"อินทรีเหล็ก" เยอรมนี ทำผลงานสมราคาทีมเต็งถล่มเอาชนะ กรีซ 4-2 จากการยิงแบบไม่ซ้ำหน้า ในเกมรอบ 8 ทีมสุดท้าย เมื่อคืนวันศุกร์ที่ 22 มิ.ย.ที่ผ่านมา จนลอยลำสู่รอบตัดเชือก ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป (ยูโร) 2012 ที่ประเทศโปแลนด์และยูเครน

       
       ฟุตบอลยูโร 2012 รอบก่อนรองชนะเลิศ
       เยอรมนี 4 - 2 กรีซ
       
       เกมที่สนามกดังส์ค อารีนา ในเมืองกดังส์ค ประเทศโปแลนด์ เยอรมนี จ่าฝูงกลุ่มบี ลงสนามฟาดแข้งกับ กรีซ อันดับสองกลุ่มเอ เกมนี้ "อินทรีเหล็ก" ของกุนซือ โจอาคิม เลิฟ มีการปรับผู้เล่น 3 คนจากเกมรอบแบ่งกลุ่ม อังเดร ชูร์เล, มาร์โก รอยส์ และ มิโรสลาฟ โคลเซ ลงสนามเป็นตัวจริงแทนที่ ลูคัส โพดอลสกี, โธมัส มุลเลอร์ และ มาริโอ โกเมซ ทางฝั่ง เฟร์นานโด ซานโตส เฮดโค้ชอดีตแชมป์ปี 2004 ขาด จอร์จอส คารากูนิส กัปตันทีมตัวเก่งทำให้ต้องฝากความหวังไว้ที่ จอร์จอส ซามาราส ที่ยืนหน้าเป้า
       
       เปิดฉากครึ่งแรก เยอรมนี ทำเกมบุกใส่ทันที นาที 4 ซามี เคดิรา สับไกยิงจากนอกเขตโทษ มิเคล ซิฟาคิส นายด่านกรีซปัดไม่อยู่บอลกระฉอกออกมา โคลเซ และ ชูร์เล ปรี่เข้ามาซ้ำส่งบอลเข้าซุกก้นตาข่าย แต่ถูกผู้กำกับเส้นยกธงว่ายืนตำแหน่งล้ำหน้าก่อน ถัดมานาที 12 เคดิรา แทงบอลให้ รอยส์ วิ่งโฉบมายิงหลุดกรอบออกไป
       
       กรีซ เป็นฝ่ายตั้งรับข้างเดียวยังหาจังหวะบุกขึ้นมาไม่ได้ นาที 23 เป็นโอกาสของ "อินทรีเหล็ก" อีกครั้ง รอยส์ ทำชิ่งกับ โคลเซ บริเวณกรอบเขตโทษ ก่อนที่กองหน้าโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ไหลต่อมาให้ โอซิล ได้ดวลเดี่ยวกับ ซิฟาคิส แต่ดาวเตะรีล มาดริดยิงไม่แรงพอติดเซฟนายทวารออกหลังไป จังหวะต่อเนื่องจากลูกเตะมุม รอยส์ ได้สับไกยิงในเขตโทษแต่ยังไม่ผ่านมือ ซิฟาคิส
       
       เกมนาที 25 โอซิล ได้บอลทางริมเขตโทษด้านขวา ก่อนผ่านเข้ากลาง รอยส์ ตวัดยิงไม่เต็มเท้า บอลเลยไปทางเสาสอง แต่ โคลเซ ตามแหย่เท้าเปลี่ยนทางบอลไม่ทัน นาทีถัดมา ชูร์เล โหม่งบอลเช็ดเข้าไปในเขตโทษ รอยส์ วิ่งมาตะบันด้วยขวาเต็มข้อ แต่บอลปลิ้นหลุดกรอบออกไปเหมือนเดิม
       
       กรีซ มาได้โอกาสลุ้นประตูครั้งแรกของเกมในนาที 32 จากลูกยิงนอกเขตโทษของ โซติริส นินิส แต่ มานูเอล นอยเออร์ ผู้รักษาประตูบาเยิร์น มิวนิค พุ่งรับเอาไว้ได้ หลังจากพยายามอยู่นาน เยอรมนี ก็ปลดล็อกทำประตูนำ 1-0 ได้สำเร็จในนาที 39 ฟิลิปป์ ลาห์ม กัปตันทีม เติมเกมขึ้นมา แตะหลอกกองหลังคู่แข่ง แล้ววางเท้ายิงไซด์โค้งผ่านมือ ซิฟาคิส ตุงตาข่าย ก่อนที่จะจบครึ่งแรก
       
