Group Blog
 
 
สิงหาคม 2551
 
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
24 สิงหาคม 2551
 
All Blogs
 
Canada Visit 2008



ลิลลี่ยังไม่เคยไปแคนาดาหรือประเทศไหนมาก่อนเลยค่ะ เพราะสำหรับเราคิดว่าถ้าให้เค้าต้องนั่งเครื่องเดินทางนานๆนี่คงไม่ไหวน้า เพราะปกติอยู่บ้านนี่ นั่งอยู่กับที่ได้ไม่เกิน 3 นาทีอ่ะ แต่นี่ต้องเดินทางใช้เวลากว่า 18 ช.ม แน่ะ (กรุงเทพ-ฮ่องกง-แวนคูเวอร์)


ผลคือเหนื่อยมากอย่างที่คิด 555 แต่ลิลลี่ก็งอแงน้อยกว่าที่คิด (นิดนึง) แต่เค้าก็พอจะได้หลับบนเครื่องบ้าง ในขณะที่เรากะคุณพ่อเค้านี่เหนื่อยมากๆๆๆ





ที่แวนคูเวอร์ แคนาดา เวลาเค้าจะช้ากว่าบ้านเรา 14 ช.ม ค่ะ ดังนั้นเราค่อนข้างจะมีอาการ Jet Lag เพราะเราออกเดินทาง 8 โมงเช้าวันจันทร์ที่กรุงเทพ ไปถึงแคนาดา 11 โมงเช้าวันจันทร์ของเค้าค่ะ


ช่วงที่เราไปนี่ (เดือน กรกฏาคม - สิงหาคม) เป็นช่วง summer พอดี แดดร้อนเปรี้ยงๆๆ เหมือนบ้านเราเลยค่ะ ต่างก็เพียงแต่ของเค้ามีลมเย็น คือ แดดแรงแต่หนาวค่ะ และที่ต่างจากบ้านเราอีกอย่างคือ ช่วงหน้าร้อนนี้พระอาทิตย์ตกค่อนข้างช้าค่ะ คืนแรกที่ไปถึงนี่งงมาก แบบว่า 3 ทุ่มแล้วยังสว่างเหมือนบ่าย 3 น่ะค่ะ


คุณพ่อคุณแม่สามีเปิดถุงของฝากจากเมืองไทย (เวลาซื้อของฝากเราแนะนำของจากร้าน Naraya ที่เป็นพวกกระเป๋าผ้าน่ะค่ะ ชอบนะคะ ของน่ารัก ราคาน่าคบ 555)





นี่คือภาพครอบครัวทางสามีค่ะ





เราพักอยู่ที่บ้านน้องชายสามี เพราะเค้ามีลูกสองคนให้เล่นเป็นเพื่อนลิลลี่ น้องผู้ชายชื่อ Declan 6 ขวบ ส่วนผู้หญิงชื่อ Gemma 3 ขวบครึ่ง ส่วนลิลลี่ จะ 3 ขวบตอน พฤศจิกายนนี้ค่ะ ตอนแรกไอ้เราก็ดีใจที่ลิลลี่จะมีเพื่อนเล่น ไปๆมาๆ กลับปวดหัวมากกว่าเดิม เพราะลิลลี่นี่ไปตีกับลูกเค้าทุก 5 นาทีเลยอ่ะค่ะ จะได้ยินเสียงคนใดคนหนึ่งร้องทุกๆ 5 นาทีสิน่า...ตอนแรกว่าจะพาไปเที่ยวทุกปี ตอนนี้เลยคิดใหม่ เอาไว้รอให้โตๆกันก่อนดีมั้ยเนี่ย จะได้ไม่ตีกัน...เฮ้อ


กว่าจะได้ภาพ 3 ลิงพร้อมหน้า Lily + Declan + Gemma





บ้านเค้าทำพื้นที่หลังบ้านเป็นสนามเด็กเล่นมีอุปกรณ์น่าสนุกเชียว






เล่นไป ตีกันไปด้วย ปวดหัวจริงๆ






อากาศร้อน แดดเปรี้ยง ตีกันจนเหนื่อย พักรบก่อน ขอกินไอติมซะหน่อย






เล่นซะเหนื่อยทั้งวันเลยขออาบน้ำให้หอมๆหน่อย อาบพร้อมกันนี่แหล่ะ จะได้ประหยัดน้ำ 555





