การปลูกบ้านหลังนี้มีญาติพี่น้องหลายคนและผู้คนในหมู่บ้านต่างก็ตั้งคำถามมากมายให้กับพี่เขย มีทั้งคนที่คอยชื่นชมยินดี และก็มีทั้งคนที่คอยพูดจาบั่นทอนจิตใจอยู่บ้าง แต่ถึงกระนั้นพี่สาวกับพี่เขยก็ไม่เคยท้อแท้อย่างใด เพราะก่อนพ่อเสียชีวิต ท่านได้กำชับพี่สาวและพี่เขยให้ดูแลฉันให้ดีที่สุด การที่พี่สาวและพี่เขยช่วยกันสร้างบ้านหลังนี้ให้เสร็จที่เมืองไทย ก็เหมือนกับพี่สาวได้ทำตามความหวังและความฝันของพ่อให้เป็นจริง เพราะพ่ออยากให้ฉันกับคนรักมีชีวิตอยู่ที่บ้านเกิดเมืองนอนเสียมากกว่า พี่สาวและพี่เขยจึงหนักแน่นเป็นที่สุด

ฉันและคนรักคอยโทรศัพท์ไปให้กำลังใจพี่สาวและพี่เขยอยู่เสมอ ไม่ให้สนใจคำพูดผู้คนที่ทำให้เราเสียใจ ขอให้ตั้งใจทำงานทำหน้าที่ตัวเองให้ดี ในสังคมมนุษย์เรา มีทั้งสิ่งดี ๆ ที่ให้เราได้เรียนรู้ และมีสิ่งที่ไม่ดีที่ทำให้เรารู้สึกไม่สบายใจอยู่มาก ดังนั้นในทุก ๆ วัน หากเราอยากมีชีวิตที่มีความสุข เราก็ควรที่จะเลือกแต่สิ่งดี ๆ เข้ามาในชีวิตและครอบครัว ฉันบอกกับพี่สาวเสมอว่า ใครที่มีปัญหาอะไร มีคำถามใด ๆ ที่ใคร่อยากรู้เกี่ยวกับชีวิตของฉันและคนรัก ไว้ให้ฉันไปถึงเมืองไทย ก็ขอให้มาถามด้วยตัวเอง ฉันกับคนรักจะตอบคำถามให้กระจ่างทั้งหมด

คนในหมู่บ้านบางคนที่ไม่รู้จักฉัน ก็มักจะพูดกับพี่สาวและพี่เขยว่า

"เงินฝรั่ง จะทำบ้านใหญ่โตแค่ไหนก็ทำได้ ลองมีสามีคนไทยสิ มันทำไม่ได้ขนาดนี้หรอก"

ทุกครั้งที่ได้ยินเรื่องราวเหล่านี้ ฉันรู้สึกน้อยใจอยู่บ้าง แต่ก็ไม่เคยเสียใจอะไร แค่คนในครอบครัวเข้าใจ แค่นี้ฉันก็สุขใจที่สุดแล้ว

แต่บางครั้ง ในบางช่วงชีวิต ฉันก็อดคิดไม่ได้ รู้สึกเสียดายที่ผู้คนในหมู่บ้านบางคนมักจะมองข้ามความสามารถของฉันอยู่ตลอด ถึงฉันจะเป็นลูกสาวคนเล็กที่ดูจะอ่อนแอกว่าใคร ๆ ในครอบครัว แต่ไม่มีใครรู้หรอกว่า ในความอ่อนแอที่ฉันเป็น ทุกก้าวย่างที่ผ่านไป ทุกประสบการณ์ที่สัมผัส มันสร้างภูมิต้านทาน และความเข้มแข็งให้กับฉันตลอด ซึ่งถ้าไม่ใช่คนในครอบครัวหรือเพื่อน ๆ ที่สนิทกัน จะไม่มีใครรู้เลยว่า ทุกวันนี้ฉันมีชีวิตครอบครัวอย่างไร ทำงานอาชีพอะไร เพื่อที่จะมีชีวิตที่ดี เพื่อที่จะเก็บเงินสร้างฐานะสร้างครอบครัวกับคนรักสองคน 

บางคนมักจะคิดเหมารวมกันว่า ฉันแต่งงานกับฝรั่งและนอนกินเงินกินทองเท่านั้น แต่จะมีสักกี่คนที่รู้ว่า ทุก ๆ แปดโมงเช้าจันทร์ถึงศุกร์ ฉันจะต้องตื่นแต่เช้าไปสอนหนังสือเด็กนักเรียนอนุบาล พอเลิกสอนหนังสือบ่ายสามโมงเย็น ก็ขับรถกลับบ้าน เพื่อมาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ และต้องเข้าไปทำงานบัญชีต่อ ซึ่งชีวิตเป็นแบบนี้สามปีเต็ม ๆ 

