บทเรียนนี้..... แด่คนไทยทุกคน
บทเรียนเลือดจากติมอร์ผมขยับเป้เครื่องหลังใบใหญ่ให้กระชับกับแผ่นหลัง พลางขยับหมวกแบเร่ต์สีฟ้า สัญญลักษณ์ของทหารสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็น (UN - United Nations) ให้กระชับกับศรีษะ เป็นเวลาเดียวกับที่เครื่องเฮลิคอปเตอร์แบบ เอ็ม ไอ 8 (MI 8) ของรัสเซียที่นำมาใช้ในภารกิจรักษาสันติภาพในติมอร์ตะวันออก กำลังจะร่อนลงที่สนามบินในเมือง "โอกุสซี่" (Ocussie) ผมจำวันนั้นได้ดี ... มันเป็นวันที่อากาศร้อนระอุ ปลายปี 2546 อะไรทำให้ผมหวนนึกถึงห้วงเวลา 1 ปีของการเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ ในฐานะผู้สังเกตุการณ์ทางทหารขององค์การสหประชาชาติ หรือ อันโม่ (UNMO - United Nations Military Observer) ในฐานะตัวแทนของกองทัพไทย ...อาจจะเป็นภาพของการสังหารหมู่ที่เมืองเล็กๆ ที่ชื่อ "ตูมิน" (Tumin) หรืออาจจะเป็นภาพของคนติมอร์เข่นฆ่ากันเองอย่างเหี้ยมโหดในเมือง "ไอนาโร่" (Ainaro) เพียงเพราะมีความคิดเห็นที่ขัดแย้งกันหรืออาจจะเป็นภาพธงชาติไทยที่โบกสะบัดอยู่เบื้องหน้า ... ทำให้หวนนึกถึงสัญญลักษณ์ธงชาติไทยที่ประดับอยู่ที่หัวไหล่ด้านซ้ายของเครืองแบบ ขณะปฏิบัติหน้าที่อยู่ในติมอร์พอเฮลิคอปเตอร์จอดนิ่งสนิท ผมก็เดินลงจากเครื่อง ลมร้อนปะทะใบหน้าวูบใหญ่ แสงแดดแผดจ้าจนต้องรีบสวมแว่นกันแดด Oakley ที่คล้องคออยู่ทันที นี่หรือ ... เมืองโอกุสซี่ ... ดินแดนต้องคำสาป ที่ผู้คนเข่นฆ่ากันเป็นเบือ ...เป็นการเข่นฆ่ากันของคนติมอร์ด้วยกันเอง ... คนร่วมเชื้อชาติ ชนเผ่า ภาษา ศาสนาเดียวกัน ... บางคนเป็นญาติร่วมพี่ร่วมน้องกันมาแต่เล็กแต่น้อย ... วิ่งเล่นกันมาตั้งแต่จำความได้แต่เมื่อต่างความคิด ... ความแตกแยกก็บังเกิดต่างลุกขึ้นจับอาวุธเข้าเข่นฆ่า ประหัตประหารกัน ภายใต้การนำนาย ซีโม โลเปซ (Siemo Lopez) อดีตนายอำเภอของเมืองนี้ ไม่น่าเชื่อ ... มันจะไม่มีอะไรที่น่าสนใจเลยในบันทึกความทรงจำนี้ หากผมทำหน้าที่นายทหารสหประชาชาติธรรมดาๆ เหมือนที่คนอื่นๆ จากทั่วโลกเขาทำกัน ... สังเกตุการณ์ และเขียนรายงานประจำวัน ... เท่านั้นเอง แต่ผมบังเอิญไปสนิทสนมกับนายซีโม โลเปซ ฆาตกรเลือดเย็นคนนั้นเข้าให้อย่างบังเอิญ ...เรื่องราวที่น่าสนใจของการฆ่าล้างเผ่าพันธ์จึงถูกถ่ายทอดมาสู่ผม จากปากคำของซีโม โลเปซเอง ... คุณเคยนั่งคุยกับฆาตกรที่เข่นฆ่าผู้คนเป็นร้อยๆ ศพหรือไม่ครับ ...
อย่าให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นในเมืองไทยของเราเลย