Klong-San Trip with MPA 27

Klong-San Trip with MPA 27
วันนี้ต๋อมต้องไปทัศนศึกษาดูงานวิชา HRD กับที่คณะ
ชื่อโครงการศึกษาโบราณสถานริมแม่น้ำเจ้าพระยา ณ เขตคลองสาน
และโครงการโขนเฉลิมพระเกียรติ (สาลาเฉลิมกรุง)
ซึ่งก็แน่นอนว่าต๋อมพกสามีไปด้วย...555
ต้องขอขอบคุณอาจารย์ศิรภัสสร (ชื่อเดิมคือ อ.ศรีสอางค์) มา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ

ตื่นเต้นมาก...มาถึงที่เขตคลองสานตั้งแต่ 7 โมง (เค้านัดกัน 8 โมงอะนะ)

ถ่ายรูปป้ายด้านหน้าซะหน่อย

8 โมงก็มาลงทะเบียน รับอาหารว่างและเอกสาร

รูปพี่ต้น...เพื่อนร่วมรุ่น

แอน - ต๋อม - กอล์ฟ

9 โมงครึ่งก็มาลงเรือกันค่ะ
เป็นเรือโดยสารลำใหญ่กว่าในรูปนะคะ...รูปนี้เป็นเรือด่วนที่จอดอยู่ใกล้ๆ น่ะค่ะ
คณะของเราได้ลงเรือลำที่ 5 โดยมีมัคคุเทศน์ (ไกด์) ชื่อ "POPEYE"

ลงเรือกันแล้ว...นั่งติดกันด้วย ฮิ้ววว

ที่แรกที่แวะชมคือ "มูลนิธิเผยแผ่คุณธรรมเพื่อการสงเคราะห์จีจินเกาะ" (เต็กก่า)
มูลนิธินี้ทำงานด้านสาธารณประโยชน์ต่างๆ ด้านสังคมสงเคราะห์
และด้านการเผยแพร่วัฒนธรรมจีน

บรรยาการภายใน...ตกแต่งแบบสถาปัตยกรรมจีนประยุกต์
จัดวางตำแหน่งสิ่งก่อสร้างต่างๆ ตามหลักฮวงจุ้ย

รูป Model เจดีย์ 8 ชั้น และเจดีย์จริงที่สร้างเสร็จแล้ว
ชั้น 8 จะมีพระบรมสารีริกธาตุให้ได้กราบไหว้บูชากันด้วย

ดอกสาละ...สวยมากๆ และหอมมากๆ ด้วย
เพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรกเลยนะเนี่ย

จากนั้นก็ลงเรือเพื่อเดินทางไปยัง "ศาลกวนอู" เพื่อแวะสักการะเทพเจ้ากวนอู

ถ่ายรูปหมู่กันหน่อย

มังกรสวยดีจัง

เจ้าแม่กวนอิม

ถ่ายรูปเล่นแบบชิลๆ
(ต๋อมกับพี่โดมเป็นคริสต์อะนะ เลยไม่ได้ไปจุดธูปไหว้เทพเจ้ากวนอูกับเพื่อนๆ)

ถ่ายกับรูปเทพเจ้ากวนอู (ภาพวาดที่ประตู)

รูปปั้นด้านข้าง เป็นเรื่องราวด้วยนะ...แต่ต๋อมไม่ได้ตั้งใจฟังคุณป๊อปพูดเลยอะ

บรรยากาศด้านในศาลกวนอู
พี่ปุ๊กำลังบริจาคอยู่พอดี เลยแอบถ่ายรูปอาแปะกับพี่ปุ๊มาซะหน่อย

จากนั้นคุณ Popeye ก็พาเราเดินไปยัง "พิพิธภัณฑ์เขตคลองสาน"
ซึ่งอยู่บนชั้น 2 ของห้องสมุดประชาชนวัดอนงคาราม
ที่นำเสนอเรื่องราวเชิงประวัติศาสตร์ท้องถิ่น มีการนำข้าวของเครื่องใช้มาจัดแสดง

เดินผ่าน "ซุ้มประตูแขก" กันด้วย

เรือนไทยไม้สัก - ถังดับเพลิงโบราณ - ป้ายที่แสดงถึงการสะกดคำของสมัยก่อน

ห้องสมุดประชาชน

อีกมุมนึง ก็มีการเล่านิทานให้เด็กๆ ฟัง
แต่ท่าทางคุณครูที่อ่านนิทานจะอินมากๆ เลยนะนั่น ...555

ที่ต่อมาคือ "วัดอนงคาราม"

