สุภารัตถะ บล็อก
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2549
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
11 มิถุนายน 2549
 
All Blogs
 
ความสับสนของรหัส 9

*

เรื่องสั้น ความสับสนของรหัส 9
สุภารัตถะ


ถ้าผมเป็นผู้ชาย ผมจะขอหล่อนแต่งงาน แน่นอน..ต้องแต่งงานกับหล่อนให้ได้ ผมอยากมีลูกกับหล่อน อยากกอดหล่อน อยากกอดเอาไว้ทุกวันทุกคืนเลย

แต่ผมเป็นผู้หญิงนี่หว่า พอคิดว่าเป็นผู้หญิงเท่านั้นแหละ เหมือนมีอะไรมาจุกอก ปลายจมูกบานขึ้นเล็กน้อย น้ำตาพาลจะไหลออกมาให้ได้ และที่สำคัญหล่อนเป็นทอม แม้ในสายตาของผม หล่อนจะเป็นผู้หญิงสวยที่สุด แค่เห็นครั้งแรกแทบจะคลั่งตายก็ตาม

ผมเป็นผู้หญิงและหล่อนเป็นทอม คิดไปด้วยความสับสนสุดๆ เหม่อมองออกไปไกลแสนไกล ในใจมันปวดร้าวชอบกล ฉับพลันก็คิดอะไรออก ดึงแป้นคีย์คอมขนาดจิ๋วออกมาจากกระเป๋า ถึงทางสวรรค์จะสั่งเอาไว้ว่าให้ใช้ในยามฉุกเฉินและมีปัญหาจริงๆ เท่านั้น แต่ทางนรกบอกว่าให้ใช้บ่อยๆ เพราะเพื่อนๆ ที่นรกสนิทกับผมมากกว่าที่สวรรค์

รีบป้อนข้อความส่งตรงไปยังฝ่ายรับฟังปัญหาไร้สาระยากแก้ไขของสวรรค์ชั้น 1024 ซึ่งมีการทำงานแสนห่วยและไร้ระบบเหมือนบนโลกไม่มีผิด แต่ถึงอย่างไร ก็ยังโชคดีเพราะมีเพื่อนสนิทอยู่ฝ่ายนั้น จึงไม่ต้องประสบปัญหาล่าช้าของพนักงานแย่ๆ แต่ชอบโฆษณาสร้างภาพพจน์เอาไว้เสียดิบดีขององค์กร และก็ไม่ต้องใต้โต๊ะให้เขาทำงานเร็วๆ อย่างภาครัฐ เพราะผมไม่ต้องติดต่อผ่านใคร ที่อาจชอบทำงานน้อยๆ แล้วเม้าท์ให้มาก แต่สามารถติดต่อกับเจ้าปิ๊ดปิ้ว ตามการอนุมัติของฝ่ายผู้ใหญ่ได้ทันที

“ปิ๊ดปิ้ว… ทำไมเราต้องเกิดมาในร่างผู้หญิง จากรหัส 9” ข้อความถูกส่งตรงอย่างรวดเร็ว ช้ากว่าโทรจิตเล็กน้อย และผมไม่สามารถทำเช่นนั้นได้เพราะยังไม่ได้รับสิทธ์
“จะไปรู้เรอะ” มีข้อความสวนกลับมาทันควัน ตัวหนังสือแสดงอารมณ์ไม่จอยออกมาอย่างเด่นชัด สงสัยทะเลาะกับแฟนอยู่ ผมคิด
“เอ๊ะ แต่ปิดปิ้วมันไม่มีแฟนนี่” คิดซ้ำอีกที อย่างนั้นเจ้าหมอนี่คงจะโมโหคำถามของผมมากกว่า “ช่วยหาในบันทึกแห่งการลงโทษหน่อย” ไม่ละความพยายามในการส่งข้อความกลับไปอีก ทั้งที่รู้ว่า การส่งข้อความขอความช่วยเหลือมีจำกัดในการใช้ แต่ก็ยอมเสี่ยงล่ะ นี่เป็นเพราะหล่อนแท้ๆ เชียว

สักครู่ ปิ๊ดปิ้วก็ยอมส่งคำตอบมาจากสวรรค์ โล่งใจไม่น้อยที่เพื่อนไม่ทิ้งกัน พออ่านข้อความตอบกลับ ความรู้สึกอยากจะกล่าวคำขอบคุณ กลับต้องกลืนหายเข้าไปในลำคอ แม้ว่าเพื่อนจะช่วยตอบมาอย่างยืดยาวก็ตามที “การเกิดในร่างผู้หญิงของนาย ไม่มีในบันทึกแห่งการลงโทษว่าเป็นเพราะสาเหตุใด เพราะนี่ไม่ใช่การลงโทษ อย่าถามเรื่องไร้สาระแบบนี้มาอีก เพราะฉันกำลังอ่านขายหัวเราะฉบับเทวดาและนางฟ้าโอนลี่” ช่างเป็นคำตอบไม่มีความหมาย และไม่อาจทำให้ผมกระจ่างอะไรขึ้นมาได้เลย แล้วอีกนับร้อยพันคำถามซึ่งคาอยู่ในใจนี่ล่ะ ใครจะช่วยตอบให้ได้

