"ปิศาจแดงดำ" ขาลง

ทำแชมป์หลุดมือไปแล้ว 1 รายการตั้งแต่หัววัน สำหรับ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมเจ้าบุญทุ่มแห่งเกาะอังกฤษ หลังจากพลาดท่าพ่ายต่อแอสตัน วิลลา คาบ้านในช่วงต่อเวลาพิเศษ 2–4 ส่งผลให้แมนฯซิตี้โบกมือลาฟุตบอลลีกคัพ อังกฤษ ไปเพียงแค่รอบ 3 เท่านั้น

เกมนัดนี้ “เรือใบสีฟ้า” พังประตูขึ้นนำทีมเยือนไปก่อนถึง 2 ครั้ง 2 ครา จากการซัดของมาริโอ บาโลเตลลี ในนาที 27 และอเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ ปั่นฟรีคิกตุงตาข่ายสุดสวย นาที 64

แต่ก็โดน “สิงห์ผงาด” แอสตัน วิลลา ตามเอาคืนได้ทั้ง 2 ครั้ง ซึ่งประตูตีเสมอ 1-1 ของวิลลา ได้จากการทำเข้าประตูตัวเองของกาเร็ธ แบร์รี กองกลางทีมชาติอังกฤษ นาที 58 ก่อนที่กาเบรียล อักบอนลาฮอร์ จะยิงให้วิลลาไล่เจ๊าเป็น 2-2 นาที 70 ทำให้เกม 90 นาทีจบลงด้วยการที่ยังไม่มีผู้ชนะ จึงต้องไปสู้กันต่อในช่วงต่อเวลาพิเศษอีก 30 นาที

และแล้วในช่วงต่อเวลาพิเศษนี้เอง กลับเป็นวิลลาที่ทำได้ดีกว่า ก่อนยิงเพิ่มได้อีกสองลูกรวด จากการซัลโวของชาร์ลส เอ็นซ็อกเบีย นาที 96 และอักบอนลาฮอร์ ยิงประตูที่ 2 ของเขาในเกมนี้ นาที 113 เช็กบิลให้วิลลาบุกมาเขี่ยแมนฯซิตี้ตกรอบ 3 ลีกคัพฤดูกาลนี้

หลังจบเกม โรแบร์โต มันชินี กุนซือชาวอิตาเลียนของแมนฯซิตี้ ต้องออกมาขอโทษขอโพยแฟนบอลตนเองเป็นการใหญ่ จากการที่ทีมมีอันต้องกระเด็นตกรอบศึกแคปปิตอล วัน คัพ (หรือลีก คัพ) ตั้งแต่ไก่โห่เพียงแค่รอบ 3 แบบเหนือความคาดหมาย

จะว่าไปแล้ว เกมนี้มันชินีจัดทัพ 11 ตัวแรกทีมเรือใบสีฟ้าเหมือนกับจะทิ้งถ้วยใบนี้เหมือนกัน ด้วยการส่งผู้เล่นสำรองลงสนามเกือบยกทีม เพียงแต่ยังมีคาร์ลอส เตเบซ และมาริโอ บาโลเตลลี ยืนเป็นคู่กองหน้า

แม้ตอนนี้จะหมดลุ้นไปแล้ว 1 แชมป์ แต่ผมคิดว่าแมนฯซิตี้ก็คงไม่เสียดายเท่าไหร่ เพราะเป้าหมายที่แท้จริงของพวกเขาน่าจะอยู่ที่การป้องกันแชมป์พรีเมียร์ลีก และการซิวแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีกมากกว่า

นอกจากแมนฯซิตี้แล้ว เอฟเวอร์ตันกับเวสต์แฮม ก็เป็นทีมพรีเมียร์ลีกอีก 2 ทีมที่ร่วงตกรอบ 3 ศึกลีก คัพ ฤดูกาลนี้ไปเรียบร้อย

หลังจาก “ทอฟฟี่” บุกพ่ายลีดส์ ทีมจากแชมเปียนชิพ 1-2 ส่วนขุนค้อนแพ้วีแกนเพื่อนร่วมลีกคาบ้าน 1-4 ขณะที่เชลซีฉลุยเข้ารอบ 4 แบบชิลๆ หลังเปิดบ้านถล่มวูล์ฟส์แบบไม่ยั้งเท้า 6-0

ขอพักเรื่องบอลอังกฤษไว้แค่นี้ เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศไปดูสถานการณ์ในศึกกัลโชซีรีเอ อิตาลี กันบ้าง หลังจากออกสตาร์ตฤดูกาลใหม่มาแล้ว 4 นัด ปรากฏว่าเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ไม่มี 2 ทีมจากเมืองมิลานติดอยู่ในอันดับ “ท็อปไฟว์” ของตารางคะแนน

2 ทีมแห่งเมืองมิลาน ทั้งอินเตอร์ มิลานและเอซี มิลาน ต่างทำผลงานได้อย่างย่ำแย่ในฤดูกาลนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ปิศาจแดงดำ” เอซี มิลาน ที่ฟอร์มห่วยแตก ดูไม่จืดเลยทีเดียว

ลงแข่งมาแล้ว 4 นัด เอซี มิลาน เพิ่งชนะแค่นัดเดียว แต่แพ้ไปแล้วถึง 3 นัด เก็บได้แค่ 3 แต้ม หล่นไปอยู่อันดับ 15 ของตาราง แถมยังตามหลังแชมป์เก่ายูเวนตุส ที่กำลังนำเป็นจ่าฝูง อยู่ถึง 10 คะแนน

“ปิศาจแดงดำ” เอซี มิลาน กำลังอยู่ในช่วงถ่ายเลือดใหม่ หลังจากที่โละแข้งเก๋าและขายสตาร์ดังออกจากทีมมากมายหลายคนในช่วงปิดฤดูกาลที่ผ่านมา

ไม่ว่าจะเป็นซลาตัน อิบราฮิโมวิช, ติอาโก ซิลวา, เจนนาโร กัตตูโซ, คลาเรน เซดอร์ฟ, อเลสซานโดร เนสตา และอันโตนิโอ คาสซาโน

ถึงแม้จะได้แข้งใหม่อย่างริคาร์โด มอนโตลิโว, ไนเจล เดอ ยองก์ และจามเปาโล ปาซซินี เข้ามา แต่ก็ดูเหมือนว่าจะยังจูนเครื่องกันไม่ติด

นับเป็นงานหนักหนาสาหัสของมัสซิมิเลียโน อัลเลกรี กุนซือผู้นำทีมคว้าแชมป์สคูเด็ตโตเมื่อฤดูกาล 2010-11 ที่ต้องกอบกู้นำทัพ “ปิศาจแดงดำ” กลับมาเกรียงไกรอีกครั้งให้ได้

แม้มีข่าวแว่วๆว่า มิลานอาจปลดอัลเลกรีพ้นจากตำแหน่งกุนซือในเร็วๆนี้ โดยมีราฟา เบนิเตซ อดีตกุนซือลิเวอร์พูล โผล่มีชื่อรอเสียบแทนก็ตาม.

หมวดแซม

Create Date : 27 กันยายน 2555		0 comments
Last Update : 27 กันยายน 2555 8:58:33 น.
Counter : 1209 Pageviews.
Share Tweet