ถ้าน้องกรานต์ได้เดินผ่าน ขอบอกเลยว่าออกยากมากๆ ค่ะ เล่นเอาฝนละเหี่ยใจไปหลายทีล่ะ คือเค้าจะนั่งแล้วนั่งอีกอ่ะค่ะ

ฝากจุ๊บๆ น้องเอมด้วยน๊า ยิ้มแก้มหยุ้ยเชียว

โดย: Malee30

วันที่: 3 มีนาคม 2551 เวลา:2:33:19 น.

เมืองนี้สวยดีนะคะ น่าไปเดินเที่ยวจังเลยค่ะ
ตึกรามบ้านช่องก็แตกต่างจากทาง Nantes จังเลยค่ะ
เห็นแล้วตื่นตาตื่นใจดีจังค่ะ

โดย: Complicatedgirl

วันที่: 3 มีนาคม 2551 เวลา:5:08:49 น.

*** เห็นตอนแรกพี่ก็นึกถึงแถว
Strasbourg เหมือนกันน้องนิด
(แหะๆ ยังไม่เคยไปหรอกนะ เห็นในรูป)
ตอนหนูอยู่ทางนี้ เรายังไม่ได้คุยกันนี่เนอะ
ไม่งั้นจะได้พอแนะนำรายชื่อเมืองสวยๆ
แถวนี้ให้ไปเที่ยว

(ว่าแต่แถวฮอลแลนด์มีเมืองไรน่าเที่ยว
ก็แวะมาบอกได้นะจ๊ะ)

*** พอพี่ทำงานเต็ม 5 วันแล้วรู้เลยน้องฝน
ว่ามันเหนื่อยมากกก วันเสาร์อาทิตย์นี่อยากพักจริงๆ

ไปเที่ยวก็สนุกนะ แต่มันเหนื่อย
อย่างเสาร์อาทิตย์ก่อนที่ไปเที่ยว
กลับมา วันธรรมดาก็ไม่ได้พักอีก
2 วันนี่พี่หมดสภาพ เลยไม่อยากไปไหน
อยู่สะสางงานบ้านด้วย

*** แถวบ้านคุณแนนเป็นไงคะ ดิฉันยังไม่เคยไปเลยค่ะ ไว้ว่างๆ
ชวนสามีไปเที่ยวนะคะ ไม่ไกลกันเท่าไหร่ (แต่คงต้องค้างซักคืนเหมือนกันเนอะคะ ขับรถไปกลับนับว่าไกล)

โดย: ตรีนุช3903

วันที่: 3 มีนาคม 2551 เวลา:5:42:59 น.

โดย: somnumberone

วันที่: 3 มีนาคม 2551 เวลา:11:22:07 น.

บ้านช่องเขาน่ารักดีนะครับ

ไปงานแต่งกับเขาเหมือนกันครับแต่ลงไปทางใต้

โดย: คนติดเขมร (Derek

) วันที่: 3 มีนาคม 2551 เวลา:14:44:56 น.

ไปฮอลแลนด์นี่ก็เมืองที่ไปเดินกันบ่อยๆ แล้วชอบเลย
ก็คงหนีไม่พ้น Dordrecht , Utrecht , Delftม Leiden จริงๆ มันก็
เป็นเมืองท่องเที่ยว
นะคะพี่ แต่ว่ามันก็ดีกว่าไปเมืองใหญ่ๆ อย่าง Amsterdam
พู่ว่ามันก็สวยนะ แต่ว่าไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่อ่ะคะ
สู้เมืองเล็กๆ ไม่ได้ ดูจะยุ่งเหยิงน้อยกว่าด้วย
อย่างถ้าหากว่าไปหน้าร้อนก็คนไปเที่ยวกันที่ Schevaningen ที่ Delft
อ่ะคะพี่ตรีนุช ..

คริๆ พูดแล้วเดี๋ยวยาว พาไปเที่ยวทั่วฮอลแลนด์เลย

...............

เรื่องรูปภาพที่ถ่ายด้วยกล้องมือถือ พู่เองปรับใน PS
ด้วยค่ะ แต่ว่าไม่มากเพราะว่าปรับแค่ Level ความมืดหม่น
แค่นั้นเองอ่ะค่ะ
นอกนั้นถ้าหากว่าภาพมันเหมือนภาพวาด ต้องบอกว่า
เพราะมือถือนั่นล่ะคะ ภาพเลยออกมาแบบนี้
อาจจะบอกว่าถ้าหากว่าอากาศดี ฟ้าแจ่มๆ รูปมันจะชัด
มากกว่านี้นะคะ แต่ว่าวันที่ไป ฟ้าแจ้งจริงแต่ว่ามันไม่ค่อย
มีแดดเลยอ่ะคะพี่ ภาพเลยได้อย่างที่เห็น พู่ว่ามันเหมือน
รูปวาดมากกว่ารูปถ่ายอีกอ่ะคะ