|
ตะนิ่นตาญี รู้จักกับ ไอ้ป๊อก ก่อน ... เรารู้จักกันตั้งแต่ ก่อนเรียน อนุบาล ๑ เสียด้วยซ้ำ พอเข้าเรียน อนุบาล ๑ เราก็เข้าโรงเรียนเดียวกัน ซึ่งเป็นโรงเรียนอนุบาลในสังกัดของกองทัพอากาศ พอเราขึ้นชั้น อนุบาล ๒ เราก็ออก แล้วไปเข้าโรงเรียนเดียวกันแถวถนนลาดพร้าว แถมเรายังไปสมัครพร้อมกันตอนที่โรงเรียนนี้ยังอยู่ในซอยวัดไผ่ตันเสียด้วยซ้ำไป จนขึ้นเทอมใหม่เราถึงได้ไปเรียนกันที่ถนนลาดพร้าว ... ที่นั่นเราจึงได้รู้จัก ไอ้จ๋อ เราสามคน หัดกินเหล้า หัดสูบหรี่ หัดเล่นการพนัน กันตั้งแต่ขึ้นชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ แล้วกระมัง ******************************************** แรกเริ่มเดิมทีก็เป็นเพราะพวกเรามักจะไปเที่ยวเยาวราชซึ่งมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ดูแล้วตื่นตาตื่นใจสำหรับเด็กเด็กอย่างพวกเรา ไม่ว่าจะโรงงิ้ว โรงน้ำชา ผู้หญิงหยำฉา ฯลฯ แน่นอนเมื่อไปเยาวราชก็จะขาด ไอ้นัส เยาว์ ไปเสียไม่ได้ ... ไอ้นัสฯ กับ พวกเราแม้จะไม่ได้กินด้วยกัน นอนด้วยกัน แต่ก็ต้องบอกว่าสนิทกันมากพอสมควร มันเข้ามาเรียนโรงเรียนเดียวกับเราตั้งแต่ชั้น ประถมศึกษาปีที่ ๑ เรียนห้องเดียวกันตั้งแต่ต้น ******************************************** วันหนึ่งเราอยากกิน อาหารทะเลเผา ที่ เยาวราช จึงบอก ไอ้นัสฯ ให้พาไปกิน พอพวกเราเห็น ผู้ใหญ่ ชาวจีนจิบเหล้ากินอาหารเผา อยากลอง-อยากรู้ บ้างว่ากินแล้วจะเป็นอย่างไร จึงลองสั่งมากินดู อาเฮีย เจ้าของร้านทำหน้าสงสัยร้องถามมาว่า “เฮ้ย ... พวกมึงกินเหล้ากันเป็นเหรอ?” ไอ้นัส ร้องกลับทันที “ไม่เป็นสิโว้ย ถึงจะลองหัดให้เป็น” “ตามใจพวกมึง” อาเฮียเจ้าของร้าน ว่า มานั่งนึกนึกกันดูแล้ว ตอนเวลานั้นเด็กอายุสิบขวบกว่านิดหน่อยหัดกินเหล้ากันก็ดูทุเรศเต็มทน หลงคิดว่าตัวเองแก่กล้าวิชากันแล้ว อยากทำอะไรอะไรที่ดูเป็นผู้ใหญ่ทั้งทั้งที่เป็นเรื่องวิบัติเต็มที ******************************************** แต่ก็เอาเถิด อดีต แก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว มาตรแม้นว่าจะย้อนอดีตได้แต่ก็คงทำเช่นนี้อีกนั่นแหละ ส่วน ไอ้ตี๋ นั้น เดิมเป็น นักเรียนประจำ เรียนห้อง ๑๐ จนขึ้นชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ พ้นจากการเป็นเด็กนักเรียนประจำแล้วย้ายมาเรียนห้องเดียวกับเราจึงได้มาสนิทกัน ไอ้ตี๋ มีลักษณะที่เราปรามาสกันไว้ว่าเป็น เด็กตู้ ซึ่งให้ความหมายว่า คือ เด็กเรียน เมื่อมานั่งที่โต๊ะเรียนเดียวกันจึงโดนพวกเราแกล้งสารพัดที่จะแกล้ง แต่มันก็ไม่เคยว่าอะไรได้แต่หัวเราะไปด้วยกับพวกเรา จนมาวันหนึ่ง ไอ้ตี๋ ช่วย