สุภารัตถะ บล็อก
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2549
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
26 พฤษภาคม 2549
 
All Blogs
 

เพื่อเมืองไทยในฝัน

เรื่องสั้น เพื่อเมืองไทยในฝัน
โดย สุภารัตถะ


…ขับรถมาตามเส้นทางศรีนครินทร์ ก่อนข้ามสะพานยกระดับไปเทพารักษ์ เลี้ยวซ้ายออกมาทางเส้นบางนา-ตราด มุ่งสู่ภาคตะวันออกของประเทศ มาได้ไม่ไกลนัก ก็ถึงสำนักงานใหญ่ ของธนาคารมั่นคงที่สุดในประเทศไทย ซึ่งตั้งอยู่กลางท้องทุ่งนา อาคารภายนอกเป็นกระจกทั้งหลัง ภาพเงาสะท้อนของเมฆบนท้องฟ้าขณะขับเคลื่อน และยอดข้าวพลิ้วไสวในท้องทุ่งนา จึงดูเหมือนกำลังสนุกเพลินกับการล้อสายลมอยู่บนตัวอาคาร

เขานัดผมตอนเที่ยง ยิ่งใกล้เวลา ขนอ่อนตามร่างกายก็ตั้งชันจนไม่ยอมล้มตัวลงเรียบผิวได้โดยง่าย เป็นการแสดงความตื่นเต้นจนประหม่า หรือเป็นอาการของความขลาดกลัว กลัวผิดหวังล้มเหลวไม่เป็นท่าหรือเปล่าก็ไม่แน่ใจ อยากจะขอเลื่อนนัดไปอีกสักเดือนก่อนจะนำเสนอโครงการ เพื่อวางแผนใหม่ให้รัดกุมกว่าเดิม “ไม่ได้หรอก” ผมบอกตัวเอง นัดก็ต้องเป็นนัดซิ ยังจำวันเจอเขาได้ดี มันเป็นความรู้สึกที่แปลกมาก อบอุ่นแต่ก็แฝงไปด้วยความกลัว กลัวอะไรกันนักกันหนา กลัวว่าเขาจะหายไปจากชีวิต หรือกลัวนัดครั้งนี้มันจะกลายเป็นเพียงแค่ความฝัน อดคิดไม่ได้ว่า ตัวเองนี่มันไอ้ตัวแปลกประหลาดซึ่งมีอารมณ์บ้าบอไปด้วยความหวั่นวิตกอยู่เสมอ

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

ใช่..ผมเคยมาที่นี่ก่อนหน้านี้สองครั้ง ในครั้งที่สอง แม้จะจำไม่ได้ว่าเป็นวันที่เท่าไหร่ แต่กลับนึกคล้ายว่าเป็นวันศุกร์ที่เพิ่งผ่านมาเสียทุกที หลังจากเคยมาแสดงเจตจำนง ขอวงเงินสินเชื่อเพื่อการลงทุนคราวก่อน กับเจ้าหน้าที่ธนาคารคนหนึ่ง แต่เมื่อมาอีกครั้ง เพื่อเสนอรายละเอียดของโครงการ ครานี้ กลับทำให้ผมได้พบเรื่องสำคัญในชีวิต จนต้องเดาเอาว่า เป็นเพราะตอนกำลังก้าวเข้ามาในอาคารนั้น ผมอาจเดินเหยียบลงบนธรณีประตูเข้าให้แล้ว

แม้สมัยนี้ ไม่ว่าบ้าน อาคาร หรือตึกใหญ่ จะไม่มีใครก่อธรณีประตูขึ้นมาคั่นระหว่างบริเวณภายนอกกับภายในก็ตาม แต่ผมก็รู้ว่าสิ่งนั้นยังคงซ่อนตัวอยู่ ตอนเด็กๆ เวลาไปไหว้ศาลเจ้า แม่จะดุนักไม่ให้เหยียบลงบนธรณีประตู จึงกลายเป็นเรื่องคอยย้ำเตือนอยู่ในส่วนลึกของจิตใจราวกับลางสังหรณ์ ทั้งที่จริงๆ อาจมาจากความไม่มั่นคงทางอารมณ์ จนต้องปลอบตัวเองซ้ำๆ ว่าการมากู้เงินคราวนี้ไม่มีเรื่องอะไรต้องหวาดวิตก รำคาญกับอาการไม่เชื่อมั่นแบบนี้ทุกที เวลาต้องผจญกับสถานการณ์ซึ่งเหมือนเอาชีวิตไปพึ่งพาคนอื่นมาตัดสินชะตากรรมให้

