บ้านทรงไทยประยุกต์..เรือนไทย-เคจั่น ณ เมืองไทย (Thai-Cajun House) บทที่ 2
ในหมู่บ้านที่ฉันเติบโตมา ผู้คนส่วนใหญ่จะปลูกบ้านเรือนหลังคาทรงจั่วมากกว่า ฉันยอมรับว่าชอบบ้านแบบไทย ๆ ไม่ได้ชอบแบบโมเดิร์นเลย ฉันรู้สึกว่าบ้านที่อยู่ในอเมริกาก็ค่อนข้างจะโมเดิร์น ถ้าหากจะมีบ้านที่เมืองไทย ก็อยากได้บ้านแบบไทย ๆ เอาไว้ ทรงหลังคาอยากให้แตกต่างจากผู้คนในหมู่บ้าน เพราะเป็นความชอบส่วนตัว และก็ยอมรับว่า บ้านเรือนไทยที่มีความผสมผสาน คือความงดงามที่ฉันหลงรัก และที่สำคัญเป็นเอกลักษณ์ที่บ่งบอกความเป็นไทยอย่างเด่นชัด แม้จะมีการประยุกต์ดัดแปลงบางส่วนอยู่บ้าง แต่ก็ไม่เคยทำให้ส่วนโดดเด่นตรงนี้หายไป เสน่ห์ความงามของบ้านแบบไทย ๆ ดูยังไงก็สบายตาสบายใจไปด้วย
ที่สำคัญฉันเองก็ผูกพันกับบ้านแบบไทย ๆ มากกว่า จะว่าเป็นบ้านในฝันก็ว่าได้ และในวันนั้นฉันก็ได้โทรคุยกับพี่สาวและพี่เขยเกี่ยวกับเรื่องบ้าน โดยบอกว่าจะออกแบบบ้านเองทั้งหมด จะวาดภาพแปลนให้พี่สาวและพี่เขยดูว่าต้องการอะไรบ้าง และเลือกทรงหลังคาแบบไหน ซึ่งพี่สาวและพี่เขยก็เห็นด้วย ฉันเองก็เสิร์ทหาข้อมูลบ้านทรงล้านนาที่มีลักษณะหลังคาคล้าย ๆ คุ้มเจ้าหลวง เพียงแต่ในแบบที่ไม่ใหญ่เกินไป แต่ดูดีและเหมาะสมกับครอบครัวเล็ก ๆ อย่างฉันและคนรัก
ในช่วงวันหยุดฉันก็ตัดสินใจวาดแบบแปลนบ้านภายในด้วยตัวเอง เป็นบ้านทรงไทยประยุกต์ แบบชั้นบนเป็นไม้ทั้งหมด ส่วนชั้นล่างเป็นแบบบ้านปูน โดยใช้อิญมอญก่อผนังในชั้นล่าง เพราะอยากให้บ้านแข็งแรง ระเบียงไม้ขอให้เป็นไม้แกะสลักที่เป็นพวกไม้สักแบบทางภาคเหนือ ส่วนที่เหลือก็ให้พี่สาวและพี่เขยช่วยให้คำแนะนำ ซึ่งในแบบก็ได้โดยระบุชัดเจน จะต้องมีหนึ่งห้องน้ำใหญ่ ๆ และมีสี่ห้องนอน ภายในบ้านอยากให้มีฝ้าหลุมทั้งที่เป็นฝ้าไม้ระแนงด้วย และบริเวณฝ้าด้านนอกขอเป็นไม้ระแนงทั้งหมด ยิ่งเล่นลวดลายได้ยิ่งดี ส่วนด้านในจะเป็นแบบไหนก็ได้ที่ว่าสวยในสายตาของพี่สาวและพี่เขย สำหรับหลังคาบ้าน ฉันก็เลือกแบบที่ฉันชอบส่งไปให้พี่สาวและพี่เขยดู โดยถามว่ามีช่างแถวบ้านทำได้ไหม พี่สาวและพี่เขยตกลงทันที รีบปริ้นภาพแบบความฝันของน้องสาวคนนี้ไปเก็บไว้ในไฟล์ เพื่อจะได้เตรียมหาช่างและสั่งซื้อไม้ไว้แต่เนิ่น ๆ
