"... grab your coat and snatch your hat, leave your worries on the doorstep, just direct your feet to the sunny side of the street ..."
blog เเรก
blog เพลง เพลง เพลง
blog ก่อนนอน
blog หนังที่ฉันรัก
in the mood
blog เพลงไทยเก่า ๆ
<<
พฤศจิกายน 2551
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
4 พฤศจิกายน 2551
::: เรื่องตอนเด็ก ๆ :::
::: TAG โทรศัพท์มือถือ (รับจาก Prunelle La Belle Femme) :::
::: In My Life :: HBD Discipula :::
::: Tag คู่มือทำความเข้าใจตัวเอง ::: (รับจาก prunelle la belle femme)
::: บันทึกวันอาทิตย์ :::
::: Where did my baby go :: John Legend :::
::: Puff :: The Magic Dragon :::
::: Live High :: Jason Mraz :::
::: เพลงทอม โจนส์ + บันทึก :::
::: Playground Love :: Air :::
::: You & Me :::
::: บันทึกไร้สาระ :::
::: ปีใหม่ :::
::: pizzicato five & เรื่องราวเรื่อยเปื่อย :::
::: ปรับตัว :::
::: Tag ที่สุด :::
::: บ้าน :::
::: This song :::
::: when i see u smile :::
::: เรื่องตอนเด็ก ๆ :::
::: ขาหมู :::
::: deserves a quite night :::
::: เกาะในฝัน :::
::: เพลงโปรดของนายฝรั่ง :::
::: ลำธาร ของ มาโนช พุฒตาล/ภาพยนตร์ the mission :::
::: ไตรรงค์ :::
::: งาน :::
" autumn leaves "
::: เรื่องตอนเด็ก ๆ :::
" ... Goodbye Bangkok, I'm Going Home ... "
photo :: Vadhana (flickr.com)
:: เรื่องตอนเด็ก ๆ ::
" ... เราเรียนโรงเรียนชายล้วนมาตลอด สมัยมอต้น เราเป็นเด็กผู้ชายที่จะว่าไป ไม่ค่อยจะมีทักษะอะไรเหมือนเพื่อน ๆ เราเตะบอลไม่เก่ง เล่นบาสไม่เป็น เรียนก็งั้น ๆ วาดรูปไม่ต้องพูดถึง เเค่เราหยิบดินสอ เรายังทำมันหักคามือเราได้ นับประสาอะไรกับเรื่องขีด ๆ เขียน ๆ เราเคยเขียนไว้ เราเป็นคนมือโต เเล้วก็ชอบเขียนหนังสือกด บางทีจนมันทะลุ เป็นรูมาถึงอีกหน้านึงเเน่ะ ... "
" ... คงเพราะเเบบนี้ เราเลยเป็นคนติดวิทยุ ดูเเต่หนัง บ้าเพลงร๊อค ชอบ led zeppelin deep purple black sabbath เเต่ก็ยังคลั่ง beatles โรงเรียนเราเรียนเเบบครึ่งวัน เช้าสามวัน บ่ายสามวัน ช่วงว่างถ้าไม่อยู่ตามร้านเทปหรือโรงหนัง เราก็จะไปขลุกอยู่บ้านเพื่อน ที่ชอบฟังอะไรเเนว ๆ นี้ เพื่อนบางคน พ่อเเม่เค้าจะเก็บเเผ่นเสียงเพลงพวกนี้ไว้เยอะ การไปนอนเล่นบ้านเพื่อน จึงเป็นกิจกรรมยามว่างของเรา หนังสือเรียนไม่ค่อยอ่าน อ่านเเต่ 'บันเทิงคดี' ของคุณมาโนช โชคดีที่มีบุญเก่า ทำให้ผลการเรียนเราไม่เเย่จนเกินไป ... "