บรรยากาศภายในวัด

ถ่ายรูปพี่โดมมั่ง
จากนั้นก็เดินข้ามถนนไปยัง "วัดพิชัยญาติการามวรวิหาร"
หรือที่คนทั่วไปเรียกว่า วัดพิชัยญาติ
เป็นพระอารามหลวงชั้นโท ซึ่งเป็นวัดที่แม่ชีทศพรถือศีลอยู่ด้วย

ร้อนมากๆ จนต้องหยุดแวะพักทานไอติมข้างทางกันก่อน โคนละ 10 บาท...อร่อยมากมาย
ที่นี่...ต้องถอดรองเท้า เดินเท้าเปล่า...ร้อนเท้าสุดๆ
พระอุโบสถที่นี่เป็นแบบจีน ไม่มีช่อฟ้า ใบระกา

พระอุโบสถด้านหน้า

"หลวงพ่อสมปรารถนา"
เป็นองค์พระประธานในพระอุโบสถ (ปางมารวิชัย)

มีเพื่อนๆ ขึ้นไปไหว้พระธาตุบนพระปรางค์กันเยอะแยะ
พี่โดมเลยตามขึ้นไปเก็บภาพ แต่ต๋อมรอข้างล่างอะ...ร้อนเท้ามากมาย ทนไม่ไหว

จากนั้นก็ถึงเวลาทานข้าวเที่ยงกันค่ะ ที่อุทยานสมเด็จย่า...อากาศร้อนมากมาย
แถมต้องมาทานข้าวในเต้นท์ด้วย ระอุสุดๆ ยังกะอบซาวน์น่าเลยนะนั่น
แต่อาหารอร่อยนะคะ ทั้งขนมจีน แกงเขียวหวาน แกงจืด ผัดผัก กล้วยบวชชี

มีแพะมาเดินอยู่ใกล้ๆ เต้นท์ด้วย

เมื่ออิ่มแล้วก็ลงเรือเตรียมเดินทางไปยังจุดต่อไป

งานนี้ต๋อมหลับเลยคะ เหนื่อยมากๆ หลับทั้งๆ ที่อากาศร้อนแบบนั้นเลยแหละ
จริงๆ ขณะเรือแล่นก็มีลมโกรกตลอดนะคะ แต่รู้สึกเหนียวตัวสุดๆ เลยอะ

จุดที่แวะต่อไปคือ "วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร" อยู่ปากคลองบางกอกใหญ่
ขึ้นเรือมาจะได้เจอกับ 2 สิ่งคือ "นก & ขอทาน"

นกเยอะจริงๆ

รูปบริเวณท่าเรือหน้าวัด
เจ้าพระยานิกรบดินทร์ (โต) ต้นสกุลกัลยาณมิตร ได้อุทิศบ้านและที่ดินบริเวณใกล้เคียง
สร้างเป็นวัดขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2368 และน้อมเกล้าฯ ถวายเป็นพระอารามหลวง
พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชทานนามว่า "วัดกัลยาณมิตร"

ธูป - เทียน

เทพเจ้าแห่งความรัก คง concept เดียวกับพระเยซู
ร.3 ทรงสร้างพระวิหารหลวงและพระประธานพระราชทาน
เป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ชื่อ พระพุทธไตรรัตนนายก หรือ หลวงพ่อโต
ด้วยมีพระประสงค์จะให้เหมือนกรุงเก่า คือมีพระโตอยู่นอกกำแพงเมือง อย่างเช่นวัดพนัญเชิง

หลวงพ่อโต...องค์ใหญ่มากมาย
น้อง Popeye บอกว่าหลวงพ่อโตที่นี่มีขนาดหน้าตักประมาณ 11 เมตร
แต่ที่วัดพนัญเชิงจะมีขนาดหน้าตักถึง 20 เมตร...โอ้ววว อะไรจะใหญ่โตปานนั้น

จากนั้นก็ออกเดินทางต่อไปยัง "ตลาดน้ำตลิ่งชัน" กันต่อ

ถ่ายบ้านริมน้ำไปพลางๆ

ขนมกุ้ยช่ายที่ทำเหมือนข้าวเกรียบปากหม้อเลย...อันนี้แจกบนเรือกันเลย เป็นอาหารว่าง

มาถึงตลาดน้ำตลิ่งชันแล้วค่ะ

อาหารเยอะดีค่ะ แต่ที่นั่งน้อยแฮะ

มะม่วงลูกกลมๆ กับผักซาดิสเนี่ยแปลกดีจัง
ผักซาดิส...เป็นผักที่ต้องใช้ความรุนแรงเล็กน้อยก่อนนำมาปรุงอาหาร
เช่น เอาใบตีกับโต๊ะ ใช้มือเด็ดแล้วขยำขยี้ให้เต็มแรงให้มีน้ำออกจากผัก
แล้วนำไปใส่กระทะร้อนๆ ถึงจะอร่อยถ้าไปทำจะออกมาขม