แบบบ้านชั้นบนและชั้นล่าง แบบหลังคาบ้านด้านในตัวบ้านจะเป็นทรงปั้นหยา ด้านหน้าระเบียงและห้องนอนด้านหลังทรงหลังคาผสมจั่วและปั้นหยา ส่วนจุดที่เป็นห้องครัวแบบไหนก็ได้ ให้พี่เขยและช่างเป็นคนตัดสินใจทำให้ เสาบ้านทั้งหมดจะต้องมี 18 ต้น แต่จุดที่เป็นห้องครัวและห้องโถงด้านหลังไม่มีเสายาวขึ้นไปชั้นสอง เพราะห้องครัวให้ช่างทำสโลบหลังคาแบบง่าย ๆ
พี่น้องทุกคนได้ทราบว่าฉันจะปลูกบ้านก็ดีใจ แต่ก็มีติงว่าทำไมไม่สร้างห้องน้ำชั้นบน ฉันบอกกับทุกคนว่า ฉันกับคนรักไม่ได้ไปอยู่เมืองไทยถาวร จะได้กลับเพียงปีละหนึ่งครั้งเท่านั้น และอีกอย่างการสร้างห้องน้ำในชั้นบนนั้น ฉันมีแผนจะสร้างในช่วงเวลาที่ฉันได้กลับมาอยู่เมืองไทยถาวรจริง ๆ เพราะฉันอยากเลือกและตกแต่งห้องน้ำตามแบบที่ชอบด้วยตัวเอง ได้เลือกสีกระเบื้องและเครื่องสุขภัณฑ์ทุกอย่างเอง จะเอาอ่างอาบน้ำในตัว หรืออ่างน้ำวนหรืออะไรก็ตามแต่ ฉันอยากมีโอกาสได้เลือกด้วยตัวเอง อยากเห็นภาพนั้นจริง ๆ และคนรักมีส่วนตรงนี้ด้วย ซึ่งพี่น้องทุกคนต่างก็เข้าใจเหตุผลทั้งหมด
หลังจากที่ได้แบบบ้านแล้ว ฉันก็ให้พี่สาวและพี่เขยสอบถามช่างแถวบ้าน ซึ่งน้าเขยที่เคยเป็นช่างทำบ้านก็ได้ให้คำปรึกษาที่ดีมาก โดยให้คำแนะนำพี่สาวและพี่เขยไปหาช่างแถวบ้านซึ่งเป็นญาติห่าง ๆ กัน เพราะช่างคนนี้รับสร้างบ้านอยู่ คิดว่าเขาน่าจะทำได้ ในตอนแรกพี่สาวไปหาช่างคนนี้ เขาดูแบบบ้านและช่วยคำนวณเรื่องไม้ต่าง ๆ ที่ต้องใช้ให้ทั้งหมด โดยระบุค่าจ้างคร่าว ๆ ประมาณสองแสนห้าหมื่นบาท ซึ่งฉันก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่ช่างคนนี้ไม่ได้ตกลงอะไรในวันนั้น เพราะบอกว่าจะคุยกับลูกทีมเสียก่อน แล้วจะตกลงเรื่องตัวเลขค่ารับเหมาอีกที โดยที่ได้นัดพี่สาวและพี่เขยเอาไว้วันหลัง
พอถึงวันนัดพี่สาวกับพี่เขยไปหาช่างคนนี้อีก ลูกทีมทุกคนเห็นแย้งกับหัวหน้าช่าง เพราะทุกคนรู้ว่าบ้านหลังนี้พี่สาวและพี่เขยปลูกให้ฉันและคนรัก ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า "ทำบ้านให้เมียฝรั่ง ก็ต้องแพงหน่อย" โดยที่เรียกเฉพาะค่าแรงทั้งหมดสี่แสนห้า พี่สาวและพี่เขยรู้สึกอึ้งเมื่อได้ยิน ต่างก็พูดอะไรไม่ออก เพราะไม่คิดว่าค่าช่างจะแพงขนาดนี้ ทุกคนกดราคาค่าช่าง เพราะเหตุผลที่คนรักของฉันเป็นชาวต่างชาตินี่เอง