นอกจากจะมีคำถามไร้สาระอย่างที่เจ้าปิ๊ดปิ้วบอกไว้ กับการคิดไม่ออกจริงๆ ว่าทำไมตัวเองต้องเกิดเป็นผู้หญิง ผมยังมีคำถามสุดฮิตของชีวิตชนชั้นกลางระดับต่ำ ต้องทำงานเป็นลูกจ้างเขาทุกวี่ทุกวันไม่ต่างไปจากคนอื่นๆ

“ทำไมต้องเป็นพนักงานบริษัทด้วย ทำงานจันทร์ถึงศุกร์ เช้าถึงเย็นแบบจะมืดอยู่แล้ว การจราจรก็ติดหนึบ สุดจะจำเจ แสนจะน่าเบื่อ น่าเบื่อ..น่าเบื่อ..?” แต่ก็เพราะบริษัทนี่แหละ ถึงได้เจอหล่อนไง มันก็เป็นอะไรสุดปลื้ม อย่างน้อยก็ก่อนกลับสวรรค์ แต่ถ้าพลาด ไม่สามารถถอดรหัสลับได้ คราวนี้อาจต้องไปนรกแทน บทพิสูจน์แสนยิ่งใหญ่ที่พลาดไม่ได้ ผมพลาดไม่ได้จริงๆ รู้ดีว่าตัวเองถูกส่งมาเพื่อบทพิสูจน์ในการแก้รหัสกรรมครั้งนี้ ความจริงแล้ว ผมกับหล่อนก็ใช่ว่าจะเจอกันบ่อย การเจอกันโดยบังเอิญแต่ละครั้งก็ทำให้อึ้ง.. เพราะหล่อนจะไถผมให้สั้นลงเรื่อยๆ โกรกน้ำมันด้วย “คงหล่อตายเลย” แทบจะอดโกรธไม่ได้ เอาเป็นว่าการทำตัวหล่อขึ้นเรื่อยๆ ของหล่อน ทำเอาใจผมแป้วลง จนในที่สุด ก็ตัดสินใจแล้วว่าจะถอนตัว

และในวันที่เริ่มเงียบเหงาที่สุดวันหนึ่งของปี คือวันเกือบสุดท้ายของการทำงานในเดือนธันวาคม เป็นวันซึ่งผมมักจะออกอาการเซ็งสะสม กับบรรยากาศของการจะครบวาระความยาวนานในอีกรอบปี สิ่งตัดสินใจทำตอนเซ็งมากๆ คือการตัดผม ไม่ถึงกับซอยสั้นหรอกครับ เพราะอย่างน้อยผมก็อยู่ในร่างหญิง แถมเป็นผู้หญิงที่มีบุคลิกอันไร้รสเปรี้ยวอย่างสิ้นเชิง ผมสั้นนอกจากจะไม่ช่วยสื่อถึงความเป็นหญิงมั่นได้ ยังอาจทำให้ใครต่อใครเข้าใจผิดคิดว่าผมเป็นทอมได้ง่ายๆ ก็แค่การตัดอะไรสักอย่างเพื่อแก้เบื่อชีวิตปีหนึ่งๆ เท่านั้น

หลังจากเดินไปตัดผม แล้วทึกทักเอาว่าตัวเองสดชื่นขึ้น ก็เดินกลับมานั่งดวดเบียร์ในร้านใกล้ๆ ที่ทำงานเพื่อแก้ความเซ็งต่อไป นั่งมองรถติดนอกร้าน ฟังเพลงแฮ้ปปี้นิวเยียร์ที่ไม่มีความหมายอะไรกับความรู้สึกเลย ผมชอบดื่มเบียร์คนเดียวเสมอ อย่างน้อยเวลานั่งดื่มก็ได้นั่งคิด คิดเพื่อทบทวนตัวเองว่าหน้าที่ที่ต้องทำและสัญญากับสวรรค์ไว้คืออะไรบ้าง ถ้าคุณอยากกลับสวรรค์คุณคงต้องคิดเหมือนผม เดี๋ยวไม่ได้กลับสวรรค์ล่ะก็แย่เลย

