คูปองคนจน...คิดได้แค่นี้หรือรัฐบาล
เห็นนโยบายแต่ละอันของรัฐบาลขอบอกว่าเซ็งและกลุ้มใจจริงๆ ไม่ว่าจะยกเลิกการทำ CL ยา เพราะรมต.ท่านเห็นใจบริษัทยา ที่ต้องเสียโอกาสขูดรีดทรัพย์เอากับผู้ป่วยตาดำๆ อีกหน่อยป่วยคงเลือกทางตายจะดีกว่า, ไหนจะการจัดซื้อรถเมล์ใหม่ของ ขสมก. ที่ใช้เงินจำนวนมหาศาลกว่าแสนล้านบาท และสุดท้ายที่สะดุดใจสุดคงเป็นนโยบายคูปองคนจน....
คูปองคนจนแก้ไขปัญหาได้จริงหรือ....หรือแค่เลี้ยงไข้ ยืดเวลาของปัญหาออกไปก่อน
จริงๆ ท่านน่าจะพิจารณาต้นเหตุของปัญหาให้ดีก่อน red color ก็ไม่ได้เก่งกาจเท่าท่านรมต.แต่ละคน แต่อยากใช้ปัญญาอันน้อยนิด วิเคราะห์ว่าปัญหาทุกวันนี้สืบเนื่องมาจากวิกฤตน้ำมันแพงหรือปล่าว
1. น้ำมันแพง.....ทำให้ต้นทุนสินค้าทุกประเภทสูงขึ้น เพราะไม่ว่าจะขั้นตอนการผลิต การขนส่งล้วนมีน้ำมันเป็นต้นทุนหลักๆแทบทั้งสิ้น สุดท้ายเพื่อรักษากำไรของบริษัท จึงจำเป็นต้องผลักภาระให้ผู้บริโภค ซึ่งเป็นทางเลือกแรกที่แต่ละบริษัทคิดจะทำ
2. น้ำมันแพง.....ทำให้ข้าว, น้ำมันพืช, น้ำตาล, สินค้าเกษตรมากมายแพงกระฉูด เพราะคนสนใจพลังงานทดแทนมากขึ้น โดยเฉพาะพืชน้ำมันประเภทต่างๆ เกษตรกรหันมาปลูกพืชน้ำมันมากขึ้นเรื่อยๆ แย่งพื้นที่การเพาะปลูกพืชอื่นๆ ไม่ว่าข้าว, ยางพารา ฯลฯ
3. น้ำมันแพง.....ทำให้ค่าครองชีพพุ่งสูงกว่ารายได้แบบก้าวกระโดด ไม่ว่าจะค่าอาหาร ค่าเดินทาง ฯลฯ ซึ่งสืบเนื่องจาก 2 ข้อแรก
4. น้ำมันแพง.....เพราะการเก็งกำไรในตลาดล่วงหน้า แต่อย่าลืมว่าโรงกลั่นเองสามารถใช้ตลาดล่วงหน้าในการบริหารต้นทุนของตนเองได้เช่นกัน ไม่ใช่น้ำมันขึ้นทีโอดครวญที แล้วจะมีตลาดล่วงหน้าไปทำไม
ทำไมท่านไม่จัดการเรื่องปัญหาราคาน้ำมันให้เป็นรูปธรรม แทนที่จะปล่อยให้โรงกลั่นกินส่วนต่างกำไรอย่างพุงกาง แต่ประชาชนต้องนั่งกลืนน้ำตาตัวเอง
ราคาน้ำมันในข่าวทุกวันนี้นำเสนอเป็นราคาต่อบาเรล เพื่อนๆ เคยสงสัยมั๊ยค่ะว่าถ้าเทียบต่อลิตรราคาควรจะเป็นเท่าไร red color ไม่แน่ใจว่าข้อมูลที่เคยได้รับว่าถูกต้องหรือไม่ แต่เท่าที่ทราบมาน้ำมัน 1 บาเรล = 160 ลิตร