ตะนิ่นตาญี ให้รอดพ้นจากการถูกรุมกระทืบ จาก เด็กช่างกลฯ โรงเรียนหนึ่งซึ่งอยู่ ไม่ใกล้-ไม่ไกล ไปจาก โรงเรียน ของ เรา นั่นแหละพวกเราสามคนจึงมี ไอ้ตี๋ เพิ่มขึ้นมาในกลุ่มจนแยกกันไม่ออก ไปไหน-มาไหน ก็จะเห็นพวกเราทั้งสี่คน ******************************************** มีอยู่ครั้งหนึ่ง ไอ้ป๊อก ไปติดลูกสาวค่ายมวยใน ซอยสุทธิสาร โดยการแนะนำของ ไอ้ตี๋ ที่ ไอ้ตี๋ รู้จักนั้น ก็เป็นเพราะเจ้าของค่ายมวยแห่งนี้เป็นลูกหนี้ของ พ่อไอ้ตี๋ บางครั้ง-บางหน ไอ้ตี๋ ก็ไปเก็บเงินแทนพ่อของมัน พวกเราก็ตามไปด้วยจึงได้รู้จักลูกสาวค่ายมวยแห่งนี้ซึ่งมีกันสองคนพี่น้อง ถึงขนาดต้องใช้คำว่า สวยมาก ทำให้ ไอ้ป๊อก ต้อง เทียวไป-เทียวมา เพื่อได้ขายขนมจีบแต่ขนมจีบนั้นเกิดบูด เพราะทะลึ่งไปจีบทั้งพี่ทั้งน้อง ในขณะที่ ไอ้จ๋อ ไอ้ตี๋ และ ตะนิ่นตาญี ไปนั่งกินเหล้าบ้าง เล่นไพ่เก้าเกบ้าง เล่นกันยันเช้า กลับบ้านพร้อมพระบิณฑบาต ... เล่นไพ่ที่นี่จน ตะนิ่นตาญี ซึ่งขณะนั้นเป็นไส้ติ่งอักเสบ เกิดอาการไส้ติ่งแตก ต้องวุ่นวายเข้าโรงพยาบาลผ่าตัดทันที ... แต่ที่ทำกันประจำทุกครั้งที่ไปก็คือ หัดมวย ซ้อมมวย ไอ้จ๋อ ไอ้ป๊อก ไอ้ตี๋ และ ตะนิ่นตาญี ชอบมากกับการ ซ้อมมวย-หัดมวย คนที่หัดแล้วเป็นมวยมากที่สุดก็เห็นจะเป็น ไอ้ป๊อก กับ ไอ้จ๋อ ในขณะที่ ไอ้ตี๋ กับ ตะนิ่นฯ จะเน้นพื้นฐาน ของ มวยวัด เสียมากกว่า ******************************************** ในระหว่างวันเรียนหากเป็นช่วงเช้ารอเข้าแถว เก้าอี้ยาวใต้ตึก ๑๑ ชั้น คือ สโมสร ความลึก ความทึบ ความเย็นจากพื้นกระเบื้องที่ไม่ถูกแดดเลยตลอดคืนเหล่านี้คือเสน่ห์ของมัน พวกเราไปนั่งดูสาวบ้าง นั่งคุยกันบ้าง ลอกการบ้านกันบ้าง ก็ ไปชุมนุมกันอยู่ใต้ตึก ... ตอนพักเที่ยงส่วนมากหลังกินข้าวแล้ว ก็จะเล่นบอลพลาสติกบ้าง ตีปิงปองชิงโต๊ะ พูดถึงตีปิงปองชิงโต๊ะไม่มีใครเกินหน้า ไอ้จุ่น ไปได้ ร้อยทั้งร้อย เชื่อขนมกินได้เลย ไอ้จุ่น ชนะ ... แต่ทีพวกเราเล่นกันประจำคือ “โมราอัด” กฏกติกา และ อุปกรณ์การเล่น โมราอัด ก็ไม่มีอะไรมากเอาก้อนหินขนาดเหมาะมือมาสักก้อนหนึ่ง เอากระดาษมาพันพันหลายหลายชั้นหน่อยแล้วเอาพลาสติกหุ้มทับอีกทีไม่ให้โหดร้ายเกินไป คนถือ ลูกโมรา มีสิทธิ์เอา ลูกโมรา นี้ปาหัวคนอื่นได้ แต่ในเวลาเดียวกันก็มีสิทธิ์ถูกคนอื่นรุมกระทืบได้เช่นกัน ไอ้สันต์ เกลียดเกมนี้มากอยากเล่นก็อยากเล่น แต่เล่นทีไรถูกเพื่อนเพื่อน เอาลูกโมรายัดใส่มือทำให้ ไอ้สันต์ ถูกรุมกระทืบตลอดเกมส์ทุกครั้งไป ... ******************************************** มีอยู่วันหนึ่งตอนช่วงเช้า ไอ้นัส เยาว์ เดินมาหาพวกเรา รุกลี้-รุกรน ชอบกล