ต้องเหยียบลงบนธรณีประตูแน่ๆ ผมใจหายวาบ รู้สึกโคลงเคลงจนอยากอ้วก คงตื่นเต้นเกินงามเสียแล้ว มนุษย์มักจะหวาดกลัวในสิ่งที่คาดหวัง กลัวมันจะไม่เป็นไปตามที่วาด ผมเองก็ดิ้นไม่ยักหลุดจากกฎอย่างว่า แต่ละก้าวที่นำมาสู่ฝ่ายสินเชื่อ ทำเอาสั่นไม่เป็นท่า พยายามฝืนยิ้ม ตั้งความหวัง เงินกู้ยุคนี้ปล่อยง่ายจะตาย รัฐบาลสนับสนุนการประกอบการทางธุรกิจ SMEs อยู่แล้ว

และนั่นล่ะ จะใช่เพราะเหตุนั้นหรือไม่ก็ตาม ที่ทำให้ผมได้พบกับเขาเป็นครั้งแรก เหมือนเขามองมาและส่งยิ้มให้ และเป็นเพราะอะไรๆ ที่ดูไม่เป็นปรกติไปเสียหมดกระมัง ผมจึงเห็นประกายเรืองรองแผ่ซ่านออกมาจากตัวเขา โต๊ะซึ่งเขานั่งทำงานดูสว่างไสวไปหมด แม้ไม่ใช่เจ้าหน้าที่คนแรกที่เจอ แต่สัญชาตญาณเตือนบอกว่า เขานั่นเองที่ผมต้องไปหา

“ผมรู้ ว่าคุณจะเริ่มพูดอย่างไร และพูดอะไรต่อไป..ฉะนั้นเท่ากับว่าผมฟังคุณจบไปแล้ว” เขาเริ่มบทสนทนาทันที โยนโปรเจ็คต์ที่ผมยื่นให้พิจารณาออกไป ไม่แม้แต่จะดูว่าผมกำลังอ้าปากจะพูด หรือยังไม่ได้นั่งลงบนเก้าอี้ด้วยซ้ำ

“เรามาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า” เขารวบรัด ผมตัวชา ถูกปฏิเสธโครงการ ทั้งที่เขายังไม่ทันเปิดดูหรือฟังผมบรรจงเสกสรรค์ถ้อยคำอันใดเลย หมายถึงผมกู้เงินไม่ได้หรือนี่?

…ตามมาด้วยเรื่องราวแบบไม่ทันตั้งตัว ต้องนั่งรถกับเขามายังสถานที่หนึ่งด้วยความงงงัน เสียใจกับการกู้เงินล้มเหลว สงสัยว่าคุณพนักงานคนแรกหายไปไหน ผมกำลังคุยอยู่กับใคร การลงทุนที่พังลงโดยยังไม่ได้เริ่ม กังวลกับการแสวงหาแหล่งเงินแห่งใหม่ ว่าจะถูกปฏิเสธโดยยังไม่ได้นำเสนอเหมือนที่นี่หรือไม่ สารพัดจะสรรหามาปรุงแต่ง จนไม่ได้สังเกตวิวทิวทัศน์ตามรายทางที่ผ่าน

“ถึงแล้ว” เขาหันมายิ้มบอก ดึงผมออกจากโลกส่วนตัวที่เอาไว้ซ่อนความคิดของผม เราสองคนก้าวออกมาจากรถ ไอแดดและลมร้อนปะทะผิวนอกร่มผ้า ผมหยีตา พยายามกลืนน้ำลาย เพราะคอแห้งขึ้นมาโดยฉับพลัน ยกแขนขึ้นป้องหน้าจากแสงอาทิตย์ ส่วนเขา สองมือล้วงกระเป๋ากางเกงยืนปะทะลมร้อนอย่างสบายใจ

“ที่นี่ที่ไหน” แทบไม่เชื่อสายตา ทะเลทรายจริงๆ เวิ้งว้างสุดลูกหูลูกตา “แค่ขับรถมาไม่นาน เรามาถึงซาอุดิอาระเบียได้อย่างไรกันเนี่ย” ผมตื่นตะลึง