ที่แวนคูเวอร์นี่คนจีนอยู่เยอะค่ะ เราเลยไม่ค่อยรู้สึกแปลกแยกเท่าไหร่ บ้านเมืองเค้าสวยสะอาดตาน่าอยู่มากค่ะ บ้านของครอบครัว Sheldon นี่ไม่ได้อยู่ในตัวเมือง ต้องขับรถออกมาแถว Surrey ประมาณ 20-30 นาที ซึ่งอากาศดีมาก หายใจเข้าไปนี่ได้อากาศดีแบบเต็มปอด ระหว่างทางจะมีฟาร์ม Organic ปลูกพืชผักผลไม้น่าอยู่มาก แบบว่าจะเห็นต้นเชอร์รี่ ราสเบอรี่ แอ๊ปเปิ้ล เต็มไปหมด คงเหมือนเวลาฝรั่งมาบ้านเรา เห็นต้นกล้วย มะม่วง ประมาณนั้น 555


ดอกไม้ต้นไม้เค้าก็เยอะมาก แล้วก็หลากหลายสีด้วย ลิลลี่เลยขอพิสูจน์ซะหน่อยว่าเจ้าดอกสีม่วงๆ (ลาเวนเดอร์) นี่มันหอมจริงป่าว





แล้วสีชมพูนี่จะหอมเหมือนกันมั้ยน้า ต้องพิสูจน์ๆๆ





บ้านเค้าติดทั้งทะเลและภูเขา จะขับเข้าตัวเมืองก็สะดวก น่าอยู่ค่ะ แต่ให้อยู่จริงคงไม่ไหว เพราะค่าครองชีพเค้าสูงทีเดียว แบบว่าเข้าซูเปอร์มาร์เก็ตทีเสีย 6-8 พันทุกครั้ง (บ้านเรานี่ไม่เกิน 3 พันค่ะ)


นี่ลิลลี่กับน้า Camilla ที่ชายหาดใน White Rock ค่ะ





แปะไว้ก่อน เดี๋ยวมา update ต่อ พอดีรายการ The Bachelor มาเดี๋ยวไปดูก่อน ...อิอิ









มาแล้วๆๆๆ ขอโทษค่ะ แบบว่าพอได้ดูพวกรายการ reality พวกนี้แล้วมันชอบติดงอมแงม 555 เป็นตอนจบพอดีด้วย เลยอยากลุ้นว่าเค้าเลือกผู้หญิงคนที่เราชอบหรือเปล่า (ไม่ค่อยประเทืองปัญญาหรอก แต่ก็ชอบดูอ่ะนะ 555)


มาดูเรื่อง trip ต่อละกันค่ะ ข้อเสียอย่างนึงของการไปเที่ยวนี่ก็คือ เราจะกินตามใจปากมากๆ เพราะคิดว่าเป็นช่วงที่ไม่ต้องคิดหรือทำอะไรมาก กินและเที่ยวอย่างเดียว และบรรดาพ่อแม่พี่น้องสามีที่น่ารักที่นี่ก็เรียกได้ว่า เลี้ยงดูปูเสื่อเราอย่างเต็มที่ ทำอาหารชนิดที่เรียกได้ว่าขึ้นเหลาได้เลยทีเดียวทั้งปริมาณและคุณภาพ ไอ้เราก็เกรงใจเลยตอบสนองมิตรไมตรีซะเต็มคราบทุกมื้อ ผลคือน้ำหนักขึ้นมาเกือบ 3 กิโลภายใน 3 อาทิตย์ (-_-")


