สุภารัตถะ บล็อก
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2549
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
22 พฤษภาคม 2549
 
All Blogs
 
รักข้ามกาแล็กซี่

เรื่องสั้น รักข้ามกาแล็กซี่
โดยสุภารัตถะ


เสียงสัญญาณโทรศัพท์ดังขึ้นจริงๆ เป็นจังหวะดนตรีที่ไม่มีในฟังก์ชั่นการกำหนดเสียงในเครื่องโทรฯของผม และไม่ใช่ทำนองที่มีบนพื้นพิภพนี้ ผมตะลีตะลานไปรับด้วยความดีใจ

“ในเอกภพซึ่งประกอบไปด้วยกาแล็กซี่นับแสนล้าน แต่ละกาแล็กซี่ประกอบด้วยสุริยจักรวาลนับไม่หวาดไม่ไหว ฉันอยู่บนโลกในสุริยจักรวาลที่ 19,996 ของกาแล็กซี่แอนโดรเมด้า (andromeda) ที่คุณมองเห็นจากกล้องดูดาว และเรียกกาแล็กซี่ของเราด้วยชื่อนั้น”

“แล้วคุณเรียกกาแล็กซี่ที่ผมอยู่ว่าอะไร” คราวนี้ถามโดยไม่สนใจชื่อกาแล็กซี่ซึ่งโลกเราอาศัยอยู่ตามที่นักวิทยาศาสตร์ตั้ง ผมอยากรู้ชื่อที่เธอเรียกขานมากกว่า

“ก็ทางช้างเผือกนั่นแหละ” หัวเราะตามเบาๆ

ผมอยู่บนโลกในระบบสุริยะที่มีดาวเคราะห์เป็นบริวารเก้าดวง ของกาแล็กซี่หรือดาราจักรที่มีชื่อว่าทางช้างเผือก (milky way) โดยผมเองก็ไม่รู้ว่าดาราจักรนี้ ประกอบไปด้วยกี่สิบล้านสุริยจักรวาล

“แล้วเราจะคุยกันอีก”

“อย่าเพิ่งวางซิ”

เสียงขาดหายไปแล้ว ผมวางโทรศัพท์มือถือไว้ข้างตัว นี่เป็นการเล่นตลกของหญิงสาวจากไหนไม่ทราบ แต่ผมก็ชอบในสิ่งที่เธอพูด หลังการรับโทรศัพท์จากเธอครั้งแรกบนภูสูง ก็เพิ่งตระหนักคุณค่าสุดวิเศษของการมีมือถือกับเขาขึ้นมา ไม่ต้องเจอแต่ข้อความและบริการหลากรูปแบบ ที่มีแต่จะเรียกเอาเงินออกจากกระเป๋าของผมท่าเดียว

ในคืนนอนดูดาวบนภูเรือเมื่อสองคืนก่อน แสงวับแวมราวหิ้งห้อยผลัดกันกะพริบแสงบนผืนฟ้ามืดแต่แจ่มกระจ่าง ผมสูดอากาศเย็นสดชื่นไปถึงช่องท้อง ก่อนระบายเป็นควันจางลอยออกทางปลายจมูกกระทบไอเย็นภายนอก ผมมาที่นี่ทำไม มาเพื่อจะเห็นทางช้างเผือกชัดๆ กระมัง?? มาเพื่อจะคิดถึงใครบางคนที่ชอบพูดถึงเรื่องราวของดาราจักรอีกฟากหนึ่งให้ฟัง และเสียงโทรศัพท์ขนาดพกพาก็ดังด้วยทำนองน่าพิศวง แต่มันก็ดังมาจากเครื่องของผมอยู่ดี เบอร์โชว์บนหน้าเครื่องเป็นเลขเก้าและเก้าและเก้าถึงสามสิบตัว “ท่าจะบ้า” ผมหัวเราะเยาะใครก็ไม่รู้ หลังเห็นเบอร์ที่โทรฯเข้ามา

“หวัดดี ฉันกำลังพูดด้วยภาษาของโลกคุณ” คลื่นเสียงใสๆ เดินทางมาถึงช่องหูของผม

“ครับ และผมก็ฟังที่คุณพูดออก” รับมุข แต่ขมวดคิ้วเป็นปม แค่นหัวเราะเยาะใครในลำคอก็ไม่รู้อีกครั้ง อาจเป็นตัวผมเอง ใครนะช่างสรรหาเรื่องตลกมาเล่น เพื่อนๆ ?? หรือคนเหงาจากไหนสักแห่ง คงมีวิธีการหาคนคุยด้วยโดยการกระทำอันแปลกประหลาด ถ้าไม่ใช่เซ็กส์โฟน ผมก็จะรักษามารยาทไม่โวยวายหยาบคายหรือวางสาย