" ... สมัยเด็ก ๆ พวกคุณคงคล้ายกันกับเรา เราเดานะ เป็นมั้ย ชอบบ้าอะไรเป็นพัก ๆ ไม่ได้บ้าเเล้วทำจริง เเต่บ้าตามเเฟชั่น เรากับพวกเพื่อนเราเคยเป็น ช่วงนึงที่หนังตระกูล 'กลิ่นสี ฯ' กำลังดัง เรากับพวกเพื่อนเรา ก็เอากับเค้าด้วย เเต่ละคน ดูมีความมุ่งมั่น ที่จะเป็นศิลปินกันมาก พวกเรานั่งคิดกัน ถึงหนทางเเห่งการเป็นศิลปิน (พวกเรา นี่หมายถึงไอ้คนที่เผอิญซวย ได้ไปดูหนังด้วยกันวันนั้น ก็ประมาณ ๗ - ๘ คน) ก็ไม่รู้เป็นความซวยที่ได้ไปดูหนัง หรือ ซวยที่บังเอิญมาเป็นเพื่อนกับมัน เพื่อนเราคนนี้ถึงขั้นฟังธง หนทางเเห่งการเป็นศิลปิน ต้องเริ่มจากพื้นฐานการวาดเส้น เเละ พื้นฐานการวาดเส้นโครงมนุษย์ที่ดี ต้องเริ่มจากการเข้าใจลักษณะของกล้ามเนื้อเเละสรีระอย่างถ่องเเท้ หลังจากนั้นไม่นาน เราเห็นเพื่อนเราบางคน (อย่าคิดว่าเราเอากับมันด้วยนะ เราไม่บ้าขนาดนั้นหรอก) ไปหาซื้อหนังสือ 'กายวิภาค' ฉบับภาษาไทย ของโอเดียนสโตร์ มานั่งอ่านเเบบเอาเป็นเอาตาย เเต่ก็ นั่นเเหละก็เเค่อาทิตย์สองอาทิตย์ เเล้วก็กลับไปเล่นอัดบอลกันเหมือนเดิม ... "
" ... พอขึ้นมอปลาย เราได้ย้ายโรงเรียน ตอนเข้า เค้ามีให้เลือกสาย เราชอบวิทย์อยู่เเล้ว เเต่ไม่อยากเรียนวิทย์-ช่าง หรือ วิทย์-คอม เเบบที่ผู้ใหญ่เค้าอยากให้เรียน คือ วิทย์เค้าก็จะเเยกไปอีกเป็น วิทย์-ช่าง วิทย์-ศิลปะ วิทย์-คอม วิทย์-เยอรมัน วิทย์-ญี่ปุ่น อะไรงี้ ใช่ป่ะ เเต่ เราอยากเรียนศิลปะ เลยเเอบเลือกวิทย์-ศิลปะ ไปอันดับเดียว (มันต้องมีเลือกอันดับด้วยคุณ มันจำกัดห้องไง) เเล้วไปบอกผู้ใหญ่ว่า เราเลือก วิทย์-ช่างไป เเต่มันเต็ม ^-^ เพราะจริง ๆ เราชอบศิลปะ มากกว่าคำนวน เเม้ว่าอย่างหลังเราจะทำได้ดีกว่า เเต่ก็ยังไม่หมดหวัง จะได้เรียนพวกถาปัด หรือ เดค กับเค้าบ้าง (ตอนนั้นสองคณะนี้ เค้าค่อนข้างฮิต) ... "