และแล้วความมหัศจรรย์ก็บังเกิดขึ้น ขณะกำลังมึนได้ที่อยู่เชียว หล่อนก็เดินผ่านหน้าร้านซึ่งเป็นกระจกไป เป็นการเห็นภาพหล่อนอย่างชัดเจนมาก ราวกับจะช้ากว่าการเดินของเวลาด้วยซ้ำ กระทั่งทำให้เกิดความรู้สึกเหมือนอาการรู้แจ้งเล็กๆ แบบซาโตริตามนิกายเซนนั่นเทียว เป็นอาการโพล่ง รู้สึกโปร่งไปทั้งตัว ผมรับรู้และเข้าใจได้เลยถึงความรัก ความรักมันคงอยู่ได้ด้วยตัวของมันเองเหมือนที่ไม่ได้มีอยู่ และมันจะเป็นอยู่อย่างนั้นด้วยความอิสระ มันเกิดขึ้นแล้ว..เพราะผมได้เข้าไปสัมผัส แต่จะรักษามันเอาไว้ได้หรือ เมื่ออีกสิบปีข้างหน้าหล่อนอาจจะมีลูกเป็นโหล หรือไม่ก็เป็นทอมแก่ๆ แต่ขณะนี้เดี๋ยวนี้ ผมรู้สึกได้ ความรักเกิดขึ้นในใจ เหมือนที่ผมหลงรักดอกไม้ รักทุกอย่างทันทีที่ผมไม่มีความแปลกแยก ภายในเสมือนเป็นหนึ่งเดียวกับจักรวาล ไม่ว่าตอนนี้หล่อนจะเป็นผู้หญิง ผู้ชาย ทอม ตุ๊ด และผมจะเป็นผู้หญิงหรือเทวดาก็ตาม ขณะความรักปรากฏขึ้นแล้วอย่างเด่นชัด มันจะทำลายสภาพอัตตาตัวเราตัวเขาลงทันที ความรักมีอยู่ทุกขณะ มีอิสระไม่มีเงื่อนไข แต่ที่สำคัญ ผมยังไม่มีความสามารถพอจะคงไว้ซึ่งพลังแห่งรักได้ตลอดเวลา ผมจะรักทุกคนรักทุกอย่างโดยไม่มีเงื่อนไขได้หรือไม่ จะรักทุกสรรพสิ่งเป็นนิรันดรได้หรือ?

เหมือนจะหมดอารมณ์สมาธิ และถูกฉุดกลับมายังความลุ่มหลงในตัวหล่อนอีกครั้ง ความหลงนี่มันร้ายกาจยากเกินจะต้านได้ จนตัดสินใจว่า พรุ่งนี้จะส่งกุหลาบขาวให้หล่อนห้าดอก มันมีความหมายอยู่สองประการครับ ประการแรกผมไม่มีเงินมากนัก ประการสองกลัวจะส่งเก้อ ด้วยเพราะหล่อนอาจจะกลับบ้านไปก่อนที่กุหลาบจะส่งไปถึง กว่าจะเจอกันอีกทีก็ปีหน้า เพราะบริษัทหยุดทำงานตั้งสี่วัน ไม่ใช่หรอกครับพูดเล่น จริงๆ ถ้าไม่ส่งตอนนี้ต่อไปอาจจะเปลี่ยนใจก็ได้ แล้วก็อยากจะส่งให้ร้อยดอกพันดอกด้วยซ้ำ นี่ล่ะพลังแห่งความรักจริงๆ แต่เป็นความรักในความหลง หลงไปในความคิด ผมรักหล่อนอย่างที่ต้องการเอง คิดเอง และเป็นไปเอง เหมือนกับว่าถ้าเราอยากจะรักใครนานๆ ก็อย่าเข้าไปทำความรู้จักกับใครคนนั้นทีเดียว ถ้าคุณไม่อยากเจอะเจอความจริงของการอยู่ร่วม เพราะเจ้าตัวความรักอาจกระเด็นกระดอนหายไปแบบตั้งตัวไม่ติดก็ได้ เจ้าตัวความรักของมนุษย์มันก็เป็นแบบนี้นี่เอง ไม่ว่าเวลาจะยั่งยืนไปอีกหมื่นปี หรืออยู่ได้แค่เสี้ยววินาที มันก็เป็นสัจธรรมเพียงความผันผวนของหัวใจ ขาดความมั่นคงและการดำรงอยู่ได้อย่างตลอดกาล ประดุจดังความรักของคนเมาเหล้า ทั้งที่รู้ดีชั่วอยู่ แต่ไม่มีสติจะยับยั้ง

