ภารกิจ Volunteer : ที่บ้านเด็กอ่อนปากเกร็ด การเป็นคนดี  ฟังดูง่ายแสนง่าย ใครๆ ก็บอกว่าเราเป็นคนดี แต่ทำไมเราก็ยังคงสงสัยในตัวตนของเรา ทำไมเราถึงยังสงสัยว่าเราน่ะเป็นคนดีจริงๆ รึป่าว และอะไร คือความดีที่แท้จริง คำถามนี้มันวนเวียนอยู่ในใจของเราเสมอๆ หลายๆ คน คงเคยได้ยินคำว่า Volunteer ที่หมายถึงอาสาสมัครผู้ทำงานเพื่อสังคม ด้วยความเสียสละ อดทน พวกเค้าต้องเป็นคนที่มีจิตใจดีแน่นอนเลยใช่มั้ยล่ะ ใครๆที่พูดว่าฉันเป็น Volunteer ก็มักจะได้รับเสียงสะท้อนกลับมาว่า “เป็น Volunteer เหรอ ดีจังเลย ทำไมเธอเป็นคนดีจัง” (เจอแล้ว สิ่งที่เราตามหา การเป็น volunteer ต้องสามารถตอบคำถามของเราได้แน่ๆ เลย)     การที่จะเข้าใจว่าเป็นคนดีจริงๆ นั้นเป็นยังไง   วิธีที่ดีที่สุดก็คือ  “การเลียนแบบคนดี” ทำเหมือนพวกเค้า เข้าไปอยู่ร่วมกับพวกเค้า วิธีนี้คงจะทำให้เราเข้าใจพวกเค้า กลุ่มผู้คนที่ถูกเรียกว่า อาสาสมัครช่วยเหลือสังคม กลุ่มผู้คนที่ถูกเรียกว่า คนดี (เอาล่ะ ทีนี้เราตัดสินใจแล้ว เราจะเป็น Volunteer แล้วเราจะทำอะไรดีล่ะ) งานอาสาสมัครมีหลายประเภท มีทั้งอาสาปลูกป่าชายเลน อาสาสร้างบ้านดิน อาสาสร้างโรงเรียน อาสาสอนหนังสือเด็กในสลัม อาสานวดเด็กแรกเกิด อาสาสอนหนังสือที่บ้านเด็กกำพร้า ฯลฯ มีทั้งแบบระยะสั้น ระยะยาว และแบบเป็นทริป แล้วเราจะเลือกยังไงดีล่ะ งานอาสาสมัครควรจะไปกันได้ กับเวลางานปกติของเรา และเป็นงานที่ท้าทายซักเล็กน้อย นั่นก็คือ “อาสาสมัครสอนหนังสือที่บ้านเด็กกำพร้า”  (งงใช่มั้ยล่ะ ว่ามันท้าทายตรงไหน ก็ท้าทายตรงที่เรากลัวเด็กร้องไห้ที่สุด ยิ่งเป็นเด็กอายุประมาณแรกเกิดถึง 8 เดือน เราไม่กล้าอุ้มด้วยซ้ำไปกลัวเด็กจะเจ็บจะร้องไห้  สอนหนังสือเด็กอายุประมาณ 3 – 6 ปี เนี่ยแหละ ปลอดภัยที่สุดแล้ว) ในที่สุดเราก็ตกลงใจเป็นอาสาสมัครสอนหนังสือเด็กที่บ้านเด็กอ่อนปากเกร็ด นนทบุรี (ใกล้ๆที่ทำงานของเรา อยู่สนามบินน้ำ)  สละเวลาสัปดาห์ละ 1 วัน ตั้งแต่เวลา 9.00 – 12.00 น. นี่คือ จุดเริ่มต้นภารกิจ Volunteer: ที่บ้านเด็กอ่อนปากเกร็ด หวังว่าเวลา 4 เดือนนับจากนี้ไป จะสามารถบอกเราได้ว่าความดีที่แท้จริงคืออะไร   Free TextEditor   ฟังวิทยุออนไลน์ ที่ izeemusic   Create Date : 28 เมษายน 2553 2 comments Last Update : 29 เมษายน 2553 15:54:50 น. Counter : 3930 Pageviews. Share Tweet

น่าภูมิใจเป็นที่สุดค่ะ กับการได้มีโอกาสทำความดี   โดย: genio 28 เมษายน 2553 18:41:53 น.