ที่ร้านไอศครีมอิตาลีโฮมเมด ริมชายหาด





บรรดาอาหารคาวหวานที่ครอบครัวคุณ Sheldon ทำให้ทาน








ถ้าอยู่นานกว่านี้คงเพิ่มน้ำหนักเป็นรุ่น Heavy Weight แหงมๆ





เราก็ทำอาหารไทยให้เค้าทานนะคะ พวกแกงเขียวหวาน ผัดเปรี้ยวหวาน เค้าก็ชอบ (จริงๆอาจชมตามมารยาท 555) เครื่องแกงพอหาที่นี่ได้ค่ะ แต่รสไม่เด็ดเท่าโลโบ้ที่เป็นซองๆของบ้านเรา เวลาทานอาหารของเค้านี่เราต้องคอยเหยาะพวกซอส Tabasco รสจัดๆ ถึงจะไม่เลี่ยนน่ะค่ะ (เค้าก็พอจะเข้าใจเราเลยเตรียมเอาไว้ให้ด้วย) แล้วเค้าก็พาเราไปทานร้านอาหารไทยนะคะ ทั้งๆที่เรายืนยันว่าไม่เป็นไร เพราะจริงๆแล้วเราว่าเวลาไปทานตามร้านอาหารไทยในต่างประเทศนี่มันไม่ค่อยได้รสชาติแบบไทยจริงๆอ่ะ แถมยังแพงอีกต่างหากเนอะ


คุณพ่อสามีค่ะ เราว่าผู้ชายทำงานเก่งนี่มีเสน่ห์นะคะ





คุณสามีขอโชว์ฝีมือบ้าง (ไรฟะ...อยู่ที่บ้านไม่เคยเห็นทำ...)





แล้วก็กิน!!!!!!!!!!!!!!!...อีกแระ





มาถึงเรื่อง shopping บ้าง เรากะเต็มที่ว่าจะข้ามชายแดนไปอเมริกา (ที่ๆเราอยู่มันติดกับอเมริกาเลยค่ะ ขับรถ 15 นาทีถึงตรงชายแดน รัฐที่ติดกับชายแดนก็คือ วอชิงตัน ดีซี) ตามปกติคนแคนาดาสามารถข้ามไปซื้อของหรือท่องเที่ยวได้ เพียงแค่แสดง passport ของเค้า ทางคุณแม่กะน้องสาวคุณ Sheldon ก็กะพาเราไปช้อปที่โน่น เพราะถูกกว่า เราก็เช็คกับทางสถานทูตแคนาดาในกรุงเทพว่าถ้าเราได้ visa canada แล้วเราสามารถข้ามไป USA ได้มั้ย เจ้าหน้าที่เค้าก็ว่าได้ เราเลยมั่นใจว่าจะผ่านชายแดนข้ามไป shopping สบายใจเฉิบ.....


ตื่นตั้งแต่ 6 โมงเช้า โดยให้คุณสามีดูแลลิลลี่ แล้วเราบรรดาสาวๆจะไป shopping กัน พอไปถึงชายแดนปุ๊บ....ดู visa เราปั๊บ where is your US visa? เอิ่ม (ตัวหดเหลือนิดเดียว)...ก็.....ก็.....คิดว่าใช้ visa canada แล้วเข้า US ได้ด้วย.....(รู้สึกตัวเองเป็นกะเหรี่ยงแอบพยายามหนีเข้าเมืองไงไม่รู้) แล้วเจ้าหน้าที่ของอเมริกาหน้าโหดมาก เห็นเราพูดตะกุกตะกัก (ด้วยความกลัว) ก็คิดว่าเราพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ หนำซ้ำยังคิดว่าเราเป็นคนจีน หรือเวียดนาม หรือ อะไรก็แล้วแต่ที่หัวดำๆ (เค้าคงคิดว่าพวกคนเอเชียมันก็เครือเดียวๆกันหมด) พยายามจะหลบหนีเข้าเมืองเค้าหรือป่าว


ผลคือ เราใช้เวลาอยู่ในด่านกักคนเข้าเมืองร่วม 1 ชั่วโมง ต้องสแกนลายนิ้วมือต่างๆนานา ระหว่างที่รอนั้นก็ใจเสีย กลัวว่าจะทำประวัติคุณแม่กับน้องสาวสามีเสียหรือเปล่า เพราะเค้าข้ามมาซื้อของที่อเมริกาบ่อยๆ กลัวว่าเดี๋ยวเค้าโดน black list ไรงี้ ฐานพยายามลักลอบคนเอเชียหัวดำข้ามชาติ (วิตกจริตไปโน่น)


