อาร์วีพี ซัดโทษ 'ผี'ตามสูตรไล่เฉือน'หงส์'ดับ 2-1

"หงส์แดง"ลิเวอร์พูล หวิดจะมีชัยในบ้านประเดิมศึก"แดงเดือด"ฤดูกาลใหม่ หลังจากที่ต้องเหลือผู้เล่นน้อยกว่าเมื่อ จอนโจ เชลวีย์ โดนใบแดงในครึ่งแรก แต่ สตีเวน เจอร์ราร์ด กลับมายิงขึ้นนำได้อย่างรวดเร็วในครึ่งหลัง ก่อนจะมาโดน ราฟาเอล ดา ซิลวา ยิงตีเสมอและเสียจุดโทษท้ายเกมโดน"ปิศาจแดง"แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไล่เฉือนเอาชนะไป 2-1…

ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2012-13 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 23 ก.ย.ที่ผ่านมา เป็นเกมบิ๊กแมตช์ ประจำสัปดาห์ ในศึก "แดงเดือด" ระหว่าง ทีม "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟิลด์ รับการมาเยือนของ "ปิศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยก่อนคิกออฟ ได้มีพิธีไว้อาลัยให้กับ เหตุการณ์โศกนาฏกรรมที่ฮิลส์โบโร่ อีกด้วย

เกมนี้ แบรนดอน รอดเจอร์ส กุนซือ ลิเวอร์พูล ส่ง หลุยส์ ซัวเรซ เป็นหน้าเป้า โดย มี ราฮีม สเตอร์ลิง, ฟาบิโอ บอรินี และ สตีเวน เจอร์ราร์ด ช่วยเติมเกมบุก ขณะที่ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือแมนฯยู ฝากความหวังไว้ที่ โรบิน ฟาน เพอร์ซี และ ชินจิ คากาวะ  ส่วน เวย์น รูนีย์ ยังไม่มีชื่อลงสนาม ขณะที่ ซัวเรซ ปิดฉากความบาดหมาง จับมือกับ ปาทริซ เอวรา ก่อนเกม

ครึ่งแรก เป็นเจ้าถิ่นที่เล่นได้เหนือกว่าอย่างชัดเจน ชนิดแทบจะพับสนามบุกอยู่ฝ่ายเดียว  แถมยังมีโอกาสทำประตูออกนำหลายครั้ง น.7 หลุยส์ ซัวเรซ ซัดไปติดเซฟ อันเดอร์ส ลินเดการ์ นายทวารแมนฯยู ล้มตัวปัดหวุดหวิด อีก 2 นาที จากลูกเตะมุม สตีเวน เจอร์ราร์ด วิ่งโฉบตวัดยิงเฉียดตาข่ายอย่างเสียว

ผ่านไป 15 นาที เกมรับแมนฯยู ยังต้องทำงานหนักกันต่อ ขณะที่ แดนกลาง และแดนหน้า ตั้งเกมของตัวเองไม่ได้เลย อย่างไรก็ตาม เหมือนโชคเข้าข้างให้แข้งผีแดงได้หายใจหายคอมากขึ้น เมื่อลิเวอร์พูล ดันมาเหลือผู้เล่น 10 คน หลังจาก จอนโจ เชลวีย์ ไปเปิดปุ่มสตั๊ดใส่ จอนนี อีแวนส์ ทำให้มาร์ค ฮัลซีย์ ชักใบแดงไล่ออกไป นาทีที่ 39 

แม้เหลือตัวน้อยกว่า แต่ก็ไม่อาจหยุดยั้งเกมบุกอันบ้าพลังของ ทัพ "หงส์แดง" ได้ และพวกเขาก็เกือบจะได้ประตูอีกครั้ง จากลูกฟรีคิก น.41 ซัวเรซ ซัดไกลข้ามกำแพง แต่ ลินเดการ์ด ไม่ทำให้ป๋าผิดหวัง พุ่งสุดตัว เซฟชีวิตให้ แมนฯยู เอาตัวรอดไม่เสียประตู ยันเสมอกับ ลิเวอร์พูล ได้อยู่ 0-0

เริ่มครึ่งหลังทั้งสองทีมมีการแก้เกม ร็อดเจอร์ ส่ง  ซูโซ เฟอร์นานเดซ ซาเอซ  แข้งดาวรุ่งลงมาแทน ฟาบิโอ บอรินี ในขณะที่ เฟอร์กูสัน ส่ง พอล สโคลล์ ลงแทน นานี ที่แทบจะทำอะไรไม่ได้เลยในครึ่งแรก