ผมมักได้แค่ทำตาปริบๆ เมื่อเห็นสาวสวยเดินคู่มากับสาวหล่อ แต่สำหรับหล่อนอาจจะหล่อในสายตาของสาวๆ คนอื่น ทว่าหล่อนสวยในสายตาของผม จนต้องแอบพ้อว่าเทวดาอย่างผมในร่างของมนุษย์ผู้หญิง เทียบเท่าก็คือผมเป็นหญิงบนโลกมนุษย์ คงจะวิปริตอย่างที่สุดแล้วก็เป็นได้ที่ไปหลงรักหล่อนเข้า ขนาดหลอนประสาทเลยทีเดียว เมื่อคืนหนึ่งฝันไปว่า ได้นั่งรถคู่ไปกับหล่อน หล่อนขับรถไปกับผม ใช้มือขวาถือพวงมาลัย มือซ้ายโอบมาที่ผม ท่าทางโคตรจะแมนเลย ได้แต่นั่งกระอักกระอ่วนอยู่นาน สุดท้าย..ก็ต้องระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอย่างไม่หยุดยั้ง เป็นฝันร้ายที่สุดเท่าที่จำได้ถึงทุกวันนี้ เพราะสำหรับผมแล้ว อยากจะโรแมนติกกับหล่อน ผิวขาวนวลของหล่อนยังจำได้เสมอ ในงานเลี้ยงปาร์ตี้ของบริษัทที่ผ่านมา หล่อนใส่กางเกงขาสั้นมาก คงอยากโชว์ขาอ่อน จนไม่ค่อยแน่ใจนักว่าเป็นทอมจริงหรือเปล่า เห็นขาขาวๆ เห็นปลายจมูกโด่งๆ ด้านข้าง ก็อดจะหลงรักไม่ไหว โดยเฉพาะตอนเห็นหล่อนใส่ชุดว่ายน้ำลงว่ายน้ำอยู่คนเดียวทั่วทั้งสระ โดยไม่มีคนอื่นมาเปรียบเทียบให้ต้องตัดสินว่าใครสวยกว่า หัวใจมันก็ให้อภัยหมดเลย กับอารมณ์ไม่พอใจทุกครั้งหากเห็นหล่อนมาดแมนเสียเต็มประดา ก็รักนี่ครับ หล่อนดีมาครั้งหนึ่ง ก็ลืมเรื่องที่หล่อนร้ายมาล้านครั้งได้สนิทใจ

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

ถึงเวลาทบทวนตัวเองอีกแล้ว เวลาแบบคืนนี้ ที่เทวดาตกสวรรค์ไม่ควรลืม ก็เหมือนการนั่งสมาธิ นำพาจิตใจที่แตกซ่านเข้าสู่ความสงบ กลับมาพบแก่นแท้ว่าไม่มีสิ่งใดในโลกนี้เป็นจริง ไม่มีสิ่งใดยั่งยืน สักพักจิตก็ดิ่งลงสู่ความเงียบ ผมควรจะทบทวนตัวเองบ่อยๆ มัวแต่หลงระเริงไปกับสิ่งไม่แท้อันเป็นเพียงภาพมายาบนโลกมนุษย์ และแทนที่จะทำการทบทวนตัวเองให้เป็นกิจวัตรประจำวัน ก็มัวแต่ขี้เกียจ เลือกทำเฉพาะตอนผิดหวังหรือเป็นทุกข์อยู่เท่านั้น ก็ยังดีกว่าไม่ทำครับ ผมนั่งตัวตรง ปล่อยให้ความว่างเข้าแทรกซึมจิตใจอันไม่ยอมหยุดนิ่งได้ง่ายๆ แต่ทำได้ไม่นาน กลับมีแต่ภาพของหล่อนลอยเคว้งคว้างอยู่เต็มสมองไปหมด ภาพหล่อนใส่เสื้อดำกางเกงขาสั้น มันวนไปเวียนมาอยู่อย่างนั้น ที่จริงใช่ว่าจะเห็นแค่ตอนหลับตาอยู่ขณะนี้ ผมแทบจะเห็นหล่อนอยู่ตลอดเวลาด้วยซ้ำ แทบทุกลมหายใจ ขณะทำงาน ขณะกินข้าว ยามนอนก็ฝันถึงคะนึงหา แต่เอาเถอะ ตอนนี้ผมจะคิดถึงหล่อนอย่างมีเหตุมีผลที่สุด เพราะกำลังอยู่ในช่วงเวลาทบทวนตัวเอง ปัญญาเท่านั้นที่จะทำให้จางคลายจากความลุ่มหลง ซึ่งตอนนี้คิดว่ามันเป็นความรัก จนบางครั้งกลับทำให้ผมโกรธด้วยซ้ำ เมื่อเกิดอารมณ์ไม่พอใจในสิ่งที่หล่อนทำ ยังจำได้ว่าวันแรกเจอกัน หล่อนไม่แมนขนาดนี้ ดูน่ารักๆ มากกว่า ไม่เข้าใจเหมือนกัน ว่ามันกงการอะไรจะต้องไปโกรธหล่อน เมื่อหล่อนพอใจจะแต่งหล่อขึ้นเรื่อยๆ