เข้ามาแล้วไม่ทันได้นั่งมันก็บอกว่า “เฮ้ย ... พวกมึงเย็นนี้ไปเป็นเพื่อนกูหน่อยนะ กูมีเรื่องกับ ไอ้ไก๋ ท้าชกกันหลังห้องน้ำตึกสี่ชั้น” “มึงมีเรื่องอะไรกันวะถึงท้าชกกัน” ไอ้จ๋อ สงสัย “ก็ที่เล่น โมรา กันเมื่อวานนี้ไง ไอ้ไก๋ มันหาว่ากูจ้องอัดมัน ก็เลยท้าชกกัน กูกลัวว่ามันจะไม่มาเดี่ยวเดี่ยวนะดิ มันจะเอาพวกจิ๊กโก๋ปากทางลาดพร้าวมาด้วย ก็เลยชวนพวกมึงให้ไปเป็นเพื่อนกูหน่อยหว่ะ” “เออ-เออ ได้เดี๋ยวเย็นนี้พวกกูจะตามไป” ไอ้จ๋อ รับปาก ******************************************** พักเที่ยงวันนั้น ไอ้ป๊อก อยากกิน ลาบ ส้มตำ จึงชวนพวกเราไปกินกัน ที่ ปากทางลาดพร้าว ซอยสิงห์โต ขณะที่กำลังเดินไปที่ร้านส้มตำ ไอ้ตี๋ สะกิด ตะนิ่นตาญี ให้หันไปดูเห็น ไอ้ไก๋ เดินตามมาติดติด ตะนิ่นตาญี จึงหยุดรอ พร้อมกับ ไอ้ตี๋ ... ไอ้จ๋อ ไอ้ป๊อก หันมาเห็น ตะนิ่นฯ กับ ไอ้ตี๋ หยุด ก็เลยหยุดรอ ไอ้ไก๋ ด้วย ไอ้ตี๋ ถาม “มึงเดินตามพวกกูมาเหรอ? หรือบังเอิญอยากกินส้มตำเหมือน ไอ้ป๊อก?” ไอ้ไก๋ หัวเราะแล้วตอบว่า “เออ ... กูตามพวกมึงมา อยากให้ช่วยไปเป็นเพื่อนกูหน่อยเย็นนี้ กูมีเรื่องกับ ไอ้นัสฯ กลัวมันเอาพวกที่ เยาวราช มา เลยจะให้พวกมึงไปเป็นเพื่อนกูหน่อย” ไอ้ตี๋ ทำท่าจะหัวเราะ ตะนิ่นฯ สะกิดไว้เพราะไม่เห็น ไอ้จ๋อ ไอ้ป๊อก แสดงทีท่าอะไร นอกจากรับคำว่าจะไป ******************************************** เย็นวันนั้นพวกเราสี่คนเดินตาม ไอ้นัสฯ กับ ไอ้ไก๋ ไปห่างห่าง ... ทั้งคู่คงนึกว่าพวกเราไปเป็นกำลังหนุน ก่อนที่ ไอ้สองคนนั่นจะชกกัน ไอ้จ๋อ ตั้งคำถาม “พวกมึงจะชกกันเรื่องอะไรวะ? คราวก่อนที่ เด็กอำนวยศิลป์ มาปิดโรงเรียนเรากูเห็นพวกมึงช่วยกันฉิบหาย ไอ้ไก๋ ล้ม ร่ำร่ำจะถูกกระทืบ ไอ้นัสฯ มึงก็เข้าไปช่วยจนเด็กอำนวยศิลป์กระเจิง พอ ไอ้นัสฯล้มมึงก็เข้าไปช่วย นี่พวกมึงจะชกกันเหรอ ... ก็เอาชกกันเลย แต่พวกกูยืนยันได้ว่า มึงสองคนไม่ได้ตามคนนอกมาช่วย เอ้า ... เอาเลย” ******************************************** ก่อนจะเกิดการชก ไอ้ป๊อก ร้องบอกว่า “อย่าชกกันเลยไปแดกเหล้ากันเถอะ กูยังสงสัยบางเรื่องอยู่หว่ะ” ไอ้นัสฯ มองหน้า ไอ้ไก๋ สักพัก แล้วทั้งคู่ก็พยักหน้าให้กัน “เออ ... กินเหล้าก็ได้วะ” แล้วทั้งคู่ก็หัวร่อออกมา ระหว่างที่นั่งกินเหล้ากันอยู่นั้น ไอ้ป๊อก ก็ ตั้งข้อปุจฉา “ถามจริงจริงเถอะวะ มึงสองคนเห็นพวกกูเป็นมาเฟียรับจ้างรุมกระทืบคนอื่นเหรอหว่ะ?” ไอ้นัส กับ ไอ้ไก๋ หัวเราะดังลั่นร้านเหล้า “เปล่าโว้ย” ตะนิ่นตาญี
| Create Date : 06 กรกฎาคม 2562 |
| Last Update : 6 กรกฎาคม 2562 21:07:25 น. |
|
0 comments
|
| Counter : 600 Pageviews. |
 |
|