พี่สาวและพี่เขยรู้สึกผิดหวังและเสียใจอยู่มาก และก็รู้ว่าฉันจะต้องเสียใจและเสียความรู้สึกให้กับคนเหล่านี้อยู่ไม่น้อย จีงปฏิเสธแบบรักษาน้ำใจกัน โดยบอกว่าไม่สามารถสู้ราคาค่าช่างได้ จากนั้นพี่สาวก็โทรมาเล่าให้ฉันฟังเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น ฉันรู้สึกเจ็บปวดในใจจี๊ด ๆ เพราะไม่คิดว่าคนบ้านเดียวกันก็เป็นแบบนี้ เห็นใครแต่งงานกับชาวต่างชาติไม่ได้ เวลาจะติดต่อว่าจ้างอะไร ก็มักจะกดราคาเสมอ ไม่ว่าจะซื้อของอะไรก็ตาม ทำให้ฉันรู้สึกเบื่อหน่ายกับชีวิตคนเหล่านี้ แต่พี่สาวและพี่เขยก็ปลอบโยนและคอยให้กำลังใจ พร้อมทั้งให้สัญญาว่าจะหาช่างดี ๆ มาทำบ้านให้ได้แน่นอน ฉันกับคนรักอุ่นใจขึ้นมาบ้าง เพราะก็เชื่อมั่นและเชื่อใจในฝีมือพี่สาวและพี่เขยเสมอ ช่วงระหว่างนั้นพี่สาวและพี่เขยต่างก็ขับรถตระเวนหาช่างปลูกบ้านทั่วทั้งตำบล อำเภอและเข้าไปถามช่างที่ปลูกบ้านแต่ละหลังตลอด ช่างบางคนก็ปฏิเสธไม่กล้ารับงาน เพราะคิดว่าเป็นบ้านหลังใหญ่ เกรงว่าจะทำไม่เสร็จตามเวลาที่กำหนดไว้ บางคนก็เรียกค่าช่างสูง ๆ เพื่อไม่ให้เราสู้ราคา เพราะฝีมือช่างไม่ถึงแต่ไม่อยากบอกกับเราตรง ๆ เนื่องมาจากกลัวเสียฟอร์ม จึงใช้วิธีตอบไม่รับแบบมีลูกเล่นในแบบของตัวเอง บางคนก็ไม่รับปากแต่ก็มีวิธีบอกรับไม่ปฏิเสธที่ให้ความหวังแบบลอย ๆ อย่างไม่มีกำหนด เพราะไม่อยากให้ทีมช่างคนอื่น ๆ ได้งานไป อันเนื่องมาจากรู้ว่า ค่าจ้างปลูกบ้านหลังนี้ราคาไม่น่าจะต่ำกว่าสามแสน หลาย ๆ ปัญหาที่เกิดขึ้่น ทำให้พี่สาวและพี่เขยเหนื่อยที่ต้องขับรถตระเวนหาช่างอยู่มาก ไหนจะต้องรับมือกับลูกเล่นของช่างแต่ละคนอีก
นับว่าโชคดีอยู่มาก เพราะญาติห่าง ๆ ที่อยู่อีกตำบลหนึ่งเป็นช่างทำบ้านให้กับครอบครัวคนหนึ่ง ในวันถัดมาพี่เขยได้พาพี่สาวแวะไปถาม เผื่อเขาจะรับทำบ้านให้ฉันและคนรัก พี่เขยและพี่สาวเอาภาพแบบบ้านไปให้ช่างดู ญาติคนนี้เห็นแบบแล้วก็เงยหน้ามองหน้าพี่เขยทันที และก็หันไปบอกพี่เขยกับพี่สาวว่า