“ที่นี่กรุงเทพฯ” เขาหันมาบอก “หลังจากน้ำท่วมกรุงเทพฯ อย่างหนัก ก็เกิดภัยแล้งอย่างรุนแรงตามมา”

“เป็นไปไม่ได้” แทบละเมอ นึกไม่ออก ลำดับเหตุการณ์ไม่ได้ ว่ามันจะเกิดขึ้นตอนไหนและได้อย่างไร ฝุ่นทรายแย่งกันปลิวฟุ้งกระจายเหมือนพยายามหาทางเข้าตาหูปากจมูกผมให้ได้ ทำให้อยากหาผ้ามาคลุมหน้าเหมือนพวกอาหรับ

“ผมขี้เกียจอธิบายเรื่องซ้ำซาก” เขากล่าวหลังจากที่เราหลบเข้ารถและออกมาเสียจากสถานที่นั้น แต่ก็อธิบายต่อแม้จะบ่นว่าขี้เกียจ “หลังจากมนุษย์ทำลายป่าไม้และธรรมชาติจนเสียสมดุล ทรัพยากรยังคงถูกถลุงใช้อย่างเกินจำเป็น แม้จะมีการออกมาสร้างภาพการปลูกป่า แต่ก็ไม่พอเพียงกับฝ่ายทำลาย ทั้งป่าและสัตว์ป่าถูกทำร้ายอย่างทารุณ รวมถึงการปลูกต้นไม้เรือนกระจก การใช้สารเคมีซึ่งมีผลต่อชั้นบรรยากาศ จนเกิดวิกฤตโลกร้อน ชั้นโอโซนทะลุ ฤดูกาลผันผวน” เขาหยุดสักครู่ ราวกับมีใครมาถามอะไรเขาสักอย่าง และกล่าวต่อเมื่อฟังคำถามนั้นจบ “ไม่เลย..ไม่ต้องรอให้น้ำท่วมทั่วทั้งโลก หลายแห่งบนโลกก็ต้องเผชิญกับภัยธรรมชาติ ทะเลโคลน น้ำท่วม พายุหิมะ แผ่นดินไหว และอีกมากมาย แม้แต่กรุงเทพมหานครและหลายจังหวัดในประเทศไทยก็เกิดน้ำท่วมใหญ่และภัยแล้ง เรื่องเดิมๆ ที่คนไทยเหมือนจะรู้ๆ กัน แต่ไม่ยักหาทางป้องกันให้เร็วที่สุด ยังคงหลงระเริงแต่กับเศรษฐกิจเรื่องเงินๆ ทองๆ”

“ไม่อยากเชื่อ” ผมคราง เริ่มพยายามสังเกตสองข้างฝั่งทางตอนขากลับ ก็ไม่เห็นมีความผิดปรกติแต่อย่างใด

“ผมจะให้คุณกู้เงิน แต่ไม่ใช่โครงการคอมพิวเตอร์มือถือ อย่างที่คุณจะเสนอ”

ผมลอบตื่นตระหนก เขารู้..?? ว่าผมจะเสนอโครงการอะไรโดยยังไม่เปิดดูด้วยซ้ำ ตาทิพย์ของเขาทำเอาผมเกิดอาการไม่สู้ดี ไม่กล้าไม่เชื่อว่าถูกพามาในอนาคตของกรุงเทพฯ จริงๆ หัวใจเหมือนวูบหายไปจากตัวที่กำลังสั่นเทิ้ม ต้องค่อยๆ เหลือบหันไปมองเขาอย่างช้าๆ กลัวว่าตอนนี้เขาคงจะไม่ได้อยู่ในร่างมนุษย์ หากแต่เปิดเผยตัวคืนสู่ร่างเอเลี่ยนไปเสียแล้ว ทว่า..ก็ยังคงมีแต่ใบหน้าอันงดงามด้านข้างของเขาเท่านั้นที่ปรากฏ ช่างเป็นรูปหน้าสวยงามนิ่งสงบ มีแสงอร่ามเรือง ราวกับเทวรูปปูนปั้นที่ถูกกระทบด้วยแสงไฟอันอบอุ่น

“ยังมีเวลากลับไปคิดใหม่ ผมจะรอ คุณก็เห็นภาพอนาคตของกรุงเทพฯ ในมิติเชิงซ้อนแล้ว ว่าเป็นอย่างไร”

หลังอยู่คุยกันอีกสักพัก เขาให้ข้อคิดมาว่า ทำไมผมไม่คิดถึงโครงการซึ่งจะทำให้ประเทศเจริญ แบบที่มนุษย์อยู่ร่วมกับธรรมชาติได้อย่างมีความสุข ถ้าวิทยาศาสตร์กับเทคโนโลยีขัดแย้งหรือไม่เกื้อกูลต่อดุลสภาพทางธรรมชาติ ความเจริญจะกลายเป็นความเสื่อม เหมือนดาบสองคม และเมื่อผมคิดได้ รับรองไม่มีปัญหาเรื่องเงินแน่

ผมแบกตัวเองกลับบ้านด้วยสภาพสุดงงงวย เปิดทีวี นั่งดูข่าวไก่ถูกฝังทั้งเป็นกว่า 26 ล้านตัว ส่วนข่าวนกกระจอกเทศ 5 ตัวที่ถูกฉีดยาสลบก่อนฝัง ทำร้ายความรู้สึกของผมอย่างรุนแรง มนุษย์รักแต่ชีวิตตัวเอง สวาปามกันเกินพิกัด จนต้องค้นหาความหายนะมาสู่ตนด้วยวิถีทางใหม่ๆ ความจริงไข้หวัดนกเป็นกับนกตามธรรมชาติ ไข้หวัดคนก็เป็นกับคนตามธรรมชาติ สัตว์ต่างๆ ล้วนมีเชื้อโรคในตัวเอง หากสัตว์แข็งแรงย่อมมีภูมิคุ้มกัน ต้านไม่ให้เชื้อโรคร้ายแพร่กระจายในร่างกายได้ การแพร่ระบาดของไข้หวัดนก เข้าสู่สัตว์ปีกอื่นๆ เพราะถูกเลี้ยงอย่างผิดธรรมชาติ เป็นผลสะท้อนอันเกิดจากความฉลาดเห็นแก่ตัวของนักกินตัวยง นับเป็นอีกหนึ่งความล้มเหลวของสังคมบริโภคอันตะกละตะกลามของมนุษย์ หลังจากต้องเผชิญกับสารพิษตกค้างต่างๆ ในพืชผักผลไม้ น่ากลัวจริงๆ ว่าการตัดแต่งพันธุกรรมสัตว์เพื่อสะดวกรับประทาน อาจจะนำมาซึ่งมนุษย์ประหลาดผิดธรรมชาติในอีกไม่ช้านานข้างหน้า หรือที่จริงมันอาจกำลังเกิดขึ้นอยู่ และมันจะรุนแรงกว่ามะเร็งร้ายใช่ไหม?

หลังจากใครๆ เริ่มเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจไทยกำลังฟื้นตัวอย่างมั่นคงหลังฟองสบู่แตก แต่ต้นปี 2547 กลับต้องเผชิญปัญหาหนักกับโรคไข้หวัดนกระบาดในไก่ เป็นเหตุให้ผมรู้ว่าประเทศไทยนั้น ปีนี้ก็คงเจริญก้าวหน้าไปอีกไม่น้อย สังเกตได้จากโรคซาร์ โรคไข้หวัดนก และโรคมะเร็งที่เป็นกันตั้งแต่อายุยังไม่มาก อีกทั้งพวกตายฉับพลันจากหัวใจล้มเหลวทันทีทั้งที่อายุไม่ถึงสามสิบ ทำให้ต้องเดาเอาว่า ผลวิจัยซึ่งบ่งชี้มนุษย์นั้นมีอายุยืนยาวขึ้น มันเชื่อได้? ประเทศไทยพัฒนาทันโลกไปเสียทุกอย่าง โดยเฉพาะในด้านที่เป็นผลเสีย ความรุนแรงในเยาวชน ความสำส่อนทางเพศกับการทำแท้งและเชื้อเอดส์ในวัยรุ่น ด้วยความสนับสนุนเป็นอันดีจากสื่อกระตุ้น ทั้งอินเตอร์เน็ตขยะ วีซีดีโป๊ หนังสือเปลือย การ์ตูนเอ็กซ์ ขอบคุณมลพิษในสังคมเมืองที่สูงขึ้นเรื่อยๆ การจราจรแสนสะดวกแต่ติดขัดและเต็มไปด้วยก๊าซคาร์บอนมอนน็อกไซด์ อาหารสดสวยสะดวกกินพร้อมสารพิษ ชีวิตที่เพียบพร้อมแม้แต่โรคร้ายต่างๆ เหล่านี้ ล้วนแสดงอิทธิพลของความเจริญ และเศรษฐกิจก็ยังเป็นเรื่องหลักที่ทุกคนต้องกังวล ยุคของเงินยังคงเดินหน้า.. การกระตุ้นให้เกิดภาวะการลงทุนเป็นเรื่องจำเป็น

