Lilypie Fourth Birthday tickers
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2551
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
13 มิถุนายน 2551
 
All Blogs
 

คูปองคนจน...คิดได้แค่นี้หรือรัฐบาล

เห็นนโยบายแต่ละอันของรัฐบาลขอบอกว่าเซ็งและกลุ้มใจจริงๆ ไม่ว่าจะยกเลิกการทำ CL ยา เพราะรมต.ท่านเห็นใจบริษัทยา ที่ต้องเสียโอกาสขูดรีดทรัพย์เอากับผู้ป่วยตาดำๆ อีกหน่อยป่วยคงเลือกทางตายจะดีกว่า, ไหนจะการจัดซื้อรถเมล์ใหม่ของ ขสมก. ที่ใช้เงินจำนวนมหาศาลกว่าแสนล้านบาท และสุดท้ายที่สะดุดใจสุดคงเป็นนโยบายคูปองคนจน....

คูปองคนจนแก้ไขปัญหาได้จริงหรือ....หรือแค่เลี้ยงไข้ ยืดเวลาของปัญหาออกไปก่อน

จริงๆ ท่านน่าจะพิจารณาต้นเหตุของปัญหาให้ดีก่อน red color ก็ไม่ได้เก่งกาจเท่าท่านรมต.แต่ละคน แต่อยากใช้ปัญญาอันน้อยนิด วิเคราะห์ว่าปัญหาทุกวันนี้สืบเนื่องมาจากวิกฤตน้ำมันแพงหรือปล่าว

1. น้ำมันแพง.....ทำให้ต้นทุนสินค้าทุกประเภทสูงขึ้น เพราะไม่ว่าจะขั้นตอนการผลิต การขนส่งล้วนมีน้ำมันเป็นต้นทุนหลักๆแทบทั้งสิ้น สุดท้ายเพื่อรักษากำไรของบริษัท จึงจำเป็นต้องผลักภาระให้ผู้บริโภค ซึ่งเป็นทางเลือกแรกที่แต่ละบริษัทคิดจะทำ

2. น้ำมันแพง.....ทำให้ข้าว, น้ำมันพืช, น้ำตาล, สินค้าเกษตรมากมายแพงกระฉูด เพราะคนสนใจพลังงานทดแทนมากขึ้น โดยเฉพาะพืชน้ำมันประเภทต่างๆ เกษตรกรหันมาปลูกพืชน้ำมันมากขึ้นเรื่อยๆ แย่งพื้นที่การเพาะปลูกพืชอื่นๆ ไม่ว่าข้าว, ยางพารา ฯลฯ

3. น้ำมันแพง.....ทำให้ค่าครองชีพพุ่งสูงกว่ารายได้แบบก้าวกระโดด ไม่ว่าจะค่าอาหาร ค่าเดินทาง ฯลฯ ซึ่งสืบเนื่องจาก 2 ข้อแรก

4. น้ำมันแพง.....เพราะการเก็งกำไรในตลาดล่วงหน้า แต่อย่าลืมว่าโรงกลั่นเองสามารถใช้ตลาดล่วงหน้าในการบริหารต้นทุนของตนเองได้เช่นกัน ไม่ใช่น้ำมันขึ้นทีโอดครวญที แล้วจะมีตลาดล่วงหน้าไปทำไม

ทำไมท่านไม่จัดการเรื่องปัญหาราคาน้ำมันให้เป็นรูปธรรม แทนที่จะปล่อยให้โรงกลั่นกินส่วนต่างกำไรอย่างพุงกาง แต่ประชาชนต้องนั่งกลืนน้ำตาตัวเอง

ราคาน้ำมันในข่าวทุกวันนี้นำเสนอเป็นราคาต่อบาเรล เพื่อนๆ เคยสงสัยมั๊ยค่ะว่าถ้าเทียบต่อลิตรราคาควรจะเป็นเท่าไร red color ไม่แน่ใจว่าข้อมูลที่เคยได้รับว่าถูกต้องหรือไม่ แต่เท่าที่ทราบมาน้ำมัน 1 บาเรล = 160 ลิตร

