ไอ้จ๋อ ทุกครั้งที่คิดถึงมัน ตะนิ่นตาญี จะคิดถึงเด็กผู้ชายตัวไม่สูงใหญ่นัก ผมหยักศก ตากลมโต แต่ชอบทำตาหรี่ปรือ ผิวสีคล้ำจนเกือบเรียกได้ว่า ดำ พร้อมทั้งท่าเดินที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ในลักษณาการที่อาจเรียกได้ว่า “แกว่งปากหาตีน” ก็ได้กระมัง? ********************************************** หากจะถามกันว่า ทำไมพวกเราถึงเรียกมันว่า “ไอ้จ๋อ” คงเป็นเพราะว่า ..... มาสเทอร์พีรพันธ์ฯ ท่านเป็นคนตั้งชือให้ก่อนว่า นิลนนท์ ซึ่งให้ความหมายถึง สีผิวที่โดดเด่น และความซน ของ มัน นั่นจึงทำให้พวกเราเพี้ยนเสียงเรียกให้เป็น ไอ้จ๋อ เสียเลย ไอ้จ๋อ เข้าเรียนโรงเรียนเดียวกับเรา ไอ้ป๊อก และ ตะนิ่นตาญี พร้อมกันคือตั้งแต่อนุบาลสอง เราสามคนนั่งโต๊ะเรียนติดกัน กลางวันเราก็กินข้าวซึ่งทางโรงเรียนจัดให้ด้วยกันอยู่ด้วยกันอย่างนี้ อยู่ที่โต๊ะเดียวกัน ไม่นานนักพวกเราสนิทกัน ไปไหนมาไหนด้วยกัน ตั้งแต่เรียนอนุบาล! ********************************************** บ้าน ไอ้จ๋อ อยู่ซอยเสนาฯ ดังนั้นเมื่อเราโตขึ้นมาหน่อย เราสามคนจึงสิงสถิตย์อยู่ปากซอยเสนาฯ เล่น สนุ๊กฯ กันบ้างกินเหล้ากันบ้าง ... พูดถึงเรื่องกินเหล้า ครั้งแรกที่พวกเราหัดกินเหล้ากันก็ที่ โต๊ะสนุกฯ ซอยเสนาฯ เนี่ยแหละ แม้จะเคยลองกินกันมาบ้างแล้วแต่ก็แค่จิบจิบเท่านั้นเอง ********************************************** วันนั้นเป็นวันสอบวันสุดท้ายก่อนปิดเทอมใหญ่ เราตกลงกันว่าจะเล่นสนุ๊กฯกันยันเช้า ไม่ไหวก็นอนที่โต๊ะสนุ๊กฯมันนั่นแหละ และด้วยความอยากลองของพวกเรา จึงสั่งเหล้ามาแบนโซดา น้ำเปล่า และน้ำอัดลม ลองผสมดื่มมันไปเรื่อยเรื่อย วิพากษ์-วิจารณ์ กันว่า ผสมอย่างนั้นอร่อย อย่างนี้อร่อย จนหมดไปแบนหนึ่ง ********************************************** พอหมดแบน ไอ้ป๊อก ตั้งคำถามว่า เมากันหรือยัง ... ไอ้จ๋อ ว่า กูยังเฉยเฉยอยู่หว่ะ ในขณะที่ ตะนิ่นตาญี เห็น ลูกขาวบนโต๊ะสนุ๊กฯ ขยับไป-ขยับมา ตาลายเห็นมีลูกขาวสองลูก แต่ด้วยความกลัวเพื่อนว่า “คออ่อน” จึงไม่ตอบคำถามของ ไอ้ป๊อก ใช้วิธีตะโกนสั่งมาอีกแบนหนึ่ง เพื่อให้ทุกคนรู้ว่า แค่นี้ยังสบายสบายอยู่ “ไอ้นิ่น มึงอย่าแดกแต่เหล้าสิวะ กินกับแกล้มมั่ง เล่น ซดเอา-ซดเอา เปลืองเหล้าหว่ะ” ไอ้จ๋อ เอ่ยปากปราม ตะนิ่นตาญี “หึ-หึ-หึ ไอ้นิ่น มันเมาแล้วมึงไม่เห็นหรือวะ มันไม่จับไม้คิวแล้วแปลว่ามันแทงไม่ไหว เพราะเริ่มเมา” ไอ้ป๊อก อวดรู้ ... ส่วน ตะนิ่นฯ ได้แต่ค้อนเพื่อนทั้งสองคนแล้วออกตัวว่า “ยังไม่เมาโว้ย แค่เมื่อยขา ขี้เกียจเดินหว่ะ” “เอางี้ม่ะ ... ไปเดินเที่ยวแถวถนนเพชรบุรีตัดใหม่กันไหมมีทั้ง อาบ-อบ-นวด มีทั้ง คาเฟ่ ไปดูตลกคาเฟ่ดีไหม? ไอ้จ๋อ เสนอ “เอาดิ แต่คืนนี้จะนอนที่ไหนตกลงกันทีแรกว่าจะนอนที่นี่” ไอ้ป๊อก ตั้งปุจฉา ... ไอ้จ๋อ พยักหน้าบอกว่าไม่เป็นไรเดี๋ยวสั่งให้ ไอ้ใจ เด็กมาร์คเกอร์ เปิดประตูเล็กทิ้งไว้ให้ ดึกดึกจะกลับมาเล่นใหม่ ... ทุกคนรับในข้อเสนอของ ไอ้จ๋อ ระเหร็จกันไปถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ********************************************** ลองหลับตาแล้วนึกภาพ เด็กชั้นประถมหกขึ้นชั้นประถมเจ็ด เดินเข้า อาบ-อบ-นวด ดูนะครับ เด็กรับรถ คนเปิดประตู คนเชียร์แขก จะทำหน้าอย่างไรเมื่อเห็นเด็กเดินเข้าสถานบริการอย่างนั้น ยังดีที่สมัยก่อนไม่ค่อยเข้มงวดเหมือนอย่างสมัยนี้ พอให้ทิปทีละยี่สิบบาทก็โค้งกันตัวโก่งแล้ว เราสามคนเดินเมียงเมียงมองมองอยู่หน้าตู้กระจก คนเชียร์แขกรีบเข้ามาโค้งคำนับแล้วบอกว่า ... เฮีย เบอร์นั่นนวดเก่งนะ เบอร์นี้คุยสนุกนะ เบอร์นั้นพึ่งมาทำงาน เราสามคนได้แต่ทำหน้าแหยแหย แล้วบอกกลับไปว่า ขอดูก่อนนะตอนนี้เอาเบียร์มากินก่อน คนเชียร์แขกรีบเรียก บ๋อย ให้มารับ order แล้วป้วนป้วนเปี้ยนเปี้ยนอยู่ที่โต๊ะเรา ... เรียนตรงตรงนาทีนั้น ตะนิ่นตาญี ไม่เห็นผู้หญิงในตู้สวยเลย จึงไม่ค่อยได้ใส่ใจเท่าไหร่ อีกทั้งเริ่มมึนมากแล้วจึงตั้งใจที่จะเอาเบียร์เททิ้งโดยไม่ให้เพื่อนทั้งสองเห็นมากกว่า ที่จะดูผู้หญิง ในขณะที่ ไอ้จ๋อ และ ไอ้ป๊อก ก็ดูจะไม่ใส่ใจในผู้หญิงที่อยู่ในตู้เช่นเดียวกัน พวกเราจึงตัดสินใจออกไปขับรถเล่นแทนการท่องราตรี ... คืนนั้นเราผลัดกันขับรถเกือบทั้งคืน รู้ตัวอีกทีก็ถึง พัทยา เสียแล้ว !!! ตะนิ่นตาญี
Create Date : 16 มิถุนายน 2562 |
Last Update : 16 มิถุนายน 2562 22:09:05 น. |
|
0 comments
|
Counter : 526 Pageviews. |
|
|