มันจึงเป็นยุคของการขาย ที่ใครใคร่ค้า แม้ไม่ให้ค้าก็จะค้า ทำทุกอย่างที่มันขายได้ โดยไม่คำนึงถึงผลต่อสังคม เพราะเศรษฐกิจหมายถึงการกินดีอยู่ดี และเงินคือความถูกต้องของชีวิต

ส่วนโครงการคอมพิวเตอร์มือถือ คือสิ่งที่ผมอยากลงทุน เป็นคอมขนาดพกพา สามารถโทรศัพท์ และใช้ประชุมแม้จะอยู่ไกลกัน ต่างห้องต่างสถานที่ โดยสามารถเห็นหน้ากัน ร่วมแสดงความคิดเห็นและเสนองานได้ทั้งภาพและเสียง สามารถล็อคอินเข้าระบบพร้อมกัน หรือโทรตามเพื่อแสดงงานได้ทันที ผมคำนวณงบประมาณการลงทุน และการออกแบบโปรดักท์อย่างล้ำสมัย กับเพื่อนสนิทซึ่งทำงานอยู่ในค่ายมือถือที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง
ผมตัดสินใจนำเสนอโครงการที่คิดขึ้น เพื่อกู้เงินกับธนาคาร แต่หลังจากวันศุกร์มหัศจรรย์ที่พบกับเขา ทุกอย่างก็แปรเปลี่ยน

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

ผมมาตามนัดพิเศษครั้งนี้

เขานัดผมตอนเที่ยง ยิ่งใกล้เวลา ขนอ่อนตามร่างกายก็ตั้งชันจนไม่ยอมล้มตัวลงเรียบผิวได้โดยง่าย เป็นการแสดงความตื่นเต้นจนประหม่า หรือเป็นอาการของความขลาดกลัว กลัวผิดหวังล้มเหลวไม่เป็นท่าหรือเปล่าก็ไม่แน่ใจ อยากจะขอเลื่อนนัดไปอีกสักเดือนก่อนจะนำเสนอโครงการ เพื่อวางแผนใหม่ให้รัดกุมกว่าเดิม “ไม่ได้หรอก” ผมบอกตัวเอง นัดก็ต้องเป็นนัดซิ ยังจำวันเจอเขาได้ดี มันเป็นความรู้สึกที่แปลกมาก อบอุ่นแต่ก็แฝงไปด้วยความกลัว กลัวอะไรกันนักกันหนา กลัวว่าเขาจะหายไปจากชีวิต หรือกลัวนัดครั้งนี้มันจะกลายเป็นเพียงแค่ความฝัน อดคิดไม่ได้ว่า ตัวเองนี่มันไอ้ตัวแปลกประหลาดซึ่งมีอารมณ์บ้าบอไปด้วยความวิตกอยู่เสมอ

ผมถูกนำมายังห้องประชุมใหญ่ห้องหนึ่ง แสงนวลตาในห้องโอ่โถงและบรรยากาศอันสงบ ทำให้จิตใจเยือกเย็นลงและผ่อนคลาย มีหนุ่มสาวนั่งรออยู่ในห้องหลายคนจนน่าอัศจรรย์ใจ พวกเขารอเสนอผลงานด้วยความรู้สึกใหม่เหมือนผมหรือเปล่า มันช่างแตกต่างจากคราวที่คิดจะมากู้เงินในครั้งแรก ทุกอย่างปรับเปลี่ยนหลังจากการได้พบเขา ดูทุกคนล้วนมีหน้าตาอิ่มเอิบสดใสจนเปล่งประกาย แม้จะยังดูตื่นและแสดงแววขลาดอยู่บ้าง แต่รอยยิ้มเป็นมิตรที่มีให้กัน สร้างความอบอุ่นและทำให้เข้าสู่ภาวะปรกติของจิต

