" ... เมื่อซักสองวันก่อน เรามีประชุมกับอจ.จากต่างคณะ ที่ก็ไปขอใช้อุปกรณ์บางตัวของเค้าอยู่เป็นประจำ วันนั้นมีประชุมกันสามคน ก็มีเรา มีอจ.เราเเล้วก็อจ.จากต่างคณะคนที่กำลังจะพูดถึง การประชุมในวันนั้นใช้เวลาไม่นาน เพราะอจ.เราติดประชุมอยู่อีกตึก รวม ๆ เเล้วก็ประมาณครึ่งชม เเล้วก็ไม่ไดคุยเรื่องงานเรา เพราะฉะนั้นก็ผ่านไปได้อย่างสะดวกโยธิน ไม่มีใครในนั้นได้รับบาดเจ็บกลับมาเเต่อย่างใด ... "" ... ไหน ๆ มันก็ไม่มีอะไรจะอัพ วันนี้ก็จะเล่าเรื่องของเรากับอจ.ต่างคณะคนนี้ให้ฟัง อจ.ต่างคณะคนนี้เเกเป็นคนใจดี เเกเพิ่งเข้ามาสอนที่นี่ได้ประมาณสองปีเอง เท่าที่สังเกตจากบุคลิกเเละใบหน้า เราประมาณอายุของเเกไว้ที่ไม่เกินสี่สิบ ซึ่งถ้ามองในเเง่ที่ว่า เเกเป็นอจ.คนนึง ก็ถือว่ายังไปได้อีกไกลในอาชีพการงาน เเกดูเป็นคนหนุ่มที่มีอนาคต เรากับเเกรู้จักกันอย่างบังเอิญมาก ๆ มาเดี๋ยวเราเล่าให้ฟัง ... "" ... ก็ไม่มีไรมาก บ่ายวันนึงประมาณสามสี่เดือนที่เเล้ว เราไปยืนเตร่ ๆ อยู่เเถวหน้าคณะเเก ตรงบริเวณจุดสูบบุหรี่ ต้องบอกก่อนว่า ตึกคณะเรากับคณะเเกอยู่ไม่ไกลกันมาก เเล้วอีกอย่างโรงอาหารของมหาลัย ก็อยุ่ไม่ไกลจากตึกคณะเเก พวกเด็กนักเรียนส่วนใหญ่ พอกินข้าวกันเสร็จก็มักจะเดินมาสูบบุหรี่ตรงจุดสูบบุหรี่เเถวหน้าคณะเเกนี่เเหละ วันนั้นเราก็เป็นคนนึงที่เดินไปกินข้าวเเถวนั้น เรายืนอยู่ซักพัก เราก็มีคนเข้ามาคุยกับเรา ทำนองว่าจะเข้ามาขอบุหรี่ เรามองหน้าเเก เเล้วก็มองที่มือเเก เราสังเกตเห็นว่าที่มือเเกก็มีบุหรี่อยู่มวนนึงที่จุดสูบไว้เเล้ว เราเห็นเเบบนั้น ก็เลยสงสัยเเล้วถามกลับไป เเกตอบกลับมาว่า เเกเพิ่งขับรถไปซื้อมาจากปั๊มน้ำมันเมื่อกี้ นัยว่าจะลองยี่ห้อใหม่ ปรากฎว่าได้มาเเล้วไม่ถูกใจ เเล้วเเกก็ไม่มีเวลาออกไปซื้ออีก เพราะกำลังจะต้องเข้าประชุมในอีกห้านาที ไต่ถามพอรู้ความ เราก็เลยควักของเราให้เเกไปมวนนึง ระหว่างนั้นเราสองคนก็เเนะนำตัวกันตามระเบียบ พอเรารู้ว่าเเกอยู่ในสายการเเพทย์ เราเลยเล่าให้เเกฟังว่า ตอนนี้เรากำลังมองหากล้องจุลทรรศน์เเบบใช้เลเซอร์อยู่ เราจะเอามาส่องดูเเบคทีเรียของเรา เราบอกเเกไปว่าเราหากล้องเเบบเนี้ยมาหลายอาทิตย์เเล้ว เเต่ยังหาไม่ได้ซักที เเละ เราวางเเผนไว้ว่า ถ้าพ้นอาทิตย์นี้ เเล้วเรายังหาไม่ได้ เราก็คงจะต้องไปขอใช้ที่อีกมหาลัยนึงในเมืองใกล้ ๆ กัน ที่ก็จะต้องเสียค่าใช้จ่ายค่อนข้างเเพง ดูรวม ๆ เเล้วก็ไม่ง่าย