Group Blog
All Blog
|
ว่าด้วยเรื่อง โยโย่ เอฟเฟค YOYO Effect ลอง Serch คำว่า โยโย่เอฟเฟค ใน Google ดูนะคะ พบว่ากว่า 80% เป็นเวปไซต์ขายยาลดความอ้วน หรือ อาหารเสริมเพื่อควบคุมน้ำหนัก ในฐานะที่เราแอบสิงอยู่ในห้องนี้มานานพอควร เห็นกระทู้เกี่ยวกับการลดความอ้วนอยู่บ่อยครั้ง ตัวเองก็ใช่ว่าจะผอม ถือว่าจัดอยู่ในพวกอวบระยะสุดท้าย หลายปีที่พยายามลดน้ำหนัก ควบคุมมัน มันก็ประสบผลสำเร็จอยู่ในระยะเวลาสั้นๆ แต่โชคดีที่ ไม่เคยเกิดอาการที่เค้าเรียกกันว่าโยโย่เลยสักครั้ง เอาล่ะค่ะ ตอนนี้จะขอทำความเข้าใจกับสาวๆแสนสวยให้ห้องนี้กันหน่อยนะคะ ว่าอะไรคือโยโย่ เอฟเฟค เพราะหลายครั้งที่เจอกับหลายกระทู้ที่คิดว่า ไอ้การที่จะเกิดโยโย่เนี่ย ต้องเกิดจากการที่เราทานยาลดความอ้วนเท่านั้น การเกิดโยโย่เอฟเฟคนั้นสามารถเกิดกับการที่เราพยายามควบคุมอาหาร เปลี่ยนชนิดอาหารได้ด้วยนะคะ ไม่ได้เกิดจากการทานยาลดความอ้วนได้เพียงอย่างเดียว อันที่จริงแล้วมันคือสมดุลของร่างกายนั่นเอง ร่างกายของคนเรามีความสลับซับซ้อนมากกว่า คอมพิวเตอร์เครื่องนึงซะอีก ระบบการทำงานสามารถสั่งได้ด้วยกิจวัตรประจำวัน สมดุลเคมี ฮอร์โมนจาก ต่อมไร้ท่อ ระบบประสาทส่วนกลาง และอื่นๆอีกมากมาย ^_^ ร่างกายคนเราอาศัยความเคยชินกับปริมาณอาหารและปริมาณแคลลอรี่ ที่ได้รับในแต่ละวัน รวมทั้งกิจกรรมที่เกิดขึ้นกับตัวเราเองในแต่ละวัน กำหนดขนาดการเมตาบอลิซึ่ม (การเผาผลาญพลังงานนั่นเอง) ซึ่งจะต้องทำงานควบคุมกับการผลิตฮอร์โมนบางตัวจากต่อมไร้ท่ออย่าง ไทรอยด์ฮอร์โมน เพื่อควบคุมการเผาผลาญพลังงาน ความสมดุลของการกิน การใช้พลังงานและระดับไทรอยด์ฮอร์โมนในคนปกติจะแตกต่างจากผู้ป่วยไทรอยด์เป็นพิษ (มีสองแบบนะคะ คือทำงานมากไปกับน้อยไป ถ้ามากไปจะกระตุ้นให้เมตาบอลิซึ่มมากเกินไป จะผอม ใจสั่น เหนื่อยง่าย ถ้าน้อยไปจะอ้วนง่าย เฉื่อยชา หนาวง่าย เพราะเมตาบอลิซึ่มน้อยเกินไป) การลดน้ำหนักโดนการลดปริมาณอาหารที่ทาน หรือเปลี่ยนชนิดอาหาร เพื่อควบคุมแคลลอรี่ที่ได้รับให้แต่ละวัน เป็นวิธีที่นิยมและน่าจะไม่เป็นอันตราย อย่างสูตร สามวันเจ็ดวันที่เห็นๆกันอยู่ มันก็เป็นวิธีที่ดีและถูกต้อง เช่น ปกติเราใช้พลังงานวันละ 800-1200 kcal ถ้าเราทานอาหารวันละ 400 kcal เราก็จะสามารถดึงเราของเก่าที่สะสมใน ร่างกายเราออกมาใช้ได้วันละ 400-600 kcal แต่..... เมื่อเราลดปริมาณอาหารลงอย่างรวดเร็วอย่างนี้ติดต่อกันสักสามวัน ร่างกายจะรับรู้ไปว่า ช้าน...