รูปหน้าด้านข้างและสันจมูกที่ผมหลงรักค่อยๆ ชัดขึ้น จิตใจของผมดิ่งลงสู่ความสุขสงบ หล่อนค่อยๆ หันมา สวยที่สุดเลย หน้าซีดขาวแบบจีน ริมฝีบางเฉียบ โครงหน้าเหมือนรูปปั้น อารมณ์อะไรจะเวอร์ปานนั้น แต่ฉับพลัน ความสวยของหล่อนก็ค่อยๆ อันตรธานหายไป หล่อนค่อยๆ หล่อขึ้น โครงหน้าเข้ม ผมสั้นโกรกน้ำมันมาดแมน ผมร้องเสียงหลงตกใจจนสะดุ้ง ได้ยินเสียงหัวเราะมาจากที่ไกลแสนไกล เสียงของเจ้าปิ๊ดปิ้วแน่ๆ ผมจำได้ มาจนได้ซิน่า..เพื่อน

“อยากจะขำกลิ้ง ขำโว้ย..” ปิ๊ดปิ้วไม่ได้แค่พูด แต่กลิ้งหลุนๆ ลงมากระแทกผมให้ล้มกลิ้งคู่ไปด้วยกัน
“ตกลงมาจากสวรรค์เชียวนะ” สบถหงุดหงิด “คุณจะมาถูกเนื้อต้องตัวผมน่ะมันไม่งาม เพราะตอนนี้ผมเป็นมนุษย์ผู้หญิงอยู่” ลุกขึ้นมาและพูดแบบมีจริตเสียงดัง
“แต่ผมก็ไม่ใช่ผู้ชายนี่” ปิ๊ดปิ้วยิ้มเจ้าเล่ห์ “อีกไม่กี่เดือนก็จะได้เป็นพรหมแล้ว”
“แต่ตอนนี้ยัง” ติงแต่ต้องตกตะลึง “ขอแสดงความยินดีด้วยนะ” รีบแสดงความยินดีด้วยความจริงใจหลังจากหายตะลึง คิดว่าเพื่อนไปไกลขนาดนี้แล้ว แต่ตัวเองยังไปไม่ถึงไหนเลย มัวแต่หลงโลก
“คุณสามารถเลิกยึดติดเรื่องเพศ กิเลส และอารมณ์ได้แล้วซิเนี่ย” ผมแย๊บไป
“ก็ทำนองนั้น” ปิ๊ดปิ้วตอบสีหน้าวางเฉย ราวพระพุทธรูปไม่มีอารมณ์หวั่นไหว
“แต่ผมนี่ซิ กลับต้องมาเกิดเป็นหญิงแบบนี้” ผมก้มหน้าก้มตา “นอกจากนั้นแล้ว..” หยุดไปนิดก่อนพูดต่อ “ยังต้องมาเจอหล่อน ตกอยู่ในห้วงกิเลส แถมวิปริตผิดเพศ คราวนี้คงไม่ได้กลับสวรรค์แล้วมั๊ง..”
ปิ๊ดปิ้วพยักหน้าหงึกๆ รับฟัง ก่อนพูดออกมาว่า “งั้นมั๊ง”
ผมหันหน้าขวับมาทางพรหมในอนาคต “แล้วผมจะทำไงดีเนี่ย..” ตะโกนด้วยความรันทด ก่อนจะรู้สึกตัว รีบทำตัวให้อยู่ในความนิ่งสงบหลังจากได้สติ พูดทวนอีกครั้งด้วยโทนเสียงราบเรียบ “แล้วผมจะทำอย่างไรดี…คุณปิ๊ดปิ้ว”
ปิ๊ดปิ้วหัวเราะเสียงดัง จนเอะใจ ว่าเขาจะได้เป็นพรหมจริงๆ หรือมาอำกันเล่น
“นั่นล่ะๆ คุณจะทำอย่างไรดี นั่นล่ะ สิ่งที่คุณจะต้องทำหละ” ปิ๊ดปิ้วพูด ทำเอาผมต้องกะพริบแผลงขนตายาวถี่ๆ
“นั่นซิ ทำอย่างไรดี” ผมพูดตาม