สรุปคือเค้าก็ปล่อยตัวพวกเรากลับแคนาดา โดยเรามีประวัติในฐานข้อมูลเค้าว่าเคยเข้า US มาโดยไม่มี tourist visa ส่วนคุณแม่กับน้องสาวไม่ได้โดนลง record แต่อย่างใด....ฟิ้ว....โล่งไปที แต่จิตวิญญาณนักช้อปของสาวๆก็ไม่ได้ลดน้อยลงแต่อย่างใด พวกเราเลยวกกลับมาช้อปใน Vancouver กัน แต่จริงๆแล้วก็เหมือนเวลาช้อปที่ห้างบ้านเราน่ะแหล่ะ เค้าก็เป็นช่วงลด 70% ประมาณนี้อยู่ แต่ที่น่าขำคือ เสื้อผ้าไซส์ฝรั่งนี่เล็กสุดของเค้า เราก็ยังใส่ไม่ได้อ่ะ แต่เราพบวิธีใหม่ คือ ช้อปใน kid section เราสามารถใส่ไซส์เด็กอายุ 9-12 ของเค้าได้พอดีเป๊ะ ดังนั้นเวลาเราเข้าร้านเสื้อผ้า เช่น Zara, Gap เราจะตรงดิ่งไปยัง kid zone ทันที ซึ่งเป็นเรื่องที่พวกเค้าแซวเราจนถึงทุกวันนี้ค่ะ :-)


ภาพบางส่วนใน Vancouver รถนั่งชมตัวเมือง





หรือจะนั่งแบบ old style แบบใช้พี่ม้าลาก






ขายดอกไม้สดชื่นดีจัง ซื้อดอกลิลลี่ไปฝากคุณแม่สามีเสียหน่อย เพราะชื่อพ้องเจ้าลิลลี่เรา แล้วท่านยังชอบดอกไม้สีขาวด้วย






เดินช้อปปิ้งไปเรื่อย (ไม่ค่อยได้ซื้อหรอก เดินดูมากกว่า แบบว่าช้อปบ้านเราถูกและมันส์กว่ากันเยอะค่ะ)






ไปดูท่าเรือ (จำชื่อไม่ได้อ่ะขออภัยค่ะ ประมาณ แกรนด์วา ไอร์แลนด์ หรือไงนี่แหล่ะ)





เดินตลาด หาอะไรทาน





เด็กคนอื่นให้อาหารนก ........... ส่วนลิลลี่.......วิ่งไล่นกกระเจิง






เห็นป้ายนี้แล้วตลกดีเอามาให้ดูกันค่ะ





หมดแรงข้าวต้มเสียแล้ว





ช่วงที่เราไปนี่ตรงกับ BC Day (British Columbia Day ทุกปีวันที่ 4 สิงหา) เป็นวันหยุดประจำท้องถิ่นของเค้า แคนาดานี่อยู่ในความปกครองของ Queen ประเทศอังกฤษค่ะ เค้าก็มีงาน sea festival จัดออกร้าน มีดนตรีแสดงริมชายหาด และที่น่ารักคือ มีจัดประกวดการสร้างปราสาททราย เป็นที่สนุกสนานของครอบครัวค่ะ คนแคนาดานี่เค้าให้ความสำคัญกับครอบครัวดีค่ะ คนเค้าไม่บ้าทำงานหรือเรียนมากเท่าคนแถบเอเชีย (เป็นความเห็นส่วนตัวนะคะ) สวัสดิการเค้าดีค่ะ แต่ภาษีที่เค้าเสียกันก็แพงทีเดียว แต่ถ้าเสียภาษีเยอะ แต่ได้นำมาพัฒนาประเทศจริงๆ ก็น่าเสียให้ค่ะ (ไม่พูดแระ...เดี๋ยวเข้าตัววุ้ย)


บรรยากาศงาน sea festival มีให้เด็กๆ paint หน้า





ออกมาเป็นแบบนี้ (เด็กๆทำมันก็น่ารักดี แต่เราทำคงน่ากลัวเนอะ)





นั่งชม Live concert เด็กๆ เต้นตามจังหวะมันส์ๆกันใหญ่








ประกวดสร้างปราสาททราย (เบลอได้อีก..ฮ่วย ฝีมือห่วย)