กำลังจะอดตาย ช่วยด้วยยยยยยยย จะลดการเผา ผลาญพลังงานลง จากวันละ 800-1200 kcal เป็น 400-600 kcal เพื่อกักเก็บไอ้ที่เราสะสมไว้ให้มากที่สุด แหม...ก็กำลังจะอดตายนี่นา ช่าย...แล้ว น้ำหนักก็จะลดลงในระยะแรกเร็วมากๆๆๆ อาทิตย์แรก 3 กิโล อาทิตย์ที่สอง 3 กิโล อาทิตย์ที่สาม 2 กิโล อาทิตย์ที่สี่ 1 กิโล อาทิตย์ที่ 5 โอ้วววววว...ทำไมมันไม่ลงซักขีดฟร่ะ.... ฮ่วยยย เลิกๆๆๆๆๆ พอแระ 9 กิโลก็พอแระ กลับมากินอย่างเดิม อาหารแบบเดิม ยัดเข้าไปวันละ 1200 kcal เหมือนเดิม อ้าววว ก็พอดีไง ใช้วันละเท่านี้ก็กินเท่านี้ไง จริงมะ แต่........ ร่างกายที่กำลังจะอดตายของเรากลับยังเผาผลาญวันละ 400 kcal เท่านั้นเอง....หมายความว่าเราเหลือวันละ 800 kcal ที่เปลี่ยนเป็นไขมันไป กักเก็บตามส่วนต่างๆเหมือนเดิม จากที่ลดไป 9 กิโล ก็สามารถกลับมาเพิ่มอีก 15 กิโลได้อย่างง่ายดาย โอ้ววว...แม่เจ้า ชั้นอ้วนกว่าตอนก่อนลดน้ำหนักอีกเหรอเนี่ย...... Y_Y ยินดีต้อนรับเข้าสู่วังวนของ YOYO LAND ค่ะ ^_^ วิธีการลดน้ำหนักที่ได้ผลระยะยาวคือการควบคุมอาหารอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับออกกำลังกายค่ะ เพื่อคงระดับการเมตาบอลิซึ่มให้พอดี กับอาหารที่ทาน และกิจกรรมที่ทำ อย่างสูตรต่างๆสามวันบ้าง เจ็ดวันบ้าง สิบห้าวันบ้าง เนี่ย.... ไม่ใช่ไม่ดีนะคะ ทำได้ค่ะ แถมลดเร็วด้วยเป้นกำลังใจให้คนลดความอ้วน อย่างมากเลยค่ะ แต่หลังจากสูตรนั้นแล้วก็ขอให้ยังคงควบคุมปริมาณ อาหารอย่างต่อเนื่องค่ะ เพื่อให้ร่างกายชินกับปริมาณอาหารที่ได้รับ จนไม่เกิดอาการคิดว่าจะอดตายแล้ว จึงค่อยๆปรับมากินเท่าคนปกติค่ะ แต่จะให้ดีนี่ต้องเปลี่ยนอุปนิสัยในการกินเลยค่ะ เพราะถ้าลดได้ 10 กิโล แต่ยังกลับมาทานขาหมู พิซซ่าขอบชีส จังก์ฟู๊ดต่างๆ มันก็ไม่มีประโยชน์ค่ะ เราเคยลดได้ 10 กิโลภายในระยะเวลา 1 เดือน และสามารถคงน้ำหนักไว้ได้ ประมาณ 2 ปี....