จากนั้นก็ลงเรืออีกครั้ง เพื่อมาแวะให้อาหารปลากันที่บริเวณหน้า วัดศรีสุดาราม
สถานที่ร้ำเรียนของสุนทรภู่เชียวนะ แต่เหมือนปลาแถวนี้จะไม่โปรดขนมปังแฮะ

ปลาน้อยไม่ค่อยมากินขนมปังเลย...แอบเห็นโดมอยู่ริบๆ ขอถ่ายรูปไว้หน่อยละกัน
จากนั้นก็มาแวะที่ "พิพิธภัณฑ์การแพทย์ศิริราช" กันค่ะ

ถ่ายรูปหมู่อีกแระ

ถ่ายรูปได้แค่นี้ค่ะ...ภายในไม่อนุญาตให้ถ่าย+ไม่กล้าถ่ายมาด้วยอะ
ที่นี่เปิดทำการวันจันทร์-เสาร์ 9.00-16.00 น.
อัตราค่าเข้าชม ...คนไทย 20 บาท, ต่างชาติ 40 บาท เด็กและนักเรียนเข้าฟรี
ประกอบด้วย
พิพิธภัณฑ์พยาธิวิทยาเอลลิส
พิพิธภัณฑ์นิติเวชศาสตร์ สงกรานต์ นิยมเสน
พิพิธภัณฑ์ประวัติการแพทย์ไทย อวย เกตุสิงห์
พิพิธภัณฑ์ปรสิตวิทยา
พิพิธภัณฑ์กายวิภาคศาสตร์คองดอน
และพิพิธภัณฑ์ ก่อนประวัติศาสตร์และห้องปฏิบัติการ สุด แสงวิเชียร






ภาพประกอบจาก //www.si.mahidol.ac.th/museums/th/index.htm

จากนั้นเราก็มาขึ้นเรือกันที่สะพานพุทธ และนั่งรถเมล์เพื่อไป "ศาลาเฉลิมกรุง" กันต่อ

MPA ยึดรถเมล์ซะแระ...ค่ารถเมล์คนละ 13 บาท

ตอน "หนุมานชาญกำแหง"
วันนี้พวกเราจะมาดูโขนกัน...ไม่เคยดูมาก่อนเลย ครั้งแรกในชีวิตเลยนะเนี่ย
อาจารย์ติดต่อให้เลยจ่ายกันคนละ 200 บาทเท่านั้น...คุ้มค่าสุดๆ ไปเลย
ระหว่างรอเวลา ก็ไปทานข้าวเย็นที่ S&P...ทริปนี้เลี้ยงดูสุดๆ เลยแฮะ
ต๋อมกับพี่โดมเลือกข้าวผัดอเมริกัน...ชืดสุดๆ แต่ขนมจีบกับบัวลอยอร่อยดีแฮะ

สั่ง Lime Mint มาอีก 1 แก้ว (เพราะน้ำขวดที่แจกให้ไม่เย็นเลย)
โขนแสดงตอน 19.30 น.
ก่อนเข้าชม ก็มีเจ้าหน้าที่มาพูดบรรยายด้วย...ต๋อมแอบหลับด้วยอะ แหะแหะ

บรรยากาศภายใน
ระหว่างแสดง...ถ่ายภาพไม่ได้ ทั้งๆ ที่อยากถ่ายมากเพราะสวยเหลือเกิน
สวยทั้งลีลาการแสดง ฉาก เครื่องแตกต่าง และ effect ต่างๆ...สุดยอดมากๆ
ใครมีโอกาส...อย่าลืมไปดูกันนะคะ แล้วจะรู้ว่าวัฒนธรรมไทยเนี่ย งดงามขนาดไหน

ทริปนี้เหนื่อยสุดๆ แต่ก็ประทับใจสุดๆ เลย
แล้วต๋อมกับพี่โดมก็ไปรับน้อง Winnie ที่บ้านอาม่ากันต่อเลยด้วย...เพราะคิดถึงหมีน้อยมากๆ
BYE BYE นะคะ

Create Date : 02 เมษายน 2551 |
|
3 comments |
Last Update : 2 เมษายน 2551 0:02:23 น. |
Counter : 2690 Pageviews. |
|
 |
|