จริงๆแล้ว trip นี้ไม่ได้ทำอะไรมากค่ะ เป็นการไปเยี่ยมครอบครัวสามีและใช้เวลาอยู่ด้วยกันซะมากกว่า พอมีลูกซึ่งยังเล็กอยู่นี่จะค่อนข้างลำบากเวลาไปที่ต่างๆ เพราะเค้าจะงอแง อยู่ไม่นิ่ง และจะเหนื่อยมากกว่าสนุก (หมายความว่า คุณแม่เหนื่อย คุณลูกสนุก 555) เราเลยชอบอยู่บ้านมากกว่า (ลำบากน้อยกว่าว่างั้นเถอะ)


วันกลับ เครื่องออกไฟล์ทดึกมากๆ ตี 3 น่ะค่ะ แต่ดันดีเลย์อีก แกร่วรอถึง ตี 4 ครึ่งแน่ะ (ไม่ชอบเดินทางไปไหนก็เพราะเบื่อช่วงเดินทางบนเครื่องนี่แหล่ะ) คุณพ่อคุณแม่ Sheldon มาส่งทั้งน้ำตา เราก็ลาด้วยน้ำตา เพราะช่วงเวลาที่ลำบากอันยาวนานบนเครื่องกำลังจะเรื่มต้นอีกแล้ว 555





ยังไงนี่ก็เป็นการแชร์ประสบการณ์บางส่วนให้เพื่อนๆ ชมกันนะคะ ยังไงยินดีรับคำติชมเสมอค่ะ อาจจะยาวไปนิด แต่ก็อยากให้เพื่อนๆ ได้เกร็ดความรู้เล็กๆน้อยๆผ่านประสบการณ์ของเรา ยังไงก็ขอให้อ่านเพลินๆ เหมือนที่เราเขียนเพลินๆ นะคะ


ขอบคุณที่มาเยี่ยมชมนะคะ อย่าลืมแวะทักทายกันด้วยน้า







Create Date : 24 สิงหาคม 2551
Last Update : 1 กันยายน 2552 3:27:10 น. 16 comments
Counter : 1457 Pageviews.

 


โดย: VELEZ วันที่: 24 สิงหาคม 2551 เวลา:20:58:05 น.  

 
ขอบคุณนะคะ สำหรับ ประสบการณ์เรื่องเล่าในต่างแดน รวมทั้ง ความรู้สึก ที่กองตรวจคนเข้าเมืองของอเมริกา
แล้วมีน้ำใจห่วง ญาติสามีอีก นี่แหลาะ น้ำใจของคนไทย
นึกถึง คำว่า เกรงใจ ภาษาอังกฤษ เขียนว่าอย่างไร
เป็นกำลัง ให้เขียน เรื่อง ต่อไปนะคะ


โดย: tanawan IP: 58.9.146.91 วันที่: 26 สิงหาคม 2551 เวลา:11:06:14 น.  

 
ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมชมค่ะ ดีใจจังมีคนอ่านด้วย แอบพิมพ์ซะยาวเชียว (เพลินไปนิดค่ะ)

ปกติไม่ค่อยได้ไปเที่ยวที่ไหนหรอกค่ะ ขี้เกียจเดินทาง แบบว่าอยู่บ้านดูทีวีสบายกว่าค่ะ

ยังไงเข้ามาเยี่ยมชมกันอีกน้า

ขอบคุณมากจ้า


โดย: มนลิลลี่ วันที่: 26 สิงหาคม 2551 เวลา:17:34:09 น.  

 
ครอบครัวสุขสันต์ น่ารักมากมาย โดยเฉพาะภาพดมดอกไม้ อิอิอิ


โดย: Yim^wan วันที่: 26 สิงหาคม 2551 เวลา:21:02:54 น.  

 
อ่านเพลินเลยอ่ะ หุหุ...



โดย: เอ๊ะเองนะ IP: 124.120.194.189 วันที่: 29 สิงหาคม 2551 เวลา:0:42:23 น.  

 
เข้ามาหาเพราะคิดถึง

ครอบครัวสุขสันต์ของแท้

คิดถึงอะ


โดย: ดวงจ้า IP: 58.137.94.181 วันที่: 29 สิงหาคม 2551 เวลา:7:04:00 น.  

 
รูปแรกเหมือนลิลลี่มันฝืนใจกินข้าวนะ



โดย: Junior IP: 58.64.81.194 วันที่: 30 สิงหาคม 2551 เวลา:22:21:47 น.  