" ... จากนั้นเลยได้เรียนสมใจ ทั้งวาด ทั้งปั้น ทั้งกราฟฟิก เราชอบปั้นมากสุด นอกจากชอบปั้นเเล้ว เราก็ยังชอบดูพวกงานปั้น อะไรเเบบนั้นด้วย อืม มีเรื่องนึง นึกขึ้นได้เฉย มีครั้งนึง ในชั่วโมง drawing ครูให้วาดอะไรซักอย่าง เกี่ยวกับธรรมชาติ (มั้ง) พอเราวาดเสร็จ เอางานไปส่ง อจ.เเกกวาดตาอยู่สองวิ เเล้วให้คะเเนน เราได้มา ๑ เต็ม ๑๐ เราถามอจ.ว่าไมน้อย (เราเเอบเห็นเพื่อนเรา อุบาทว์สุด ๆ มันได้ ๖) เเกบอกว่า ไอ้ที่เราทำ เค้าไม่ได้เรียก drawing เค้าเรียกกราฟฟิก ก็เเปลกดี ตอนนั้นเราไม่เข้าใจที่เเกพูดหรอก ก็เเค่ไปวาดมาใหม่ เเต่ตอนนี้ เข้าใจเเละ ... "
" ... อยู่มอปลาย ถึงย้ายโรงเรียน ก็ไม่เปลี่ยนไปมากนัก เรายังขลุกอยู่กับพวกบ้าเพลง ตอนนั้นเรามีเเฟนเเล้ว เเฟนเราก็พอกัน บ้าหนังบ้าเพลงด้วยกันทั้งคู่ กีฬายังเป็นเรื่องไกลตัวเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน บอลเตะมันเเต่โกลหนู สนามใหญ่เราไม่สู้เลย เรารู้จักเพื่อนที่ชอบเพลงเเนวเดียวกันมากขึ้นกว่าตอนอยู่มอต้น ว่าง ๆ พวกเราเลยเข้าห้องซ้อม เปิดหนังสือเพลง เล่นมันไปเรื่อย เป็นวงดนตรีหัวเกรียน สมัยนั้น เหมือนที่บอกอ่ะ เราเป็นพวกทักษะต่ำ เราเล่นดนตรีไม่เป็น เเม้พยายามหัดกีตาร์มาหลายปี ถนัดที่สุดคือร้อง หน้าที่เราในห้องซ้อม คือเลือกเพลงเเล้วร้อง พอใกล้จบม.ปลาย เราก็เริ่มเบื่อเพลงฮาร์ดร๊อค ตอนนั้น เราเริ่มคลั่ง yes, rush, ELP เเละ pink floyd (นิดนึง วงนี้มีมือกีตาร์ชื่อ david gilmour เราคลั่งมือกีตาร์วงนี้มาก ตอนนั้นห้องนอนเรามีเเต่รูปของนักกีตาร์คนนี้ ที่สำคัญมันเกิดวันเดียวกับเรา ภูมิใจโคด ๆ อ่ะ ตอนนั้นนะ คิดได้ไง บ้าดีว่ะ) ตอนนั้นกระเเส 'อัลเตอร์' ไทยเริ่มมา มันเริ่มมาจากชุดเเรกของ modern dog เข้าปีหนึ่งเราก็เลยบ้า britpop grunge เเล้วก็ progressive เต็มตัว ตอนนั้น คนรุ่นเดียวกับเรา มีเเต่คนฟัง britpop ทั้งนั้น ก็เเทบไม่น่าเชื่อ หลังจากนั้น เราก็ไม่กลับไปฟังพวก heavy อีกเลย ... "
" ... เราเข้าเรียนในคณะที่เเทบไม่มีผู้หญิง (อุตสาห์พ้นชายล้วนมาเเล้ว ยังไม่วาย) เเน่นอน ปัจจุบันเรายังทำงานใน lab เราไม่ได้เรียนศิลปะ อย่างที่เคยคิดไว้เล่น ๆ ตอนมอปลาย (เเต่เราว่าเราคิดถูกนะ เพราะเราชอบงานเราตอนนี้มาก) พอเข้าปีหนึ่ง อะไรที่เด็กชายล้วนอย่างเรา อยากจะทำก็ได้ทำ ไว้ผมยาวเนี่ย อย่างเเรก (คือนิดนึง โรงเรียนเราตอนมอปลาย มันเเบบ เคี่ยวเรื่องนี้มาก) พอเริ่มเข้าเทอมเเรกของมหาลัย