"บ้านหลังใหญ่มาก หลังคาไม่เหมือนใครเขา คงจะทำยากหน่อย ตัวพี่เองฝีมือไม่ถึงหรอก และไม่มีอุปกรณ์เพียงพอ บวกกับไม่มีลูกทีมที่ดี คงจะทำบ้านหลังนี้ให้ไม่ได้ แต่พี่ก็พอจะแนะนำช่างดี ๆ ให้ได้ เพราะมีช่างคนหนึ่งที่พี่รู้จัก เป็นคนที่ทำงานดีมาก ๆ ผลงานโดดเด่น ประสบการณ์เยอะ ปกติช่างคนนี้ไม่รับงานธรรมดา ๆ นะ" พี่เขยได้ยินที่ญาติคนนี้พูดก็มีกำลังใจขึ้นมาบ้าง รีบถามขึ้นทันที "พี่พาผมไปหาช่างคนนี้ได้ไหมล่ะ"
"ได้ ๆ เดี๋ยวพี่จะพาไปเอง"
เมื่อคุยเสร็จ ญาติคนนี้ก็พาพี่สาวและพี่เขยไปหาช่างคนนี้ทันที ซึ่่งช่างคนนี้มีชื่อว่า "ช่างเชย" เป็นช่างที่รับทำบ้านให้กำนันตำบลละลมอยู่ ช่างเชยและลูกทีมมีประสบการณ์ปลูกบ้านมาหลายสิบปี เพราะเคยไปทำงานก่อสร้างในเมืองกรุงอยู่นาน เคยไปทำบ้านให้คนมีชื่อเสียงหลายคน บ้านผู้คนที่มีระดับในตัวเมืองที่ฉันอยู่ ส่วนใหญ่ก็มีผลงานช่างเชยและลูกทีมอยู่มาก เพราะว่าช่างเชยเป็นช่างที่เก่งและฝีมือดีมาก ๆ บวกกับเป็นช่างที่มีความขยันทำงาน ซื่อสัตย์ และค่อนข้างนอบน้อม แม้จะพูดเก่งดูเหมือนจะเป็นคนที่โอ้อวดในฝีมือสำหรับคนที่ไม่รู้จักช่างเชย แต่ช่างเชยเป็นคนที่พูดแล้วทำได้เหมือนปากที่พูดจริง ๆ ไม่ได้โม้อย่างที่พูดแต่ผลงานเป็นที่ยอมรับของคนในละแวกนั้น
เมื่อญาติคนนี้แนะนำให้พี่สาวและพี่เขยได้รู้จักกับช่างเชยและลูกทีม ช่างเชยก็ขออนุญาตกำนันเจ้าของงานลงมาคุยกับพี่สาวและพี่เขยเพียงสามสิบนาทีเท่านั้น เพราะช่างเชยบอกว่าจะคุยได้เฉพาะเวลาพักทานข้าวเท่านั้น เวลาทำงานจะไม่มีการมาคุยกันเรื่องนี้ และจะทำงานกันจนถึงเวลาเลิก โดยที่ช่างเชยได้นัดกับพี่เขยกับพี่สาวว่า วันศุกร์ตอนเย็นหลังเลิกงานจะเข้าไปคุยที่บ้านเอง ซึ่งทุกคนก็รับปากอย่างมั่นเหมาะ ทั้งนี้ช่างเชยก็ได้ขออนุญาตกำนัน และก็ชวนให้พี่สาวและพี่เขยเข้าไปดูภายในบ้านของกำนันประจำตำบลละลม ซึ่งเป็นบ้านที่ตกแต่งด้วยไม้ประดู่และไม้สักที่สวยงาม และฝีมือการทำงานค่อนข้างละเอียดแต่โดดเด่นหลายอย่าง ทำให้พี่เขยและพี่สาวพยักหน้าให้กันทันที พร้อมทั้งขอบคุณญาติคนนี้ที่แนะนำให้รู้จักกับช่างเชย