อ่านเสร็จลบทิ้งไปเลยก็ได้นะครับ มาตอบตรงนี้มันง่ายกว่า หลังไมค์มันจำกัดตัวอักษร แค่ 1000 ตัวอักษร พิมพ์ไม่พอ หลักสูตรที่คุณกวางบอกว่าจะไปเรียนต่อโท มันมี 2 แบบคือ 1.เรียนกับนักศึกษาจีน ภาษาที่ใช้ แน่นอนต้องเป็นภาษาจีนรวดๆ เค้าจะมองเราเป็นแค่นักเรียนคนหนึ่งที่เข้าใจภาษาจีนเป็นอย่างดี ดังนั้นถ้าภาษาไม่แข็งลำบากแน่นอน สำหรับการติดต่อนั้น ถ้าเรียนกับนักศึกษาจีน แล้วเรายังสอบวัดระดับ (HSK) ยังไม่ถึงระดับ 6 ก็ต้องคุยกับทางคณะนานหน่อย แต่ถ้าถึงแล้วก็ไม่น่าจะมีปัญหา แต่ถ้ายังไม่เคยมีการสอบวัดระดับก็ไม่ต้องพูดเลยเค้าไม่รับเราเข้าไปเรียนแน่นอน 2.เรียนในแผนกนักศึกษาต่างชาติ จะเน้นภาษาจีนเป็นหลัก และเรียนกับคนทุกชาติที่ไม่ใช่คนจีน ภาษาที่ใช้ แน่นอน ภาษาจีนอีกน่ะแหละ แต่อันนี้ดีกว่าอันบนนิดนึงตรงที่ว่า ต่อให้เรายังไม่เคยสอบวัดระดับ แต่ถ้าเราคิดว่าเรียนไหว และตามเค้าทันก็สามารถเข้าไปเรียนได้ แล้วระหว่างเรียนค่อยสอบวัดระดับเอา แต่ไม่ว่าจะเรียนแบบไหนสำคัญที่สุดก็คือ ณ วันที่เราเรียนจบ เราต้องสอบวัดระดับให้ได้ตามที่เค้ากำหนด ไม่อย่างนั้นก็จะถือว่า เรียนไม่จบ เสียเวลาเรียนฟรีครับ ที่ผมกล่าวมาข้างต้นคือ ป.ตรีครับ แต่ป.โท ป.เอก ก็ไม่ต่างกันมาก จะต่างกันก็ตรงสอบวัดระดับ (HSK) ป.ตรี เค้าอาจต้องการระดับ 8 ป.เอกอาจต้องการ 10 -11 ซึ่งเป็นระดับสูงสุด ประมาณนี่ครับ สำหรับที่ถามว่าเรียนต่อที่เมืองไทยก่อนดีมั้ยในเรื่องของภาษา การสอนในเมืองไทยค่อนข้างช้าหลักสูตรอ่อน ผมเคยหยิบหนังสือ PAD GAT สอบเข้ามหาวิทยาลัยมาเปิดดู พบว่า ความรู้ประมาณ (HSK) ระดับ 3 เท่านั้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับความสะดวกของแต่ละคน ว่าจะเรียนที่ไหน ถ้าถามว่าเรียนที่จีนได้ภาษาเร็วมั้ย มันก็ไม่แน่ มันขึ้นอยู่กับบุคคล อยู่กับคนไทยมากๆ ก็พูดแต่ภาษาไทย ที่ตลกยิ่งกว่าคือ ไปจ้างคนจีนมาติวพิเศษ แต่ไม่ย้อนกลับไปมองเลยว่า ตัวเองทำตามที่อาจารย์สั่งได้ครบหรือไม่ โดยอาจารย์มักจะสั่งให้ 1. ทำการบ้าน (อันนี้ส่วนใหญ่ทำกัน) 2. ทบทวนบทเรียนที่เคยเรียนมา (อันนี้น้อยคนที่จะทำ) 3. เตรียบบทเรียนสำหรับวันต่อไป (อันนี้แทบไม่เคยเจอคนรู้จักทำเลย) ของอย่างนี้มันขึ้นอยู่กับบุคคลมากกว่า มีอะไรถามมาหลังไมค์ได้ แต่มาตอบขอมาตอบในนี้ เพราะหลังไมค์มันพิมพ์ได้น้อย   โดย: คุณต่อ (toor36 ) 24 กันยายน 2553 14:31:11 น.