เชื่อใน "โชคชะตา" เดินตามทางที่อยากไป

<<
กรกฏาคม 2553
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
15 กรกฏาคม 2553
 

วิธีการคำนวณราคาเปิดและราคาปิดของหลักทรัพย์

วิธีการคำนวณราคาเปิดและราคาปิดของหลักทรัพย์
เพื่อเป็นการลดโอกาสในการสร้างราคาปิดและทำให้ราคาปิดของหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์มีเสถียรภาพยิ่งขึ้น ตลาดหลักทรัพย์จึงเปลี่ยนแปลงวิธีการคำนวณราคาปิดของหลักทรัพย์จากเดิมที่กำหนดให้ราคาซื้อขายครั้งสุดท้าย (Last Transaction) เป็นราคาปิด เป็นการใช้วิธีผสมผสานระหว่างการสุ่มเลือกเวลา (Random Time) และวิธี Call Market
ในการคำนวณราคาปิด ตลาดหลักทรัพย์จะยังคงเปิดให้ซื้อขายได้ตามปกติจนถึงเวลา 16.30 น. จากนั้นระบบจะหาเวลาปิดโดยการสุ่มเลือก (Random) เวลาในช่วง 16.35-16.40 น. และเปิดโอกาสให้สมาชิกสามารถส่งคำสั่งซื้อขายเพิ่มเติมได้อีกเป็นเวลาอย่างน้อย 5 นาที คือตั้งแต่ 16.30 น. ถึงเวลาปิดที่ได้จากการสุ่มเลือก และจะยังไม่จับคู่การซื้อขาย จนกว่าจะถึงเวลาปิด จึงใช้วิธี Call Market (ซึ่งเป็นวิธีเดียวกับวิธีการคำนวณหาราคาเปิดในช่วง Pre-open) คำนวณหาราคาปิด โดยนำคำสั่งซื้อขายทั้งหมดที่ค้างอยู่ในระบบจนกระทั่งถึงเวลาปิด มาคำนวณหาราคาปิดตามหลักการดังนี้
-เป็นราคาที่ทำเกิดการซื้อขายได้ปริมาณมากที่สุด
-ถ้ามีราคาที่ทำให้เกิดปริมาณซื้อขายมากที่สุดมากกว่า 1 ราคา ให้ใช้ราคาที่ใกล้เคียงกับราคาซื้อขายครั้งสุดท้ายก่อนหน้านั้นมากที่สุด
-ถ้ามีราคาที่ใกล้เคียงกับราคาซื้อขายครั้งสุดท้ายก่อนหน้านั้นมากกว่า 1 ราคา ให้ใช้ราคาที่สูงกว่าเป็นราคาปิด
อย่างไรก็ตาม หากระบบไม่สามารถคำนวณหาราคาปิดของหลักทรัพย์ตามหลักเกณฑ์ข้างต้นได้ ให้ถือว่าราคาซื้อขายครั้งสุดท้ายของหลักทรัพย์ในวันนั้นเป็นราคาปิด

นอกจากนี้ เพื่อให้ราคาเปิดของหลักทรัพย์มีเสถียรภาพมากขึ้น ตลาดหลักทรัพย์ได้นำหลักเกณฑ์การคำนวณราคาปิดดังกล่าวมาใช้ในการคำนวณหาราคาเปิดช่วง Pre-open เช่นกัน โดยสุ่มเลือกเวลาเปิดในช่วง Pre-open เช้า (9.55-10.00 น.) และช่วง Pre-open บ่าย (14.25-14.30 น.) ดังนั้นรูปแบบการซื้อขายในช่วงเวลาต่างๆ ปรากฏดังนี้



โดยคำสั่งซื้อขายที่เข้ามาในช่วงที่ใช้วิธี Call Market จะต้องเป็นคำสั่งซื้อขายที่ระบุราคา (Limit Price Order) นอกจากนี้ตลาดหลักทรัพย์ได้จัดให้มีประเภทคำสั่งซื้อขายซื้อที่ราคาปิด (ATC : At the Close) มาใช้ในช่วงที่ใช้วิธี Call Market ช่วงปิดตลาด เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้ผู้ลงทุนสามารรถส่งคำสั่งซื้อซื้อขาย ณ ราคาปิดได้ โดยคำสั่งซื้อขาย ATC จะมีลักษณะเดียวกับคำสั่ง At the Open (ATO) ซึ่งหมายถึงต้องการซื้อขายหลักทรัพย์ ณ ราคาเปิดในช่วงเปิดตลาด

ตัวอย่าง ถ้าราคาซื้อขายครั้งสุดท้ายก่อนใช้วิธี Call Market ช่วงปิดตลาดในวันนั้นเท่ากับ 151 บาท และ ณ เวลาปิดที่สุ่มเลือกได้ที่ 16:38 น. มีคำสั่งซื้อขายในระบบดังนี้



จากตัวอย่างดังกล่าวจะได้ราคาที่ทำให้เกิดการซื้อขายปริมาณมากที่สุด 2 ราคา คือที่ราคา 149 และ 150 บาท จากนั้นระบบจะเลือกราคาที่ใกล้เคียงกับราคาซื้อขายครั้งสุดท้ายก่อนหน้า (151 บาท) มากที่สุดเป็นราคาปิด ดังนั้นจะได้ราคาปิดที่ 150 บาท และให้มีวิธีจับซื้อขายตามราคาและเวลาที่ดีที่สุด (Price and Time Priority) โดยที่คำสั่งซื้อขาย ATC จะมีลำดับการจับคู่ซื้อขายอยู่ในลำดับแรก (First Priority) ดังนี้



วิธีการคำนวณราคาปิดกรณีที่หาราคาที่ทำให้เกิดปริมาณซื้อขายสูงสุดหลายราคา



จากตัวอย่างข้างต้นจะได้ราคาที่ทำให้เกิดปริมาณการซื้อขายมากที่สุดคือ 8,000 หุ้น 3 ราคา คือที่ราคา 17 บาท, 17.10 บาท และ 17.20 บาท ซึ่งจากหลักเกณฑ์การหาราคาปิดกำหนดไว้ว่ากรณีที่หาราคาที่ทำให้เกิดปริมาณการซื้อขายมากที่สุดได้มากกว่า 1 ราคา ให้ใช้ราคาที่ใกล้เคียงกับราคาซื้อขายครั้งสุดท้ายมากที่สุดเป็นราคาปิด ซึ่งจากตัวอย่าง ราคาจับคู่ซื้อขายครั้งสุดท้ายก่อน Call ปิดตลาดของวันนั้น เท่ากับ 17.10 บาท ดังนั้นระบบซื้อขายจะเลือกราคา 17.10 บาท เป็นราคาปิด



ที่มา : //www.set.or.th/th/products/trading/equity/tradingsystem_p9.html
...................................................

จากกระทู้ //www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I9473483/I9473483.html




 

Create Date : 15 กรกฎาคม 2553
0 comments
Last Update : 12 สิงหาคม 2553 7:50:18 น.
Counter : 11804 Pageviews.

 
Name
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Opinion
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet

Ooh 1234
 
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 17 คน [?]




Hello all of you.
Welcome to my blog....
[Add Ooh 1234's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com