ทุกครั้งที่พี่สาวและพี่เขยไปหาช่างมาทำบ้านให้ พี่สาวกับพี่เขยก็แอบอ้างว่าเป็นบ้านของตัวเองเสมอ เพราะฉันกำชับกับพี่สาวเองว่า ห้ามบอกใคร ๆ ว่าบ้านหลังนี้เป็นของฉันและคนรัก เพราะฉันอยากให้ทุกคนเข้าใจว่า บ้านที่จะปลูกนี้เป็นของพี่สาวและพี่เขยเท่านั้น ด้วยเหตุผลที่ไม่อยากได้ยินทีมช่างแต่ละคนเรียกค่าแรงที่ไม่ยุติธรรม กดค่าแรงอย่างไม่ปราณี และถือสิทธิ์ิดว่าเป็นบ้านภรรยาฝรั่ง จะคิดราคาสูงแพงอย่างไร ฝรั่งก็ต้องจ่าย แต่เขาไม่เคยรู้เลยว่า ในบางครั้งคนเราก็มีความรู้สึกเหมือนกันเมื่อถูกเอาเปรียบอย่างเห็นได้ชัด แม้จะไม่พูดจาอะไร และทำตัวเงียบ ๆ มาตลอด ก็รู้สึกเสียใจและเสียความรู้สึกอยู่มาก และฉันกับคนรักก็มักจะกำชับกับพี่สาวไว้เสมอว่า
"ใครก็ตามที่เอาเปรียบและไม่เกียรติกัน ก็ไม่ต้องให้งานทำ หากหาช่างที่ดีปลูกบ้านไม่ได้ ก็ยินดีไปจ้างบริษัทรับสร้างบ้านโดยตรงดีกว่า ยอมเสียเงินแพง ๆ แต่สบายใจ และมีศักดิ์ศรี ไม่ต้องมีคนพูดคำนี้ให้ได้ยินอีก" ซึ่งพี่สาวและพี่เขยก็เห็นด้วยมาก ๆ กับความคิดของฉันและคนรัก
ในตอนเย็นวันนั้นพี่สาวรีบโทรทางไกลข้ามประเทศมาบอกข่าวดีแก่ฉันและคนรักทันที เราสองคนรู้สึกดีใจเป็นอย่างมากที่พี่สาวพอจะหาช่างได้บ้าง แม้จะยังไม่ได้ตอบตกลงทำสัญญาอะไร แต่ก็พอจะมีความหวังอยู่บ้าง พี่สาวเล่าให้ฟังเกี่ยวกับบ้านกำนันที่ช่างเชยสร้างอยู่ ทำให้ฉันคิดตามไปด้วย กำนันตำบลละลมเป็นคนที่ค่อนข้างมีฐานะ จึงเป็นธรรมดาที่บ้านเขาจะต้องสวยและโดดเด่นกว่าใคร ๆ ในหมู่บ้าน ซึ่งฉันก็อดชื่นชมบ้านของกำนันไม่ได้ เพราะตอนเด็ก ๆ เคยนั่งรถโดยสารผ่าน ได้เห็นภาพบ้านที่งดงาม และความมั่งคงทั้งหน้าที่การงานชื่อเสียงที่ดี ก็อดที่จะยินดีด้วยไม่ได้
ฉันบอกกับพี่สาวว่า "บ้านของเนียงกับชิพไม่ต้องสวยเท่ากับบ้านกำนันหรอกนะคะ ขอแค่ช่างสามารถทำบ้านตามแบบที่เนียงชอบได้ แค่นี้เนียงก็ดีใจมาก ๆ แล้ว"
พี่สาวรับปากว่าจะดูแลให้ช่างทำบ้านของฉันให้สวยและมีคุณภาพตามที่ฉันและคนรักต้องการ ฉันเองอดจะขอบคุณพี่สาวและพี่เขยไม่ได้ แม้ว่าในชีวิตนี้จะไม่มีพ่อและแม่คอยช่วยเหลือทุกอย่าง แต่ฉันก็โชคดีที่มีพี่สาวและพี่เขยที่ดีที่คอยดูแลช่วยเหลือมาตลอด