“คุณไม่คิดบ้างหรือรหัส 9 ว่าบางที การที่คุณมีความรักแบบไม่ได้เลือก เป็นวิถีทางอย่างหนึ่ง ซึ่งจะทำให้คุณค้นพบคำตอบอะไรบางอย่าง” ปิ๊ดปิ้วโพล่งออกมาอย่างน่าฟังซะไม่มี
คราวนี้ผมเป็นคนพยักหน้าบ้าง อย่างคล้อยตาม “โอเค โอเค ผมเป็นผู้หญิง” เริ่มลำดับเรื่องราว “แต่เผอิญไม่ใช่ผู้หญิงสวยเซ็กซี่หรืออ่อนหวานอะไรเสียด้วย แล้วยังบังอาจไปชอบทอม” พูดคำว่าทอมด้วยความยากลำบาก “ทอม” ย้ำอีกครั้ง “ทอม” แล้วก็ย้ำเบาๆ อีกหลายครั้ง
“อยากหาวเป็นดาวเป็นเดือนจัง” ผมคิด เอามือเสยผมแล้วมองขึ้นไปบนฟ้า
“แล้วทำไมคุณไม่เข้าไปทำความรู้จักหล่อน สัมผัสหล่อนล่ะรหัส 9” ปิ๊ดปิ้วถาม แต่ผมรู้นั่นคือคำตอบมากกว่า “คุณไม่เคยเชื่อในความรักของมนุษย์อยู่แล้ว คุณกลัวว่าหล่อนจะไม่เป็นไปตามที่คุณคิด คุณกลัวความจริง คุณรักหล่อนในแง่ความคิดจินตนาการเท่านั้นเอง” ปิ๊ดปิ้วสาธยายแบบกะเทาะเปลือก
“ผมไม่ใช่สาวสวยนี่” เถียงด้วยเหตุผลเชิงมนุษย์ “เข้าไปบอกว่าผมเป็นเทวดา ขอรู้จักคุณหน่อยได้ไหม อารมณ์ทอมของหล่อน อาจเตะผมเดี้ยงออกมาก็ได้นะ” ระเบิดความวิตกออกไปจนได้
“นั่นหละ สิ่งที่คุณกลัว กลัวว่าหล่อนจะวางตัวเป็นทอม แล้วคุณจะคุยกับหล่อนไม่รู้เรื่อง หล่อนจะไม่ทำตามที่คุณคาดหวัง”
“บางที..ผมก็คิดว่า ถ้ารักหล่อน ก็ต้องยอมรับในสิ่งที่หล่อนเป็น”
“แต่ขนาดความรักของแม่ ถือว่าบริสุทธ์ที่สุดสำหรับมนุษย์ แม่บางคนยังไม่ยอมรับในสิ่งที่ลูกเป็น ความรักแท้ มันไม่ใช่การบังคับหรือครอบครองนะรหัส 9 คุณเองรักหล่อนในอารมณ์ของคุณเท่านั้น ความรักของมนุษย์ ต้องการให้อีกฝ่ายเป็นอย่างตัวเองต้องการ เมื่อไม่เป็นดังใจ รักจะกลับกลายเป็นเกลียด นี่เป็นการรักตัวเอง ทำตามที่ตัวเองต้องการมากกว่า”

“ผมกลัวจัง ผมไม่ควรเปลี่ยนแปลงคนอื่น แต่ควรรู้จักตัวเองและเปลี่ยนแปลงตัวเอง”
“คุณเปลี่ยนตัวเองได้จริงๆ หรือ”
“แต่อย่างไรผมก็ควรยอมรับในสิ่งที่หล่อนเป็นใช่ไหม”
“แล้วคุณจะยอมเปลี่ยนตัวเองเป็นสาวสวยเพื่อเป็นดี้ของหล่อนเหรอ” ปิ๊ดปิ้วตีหน้าตาย หลังจากดูเหมือนพูดกันอย่างเป็นเหตุเป็นผลมาได้สักครู่
“จะทำอย่างนั้นได้อย่างไร สวยก็ไม่สวยเสียด้วย” หัวเราะคล้ายๆ ร้องไห้ “ผมก็เป็นของผมอย่างนี้” เริ่มฟอร์มซีเรียสเพื่อเรียกร้องความเห็นใจ แอบดูท่าของว่าที่พรหม ว่าจะช่วยผมได้อย่างไร แม้รู้สึกเศร้าก็ตาม
“หล่อนขับ BMW ส่วนผมขับรถคันเก่าๆ” ผมเปรย “ เกิดมากับความจน” เปรยต่อ “ต้องเป็นหนี้เป็นสินซื้อบ้านซื้อรถ” เปรยต่อไป “เทียบอะไรกับหล่อนไม่ได้เลย” ยังไม่เลิกเปรย จนปิ๊ดปิ้วทำท่าเซ็ง ลอบชำเลืองดูเขา เห็นถอนหายใจเฮือกใหญ่
“คนรวยมันมีความสุขนักหรือไง ปัญหาหลายๆ อย่างของคุณผมจะไม่ตอบ ถ้าคุณหาคำตอบเองไม่ได้ ก็ไม่มีใครจะช่วยคุณ แต่ขอบอกอะไรคุณอย่างหนึ่งนะรหัส 9 ที่คุณเกิดการเปรียบเทียบ ทั้งๆ แต่ก่อนไม่เคยสนใจเรื่องพวกนี้ ก็เพราะคุณกลัว กลัวไม่สวย กลัวไม่ดีพอ กลัวหล่อนไม่สนใจ คุณหลงมายาแล้ว ถ้าหล่อนไม่ใช่หล่อน หล่อนไม่รวยกว่าคุณ คุณยังจะกลัวอยู่หรือ คุณจะยังรักหล่อนหรือเปล่า..”