 
พี่อ้อม blogพี่อ้อมอ่านไปขำไป อ่านสนุกดูเพลิน ชอบรูปที่ ลิลลี่ดมลาเวนเดอร์ น่ารักจัง ถ้าไปถึงqatarแล้วใช้เน็ตได้มาอัพblogให้อ่านอีกนะคะ
คิดถึงทั้งครอบครัวเลย แล้วกลับมาเยี่ยมพวกเราอีกนะ
ปุ๊ก


โดย: ปุ๊ก SHB IP: 58.136.224.148 วันที่: 31 สิงหาคม 2551 เวลา:0:15:40 น.  

 
แวะมาเยี่ยมแม่น้องลิลลี่ค่า

ทริปน่าสนุกจังค่ะ ไม่รู้จะได้ไปเที่ยวโซนนั้นเมื่อไหร่

เพราะมัวติดอยู่ในโซนอาราเบีย กับโซนยุโรป

สงสัยได้ไปตอนแก่ซะละมั้ง (ตอนนี้ก็แก่แล้วล่ะ แต่หลอกตัวเอง)



โดย: เอมี่ (CoolDubaiChic ) วันที่: 13 กันยายน 2551 เวลา:18:39:56 น.  

 
เปิดดูรูปตั้งนานเพิ่งนึกได้ว่าเราเดินทางไปแคนาดาไฟลท์เดียวกัน ไม่ทราบว่าจะจำได้หรือเปล่านะคะ ที่มีลูกอายุ 9 เดือนไปด้วยน่ะค่ะ ดีใจมากนะคะที่ได้เจอกันที่นี่อีก ไว้เราค่อยคุยแลกเปลี่ยนกันดีมั้ยคะ กำลังจะทำเรื่องย้ายไปแคนาดาปีหน้าค่ะ


โดย: MOM'S SAM IP: 125.25.83.99 วันที่: 5 พฤศจิกายน 2551 เวลา:12:49:35 น.  

 
คุณอ้อม

มาเยี่ยมบล็อกแล้วนคะ สนุกมากเลยค่ะ
เขียนมาเล่าให้ฟังอีกนะคะ

เป็นครอบครัวที่น่ารักมาก


โดย: Freedom of Life วันที่: 10 พฤศจิกายน 2551 เวลา:1:03:21 น.  

 
I can see all of you. have a good time. nice photo ka


โดย: ben uk IP: 92.4.28.255 วันที่: 19 พฤศจิกายน 2551 เวลา:0:27:25 น.  

 
เป็นครอบครัวที่น่ารักมากค่ะ คุณพ่อคุณแม่สามีก็น่ารักมาก ดูรักลูก หลาน และสะใภ้ด้วยค่ะ ขอถามเพื่อเป็นความรู้ว่าแต่งงานกับคนต่างชาติ ต้องปรับตัวมากไหมคะ เช่น culture การใช้ชีวิตประจำวัน และเทียบกับชายไทยน่ารักกว่าไหมคะ

water


โดย: คุณ water IP: 124.122.241.146 วันที่: 7 มกราคม 2553 เวลา:16:47:59 น.  

 

น่ารักจังเลยค่ะคุณอ้อม อ่านแล้วเพลินดีค่ะ เหมือนได้ไปเที่ยวด้วยเลย


โดย: Angle IP: 166.70.192.33 วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:3:53:47 น.  

 
ดีมากเลยคะ แม้นไม่รู้จักกัน พออ่านเรื่องเล่าของคคุณอ้อมแล้ว เหมือนเป้นเพื่อนกันเลย ครอบครัวมีความสุขจังเลย ดีใจด้วยจริง ๆ


โดย: หน่อย คนนนท์ IP: 115.87.19.43 วันที่: 8 มิถุนายน 2553 เวลา:20:56:11 น.  

 
น่ารักมากคะ


โดย: manaswi IP: 202.29.83.76 วันที่: 4 ธันวาคม 2554 เวลา:11:23:48 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

มนลิลลี่
Location :
Al Khor Qatar

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




ยินดีที่ได้รู้จัก และขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมชมครอบครัว Smith นะคะ
Friends' blogs
[Add มนลิลลี่'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.