วันศุกร์ตรงกับวันนัดของช่างเชย พี่สาวและพี่เขยก็ตั้งหน้าตั้งตานั่งคอยที่หน้าบ้าน พอประมาณห้าโมงครึ่งช่างเชยและทีมงานมาตามนัดตรงเวลาที่กำหนดไว้ พี่สาวและพี่เขยเชิญช่างเชยและทีมงานเข้ามานั่งภายในบ้าน พี่สาวและพี่เขยได้จัดหาน้ำให้ดื่มตามมารยาท หากการตกลงคุยกันเป็นไปโดยดี อาจจะมีการเลี้ยงเหล้ายาปลาปิ้งตบท้ายด้วย
คำถามแรกที่พี่เขยถามก็เรื่องหลังคาบ้าน พี่เขยอยากรู้ว่าช่างเชยและทีมงานสามารถสร้างบ้านหลังคาทรงนี้ได้หรือไม่ และบ้านใหญ่ขนาดนี้ต้องใช้ระยะเวลากี่เดือน ช่างเชยตอบคำถามได้ชัดเจน โดยบอกว่า หากจะให้ปลูกบ้านหลังนี้ช่วงปลายพฤศจิกายนนั้น ก็คงจะเสร็จภายในเดือนเมษายนแน่นอน เพราะพี่เขยต้องการให้บ้านเสร็จก่อนเดือนพฤษภาคม เผื่อฉันและคนรักกลับช่วงต้นซัมเมอร์ จะได้มีบ้านอยู่เป็นของตัวเอง
ส่วนราคารับเหมานั้น ช่างเชยคิดในราคาตารางเมตรละ 3,000 บาท ซึ่งเป็นราคามาตรฐานเดียวกับกรุงเทพฯ โดยที่เจ้าของบ้านเป็นจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้ทั้งหมด ไม่ต้องเลี้ยงเหล้าทุก ๆ วันหลังเลิกงานเหมือนทีมช่างคนอื่น ๆ ช่างเชยขอแค่น้ำดื่มในแต่ละวันเท่านั้น ซึ่งช่างเชยและทีมงานจะห่อข้าวกลางวันมาทานกันเอง ซึ่งพี่สาวกับพี่เขยได้ยินคำขอของช่างก็อดชื่นชมไม่ได้ เพราะช่างคนอื่น ๆ ที่เคยไปถามมา ก็มีแต่ข้อแม้ที่ว่าจะต้องเลี้ยงเหล้าทุกเย็นหลังเลิกงาน แต่กับช่างเชยนั้น ไม่มีข้อแม้ใด ๆ มีแต่ขอน้ำดื่มเท่านั้น ส่วนเรื่องที่เจ้าของบ้านจะซื้อเลี้ยงหรือจะซื้ออะไรให้ทานก็แล้วแต่น้ำใจ อันนี้ช่างเชยและทีมงานไม่คิดอะไรมาก
ในขณะนั้นพี่เขยรีบโทรศัพท์มาบอกรายละเอียดว่าควรจะตกลงไหม ซึ่งฉันก็ตกลงทันที บอกว่ายินดีจ่ายเสมอ ขอให้ทำงานให้ดี แม้จะคิดราคารับเหมาในแบบราคากรุงเทพฯ แต่ถ้าผลงานดีมีความเป็นระดับฝีมือ ฉันกับคนรักยินดีจ่ายเสมอ ซึ่งในวันนั้นพี่เขยและพี่สาวก็ได้นัดแนะวันทำสัญญาสำคัญต่าง ๆ เอาไว้ และช่างเชยก็ได้ให้คำแนะนำต่าง ๆ เพื่อให้พี่สาวและพี่เขยได้เตรียมพร้อมเอาไว้ พอคุยธุระสำคัญเรื่องบ้านเสร็จและได้ตกลงทุกอย่าง พี่สาวและพี่เขยก็ได้จัดซื้อเหล้ายาปลาปิ้งมาเลี้ยงช่างเชยและลูกทีมเพื่อเป็นการขอบคุณ และทุกครั้งที่มีปัญหาอะไร ช่างเชยก็ให้พี่สาวและพี่เขยขับรถมาปรึกษาได้ตลอด โดยที่ไม่ต้องเกรงใจ ส่วนเรื่องเซ็นต์สัญญานั้น ช่างเชยจะมาเซ็นต์ในวันที่ลงเสาเอก โดยให้พี่สาวและพี่เขยหาฤกษ์ลงเสาเอกให้ได้เสียก่อน และก็จัดเตรียมไม้เอาไว้