เราก็เริ่มตั้งใจไว้ผมยาวจริง ๆ จัง ๆ พอใกล้จบปีหนึ่ง ผมเราก็ยาวมาก พอจบปีหนึ่งเรามัดผมเป็นพราหมณ์ไปเลย โชคดีที่ในชั้นปี ไม่ได้มีเราคนเดียว ที่ผมยาว (คือหมายถึงผู้ชายอ่ะ) ทั้งชั้นปี ๒๐๐ กว่าคน ยังมีเพื่อนเราอีกคน ไอ้นี่เป็นเพื่อนสนิทเราด้วย มันบ้า grunge (grunge ก็เพลงเเบบ nirvana ไง) เราตั้งวงกันกับเพื่อนคนนี้ เล่นกับตอนว่าง ๆ ตอนโดดเรียน ตอนเมา วงเราได้เล่นในงาน night ของคณะบ้างในบางปี เพื่อนคนนี้สนิทกันมากในตอนนั้น เราทำกิจกรรมอยู่ฝ่ายเดียวกันในสโมฯ หน้าที่เราคล้ายพวกคนงานขี้เมา เราเป็นฝ่ายทำป้ายคัตเอาท์ พวกคัตเอาท์ประชาสัมพันธ์งานนู้นงานนี้ คัตเอาท์หลังเวที พวกงาน night ที่เค้าชอบมีกันตอนช่วงเทอมเเรก จำไม่ได้เเล้ว เเต่เราต้องทำกันบ่อยมากช่วงปีหนึ่งปีสอง เราไม่เก่งเรื่องสี เเละการวาดก็จริง เเต่เราถนัดงานประเภทกราฟฟิกเเละตัวอักษร ... "
" ... เเม้เราจะโตจนป่านนี้ เเต่นิสัยเสียบางอย่าง ก็ยังติดตัวเรามาเเต่เด็ก เราเข้าใจว่า พวกคุณหลาย ๆ คน คงเป็นเหมือนกัน นิสัยพื้นฐานบางอย่างติดตัวมาจนเเก้ได้ยาก รึบางทีอาจเเก้ไม่ได้เลยด้วยซ้ำ ทุกวันนี้เรายังฟังเพลงเหมือนเสพติด ยังไม่ชอบเล่นกีฬา (เล่นบ้าง เเต่ไม่ค่อยชอบ) ยังชอบผลัดวันประกันพรุ่ง ทุกวันนี้ เรายังเงียบเเละขี้อาย เหมือนเดิม เเล้วพวกคุณอ่ะ มีอะไรเเบบนี้มั่งป่ะ ... "
" ... ยาวโคด ตอนเเรกกะเขียนนิดหน่อย ไป ๆ มา ๆ ติดลม ตั้งเเต่มี blog มา blog นี้ยาวสุด สงสัยได้ครั้งนี้ครั้งเดียว ... "
:: ปล :: นิดนึง ช่วงนี้งานเราค่อนข้างเยอะ จริง ๆ มันก็เท่าเดิมอ่ะเเหละ เเค่มันดูเหมือนต้องคิดเเละใช้สมาธิมากกว่าเดิม เราเลยไม่ค่อยได้เข้ามาที่ blog เข้ามาเเล้วเพลิน ดูโน่นดูนี่ไปเรื่อย เเต่ยังไง เราจะหมั่นไปเยี่ยมพวกคุณบ่อย ๆ เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้นเน้อ
::: สี่พฤศจิกา :: ตีสี่สิบห้า :::
:: เพลงประกอบ :: misirlou :: remix version ของ jade :: ต้นฉบับของ dick dale จาก OST pulp fiction ชอบหนังเรื่องนี้กันป่ะ
Misirlou Bootleg (Pulp Fiction DnB Remix) - Jade
Create Date : 04 พฤศจิกายน 2551
Last Update : 4 พฤศจิกายน 2551 18:06:50 น.
7 comments
Counter : 657 Pageviews.