“คนเหงา!! คุณคิดไม่ผิด” เธอกล่าวราวมีทิพยโสต ได้ยินในสิ่งที่ผมคิด ผมตระหนก แต่ยังเข้าข้างตัวเอง อาจเป็นการบังเอิญก็ได้ พวกรีบแฉตัวเองออกมาเสียก่อนชาวบ้านจะกล่าวหา คล้ายว่ากินปูนร้อนท้องก็มีให้เห็นอยู่ดาษดื่น

“โทรฯมาจากไหนไม่ทราบครับ” ผมสุภาพ เห็นใจคนเหงาเสมอ

“แอนโดรเมดา” คำตอบจากคนที่ผมเห็นใจ ทำเอาต้องนิ่งงัน ช่างเป็นคนมีจินตนาการล้ำเลิศเสียจริง เธอจะรู้ไหมนะ ผมกำลังคิดถึงใครคนนึงที่ชอบพูดถึงกาแล็กซี่แสนสวยงามนั่นอยู่พอดี

“รู้ซิ ฉันสัมผัสถึงคุณยังอีกกาแล็กซี่เสมอ” คราวนี้ใจผมระทึก ไม่หลงเหลือความโกรธอีก เม็ดเหงื่อผุดออกมาตามหน้าผากประปราย

“อย่ากลัวฉัน เราจะติดต่อกันอีก” เธอวางสายไป คงต้องใช้คำนี้ ไม่รู้เหมือนกันว่าเธอมีโทรศัพท์อีกเครื่องใช้โทรฯมาหาผมหรือเปล่า ผมพยายามโทรฯกลับด้วยเบอร์ประหลาดที่ปรากฏบนหน้าจอ แต่ไม่สามารถติดต่อกลับได้ โทรฯกลับไปเช็คศูนย์ฯมือถือ พนักงานก็ปฏิเสธ โดยยืนยันว่าไม่มีผู้ใดโทรฯเข้าเครื่องผมช่วงเวลานี้แน่นอน

ฟ้าสางของวันใหม่ ผมตื่นมาดูพระอาทิตย์ขึ้น แสงฉายฉานพลังแห่งชีวิตอันอบอุ่นแผ่กระจายไปทั่วขุนเขา ตะวันกลมโตสีแดง อยู่ห่างจากโลกแปดนาทีแสง หากเดินทางด้วยอัตราความเร็วขนาดแสง จะเดินทางจากดวงสุริยามาถึงโลกโดยใช้เวลาแปดนาที ถ้าเดินทางด้วยอัตราความเร็วขนาดเสียง ก็คงต้องใช้เวลานานกว่านี้ แล้วเธอคนนั้นอยู่ห่างกับผมคนละดาราจักร ห่างกันไม่รู้กี่ล้านปีแสง ต่อให้เป็นความเร็วขนาดแสงยังต้องเดินทางเป็นล้านปีจึงจะมาถึงโลก และด้วยความเร็วของคลื่นเสียงที่ช้ากว่าคลื่นแสง เธอต้องโทรฯหาผมเมื่อกี่ล้านปีก่อนกันนะ กว่าเสียงของเธอจะเดินทางมาถึงเครื่องโทรศัพท์ของผม

ตอนสายลงจากภูสูงเข้าสู่ตัวเมืองเลยก็เย็นย่ำ นั่งรถทัวร์กลับในตอนกลางคืนถึงกรุงเทพฯเช้ามืด ประหวัดถึงแต่เรื่องเธอคนนั้นตลอดทาง กระทั่งตัวเหยียบถึงพื้นหน้าบ้านแล้วแต่ใจยังอยู่อีกกาแล็กซี่ ถอดรองเท้าก่อนเข้าบ้าน วางเป้ทิ้งไว้ เพราะคิดจะกลับมาสะสางภายหลัง
ผมต้มน้ำอุ่นไว้ดื่ม คาดหวังอยู่ลึกๆ ว่าจะมีสาวบ๊องส์คนหนึ่งโทรฯหาอีก แต่ไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นกับเธอนะ สาบาน!! เพราะผมมีคนของผมอยู่ในใจแล้ว

เสียงสัญญาณโทรศัพท์ดังขึ้นจริงๆ เป็นจังหวะดนตรีที่ไม่มีในฟังก์ชั่นการกำหนดเสียงในเครื่องโทรฯของผม และไม่ใช่ทำนองที่มีบนพื้นพิภพนี้ ผมตะลีตะลานไปรับด้วยความดีใจ