เราพูดซะยืดยาว พอเเกได้ยินเราพูดจบเท่านั้น เเกก็บอกว่าที่คณะเเกเพิ่งได้ไอ่เเบบเนี้ยมาตัวนึง เเล้วถ้าเราอยากใช้เเกก็ยินดีจะช่วยเหลือ เเกบอกว่าเเกจะไม่มาคิดค่าใช้จ่ายอะไรกับเราหรอก (เจ้าอุปกรณ์เเบบนี้ บ้านเราก็มีให้ใช้เหมือนกัน เเต่เสียค่าใช้จ่ายค่อนข้างเเพง ประมาณชั่วโมงละพันกว่าบาทได้ เเพงเน๊อะ) พอได้ยินเเบบนั้นเราก็ดีใจ ที่อย่างน้อย งานเราก็ไม่ต้องหยุดชะงักไปนานนัก หลังจากนั้นมา เราก็ขอเข้าไปใช้อุปกรณ์ของเเกที่ตึก เเละได้เจอเเกอยู่บ่อยครั้ง จากที่ได้คุยมา เรารู้สึกว่าเเกเป็นอจ.ที่ขยันเเละเอาจริงเอาจังกับงานมากคนนึง อันนี้ต้องยอมรับว่าไม่เเพ้อจ.เรา เเต่ที่จะต่างกันนิดนึงก็ตรงที่ บุคลิกของอจ.ต่างคณะคนนี้ดูผ่อนคลายมากกว่าอจ.เราเยอะ เรามักสังเกตเห็นว่า พวกนักเรียนที่ทำงานกับเเก จะชอบเข้าไปทักทาย คุยเล่น คุยโน่นคุยนี่ บางทีก็ชวนเเกออกมานั่งกินข้าว กินกาเเฟด้วยกันอยู่บ่อย ๆ ... " " ... กลับมาที่เรื่องประชุมต่อ ก็เป็นเพราะว่าอจ.เรากับอจ.คนนี้ยังไม่เคยรู้จักกันอย่างเป็นทางการมาก่อน เราเห็นโอกาสเหมาะ เราเลยนัดให้เเกสองคนมาเจอกัน ระหว่างที่อจ.ทั้งสองคนคุยกัน เรารู้สึกว่า อจ.ต่างคณะคนนี้ดูเด็กไปเลยเมื่อเทียบกับอจ.ของเรา จะว่าไปก็คงด้วยวัยเเละประสบการณ์ในการทำงาน ที่ห่างกันเกือบสิบปี ในระหว่างการพุดคุย มีอยู่ตอนนึงที่อจ.ต่างคณะคนนี้พูดถึงเกี่ยวกับงานวิจัยในสมัยเรียนของเเก เเกบอกว่า งานวิจัยบางงาน อย่างเช่นงานที่เเกเคยทำ หรืองานวิจัยประเภทที่อาจจะมองเห็นปลายทางหรือจุดสิ้นสุดของงานได้ยาก เเกบอกว่า ถ้านักเรียนที่ทำงานวิจัยอันนั้นไม่อุทิศตัวเองให้กับงานเพียงพอ นักเรียนคนนั้นจะไม่มีทางเห็นผลสำเร็จของงาน เเกบอกว่างานวิจัยประเภทนี้จะมีผลกระทบค่อนข้างสูงต่อการใช้ชีวิตในเเต่ละวันของนักเรียน เเกบอกอีกว่า เนความคิดของเเก เเกคิดว่าเป็นการสิ้นเปลืองโดยเปล่าประโยชน์ที่มหาลัยมีเครื่องมืออุปกรณ์มากมายให้นักเรียนได้ใช้ เเต่นักเรียนทั่วไปมักมองไม่เห็นคุณค่าของอุปกรณ์ในเเต่ละชิ้นที่มี เเละไม่ยอมอุทิศตัวเองเพื่อการทำงานวิจัยนั้น ๆ อย่างเพียงพอ ผลคือมหาลัยก็มักจะได้ผลงานที่เป็นงานวิจัยคุณภาพต่ำถึงปานกลางเป็นจำนวนมาก งบวิจัย เเละเวลาในเเต่ละวัน ที่ต้องเสียไป เทียบกับคุณภาพงานที่ได้รับกลับมา มันเเทบจะเทียบไม่ได้เลยกับราคาค่าอุปกรณ์เเพง ๆ เหล่านั้นที่มหาลัยเค้าได้ลงทุนไว้เเล้วล่วงหน้า ... "