Share
Tweet
นิสัยที่ติดมาตอนนี้เหรอ...(นึกไม่ออก)
แต่ที่รู้ ๆ บุคลิกไม่เปลี่ยน แต่หน้าตาเปลี่ยนไป (เพื่อนบอก)
แต่แม่บอกว่า ตอนเรียนสตรี ไม่เห็นลูกเป็นแบบนี้
ทำไมพอมาเรียน รวมแล้วนิสัยเปลียนไปขนาดนี้
นึกถึงเรื่องเก่าๆ นี่นึกไม่ค่อยออก เก่าเกินจะจดจำ สมองกลวงค่ะ ...
โดย:
Ta Pling
วันที่: 4 พฤศจิกายน 2551 เวลา:18:12:32 น.
หวัดดีค่ะ เข้ามาได้ยินเป็นเพลงประกอบหนัง อ่านไปยังคิดไปด้วยว่า เพลงกะเนื้อเรื่องมันช่างเข้ากันจริงจริ๊ง เรื่องวัยเด็กกะหนังบ้าบอคอแตก ฮ่าๆๆ
...เคยบ้าพวกปู่ๆวง The Beatles มากแต่ไม่มีแนวร่วมเพราะเพื่อนบอกแก่
...เคยบ้าพี่คริสแห่ง Coldplay มากแต่ไม่มีแนวร่วมอีกตามเคย เพราะพอเพื่อนเห็นพี่แกในเอ็มวีเพลง Yellow แล้วบอกว่าไม่หล่อ
...เคยอยากเรียนสายวิทย์ฯ มากๆ แต่เทอมสุดท้าย ม.3 วิทย์ฯได้เกรด 1 คณิตฯ ได้ 1 อังกฤษกะไทยได้ 2 เลยเลือกเรียนศิลป์ฯ
...ชอบเล่นกีฬามาแต่ไหนแต่ไร แต่ไม่เอาไหนสักอย่าง ทุกวันนี้ก็ยังชอบและเล่นอยู่ถ้ามีเวลา
ฯลฯ
Pulp Fiction ถือว่าชอบในระดับหนึ่งค่ะ เพราะดูมากกว่าหนึ่งรอบ แต่เสียใจที่ต้องบอกว่า ความชอบที่เรามีต่อหนังเรื่องนี้ยังเทียบไม่ได้กะที่มีต่อ The Shawshank Redemption กะ Forrest Gump ที่ออกฉายปีเดียวกัน คิดเอาเองว่าเพศกะแนวของหนังนี่มันเกี่ยวกันหรือเปล่า เพราะว่าทำไมผู้ชายที่รู้จักแต่ละคนมักชอบ อะไรที่มันออกแนว Pulp Fiction, Fargo หรือ Reservoir Dogs อะไรแบบนี้เอามากๆ
...ขอหยุดการร่ายยาวแต่เพียงเท่านี้ โทษทีค่ะนึกว่าบ้านตัวเอง...
ปล. คห บน ได้ข่าวว่าเคยเป็นทอมบอยหรือเปล่า
โดย:
prunelle la belle femme
วันที่: 5 พฤศจิกายน 2551 เวลา:4:16:34 น.
เราอยู่รร.สหมาตลอดค่ะ แต่ในห้องเรียนของเรา มีเพื่อนผชน้อยมาก (ตอนม.ต้นมีผช 9 คน ตอนม.ปลายมี 4 คน) แถมตอนอยู่มหาลัย ที่คณะก็แทบจะหญิงล้วนอีก
สมัยมัธยม ชอบอ่านสารคดีเหมือนคุณ Wild Strawberries ค่ะ แล้วก็นิตยสารข่าวคราวหนัง&เพลงฝรั่งอย่าง Today's กับ Starpics ก็ชอบเหมือนกัน
ส่วนเพลงนี่ เราชอบ Enya มาตั้งแต่ม.1 แล้วก็ฟังเรื่อยมาจนถึงเดี๋ยวนี้ค่ะ ช่วงต่อมาก็เริ่มฟังคลาสสิก ชอบยุคบาร็อคมากสุด แอบดีใจเหมือนกันที่เกิดวันเดียวกับ J. S. Bach ฮ่าๆ
เอ๊ะ ว่าแต่ว่า พวกเราอยู่ในวัย "ชอบของขม ชมเด็กสาว เล่าความหลัง" กันแล้วหรือนี่ ... ไม่จริ๊ง ไม่จริง
มีความสุขมากมากนะคะ
โดย:
discipula
วันที่: 5 พฤศจิกายน 2551 เวลา:7:25:07 น.