“ในเอกภพซึ่งประกอบไปด้วยกาแล็กซี่นับแสนล้าน แต่ละกาแล็กซี่ประกอบด้วยสุริยจักรวาลนับไม่หวาดไม่ไหว ฉันอยู่บนโลกในสุริยจักรวาลที่ 19,996 ของกาแล็กซี่แอนโดรเมด้า (andromeda) ที่คุณมองเห็นจากกล้องดูดาว และเรียกกาแล็กซี่ของเราด้วยชื่อนั้น”

“แล้วคุณเรียกกาแล็กซี่ที่ผมอยู่ว่าอะไร” คราวนี้ถามโดยไม่สนใจชื่อกาแล็กซี่ซึ่งโลกเราอาศัยอยู่ตามที่นักวิทยาศาสตร์ตั้ง ผมอยากรู้ชื่อที่เธอเรียกขานมากกว่า

“ก็ทางช้างเผือกนั่นแหละ” หัวเราะตามเบาๆ

ผมอยู่บนโลกในระบบสุริยะที่มีดาวเคราะห์เป็นบริวารเก้าดวง ของกาแล็กซี่หรือดาราจักรที่มีชื่อว่าทางช้างเผือก (milky way) โดยผมเองก็ไม่รู้ว่าดาราจักรนี้ ประกอบไปด้วยกี่สิบล้านสุริยจักรวาล

“แล้วเราจะคุยกันอีก”

“อย่าเพิ่งวางซิ” รีบพูดอย่างเสียดาย เธอจะเป็นใครผมไม่ทราบ จะแกล้งอำหรือเป็นบ้าผมไม่สน แค่ขอรู้รายละเอียดที่เธอรู้ให้มากที่สุด ถ้าไม่ใช่ของจริง คงเล่นตลกไม่ได้นาน ผมจะโกรธหรือเพลินไปกับเธอดี เพราะในที่สุด ความหวังที่ผมคิดว่าจะสามารถใช้โทรจิตไปถึงใครที่อยู่ต่างมิติ ก็เป็นจริง แต่เป็นการโทรศัพท์แทน!! โทรฯข้ามกาแล็กซี่ เหลือเชื่อ!!!

ในชีวิตของผม เคยหวังว่าอาจจะโชคดีได้เจอผีหรือเรื่องวิญญาณต่างมิติกับเขาบ้าง แต่ไม่นึกฝันจะได้มาเจอเรื่องมหัศจรรย์พันลึกยิ่งกว่า การพูดกับใครข้ามกาแล็กซี่มันเป็นเรื่องเสียสติเกินไป แค่มนุษย์ต่างดาวในสุริยะเดียวกัน หรือต่างสุริยะในกาแล็กซี่เดียวกัน ก็เป็นเรื่องน่าตะลึงพรึงเพริดเหลือจะกล่าว มนุษย์ต่างดาวหน้าตาแปลกๆ ผู้เพียรเข้ามาช่วยโลกให้พ้นบ่วงความหายนะ โดยพยายามติดต่อชาวโลกให้ยุติการทำลายล้างธรรมชาติอย่างบ้าคลั่ง จนเสียสมดุลทางธรรมชาติ อาจเป็นผลเสียต่อโลกจนเกิดภัยพิบัติต่างๆ และอาจกระทบไปถึงสุริยจักรวาล หรืออาจกว้างไปถึงกาแล็กซี่ โอ.. ช่างเป็นพฤติกรรมน่าขายหน้าเสียจริง แล้วเธอคนนั้นจะมีหน้าตาแปลกๆ เหมือนมนุษย์ต่างดาวซึ่งปรากฏอยู่ตามหน้าข่าวหรือเปล่า ผมกลับมาเป็นกังวลเรื่องรูปพรรณสัณฐาน แต่คิดอีกด้าน มนุษย์เราต่างหากที่มีหน้าตาแปลกประหลาด จนชาวต่างดาวอาจต้องทำใจ

ดาราจักรทางช้างเผือก ที่โลกเป็นเพียงดาวบริวารเล็กๆ ในสุริยะเล็กๆ ระบบหนึ่ง มีรูปร่างแบบกังหันหรือวงก้นหอย งดงามน่าดูชมทีเดียว ไม่รู้ว่าเธอคนนั้น จะอยู่บนโลกในสุริยจักรวาลคล้ายกับโลกที่ผมอาศัยอยู่หรือไม่หนอ เราอยู่ห่างกันกี่สิบกี่ร้อยกี่ล้านปีแสงกัน