เมื่อเขาเดินเข้ามานั่งเรียบร้อยแล้ว เริ่มการพูดคุยราวกับคุ้นเคยด้วยความสัมพันธ์อันดีซึ่งมีต่อกันมาอย่างเนิ่นนาน อีกทั้งเป็นไปด้วยความสนุกสนาน สร้างความมั่นใจให้ทุกคน ก่อนแต่ละคนจะทยอยออกมาพูดถึงงานที่ตัวเองสร้างสรรค์ โดยผู้อื่นสามารถวิพากษ์วิจารณ์และช่วยแสดงความคิดเพิ่มเติม เพื่อให้งานสมบูรณ์ลงตัวยิ่งขึ้น

ผมต้องการประดิษฐ์เครื่องร่อนปุ๋ยชีวภาพ หลังจากได้เห็นคุณวุฒิชัย ชาติปัญญาวุฒิ โปรยปุ๋ยอินทรีย์จากเครื่องร่อนทางทีวี เพื่อกระตุ้นให้ ดิน น้ำ อากาศ สะอาด มีวงจรกลับไปสู่ธรรมชาติตามเดิมอย่างรวดเร็ว โดยไม่มีสารพิษ สารเคมี หรือยาฆ่าแมลง ตกค้าง ผมได้คิดเครื่องร่อนเพื่อเกษตรกร เป็นการออกแบบเครื่องร่อนแบบใหม่ ไม่ต้องใช้ปีกขนาดใหญ่ ทรงตัวและลงสู่พื้นโดยง่าย น้ำหนักเบา ใช้ง่าย ราคาประหยัด…

ของดิฉันเป็นเครื่องทำนาง่ายๆ การย้อนกลับไปสู่ธรรมชาติ และมีที่ดินพออาศัย การทำนาอย่างเป็นธรรมชาติ จะกลายเป็นเรื่องง่ายๆ จากเครื่องมือที่จะทำให้สะดวก ทั้งการหว่านเมล็ด การควบคุมแมลงและห่วงโซ่อาหารในทุ่งนา และ…

ส่วนผมอยากลงทุนทำโรงงานน้ำมันมะพร้าวกลั่น ตามโครงการของในหลวง ให้เป็นอุตสาหกรรมขนาดยักษ์อย่างจริงจัง สามารถใช้ได้กับรถยนต์ทุกชนิด ใช้น้อย ประหยัดพลังงาน ผมหาแหล่งปลูกมะพร้าวไว้สามสิบจุดใหญ่ๆ ดังนี้…

ดิฉันขอเสนอชุดเรียบง่ายสามชุดในชีวิต มันจะช่วยให้มนุษย์เรามีเสื้อผ้าที่เหมาะสม ดูดีและใช้งานสะดวก โดยไม่ยุ่งยากกับเสื้อผ้าจำนวนมากมายมหาศาล…

กลุ่มของพวกผมขอแนะนำรองเท้าเพื่อการเดิน เพื่อให้มนุษย์เรา กลับไปใช้การเดินทางรูปแบบเดิม คือการเดิน จะช่วยในเรื่องสุขภาพความแข็งแรง ไม่ต้องเป็นโรคภัยไข้เจ็บเหมือนไก่ที่ขาดการออกกำลังกาย ไม่ต้องพึ่งวิทยาการทางการแพทย์เกินควร แต่เป็นการเดินจากรองเท้าปรับระดับความเร็วได้ การเดินจะคล่องตัวรวดเร็วขึ้น และใช้ในการเดินทางไม่ไกลมากได้ราวกับเหาะ…
ผมขอเสนอโครงการ…ปลูกต้นไม้ตามใจฝัน เป็นต้นกล้าพันธุ์ไม้หายากในขวดแก้ว ผู้ซื้อสามารถนำไปปลูกได้ทันที และจะพยายามหาแม้แต่พันธุ์ที่คนคิดว่าสูญพันธุ์ไปแล้ว จากทั่วทุกมุมโลก มาเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ และขยายพันธุ์ต่อไป เช่น…