นึกถึงสันจมูกของหล่อน รักซิ รักแน่ๆ ตอนนี้ผมรักหล่อนไปแล้ว รักทันทีที่เห็นโดยยังไม่รู้จัก และไม่ว่าหล่อนจะไปเป็นใคร ที่ไหน อย่างไรต่อไป ผมก็จะรัก เพราะบันทึกหล่อนไว้ด้วยอารมณ์ความจำเอาไว้แล้ว นี่เป็นการหลงแบบซับซ้อนจริงๆ เหมือนการหลอกลวงของหัวใจ ทั้งที่ทุกอย่างเพิ่งจะเริ่มขึ้น หากเข้าไปรู้จักกันจริงๆ อาจไม่ชอบกันเลยก็เป็นได้ แต่ผมก็ตอบคุณปิ๊ดปิ้วไปว่ารัก ไม่รู้ว่า..เป็นการโกหกกันเกินไปใช่หรือไม่?

“ผมจะบอกอะไรให้คุณฟังนะรหัส 9” ปิ๊ดปิ้วขึงขัง “คุณ…ไม่ใช่เทวดาแค่ชาตินี้ แต่เคยเป็นนางฟ้าหลายร้อยชาติ มนุษย์ผู้หญิงหลายพันชาติ นกตัวเมียและอะไรๆ มานับไม่ถ้วน สลับกับการเป็นเทวดา มนุษย์ผู้ชาย นกตัวผู้และอีกเยอะแยะมานับไม่ไหว บางทีนะ การที่คุณมีความรักโดยไม่เลือก มันอาจจะเป็นรหัสลับในการค้นหาตัวคุณก็ได้ คุณต้องเข้าใจความหมายของความรักให้ได้”
“ก่อนคุณจะรักหล่อนคนนี้ คุณก็เคยชอบผู้หญิง ชอบผู้ชาย ชอบกะเทย ผมรู้นะ แต่คุณก็ไม่เคยกล้าเข้าไปสัมพันธ์กับใคร เพราะคุณรู้ความจริงว่า ความรักของมนุษย์มันไม่ยั่งยืน ไม่สนุก ไม่มั่นคง คุณเคยคิดไหมรหัส 9 ทุกคนล้วนเคยผูกสัมพันธ์กับคุณมาก่อน คุณไม่วิปริตหรอก เพียงแต่คุณต้องค้นหา มนุษย์สมัยนี้ไม่ใช่แค่ชายรักหญิง ชายรักชาย หญิงรักหญิง แต่รักไปเสียทุกเพศ ทว่ามันกลับเป็นไปเพื่อสิ่งสนุก สกปรก เพื่อกามา และมาจากกรรมอันสำส่อน แต่สิ่งที่คุณค้นหาไม่ใช่สิ่งนี้ มันบริสุทธิ์กว่า มั่นคงและจีรัง คุณต้องแก้รหัสลับในตัวคุณ เมื่อคุณค้นพบ คุณจะได้กลับสวรรค์” ท้ายประโยค ปิ๊ดปิ้วกระซิบแผ่วเบาขณะค่อยๆ ลอยจากไป