สมมติถ้าน้ำมันดิบบาเรลละ 135 US แล้ว 1 US วันนี้ประมาณ 33 บาทกว่า เราจะได้ว่าน้ำมันดิบ 1 ลิตรราคาอยู่ที่ประมาณ 28 บาท ส่วนต่างท่านชี้แจงได้มั๊ยค่ะว่าค่าขนส่งเท่าไร ค่าการกลั่นเท่าไร ค่าการตลาดเท่าไร
การแยกองค์ประกอบราคาน้ำมันทำให้การพิจารณาง่ายขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งค่าการกลั่น จำเป็นมั๊ยที่โรงกลั่นต้องมีกำไร 4 โรงกลั่นภายใต้การควบคุมของ ปตท. เคยร่วมรับผิดชอบและดูแลสังคมบ้างหรือไม่ กำไรที่ท่านแสดงในงบการเงิน เงินปันผลที่จ่ายแก่ผู้ถือหุ้น การขึ้นเงินเดือนและจัดสรรหุ้นให้แก่พนักงานและผู้บริหาร อย่างลืมว่ามาจากน้ำตาและหยาดเหงื่อของประชาชนตาดำๆ ที่ต้องเกี่ยวข้องกับน้ำมันอย่างเลี่ยงไม่ได้
ไทยเองใช่ว่าต้องนำเข้าน้ำมันอย่างเดียว ข่าวที่ผ่านมาปตท.ก็สามารถขุดเจาะน้ำมันได้เองบางส่วน ทำไมน้ำมันส่วนนี้ต้องขายตามราคาตามโลก ทั้งๆที่เราขุดเจาะได้เอง คนมาเลฯยังได้ใช้น้ำมันถูกเพราะเขาขุดเองได้
เริ่มซะทีเถอะค่ะ แก้ปัญหาให้ถูกจุดอย่างเอาเงินภาษีของประชาชนมาละเลงโดยสูญเปล่า เห็นใจคนเสียภาษีบ้างเถอะ เห็นแล้วเสียดายทำงานแทบตายรัฐบาลเอามาใช้โดยไม่มีกึ๋น เซ็งค่ะเซ็ง
อ๋อ...ส่วนคนที่บอกว่าทำงานอิสระอย่างคิดว่าไม่เสียภาษีนะค่ะ ท่านเสียภาษีตั้งแต่ตื่นลืมตาแล้วด้วยซ้ำ ไม่เชื่อก็ลองดูบิลค่าน้ำ-ค่าไฟซิค่ะ ท่านเสีย VAT 7% ทุกครั้งที่เปิดไฟ ทุกครั้งที่ใช้น้ำ ซื้อของก็เสียภาษี เติมน้ำมันก็เสียสรรพสามิต ทุกอย่างในชีวิตเสียภาษีทั้งนั้นแหละค่า....เรามาช่วยกันดูแลเงินภาษีเราดีกว่า ให้เขาใช้ให้ถูกที่ถูกทางและเป็นธรรมแก่ทุกคนเถิด
สุดท้าย.....เลิกเถอะค่ะคูปองคนจน มันไม่ช่วยอะไรให้ดีขึ้น อย่าให้ใครเขาว่ารัฐบาลกำลังพิมพ์เงินแทนแบงค์ชาติเลย ศึกษาผลกระทบให้ดี แบงค์ชาติจะพิมพ์เงินยังต้องพิจารณาแล้วพิจารณาอีก คูปองไม่ต่างจากเงิน ปลอมง่ายกว่าด้วยซ้ำ ระวังให้ดี เดี๋ยวอีกหน่อยเงินบาทไทยมันจะไร้ค่าเหมือนกระดาษเปล่าแบบรัสเซียและอีกหลายประเทศในอดีต
Create Date : 13 มิถุนายน 2551 |
|
1 comments |
Last Update : 13 มิถุนายน 2551 17:58:44 น. |
Counter : 552 Pageviews. |
|
|
|
แต่มันต่างกันตรงข้อมูลในกำมือ
พูดจริงก็เจ็บตัว พูดเท็จก็เจ็บใจ
เสียงเค้าว่ากันพรรณนั้น