การไม่เบียดเบียน สร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่น มีอยู่อย่างพอดี แบ่งปันให้ผู้อื่นบ้าง นั่นแหล่ะคือ "ชีวิตที่ดี"
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2557
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
7 มีนาคม 2557
 
All Blogs
 
เรื่องโรงเรียนของลูก

ช่วงนี้เครียดเรื่องโรงเรียนของลูกทำให้คิดมากอยู่หลาย ๆ วัน  เราพึ่งเอาลูกออกจากโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งของจังหวัด ซึ่งรร.นี้พึ่งเปิดใหม่แต่มีชื่อเสียงพอสมควรจากที่เปิดหลายสาขาทั่วประเทศ เป็นทางเลือกอันดับต้น ๆ ของผู้ปกครอง ซึ่งแห่พาลูกมาเรียนกันที่นี่มากมายเลยล่ะ ถึงแม้ค่าเทอมจะแพงไปสักหน่อยก็ตาม  แต่ที่เราเอาลูกออกจากรร.นี้ ก็ไม่ใช่เหตุผลเพราะเรื่องค่าเทอมนี้ทั้งหมดหรอก  เป็นเหตุผลอื่นมากกว่า 

เนื่องจากว่าลูกสาวเข้าเรียนที่นี่ตั้งแต่ Nursery ตั้งแต่อายุ 2 ขวบกว่า จนปีนี้จบอนุบาล 1 ปีหน้าจะขึ้นอนุบาล 2 ก็เกือบสองปี   ต้องบอกว่าปีแรกประทับใจในโรงเรียนนี้มาก เพราะดูแลดี มีการประเมินผลดี ปรับให้เด็กมีพัฒนาการได้ดี มีข้อมูลรายงานประจำสัปดาห์ว่าลูกเราทำอะไรมั่งระหว่างที่อยู่โรงเรียน ลูกเราดูมีความสุขกับการไปโรงเรียน เรายังวางแผนเลยนะว่าจะให้ลูกเรียนที่นี่ต่อ และจะให้น้องเข้าเรียนที่นี่ทั้ง 2 คนเลย

แต่พอขึ้นชั้นอนุบาล มีครูประจำชั้นคนใหม่ มีความรู้สึกแย่กว่าเดิมมาก ไม่มีข้อมูลรายงานประจำสัปดาห์อย่างที่เคยมี เราก็คิดว่าเป็นมาตรฐานโรงเรียนเพราะเด็กโตแล้วอาจจะไม่จำเป็น แต่รู้ทีหลังว่ามีแต่ครูคนนี้ที่ไม่ทำให้ ห้องอื่นเค้าทำกันหมด ไอ้เราก็ปากหนักไม่ถามเค้า (แต่เคยถามในหน้า faceของโรงเรียน แต่ก็ไม่มีคำตอบกลับมา) ทำให้การสื่อสารระหว่างเรากับครูประจำชั้นห่างไป ถึงแม้จะเจอกันบ้างตอนไปรับลูก  เลยมีหลาย ๆ เรื่องที่ทำให้เราหงุดหงิดเช่นเรื่องการจัดงานของโรงเรียนที่จะขอให้ซื้อเครื่องแต่งกายโน่นนี่ไปแสดง บางทีของมันก็หายากเช่นที่คาดผมเขากวางงี้ , เชือกฟางสีส้ม ชุดซานต้ากระโปรง ถุงมือ ถุงน่อง ฯลฯ บางทีเค้าขายยกโหลเราก็ไม่อยากซื้อให้เหลือไว้  เราก็วิ่งหาของทั้งเมืองไม่หาก็ไม่ได้กลัวลูกไม่มีเหมือนคนอื่น ๆ ยังคิดว่าทำไมรร.ไม่ซื้อมาให้แล้วเก็บตังเอากับผู้ปกครอง   การจัดตารางเรียนก็ไม่เหมาะสมคาบแรกตอนเช้าจะให้เด็กว่ายน้ำได้ยังไงเด็กอาบน้ำแต่งตัวมาจากบ้านจะให้มาอาบน้ำอีกแหล่ะ  พอหน้าหนาวหน้าฝนก็ไม่เคยได้ลงสระกันทั้งห้อง แต่ก็เก็บตังค์ค่าสระว่ายน้ำอยู่ทุกเทอม 

เรื่องการเรียนเราเคยทดสอบการเขียนพยัญชนะภาษาอังกฤษของลูก จำได้ว่าเมื่อกลางปีที่แล้ว (ประมาณ กค.56) A-Z ลูกจะรู้จักเกือบหมดยกเว้นตัว b และ d ที่ยังสับสนอยู่บ้างแต่ก็ไม่เป็นไรได้มาก็เยอะแล้ว(จริงๆ ก็สอนเองก่อนเข้าเรียนบ้าง)  จนทุกวันนี้มาทดสอบอีกครั้งก็ยังเหมือนเดิม ยังสงสัยว่า 6 เดือนที่ผ่านมาทำอะไรกันอยู่ ภาษาอังกฤษเป็นจุดขายของที่นี่นะ ลูกเราก็ไปโรงเรียนสม่ำเสมอ     อีกเรื่องเราเอาขนมห่อใส่ในกระเป๋าให้ลูกทุกวัน ทั้งนมกล่องด้วย บางครั้งลูกก็ได้กิน บางครั้งก็ไม่ได้กิน แต่นมและขนมหมดทุกวัน เลิกเรียนหิวก็ต้องหาซื้อที่โรงอาหารเอา  มามีความรู้สึกแย่ที่สุด ก็เรื่องที่เวลาห้องเรียนมีกินเลี้ยงปาร์ตี้กันเราก็เอาขนมไปให้ร่วมด้วย ลูกเราแทบไม่ได้กินอะไร ต้องไปหาของกินที่โรงอาหาร ถามว่าขนมที่เอามาให้ไปไหนหมดก็บอกว่าแจกให้ทุกคนแล้ว แต่ลูกเราไม่ได้ เรื่องนี้ทำให้เราโมโหปรี้ดสุด ๆ  แทบจะเอาลูกออกโรงเรียนเวลานั้นเลย ดูแลอะไรกันอย่างนี้ ก็สังเกตว่าลูกเราพักหลัง ๆ ไม่อยากไปโรงเรียน