สมมติถ้าน้ำมันดิบบาเรลละ 135 US แล้ว 1 US วันนี้ประมาณ 33 บาทกว่า เราจะได้ว่าน้ำมันดิบ 1 ลิตรราคาอยู่ที่ประมาณ 28 บาท ส่วนต่างท่านชี้แจงได้มั๊ยค่ะว่าค่าขนส่งเท่าไร ค่าการกลั่นเท่าไร ค่าการตลาดเท่าไร

การแยกองค์ประกอบราคาน้ำมันทำให้การพิจารณาง่ายขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งค่าการกลั่น จำเป็นมั๊ยที่โรงกลั่นต้องมีกำไร 4 โรงกลั่นภายใต้การควบคุมของ ปตท. เคยร่วมรับผิดชอบและดูแลสังคมบ้างหรือไม่ กำไรที่ท่านแสดงในงบการเงิน เงินปันผลที่จ่ายแก่ผู้ถือหุ้น การขึ้นเงินเดือนและจัดสรรหุ้นให้แก่พนักงานและผู้บริหาร อย่างลืมว่ามาจากน้ำตาและหยาดเหงื่อของประชาชนตาดำๆ ที่ต้องเกี่ยวข้องกับน้ำมันอย่างเลี่ยงไม่ได้

ไทยเองใช่ว่าต้องนำเข้าน้ำมันอย่างเดียว ข่าวที่ผ่านมาปตท.ก็สามารถขุดเจาะน้ำมันได้เองบางส่วน ทำไมน้ำมันส่วนนี้ต้องขายตามราคาตามโลก ทั้งๆที่เราขุดเจาะได้เอง คนมาเลฯยังได้ใช้น้ำมันถูกเพราะเขาขุดเองได้

เริ่มซะทีเถอะค่ะ แก้ปัญหาให้ถูกจุดอย่างเอาเงินภาษีของประชาชนมาละเลงโดยสูญเปล่า เห็นใจคนเสียภาษีบ้างเถอะ เห็นแล้วเสียดายทำงานแทบตายรัฐบาลเอามาใช้โดยไม่มีกึ๋น เซ็งค่ะเซ็ง

อ๋อ...ส่วนคนที่บอกว่าทำงานอิสระอย่างคิดว่าไม่เสียภาษีนะค่ะ ท่านเสียภาษีตั้งแต่ตื่นลืมตาแล้วด้วยซ้ำ ไม่เชื่อก็ลองดูบิลค่าน้ำ-ค่าไฟซิค่ะ ท่านเสีย VAT 7% ทุกครั้งที่เปิดไฟ ทุกครั้งที่ใช้น้ำ ซื้อของก็เสียภาษี เติมน้ำมันก็เสียสรรพสามิต ทุกอย่างในชีวิตเสียภาษีทั้งนั้นแหละค่า....เรามาช่วยกันดูแลเงินภาษีเราดีกว่า ให้เขาใช้ให้ถูกที่ถูกทางและเป็นธรรมแก่ทุกคนเถิด

สุดท้าย.....เลิกเถอะค่ะคูปองคนจน มันไม่ช่วยอะไรให้ดีขึ้น อย่าให้ใครเขาว่ารัฐบาลกำลังพิมพ์เงินแทนแบงค์ชาติเลย ศึกษาผลกระทบให้ดี แบงค์ชาติจะพิมพ์เงินยังต้องพิจารณาแล้วพิจารณาอีก คูปองไม่ต่างจากเงิน ปลอมง่ายกว่าด้วยซ้ำ ระวังให้ดี เดี๋ยวอีกหน่อยเงินบาทไทยมันจะไร้ค่าเหมือนกระดาษเปล่าแบบรัสเซียและอีกหลายประเทศในอดีต






 

Create Date : 13 มิถุนายน 2551
1 comments
Last Update : 13 มิถุนายน 2551 17:58:44 น.
Counter : 552 Pageviews.

 

จ๊ะ อาจจะช่าย

แต่มันต่างกันตรงข้อมูลในกำมือ

พูดจริงก็เจ็บตัว พูดเท็จก็เจ็บใจ

เสียงเค้าว่ากันพรรณนั้น

 

โดย: บ้าได้ถ้วย 13 มิถุนายน 2551 20:24:41 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


red color
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 23 คน [?]




powered by ハピネム

Friends' blogs
[Add red color's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.