หลังจากได้ช่างเรียบร้อยแล้ว พี่สาวพี่เขยก็จัดการหาซื้อไม้สะสมไว้แต่เนิ่น ๆ เราเริ่มหาซื้อไม้ตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์ปี 2012 ซึ่งไม้ที่ซื้อไว้ส่วนใหญ่ก็เป็นไม้ประดู่ เป็นหลัก และก็มีไม้ยางบางส่วน สำหรับไม้สักนั้นก็จะใช้ในส่วนตกแต่งภายในและจุดสำคัญ ๆ ในตอนแรกก็ตั้งใจจะมุ้งหลังคาด้วยกระเบื้องซีแพค แต่ช่างเชยไม่แนะนำให้ทำ เพราะเกรงว่าหลังคาจะถล่มลงมา อันเนื่องมาจากโครงสร้างที่สั่งทำไว้นั้น เราทำโครงสร้างจากไม้เนื้อแข็งทั้งหมด ไม่ใช่โครงสร้างเหล็กแต่อย่างใด ยกเว้นเสาชั้นล่างจะเป็นเสาปูน ส่วนอื่น ๆ ก็เป็นไม้หมด ฉันเองก็ไม่ได้ตามใจตัวเองทุกอย่าง แม้จะชอบกระเบื้องมุ้งหลังคาแบบซีแพคอยู่มาก และก็มีช่างบางคนบอกว่า หากโครงสร้างเป็นไม้เนื้อแข็ง ถ้าจะมุ้งหลังคาด้วยกระเบื้องซีแพคก็ทำได้ ไม่มีมีปัญหาอะไร แต่ฉันห่วงเรื่องความปลอดภัยของตนเองและคนที่รักมากกว่า เกรงว่าบ้านจะทรุดลงมา และกลัวว่าเวลาผ่านไปหลายปี โครงสร้างหลังคารับน้ำหนักกระเบื้องไม่ได้ ไม่อยากให้ปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้นแก่คนในครอบครัว ดังนั้นจึงตัดสินใจเลือกที่จะทำตามคำแนะนำของช่างเชย
เมื่อพี่สาวและพี่เขยหาซื้อไม้ได้ครบเรียบร้อยแล้ว ก็ไปหาอาจารย์ที่จะทำพิธีปลูกบ้านให้ โดยที่ต้องให้อาจารย์มาดูที่ดินที่บ้านก่อนว่าจะต้องปลูกช่วงเวลาเท่าไร หลุมเสาเอกหลุมแรกขุดจุดไหนก่อน อันใดที่ต้องเตรียม อะไรที่จะต้องทำ ซึ่งก็มีน้าเขยคอยมาช่วยดูและให้คำแนะนำพี่เขยอีกแรง ทำให้ฉันและคนรักอดที่จะขอบคุณพี่เขยและน้าเขยไม่ได้ ทั้งนี้ก็ขอบคุณอาจารย์ที่มาทำพิธีส่องดินให้ด้วย
อาจารย์ที่ทำพิธีปลูกบ้านให้นั้น ต้องการนำวันเดือนปีเกิดของฉันและคนรักเป็นหลัก เพื่อคำนวณตามหลักโหราศาสตร์หาฤกษ์ที่ดีที่สุดในการลงเสาเอก เพราะตามความเชื่อของคนเก่าแก่นั้น การที่ได้ฤกษ์ดีในการปลูกบ้าน อาจจะมีผลพวงหลายอย่างเกิดขึ้น ฤกษ์ดีก็จะมีสิ่งดี ๆ เกิดขึ้น หากได้ฤกษ์ไม่ดี