โอ้ ระลึกความหลัง ..
modern dog เหรอ ? ปีหนึ่งรึ .. ตอนนั้นเราอยู่ปีสาม
ท้ายสุด ได้ทำในสิ่งที่ชอบมากๆก็ดีแล้ว จากมือที่คิดว่ามันใหญ่เทอะทะสำหรับอะไรบางอย่าง หากมาจับงานที่ชอบจริงๆมันก็ทำได้ดีเนาะ
โดย:
ภูติ
วันที่: 5 พฤศจิกายน 2551 เวลา:7:36:53 น.
หง่ะ คห. 2 เค้าไม่ได้เป็นทอม แค่โดนล้อว่าเหมือนอ่ะ (ปล. อย่าล้อเค้านะ
)
โดย:
Ta Pling
วันที่: 5 พฤศจิกายน 2551 เวลา:16:18:38 น.
วิทย์-ศิลปะ?
ใช่อันเดียวกับ วิทย์-ถาปัตย์ หรือเปล่าคะ?
ตอนรุ่นเราทั้งวิทย์-วิศวะ กับวิทย์-ถาปัตย์ยุบรวมกันเป็นวิทย์-ประยุกต์แล้วอ่ะ ไม่รู้ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง...
พี่ต้องรุ่นประมาณ 50 ปลายๆแน่ๆ
โดย:
syramay
วันที่: 6 พฤศจิกายน 2551 เวลา:1:50:37 น.
คือเราเพิ่งไปแวะห้องดนตรีมาเลยเข้าเผอิญเห็นบล้อคคุณกะคุณอี๊ดอัพต่อกันน่ะค่ะ เลยเข้ามาขำ ขาหมู กะ คู่แท้ ฮ่าๆๆๆๆ
ปล. คิดว่ากะคนสนิทๆ คุณคงไม่เงียบและขี้อาย ไม่งั้นคงไม่ร้องเพลงกะเพื่อนได้ เพราะใครหลายคนก็เป็นเหมือนกัน พูดมากเวลาอยู่แต่กะคนที่สนิทเท่านั้น เราก็พูดมากเวลาอยู่ในนี้เพราะอยู่หลังม่าน ไม่ได้แสดงตนถึงไม่สนิทกะพวกคุณก็ตาม
.....ตอนแรกเราก็คิดเหมือนกันว่าจากชาร์ลีแชปปลิ้นจะกลายมาเป็นคนเหล็กมาดเท่ห์ เนื้อหอม อัจฉริยะ ได้ยังไงกัน แต่พอดูแล้วต้องยอมรับจริงๆค่ะว่าเลือกมาไม่ผิดคน ฮอทมากในเรื่อง แต่เฮียแกต้องใส่รองเท้าส้นสูงตลอดทั้งเรื่องด้วยแหละ
โดย:
prunelle la belle femme
วันที่: 6 พฤศจิกายน 2551 เวลา:4:06:04 น.
Name
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Opinion
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
Wild Strawberries
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
?
]
Webmaster - BlogGang
[Add Wild Strawberries's blog to your web]
Bloggang.com
แต่ที่รู้ ๆ บุคลิกไม่เปลี่ยน แต่หน้าตาเปลี่ยนไป (เพื่อนบอก)
แต่แม่บอกว่า ตอนเรียนสตรี ไม่เห็นลูกเป็นแบบนี้
ทำไมพอมาเรียน รวมแล้วนิสัยเปลียนไปขนาดนี้
นึกถึงเรื่องเก่าๆ นี่นึกไม่ค่อยออก เก่าเกินจะจดจำ สมองกลวงค่ะ ...