“ขอบคุณเพื่อน” โบกมือส่งเพื่อนและหลุดออกจากภวังค์ ขยี้ตา..ออกจากการทบทวนตัวเอง หวนนึกได้ลางๆ ก่อนลงจากสวรรค์ว่า ได้สัญญากับองค์เทพผู้เป็นครู ว่าผมจะรักเพื่อนมนุษย์ทุกคน โดยไม่แบ่งเชื้อชาติ ศาสนา ผิวพรรณ นี่เป็นสัญญาแท้จริง มากกว่าการจะมาทำตัวเพี้ยนๆ อยู่เช่นนี้ สัญญาซึ่งต้องทำให้ได้ก่อนกลับสวรรค์ ต้องพิสูจน์ตัวเองว่าไม่ได้หลงทางเป็นอื่น การลงมายังโลกมนุษย์ก็เพื่อชำระล้างจิตใจ ไม่ใช่มายึดอยู่กับกิเลส โลภ โกรธ หลง และสร้างปัญหาไร้สาระเกิน

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

หลังเลิกงานในการทำงานวันสุดท้ายของปี กับความเงียบเหงาเสมอ แม้ว่าคนอื่นจะรื่นเริงกับการส่งท้ายปีเก่าอยู่ก็ตาม ผมจิบเบียร์ไปเดินไป..ตามทางเดินเพียงลำพัง รู้สึกได้ถึงสิ่งมหัศจรรย์อันจะเกิดขึ้นอีกครั้ง เห็นหล่อนเดินมากับแฟนหญิงซึ่งถือดอกกุหลาบของผมอยู่ โอย..ผมจะคลั่งตาย อดจะหลงรักหล่อนไม่ไหวจริงๆ หรือนี่ อาการมึนจางหายไปทันที ได้แต่ทำใจว่า ต้องใช้เวลากับการทำลายความลุ่มหลงครั้งนี้ให้ได้ เพราะถ้าทำไม่ได้คราวนี้ล่ะก็ คงตกนรกแน่ ยิ่งนึกถึงแฟนหญิงของหล่อนที่เดินมาด้วยแล้ว ทำเอาเหน็บหนาว ผมรู้กิตติศัพท์ของเธอดี นอกจากปากร้ายแล้ว เธอยังร้ายกาจที่สุด ใครๆ ก็ทราบกัน

ผมจะต้องหลุดจากวังวนของกามารมณ์หรืออาการหลงที่อ้างความรัก ไปสู่รักแท้ให้ได้ อย่างที่จะไม่แบ่งเชื้อชาติ วรรณะ เพศ วัย แต่ไม่ใช่เป็นไปเพื่อตัณหา ความรักของมนุษย์ยุคนี้มันซับซ้อน ก็เพราะวิบากกรรมซึ่งปรุงแต่งกระทบกันอย่างซ่อนเงื่อนงำทางด้านกามไม่รู้จักพอ อย่างน้อย..ถ้ามนุษย์ยุคนี้ แม้จะมีคู่ครองต่างเพศหรือเพศเดียวกันก็ตาม เมื่อมีแล้วก็ควรรักกันแบบรักเดียวใจเดียว ไม่เที่ยวไปสร้างความสัมพันธ์มากคู่หลายชู้ เพื่อจะได้นำพาจิตใจ ให้หลุดออกจากความวุ่นวายไปสู่ความดีงามดุจดิม สำหรับเรื่องของหล่อน ผมรู้ ไม่ใช่สัญญากับสวรรค์เบื้องบนแน่.. แม้ว่าเราอาจจะเคยผูกพันธสวาทกันมาแต่ชาติไหนก็ตามที

คงต้องตามหาความรักที่แท้จริงในใจผมต่อไป มันไม่ใช่แค่การรักตัวเอง หรือเป็นแค่ความรักในคนสองคน แต่เป็นความตระหนักต่อทุกสรรพชีวิต ซึ่งความรักเช่นนั้น จะค้นพบได้เมื่อตัวตนดับลง ผมจะกลายเป็นเพียงความว่าง.. เป็นหนึ่งเดียวกับทุกสรรพสภาวะ ยิ่งใหญ่..อิสระ ไม่แปลกแยก ไม่โดดเดี่ยว และไม่เป็นทุกข์อีกชั่วกัลปวสาน



Create Date : 11 มิถุนายน 2549
Last Update : 12 มิถุนายน 2549 10:21:34 น. 0 comments
Counter : 466 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

suparatta
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




..วัชรปรัชญาปารมิตาสูตร..
..ท่านนาคารชุนะ..
วิภาษวิธี..เกริ่นนำ..ตอนจบ..

๐ สมุดเยี่ยมและบ่นได้..
**ทางลัด**
๐ สารบัญทักทาย(ทั้งหมด)
๐ ชวนคุย&ฟังเพลงปี48(ทั้งหมด)
๐ นอนดูจันทร์..(ส่วนตัว)

**log in หน่อยน่า..



Google.co.th
Friends' blogs
[Add suparatta's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.