       เกมครึ่งหลัง เฟร์นานโด ซานโตส ปรับเปลี่ยนทีม ธีโอฟานิส เกคัส และ จอร์จอรส โฟตากิส ลงมาแทนที่ นินิส และ จอร์จอส ซาเวลลาส รูปเกมของ กรีซ ดีขึ้น ผ่านมาถึงนาที 55 จากความผิดพลาดของ เยอรมนี ที่จ่ายบอลเสียบริเวณกลางสนาม ก่อนที่บอลมาถึง ดิมิทริส ซัลปิงจิดิส หลุดขึ้นมาทางริมเขตโทษด้านขวา ก่อนผ่านไปหน้าประตู ซามาราส เข้าชาร์จบอลผ่านมือ นอยเออร์ ซุกก้นตาข่ายให้อดีตแชมป์ปี 2004 ตามตีเสมอ 1-1
       
       แต่แฟนบอล กรีซ ดีใจได้เพียง 6 นาที ทีมของ โจอาคิม เลิฟ ก็ขยับสกอร์นำอีกครั้งเป็น 2-1 จากจังหวะที่ บัวเต็ง เติมเกมขึ้นมาทางขวา ก่อนเปิดบอลเลยมาทางเสาสอง เคดิรา สอดมากระโดดยิงเต็มข้อแสกหน้า ซิฟาคิส สุดปัญหาป้องกันทัน หลังจากนั้น "อินทรีเหล็ก" ยิ่งได้ใจนาที 68 จากลูกเตะมุม โอซิล หยอดบอลมาเข้าหัว โคลเซ โขกเต็มศีรษะให้ เยอรมนี หนีห่าง 3-1
       
       โธมัส มุลเลอร์ ซึ่งลงมาแทน ชูร์เล ไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้ได้บอลจาก โคลเซ หลุดเข้าไปยิงในเขตโทษติดกองหลัง แต่บอลมาเข้าทาง โคลเซ ซัดมุมแคบติดบล็อก ซิฟาคิส ได้เพียงแค่เตะมุม นิคอส ลิเบอโรปูลอส เป็นตัวสำรองคนสุดท้ายของกรีซ ถูกเปลี่ยนลงมานาที 72 แต่หลังจากนั้น 2 นาทีก็มาเสียประตูอีก รอยส์ ตามซ้ำลูกยิงของ โคลเซ ให้ทีมจากเมืองเบียร์ทะยานหนี 4-1
       
       ช่วง 10 นาทีสุดท้าย มาริโอ โกเมซ และ มาริโอ เกิตเซ ถูกเปลี่ยนตัวลงสนามมาแทน โคลเซ และ รอยส์ แม้ว่า กรีซ มาได้จุดโทษหลังจาก บัวเต็ง ทำเสียแฮนด์บอลจนไล่มา 2-4 จากการสังหารของ ซัลปิงจิดิส แต่ก็ทำได้เพียงเท่านั้นจบเกม เยอรมนี รักษาสกอร์ที่นำจนเอาชนะไปผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศรอเจอผู้ชนะคู่ระหว่าง อังกฤษ หรือ อิตาลี
       
       รายชื่อผู้เล่นตัวจริงทั้งสองทีม
       เยอรมนี - มานูเอล นอยเออร์, แมตส์ ฮุมเมลส์, โฮลเกอร์ บาดสตูเบอร์, ฟิลิปป์ ลาห์ม, เจอโรม บัวเต็ง, ซามี เคดิรา, บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์, อังเดร ชูร์เล, มาร์โก รอยส์, เมซุต โอซิล, มิโรสลาฟ โคลเซ
       กรีซ - มิเคล ซิฟาคิส, จอร์จอส ซาเวลลาส, คีเรียกอส ปาปาโดปูลอส, วาซิลลิส โทโรซิดิส, โซคราติส ปาปาสเตโธปูลอส, จานนิส มาเนียติส, กรีกอริส มากอส, จอร์จอส ซามาราส, โซติริส นินิส, คอสตัส คัตซูรานิส, ดิมิทริส ซัลปิงจิดิส