อากาศตอนดึกเริ่มเย็น ผมงีบหลับไปหนึ่งตื่น ก่อนลุกขึ้นมาจัดการกับสัมภาระที่เอาไปใช้ระหว่างเดินทางขึ้นภูให้เป็นระเบียบ ออกมานั่งบนระเบียงชั้นสองของบ้าน ไม่ลืมหยิบมือถือติดตัวมาด้วย ฟ้าไม่กระจ่างเท่าบนยอดดอยแต่คืนนี้เหมือนไม่ด้อยกว่าเท่าไร บรรยากาศท้องฟ้าเวิ้ง ดวงดาราร่ายรำ ลำนำแห่งความคิดถึงใครบางคน มักจะขานขับขึ้นในใจของคนเดียวดายอ้างว้างเสมอ เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น หัวใจเต้นโครมครามราวจะหลุดออกนอกตัว เหมือนตื่นเต้นกว่าการรับสายสองครั้งแรกจากเธอเสียอีก

“คุณอยากรู้ว่า ทำไมฉันสามารถสื่อถึงคุณได้ในเวลาอันรวดเร็ว ราวอยู่โลกเดียวกัน”

“คุณรู้”

“คลื่นเสียงของฉัน เร็วกว่าคลื่นแสง หลายสิบเท่า”

“แล้วเสียงของผม เดินทางไปถึงคุณ ใช้เวลานานเท่าไหร่”

“นานมาก ถ้าฉันมีหูแบบมนุษย์โลก กว่าฉันจะได้ยินเสียงคุณ คุณคงตายไปเสียก่อน จนไม่หลงเหลือซากแล้ว”

ผมหัวเราะ เธอคงหมายความว่า กว่าเสียงของผมจะเดินทางไปถึงเธอ ซึ่งอยู่ห่างเป็นนิรันดร์ คงใช้เวลานานนับล้านปี และถ้าเธอมีหูแบบมนุษย์จริง ต่อให้ผมตะโกนจนเสียงแตก เธอคงไม่มีวันได้ยินอยู่ดี เสียงของมนุษย์ ที่มนุษย์ด้วยกันเองกลับไม่ได้ยิน แต่นรกสวรรค์ไม่เคยพลาด หรือบางที เธอก็อาจได้ยินเช่นกัน

“คุณหน้าตาเหมือนผมไหม?” หลุดความกังวลออกไปจนได้

“คล้ายๆ นะ แม่บอกว่า มีโลกๆ หนึ่ง มนุษย์ที่อาศัยบนโลกนั้น มีรูปร่างหน้าตาคล้ายกับชาวเรา พวกนั้นอาศัยอยู่ในกาแล็กซี่ทางช้างเผือก”

“คุณหมายถึง พวกผม”

“คงงั้น!! ฉันเห็นกาแล็กซี่ของคุณเหมือนกัน”

“คุณเห็นผมด้วยหรือเปล่า?” ถามร้อนรน

“สัมผัสถึง เราเคยเจอกัน ฉันจะไปเยี่ยมคุณถึงบ้าน วันพรุ่งนี้ ตามเวลาโลกคุณ..”

“ฮ้า!! คุณรู้เรื่องประตูเชื่อมมิติ สตาร์เกท ด้วยหรือ?” ลอบตื่นตกใจระคนยินดี เธอจะมาหาผมได้อย่างไรถ้าไม่ใช้วิธีก้าวข้ามเวลา ไม่งั้นผมคงต้องรอเธอจนตายไปอีกหลายสิบชาติ

“รู้ซิ พรุ่งนี้เช้านะ”

“พรุ่งนี้เช้า!!”

ทางออกในยามดึกดื่น เพื่อระงับอาการกระวนกระวายนอนไม่หลับ คือค่อยๆ จัดบ้านให้เป็นระเบียบเรียบร้อย ผมคงนอนไม่หลับไปทั้งคืน หากระดาษเปล่ากองโตมาเตรียมไว้บนโต๊ะ เพราะคงมีเรื่องมากมายจะบันทึกเอาไว้เล่าให้ชาวโลกฟังหลังคุยกับเธอ เตรียมกล้องถ่ายรูป และวางแผนจะไปเยี่ยมชมโลกของเธอบ้าง น่าจะมีเรื่องจากโลกทางโน้นมาเล่าให้โลกทางนี้ฟังไม่น้อย ชีวิตอันว่างเปล่าของผมขณะนี้ ดูเหมือนกำลังจะสับสนวุ่นวายไปหมด