เราตั้งใจว่าปิดเทอมนี้ก็จะย้ายโรงเรียนเงียบๆ ซัมเมอร์ก็จะไม่เรียน จะแอบหายไปเฉย ๆ ว่างั้นเถอะ แต่พอดีครูประจำชั้นมาทวงค่าหนังสือในการเรียนปีหน้า เราเลยแจ้งว่าจะไม่เรียนต่อ  แต่ครูก็ยังบอกว่าครูได้มัดจำให้ไปก่อนแล้วนะ....  อ้าวไม่เห็นบอกเราซักคำ ไม่มีหนังสือมาสอบถามด้วยซ้ำว่าจะเรียนต่อไหม(ตอนปีที่แล้วยังมีถาม) พอเราไม่จ่ายเงินมัดจำนี้ก็ยังทวงเงินเราอีก จำนวนเงินไม่มากเท่าไหร่หรอก แต่เราไม่อยากเสียตังค์ทั้งๆ ที่ๆไม่ได้ต้องการหนังสือ ก็เลยโทรไปถามที่ห้องธุรการของ รร. เพื่อสอบถามว่าจะต้องทำยังไง ทาง ธุรการแจ้งว่าจะต้องมาเขียนใบลาออกก่อน ส่วนค่ามัดจำทางรร.จะคืนให้ครูประจำชั้นเอง เราจึงไปเขียนใบลาออกไว้ ด้วยเหตุผลว่าไปเรียนต่อที่อื่น  พอวันรุ่งขึ้นมีโทรศัพท์จากผู้บริหารโรงเรียนมาถามเรื่องเหตุผลการลาออก เราก็สาธยายตามข้างบนให้ฟัง เท่านั้นแหล่ะ ครูประจำชั้นก็โดนเล่นงานและสอบสวนเลยทันที  เห็นว่าเป็นเรื่องอยู่เหมือนกัน ซึ่งทราบว่าถูกลงโทษด้วย และถูกภาคทันฑ์ ซึ่งเป็นครั้งที่สองแล้วสำหรับครูคนนี้ จริง ๆเราก็ยังแอบเห็นใจอยู่ ถ้าไม่ถามเรื่องเงินมัดจำหนังสือก็คงไม่เป็นเรื่อง เพราะมีหลายคนที่ลาออก ไม่ใช่เฉพาะลูกเรา

ในความคิดแต่เดิมเลยเราอยากให้ลูกเรียนที่ รร.อนุบาลดอกบัว ที่ต้องการให้ลูกย้ายไปนี่แหล่ะ คิดว่าแน่นด้วยเนื้อหาวิชาการ เพราะดูสถิติผลการสอบเข้ารร.ดัง ๆ และคะแนนสอบ แต่พอลูกอายุ 2 ขวบกว่า ก็มี รร.เอกชนนี้มาเปิดใหม่ เราก็กำลังหา รร.ก่อนวัยเรียนให้ลูกอยู่แล้ว ก็เลยให้ลูกเรียนที่นี่ไปก่อน แล้วค่อยย้ายเมื่อครบ 4 ขวบเต็ม พอเรียนปีแรก ๆก็เกือบเปลี่ยนใจเห็นดูแลดีก็ติดใจซะงั้น มาถึงตรงนี้ก็กลับมาหาความตั้งใจเดิมแล้วล่ะ

 




Create Date : 07 มีนาคม 2557
Last Update : 25 มีนาคม 2557 16:20:57 น. 0 comments
Counter : 1740 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

WarinD Ninajang
Location :
นครราชสีมา Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




เป็นคนที่ชอบอ่านหนังสือมาตั้งแต่เด็ก ๆ ใฝ่ฝันอยากเป็นนักเขียน อยากเขียนเรื่องราวของตนเองถ่ายทอดให้คนอื่น ๆ ได้รับรู้ ชอบอ่านนิยายจำพวกชีวประวัติ การดิ้นรนขวานขวายของใครก็ได้ที่มีเรื่องราวที่น่าติดตาม หรือไม่ก็นิยายอิงประวัติศาสตร์

เป็นคนอารมณ์อ่อนไหวกับเรื่องราวต่าง ๆ ถ้ามีสะเทือนใจ หรือประทับใจ บางทีร้องไห้ได้กับการประโยคในหนังสือไม่กี่ประโยค...

เขียนบล้อกเพราะต้องการเก็บเรื่องราวต่าง ๆ เกี่ยวกับตนเอง เหตุการณ์ ความรู้สึกต่าง ๆ ณ ขณะนั้น เพื่อจะได้กลับมาอ่านอีกครั้งในวันข้างหน้า ไม่ได้หวังการติดตามจากใคร ไม่ต้องการยอดไลค์
พยายามจะเขียนบล้อกทุกเดือน ตามเรื่องราวที่ตนเองชื่นชอบ หรือต้องการเก็บบันทึกไว้
Friends' blogs
[Add WarinD Ninajang's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.