ในบางครั้งก็อาจจะเหนื่อยล้าบ้าง แต่ก็มีความสุขที่สุดที่ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรักและถนัด และที่สำคัญที่สุด ฉันเองก็สุขใจและภูมิใจที่ได้ช่วยคนรักทำงานเก็บเงินสร้างฐานะสร้างครอบครัว มันคือกำไรชีวิตล้วน ๆ ที่ได้สัมผัสและประสบการณ์สิ่งดี ๆ รอบข้างไปในตัว ซึ่งประสบการณ์เหล่านี้ ต่อให้มีเงินเยอะแค่ไหน ก็ไม่สามารถซื้อได้ด้วยเงิน แต่เราสามารถที่ก้าวเข้าไปสัมผัสด้วยตัวเองได้ไม่ยาก

ทุกวันนี้ฉันกับคนรักใช้ชีวิตเงียบ ๆ ทำงานทำหน้าที่ตัวเองให้ดีที่สุด ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร ชีวิตจะอยู่กับครอบครัวเป็นหลัก พยายามที่จะทำความฝันตัวเองให้เป็นจริง วางแผนเป้าหมายชีวิตเอาไว้แต่เนิ่น ๆ เพราะตั้งใจไว้ว่า จะทำงานอีกแค่สิบห้าปีเท่านั้น ก็จะเกษียณจากงานและพากันกลับไปอยู่เมืองไทย เพื่อที่จะได้อยู่ใกล้ ๆ พี่น้องครอบครัวที่บ้านนา หรือบางทีก็อาจจะอยู่เมืองไทยและอเมริกาสลับกันอย่างละครึ่งปี ซึ่งก็ต้องดูอีกทีว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร รู้แต่ว่า ณ วันนี้แผนชีวิตไม่มีอะไรมาก มีเพียงเท่านี้เท่านั้น

ฉันยอมรับเลยว่า ตัวฉันเองและคนรักค่อนข้างใช้ชีวิตด้วยความระมัดระวังอยู่เสมอ อะไรที่ดีมีประโยชน์ก็จะทำ อะไรที่ไร้สาระและไม่ให้คุณประโยชน์อะไร ก็จะไม่ยุ่งเกี่ยว เราสองคนพยายามใช้เวลาทุกวินาทีให้คุ้มค่าที่สุด เพราะเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่า พรุ่งนี้และอนาคตจะเป็นอย่างไร 

ณ วันนี้เรามีสิ่งต้องรับผิดชอบและต้องทำให้สำเร็จ เราก็ทุ่มเทและทุ่มใจให้พอสมควร โชคดีที่พี่สาวและพี่เขยคอยช่วยเหลืออยู่ตลอด ผลการสร้างบ้านและความคืบหน้าต่าง ๆ พี่สาวและพี่เขยจะส่งรูปมาให้ดูเป็นระยะ ๆ 

เวลาผ่านไปไม่นาน ช่างเชยและลูกทีมเริ่มใส่ระเบียงหน้าบ้าน ซึ่งเป็นไม้สักลายฉลุใบไม้ที่พี่สาวและพี่เขยซื้อมาให้จากกรุงเทพฯ ฉันกับคนรักได้เห็นภาพก็อดภูมิใจไม่ได้ นี่แหละคือภาพบ้านในฝันที่บ้านนาของฉัน ที่ฉันและคนรักอยากจะมี ระเบียงรับลมเย็น ๆ เพื่อที่คนรักจะได้นั่งอ่านและเขียนหนังสือของเขา และมองภาพชีวิตผู้คนที่สัญจรไปมาบนถนนในหมู่บ้านไปด้วย

พื้นภายในชั้นสองลงสีเคลือบยูรีเทนไปบ้างแล้ว

ตอนนี้ช่างก็ทยอยทำหน้าต่างไปเรื่อย ๆ และก็มีช่างบางส่วนที่เริ่มปูพื้นแกรนิตโต้ในตัวบ้านแล้ว 

แคร่ไม้ที่พี่เขยทำไว้นั่งเล่น ฝีมือสวยทีเดียว เห็นบอกว่าไว้ทำบ้านเสร็จจะทำโต๊ะอาหารไว้ให้