เสียงเคาะประตูแต่เช้า ผมอ่อนแรงจากการอดนอน ทว่าเต็มไปด้วยความปิติยินดี แต่ครั้นพอเปิดประตูออกไป กลับพบนิลนาถ เพื่อนมหาวิทยาลัยที่เรียนจบไปเมื่อสองปีก่อน

“ไงสิงห์” นิลถามตาใสแจ๋ว เธอชอบผม เพื่อนๆ ทุกคนรู้กันดี

“มาได้ไง” เครื่องหมายคำถาม ลอยอยู่เต็มใบหน้า จู่ๆ ก็มือเท้าเย็น รู้สึกใจเต้นไม่เป็นส่ำ ผมแอบชอบเธอเข้าเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ กว่าจะรู้ตัว เธอก็หายไปจากชีวิตแล้ว

“ก็บอกว่าจะมาหา”

“บอกตอนไหน?”

“บอกเมื่อคืนไง”

นึกย้อนไปสมัยหลังเรียนจบ พอจำได้ลางๆ นิลนาถเคยบอกต้องรีบกลับบ้านก่อนเพราะทางบ้านคงคิดถึงมาก นั่นเป็นเหตุผลจริงๆ หรือเปล่าไม่ทราบ ทิ้งคำสัญญาเลื่อนลอยอาจจะติดต่อหาผมอีก!! ..กว่าจะรู้ว่าตัวเองใจหาย เธอก็หายตัวไปแล้วเสียหลายวัน หายไปชนิดสืบค้นไม่ได้ และนั่นสอนให้ผมเข้าใจความหมายลึกๆ ของความอบอุ่นและการพึ่งพิงคนที่ไว้วางใจ รู้ซึ้งถึงการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ ผมรู้จักเธอเมื่อเข้าเรียนมหาวิทยาลัยด้วยกัน คงจะนึกชอบเธอบ้าง ถ้าตอนนั้นไม่ไปหลงรักสาวอักษรอยู่ นิลนาถผู้เอาแต่เล่าเรื่องดาราจักรแอนโดรเมดาอันสวยงามไม่แพ้ทางช้างเผือก เรื่องราวเพ้อเจ้อที่ไม่เคยทะลุเข้าหูลอดสู่สมองผมได้ ส่วนเธอ ไม่รู้จะเบื่อฟังเรื่องของนิสิตสาวคนนั้นจากปากของผมบ้างหรือเปล่า แน่นอน มันเป็นช่วงเวลาซึ่งผมไม่เคยสนใจเรื่องใดอื่นนอกจากแม่สาวอักษรคนสวยของผม แต่ไม่ใช่ตอนนี้แล้วแน่ๆ

คุณล่ะ เคยสังเกตคนใกล้ตัวคุณเองบ้างไหม ใครสำคัญบางคนของคุณ อาจเดินทางมาจากที่ที่ไกลโพ้นเพื่อมาหาคุณโดยเฉพาะ กว่าคุณจะรับรู้ เธออาจท้อจนกลับคืนสู่สถานที่ที่คุณไม่สามารถติดตามได้ อย่ารู้ตัวเมื่อสายเกิน อย่าปล่อยคนที่สวรรค์ส่งมาให้คุณหลุดมือไป เพราะอาจทำให้คุณต้องเสียใจไปจนวันตาย

“เอาของมาฝากเต็มเลย แม่ทำมาให้ ลองชิมดูไหม?” นิลกล่าวยิ้มๆ ส่วนผมหิวมากและยังพูดอะไรไม่ออก ต้องขอเวลาปรับตัวสักนิด คงไม่ว่ากันนะ..



Create Date : 22 พฤษภาคม 2549
Last Update : 8 สิงหาคม 2549 15:20:23 น. 2 comments
Counter : 486 Pageviews.

 
hfgh


โดย: gdtug IP: 203.172.202.243 วันที่: 18 มกราคม 2551 เวลา:12:03:55 น.  

 
ก้อโอเคอ่ะนะ คาวหน้าจะเข้ามาอ่านอีก


โดย: นริศ IP: 125.24.190.50 วันที่: 26 มกราคม 2551 เวลา:16:15:45 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

suparatta
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




..วัชรปรัชญาปารมิตาสูตร..
..ท่านนาคารชุนะ..
วิภาษวิธี..เกริ่นนำ..ตอนจบ..

๐ สมุดเยี่ยมและบ่นได้..
**ทางลัด**
๐ สารบัญทักทาย(ทั้งหมด)
๐ ชวนคุย&ฟังเพลงปี48(ทั้งหมด)
๐ นอนดูจันทร์..(ส่วนตัว)

**log in หน่อยน่า..



Google.co.th
Friends' blogs
[Add suparatta's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.