แต่ทันทีที่เริ่มเกม น.46 หงส์แดง ก็ได้ประตูขึ้นนำทันทีจากจังหวะที่ ซูโซ พาบอลขึ้นมาทางซ้ายก่อนจะเปิดเข้ากลางติด เฟอร์ดินานด์ โขกสกัดไปเข้าเท้า เกล็น จอห์นสัน ปั้มบอลกับ พอล สโคลล์ ลูกหลุดไปเข้าทาง สตีเวน เจอร์ราร์ด หวดวอลเลย์ตุงตาข่าย ลิเวอร์พูล ขึ้นนำ 1-0

หลังจากนั้น 5 นาทีทีมเยือนก็ตีเสมอได้สำเร็จ อันโตนิโอ วาเลนเซีย เปิดจากกราบซ้ายให้ คางาวะ พักอกต่อให้ ราฟาเอล ดา ซิลวา จับแต่งหวดด้วยซ้ายผ่านมือ เรนา ชนเสาสองเข้าตาข่าย แมนฯยู ไล่มาเป็น 1-1

เกมผ่านไปอย่างดุเดือด ลิเวอร์พูล ที่เหลือนักเตะน้อยกว่าสามารถครองบอลสู้กับ แมนฯยู ได้อย่างสูสี น.65 ลิเวอร์พูล ได้โอกาสอีกครั้งจากลูกยิงของ ซูโซ ที่จังการกดมุมแคบเสาสองแต่ถูก ลินเดการ์ด ปัดออกไปได้ ก่อนที่ "บีร็อด"จะเปลี่ยนตัวครั้งที่สองส่ง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ลงแทน ราฮีม สเตอร์ลิง

น.80 แมนฯยู ก็ได้จุดโทษจากจังหวะที่ เกล็น จอห์นสัน เข้าสกัด ราฟาเอล ในกรอบเขตโทษจากทางด้านหลังและก็เป็น โรบิน ฟาน เพอร์ซี ที่สังหารจุดโทษอัดหนีมือ เรนา เข้าตาข่าย"ปิศาจแดง"ขึ้นนำ 2-1

ในช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมขนตัวสำรองลงสนาม ลิเวอร์พูล เร่งเครื่องหวังทวงประตูตีเสมอแต่ก็ยังทำอะไรไม่ได้หมดเวลาการแข่งขัน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกไปเอาชนะ  ลิเวอร์พูล 2-1 เก็บ 3 คะแนนกลับบ้านได้สำเร็จ ในขณะที่ ลิเวอร์พูล ยังไม่ชนะมาเป็นนัดที่ 5 ติดต่อกัน


รายชื่อนักเตะ 11 ตัวจริงทั้งสองทีม

ลิเวอร์พูล (4-5-1) :  เปเป้ เรนา - เกล็น จอห์นสัน, ดาเนียล แอ๊กเกอร์, มาร์ติน เคลลี, มาร์ติน สเคอร์เทล - สตีเวน เจอร์ราร์ด, โจ อัลเลน, จอนโจ เชลวีย์, ฟาบิโอ บอรินี, ราฮีม สเตอร์ลิง - หลุยส์ ซัวเรซ

ตัวสำรอง : แบรด โจนส์, โฆเซ่ เอ็นริเก, เจมี คาร์ราเกอร์, นูรี ซาฮิน, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, อุสซามา อัสไซดี,  ซูโซ เฟอร์นานเดซ ซาเอซ

แมนฯยูไนเต็ด (4-5-1) : อันเดอร์ส ลินเดการ์ด - ราฟาเอล, ปาทริซ เอวรา, ริโอ เฟอร์ดินานด์, จอนนี อีแวนส์ - อันโตนิโอ วาเลนเซีย, ไรอัน กิกส์, ไมเคิล คาร์ริก, นานี, ชินจิ คากาวะ - โรบิน ฟาน เพอร์ซี

ตัวสำรอง : ดาวิด เด เคอา, อเล็กซานเดอร์ บุตต์เนอร์, อันเดอร์สัน, พอล สโคลส์, ทอม คลีฟเวอร์ลีย์, ฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซ, แดนนี เวลเบค

Create Date : 24 กันยายน 2555		0 comments
Last Update : 24 กันยายน 2555 7:36:56 น.
Counter : 1174 Pageviews.
Share Tweet