ดิฉันขอเสนอโครงการ…คอมพิวเตอร์แสนดี เป็นคอมรุ่นใหม่ ป้องกันการสื่อสารที่ขาดศีลธรรม ข้อมูลข่าวสารที่ดีสำหรับเยาวชนเท่านั้นจึงจะสามารถผ่านระบบ ทั้งยังมีความทันสมัยต่อการใช้งานต่างๆ เช่น…

และอีกหลายโครงการ ที่น่าสนใจ จากกลุ่มคนรุ่นใหม่ต่างๆ อาทิ โครงการหมู่บ้านพอเหมาะ เครื่องดูแลหน้าตาโดยไม่ต้องพึ่งเครื่องสำอาง ฯลฯ จนกระทั่งถึงคิวผม

ผมขอเสนอโครงการ…โรงเรียนอนุบาลก่อนเป็นนักประดิษฐ์ ผมกล่าวเริ่ม เด็กๆ ทุกคนจะได้เรียนรู้การประดิษฐ์คิดค้น ไม่ว่าจะเป็นวิทยาการทางเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์ การแพทย์ หรือสาขาต่างๆ ที่ตนสนใจ โดยจะสร้างความพร้อมในการเข้าใจต่อสภาพชีวิตมนุษย์กับธรรมชาติให้ถ่องแท้ก่อน เพื่อการศึกษาอย่างถูกวิธีต่อไป…

หลายโครงการ นำเสนอเพื่อความเจริญของชีวิตเรียบง่าย ด้วยเทคโนโลยีอันจะสร้างแต่ความดีงามให้สังคมองค์รวม เขานั่งดูด้วยความพอใจ และให้คำแนะนำกับโครงการที่ยังมีจุดอ่อน เพื่อการกลับไปแก้ไข ส่วนโครงการซึ่งมีความเป็นไปได้ แม้พวกเราจะอ่อนหัดยิ่ง ผู้นำเสนอนั้นจะต้องเข้าคุยกับเขาเป็นการส่วนตัว เพื่อสร้างผลงานให้เป็นไปได้ยิ่งกว่าที่คิด จากเขา ผู้มีความรู้ล้ำหน้าชาวมนุษย์อย่างเราไปหลายสิบปีแสง และมันจะเป็นวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ล้ำยุคจริงๆ จากวิสัยทัศน์อันบริสุทธิ์ เมื่อไม่ผ่านกระบวนการกอบโกยเอาแต่ผลประโยชน์ใส่ตน โดยคำนึงถึงอนาคตของโลกมากกว่าเม็ดเงิน

ผมขอเขาไปดูเมืองไทยในมิติเชิงซ้อน ปีพุทธศักราช 2599 เห็นตัวเองยังมีชีวิตอยู่ แม้จะสูงวัยแต่ผิวพรรณดูละเอียดละออ ท่าทางก็สมาร์ทและกระฉับกระเฉงมาก ไม่อยากจะเชื่อเลย ว่าอาคารทันสมัยที่ก่อสร้างอย่างแปลกตา จะยืนหยัดอยู่ท่ามกลางต้นไม้หลากพันธุ์และหลากสีสันดูไม่คุ้นตานัก อากาศก็หอมสดชื่นจนผมนึกอยากรับประทาน ส่วนตัวผมในมิตินั้นกำลังสอนเด็กกลุ่มหนึ่ง ให้นำขยะมาสร้างพลังงาน และให้รู้จักนำทรัพย์ในดินสินในน้ำมาใช้อย่างรู้คุณค่า เพื่อให้มีประสิทธิภาพและได้ประโยชน์สูงสุด เมืองไทยในฝันจะเข้มแข็งน่าอยู่ขนาดไหน ก็อยู่ที่ความร่วมแรงร่วมใจของพวกเราในวันนี้ และเพื่อลูกหลานคนไทยในอนาคต