แต่ด้วยนิสัยการกิน การนอนที่แสนจะแย่ ก็ทำให้มันกลับมา เท่าเดิมภายในปีเดียว ตอนนี้ที่ทำได้คือ พยายามไม่ให้มันมากไปกว่านี้ค่ะ ยังไม่สามารถรวบรวมกำลังใจพอที่จะทำแบบเดิมอีกครั้งได้ หุหุหุ ข้อความเหล่านี้เป็นเพียงข้อมูลและความคิดของ จขบ. เองนะคะ อยากให้เพื่อนสาวแสนสวย มาแลกเปลี่ยนความคิดและความรู้กันบ้างค่ะ อย่าคิดว่าสิ่งที่เราบอกเนี่ยถูกต้อง 100% นะคะ อาจจะมีผิดบ้าง ยังไงก็ช่วยกันมาบอกข้อมูลกันบ้างนะคะ เผื่อจะมีกำลังใจลดน้ำหนักอีกครั้ง อีกอย่างที่ห้ามลืม...คือ ระดับการเมตาบอลิซึ่มเนี่ย ยิ่งอายุมากก็จะยิ่งน้อยลงนะคะ 5555
เปล่าหรอกค่ะพี่เตย....น้ำตาลเขียนไว้นานแล้วล่ะ แต่กลัวมันจะหายไป เลยเอามาลงบล็อคไว้ซะหน่อย...... ที่กินไปเมื่อวานของน้ำตาลก็ยังอยู่ค่ะ...อิอิอิ อ้อ...ลองแต่งตาสีเสน่หาแล้ว...อยากดูไหม เดี๋ยวส่งให้ดู โดย: bemynails วันที่: 7 กันยายน 2552 เวลา:23:56:51 น.
เคยได้ยินแฟนเล่าแบบนี้เหมือนกัน
เพราะเค้าก็โยโย่ - -* เดือนนึงลดมาเกือบ 10 โล แต่ตอนนี้ยังไม่ลงเลย 55+ โดย: That's m3 วันที่: 8 กันยายน 2552 เวลา:11:31:54 น.
ตามมาดู เพราะพี่เคยโยโย่มาแล้ว...ขึ้นมาเกือ 10 โล
ตอนหลัง ๆเลยลดแบบค่อยเป็นค่อยไป ก็ลงมาเรื่อย ๆคะ โดย: nakawin วันที่: 8 กันยายน 2552 เวลา:13:51:51 น.
โยโย่เนี่ยยังไม่เคยนะ พุงโย้นี่เหมือนกันหรือเปล่าล่ะ
อยากจะลดหุ่นอยู่เหมือนกัน แต่ก็กลัวเรื่องนี้แหละ เลยไม่กล้าใช้ยา เลือกกินเอาดีกว่า (ข้าวมันไก่, ข้าวขาหมู ต่อด้วยสเว่นเซนท์อีกสักถ้วยก็ดีนะ) สำคัญที่สุดคือ "ออกกำลังกาย" ไม่ค่อยได้ทำนะสิ แล้วเมื่อไหร่จะลดกันล่ะเนี่ย....กรรม โดย: wannee2w วันที่: 9 กันยายน 2552 เวลา:5:45:55 น.
|
bemynails
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 69 คน [?] ผู้หญิงธรรมดาที่ชอบช๊อปปิ้ง แต่งหน้า เพื่อความสุขเล็กน้อยๆของตัวเอง ในโลกการทำงานที่ผู้ชายเป็นใหญ่ งานออกแบบเป็นชีวิต....ก็ขอออกแบบชีวิตประจำวันด้วยสีสันบ้าง.... เพราะผู้หญิงก็ยังเป็นผู้หญิงวันยังค่ำ.... ^_^ ไม่อนุญาตให้ใช้ข้อมูลหรือชื่อ bemynails ในการนำไปอ้างอิงเพื่อขายสินค้าใดๆค่ะ bemynails Friends Blog
Link |
น้ำตาลเขียนบล๊อกนี้ให้พี่เตยโดยเฉพาะรึป่าวเนี่ย
ที่ไปกินกันเมื่อวานตอนเย็น ยังอยู่กับพี่จนถึงตอนนี้เลยอ่ะ กินเข้าไปเยอะมากๆ