ก็อาจจะมีบางอย่างเกิดขึ้นอย่างที่ไม่คาดคิด (สิ่งเหล่านี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคลที่ฉันและคนรักก็ยังยึดถืออยู่เสมอ) และสิ่งที่อัศจรรย์ที่เกิดขึ้นในช่วงที่เริ่มปลูกบ้านหลังนี้่ก็มีให้เห็นเรื่อย ๆ อันดับแรกก็ไม่เคยมีใครรู้มาก่อนว่าพี่เขยที่ควบคุมดูแลการปลูกบ้านให้นั้นจะเกิดปีเดียวกับฉัน นั่นก็คือปีม้า ส่วนพี่สาวที่คอยดูแลด้านการเงินและบัญชีค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ในการปลูกบ้านหลังนี้ก็เกิดปีเดียวกับคนรัก นั่นก็คือปีหนู เวลาที่ให้อาจารย์เอาวันเดือนปีเกิดมาใช้ในการทำพิธี มีพี่สาวและพี่เขยเป็นตัวแทน ก็รู้สึกเหมือนตัวเองอยู่ในเหตุการณ์ทุกอย่าง ซึ่งฤกษ์ปลูกบ้านได้ในวันที่ 22 พฤศจิกายน 2012 นอกนั้นก็ต้องรอช่วงเดือนมีนาคมปีถัดไปจึงจะมีฤกษ์ดี ซึ่งฉันกับคนรักก็ตกลงปลงใจที่จะปลูกบ้านในวันฤกษ์ดีตามที่อาจารย์แนะนำให้
ในช่วงระหว่างนั้นก็มีการถมดินสูงขึ้น เพื่ออยากให้พื้นที่บ้านได้ระดับที่สูงกว่าถนน เพราะบ้านจะได้ดูโดดเด่นไปด้วย หลังจากถมที่แล้ว ก็ทิ้งให้ไม้แห้งเสียก่อน และก็เตรียมพร้อมที่จะปลูกบ้าน และก่อนวันลงเสาเอกหนึ่งเดือน พี่สาวก็จ้างรถไถน้องชายพี่เขยมาช่วยไถปรับพื้นที่บ้านให้เสียก่อน และระหว่างนั้นพี่สาวอีกคนที่บ้านอยู่ทางทิศเหนือก็จัดการตัดต้นมะพร้าวน้ำหอมทิ้ง เพราะต้นมะพร้าวกินพื้นที่มายังที่ดินในส่วนที่จะปลูกบ้าน สำหรับช่างเชยและลูกทีมนั้น เมื่อทำงานให้กับบ้านกำนันเสร็จแล้ว ก็รอทำบ้านให้ฉันและคนรักเท่านั้น และก็ไม่ได้รับงานใครซ้อนอีกเลย แม้จะมีคนติดต่อให้ไปสร้างบ้านให้หลายคน แต่ช่างเชยก็บอกให้รอตามคิวที่รับปากไว้ ไม่มีการรับงานซ้อนสองเป็นอันขาด และตรงนี้ที่ทำให้ฉันและคนรักพร้อมทั้งพี่สาวกับพี่เขยพลอยสบายใจไปด้วย เพราะไม่อยากได้ช่างที่รับงานสองสามที่ แต่ไม่สามารถทำงานให้เราอย่างดีมีคุณภาพและเสร็จตามกำหนดได้ และในช่วงระหว่างที่รอสร้างบ้านให้ฉันและคนรักนั้น ช่างเชยและทีมงานก็พากันกลับไปทำนาเสียก่อน
Create Date : 29 พฤษภาคม 2556 |
Last Update : 30 พฤษภาคม 2556 0:09:24 น. |
|
0 comments
|
Counter : 3321 Pageviews. |
|
|