สำหรับเขา มนุษย์ดาวอังคารที่ห่วงใยโลกมนุษย์อย่างสุดซึ้ง หลังมนุษย์ช่วยกันทำลายโลกให้เป็นขยะเน่าๆ และล้นไปด้วยขยะอิเลคทรอนิคส์ การแก้ปัญหาปลายเหตุด้วยการพยายามหาแหล่งที่อยู่ใหม่ โดยไปรบกวนดาวอังคารอยู่มิได้ขาด เขาผู้มาจากดาวอังคาร มีวิทยาการก้าวล้ำไปกว่าชาวโลกมากมาย ก็เพราะด้วยสาเหตุที่จิตใจของชาวดาวอังคารนั้นเจริญกว่าเทคโนโลยีที่เขาสร้าง ไม่ใช่เอาแต่สร้างเพราะผลประโยชน์เบื้องหน้า โดยไม่ดูผลกระทบระยะยาวอย่างชาวเรา

เขาให้เหตุผลว่า ที่จริงแล้ว มนุษย์เป็นสัตว์ต้องพึ่งพิงต้นไม้ กินพืชผักผลไม้เป็นอาหาร การทำลายป่า ชีวิตสัตว์ป่า และผลาญทรัพยากร จนขาดภาวะความพอเหมาะในธรรมชาติ เท่ากับเป็นการทำลายบ้านตัวเอง ส่วนบนดาวอังคารนั้น หากจิตไม่ละเอียดก็จะทำให้กายไม่ละเอียดพอที่จะอยู่ได้ การจะไปอาศัยอยู่บนดาวดวงอื่น มนุษย์จะต้องปรับโครงสร้างทางร่างกายอีกมาก และยังต้องวิวัฒนาวิทยาการทางเทคโนโลยีไปอีกไกลโพ้น พวกเขาจึงต้องเดินทางมา คิดหาหนทางช่วยรักษาโลกให้ดำรงอยู่ได้อย่างยาวนานที่สุด โดยเข้ามาดำเนินงานหลายแห่งแล้วบนโลกมนุษย์ เพื่อไม่ให้โลกพังพินาศเร็วกว่าเวลาอันควร จนอาจเสียสมดุลของกลุ่มดาวในระบบสุริยจักรวาล

“ผมรู้ว่า ยังมีคนรักสังคม รักประเทศ รักโลกใบนี้ และรักมวลมนุษย์ด้วยกัน แต่โลกซึ่งผู้คนกลับเป็นทาสของเงินตราทั้งที่เป็นผู้คิดค้นมันขึ้นมา แสดงถึงความมีปัญหาในปัญญาที่หลงไปด้วยกิเลส จนถึงกับสร้างความซับซ้อนครอบงำต่อกัน จากคนต้องการอำนาจในมือเพียงไม่กี่คน ชวนเชื่อคนทั่วไปให้ตกเป็นทาสระบบเงินแม้กระทั่งตัวเขาเอง และเมื่อเห็นว่าการสนองตัณหานั้นเป็นสิ่งดีเลิศ ทุกคนจึงกระหายเงินและอำนาจ เพราะมันนำมาซึ่งการตอบสนองตัณหาได้ ทำให้การก้าวออกจากปัญหานี้ เป็นเรื่องที่มนุษย์ไม่สามารถเข้าใจ ฉะนั้น..ผมจึงจัดการกับปัญหานี้เสีย.. พวกคุณจะได้แสดงศักยภาพ เพื่อการรักษาสภาพแวดล้อมและพัฒนาความเจริญที่แท้ให้กับโลกได้อย่างเต็มที่ จากเงินกู้เพื่อเมืองไทยในฝัน เพราะมันเป็นเงินกู้.. ที่จะต้องใช้คืนทั้งต้นและดอก ด้วยความรัก..ต่อโลก และต่อมนุษยชาติด้วยกัน.. แค่นั้นเอง..” เขากล่าวจบ เสียงปรบมือดังกึกก้อง พร้อมความหวังเต็มเปี่ยมในใจของพวกเรา




 

Create Date : 26 พฤษภาคม 2549
0 comments
Last Update : 10 มิถุนายน 2549 15:31:51 น.
Counter : 568 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


suparatta
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




..วัชรปรัชญาปารมิตาสูตร..
..ท่านนาคารชุนะ..
วิภาษวิธี..เกริ่นนำ..ตอนจบ..

๐ สมุดเยี่ยมและบ่นได้..
**ทางลัด**
๐ สารบัญทักทาย(ทั้งหมด)
๐ ชวนคุย&ฟังเพลงปี48(ทั้งหมด)
๐ นอนดูจันทร์..(ส่วนตัว)

**log in หน่อยน่า..



Google.co.th
Friends' blogs
[Add suparatta's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.