Lilypie Fourth Birthday tickers
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2551
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
13 มิถุนายน 2551
 
All Blogs
 
10 วิธีรับมือยุคอะไรๆๆ ก็แพง

อ่านแล้วโดนเลยเอามาฝากค่ะ เผื่อจะเป็นประโยชน์ในยุคอะไรๆๆก็แพง

คุณ "กำพล อัศวกุลชัย" ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ บลจ.ไทยพาณิชย์ ได้แนะนำ 10 วิธี ที่จะช่วยลดความอ้วนของรายจ่ายลงไปบ้าง เพื่อให้ทุกคนมีเงินเหลือพอให้เก็บออมกันมากขึ้น ซึ่งบางทีหลายคนก็นึกไม่ถึง

1. ค่าโทรศัพท์มือถือ
ค่าโทรศัพท์มือถือเป็นอย่างแรกที่คุณกำพลบอกว่าทุกคนควรจะหันมาลดค่าใช้จ่าย เพราะค่าโทรค่อนข้างแพงเอาการ และที่สำคัญคือตอนอยู่บ้าน หรือออฟฟิศก็ไม่คุยกับเพื่อน พอออกจากบ้านหรือออกจากออฟฟิศ ทีไรเป็นต้องหยิบโทรศัพท์มือถือมาคุยกัน ถ้าเลิกโทรไม่ได้ ก็เลือกโปรโมชั่นให้สอดคล้องกับลักษณะการใช้ของเรา บางคนไม่เคยดูโปรโมชั่นเลย ทั้งๆ ที่มีโปรโมชั่นที่มีค่าโทรถูกมาก ลองเลิกและเลือกโปรโมชั่นดี ๆ ก็ช่วยลดค่าใช้จ่ายได้

ขอบอกว่าวิธีนี้ work มากๆๆ เราทำมาแล้ว เปลี่ยนไปใช้แบบเติมเงิน ทุกวันนี้เสียค่าโทรปีละ 300 บาท เชื่อมั๊ยค่ะ เติมเงินเฉพาะวันเกิดเพราะเขาใจดีคูณ 2 เท่าให้ ถ้าอยากเมาท์นานก็จะใช้โทรศัพท์บ้านหรือออฟฟิศ สะดวกดีค่ะไม่ร้อนหู สมองไม่เสื่อม ใครสนเอาไปใช้ได้นะค่ะ

2. ค่าฟิตเนส
ก่อนที่จะตัดสินใจต่อโปรแกรมฟิตเนสในแต่ละปี ลองทบทวนดูว่าปีที่ผ่านมาคุณไปใช้บริการจริงๆ จังๆ กี่ครั้ง คุ้มไหม หรือถ้าไปบ่อยๆ ก็ดี แต่ที่สำคัญลองทบทวนดูว่าหากเปลี่ยนสถานที่มาออกกำลังกายตามสวนสาธารณะบ้าง ไม่มีค่าใช้จ่ายด้วย แถมยังเปลี่ยนสถานที่ออกกำลังกายได้อีก

อันนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละคนค่ะ เมื่อก่อนเราสมัครของโรงแรมแถวบ้าน ปีละหมื่นต้น ต่ออายุก็มี%ลดให้ด้วย class ดีมากๆๆๆ ครูน่ารัก ที่สำคัญคนไม่เยอะ เอาคุณภาพไม่ใช่ปริมาณเหมือน fitness..... เสียดายย้ายบ้าน เลยต้องเปลี่ยนที่มาสมัคร fitness.... ตามห้างขอบอกว่าเซ็งสุดๆ class คนเยอะมาก เอาเบาะมาจองกันล่วงหน้า ไปทีไรไม่ค่อยได้เข้า class เลย ครูเองก็ไม่ได้เลิศเท่าที่ควรอะนะ บางคนฝึกหัดอยู่ด้วย เราว่าเอาเปรียบอะ ได้เล่นแต่เครื่อง หมั่นไส้เลยหยุดจ่ายซะเลย เอาเงินมาซื้อเครื่องไว้ที่บ้านดีกว่า ไม่ต้องเดินทางไปให้เมื่อยตุ้ม (เรานิสัยไม่ค่อยดี แต่ขอบอกค่ะว่า sale แย่มากๆๆๆๆๆๆ ซึ่งปรกติเราใช้ตัดผ่านบัตร คุยกันไม่รู้เรื่องเราเลยยกเลิกบัตรซะเลย)

3. ค่าเคเบิลทีวี
เดือนๆ หนึ่งได้ดูเคเบิลทีวีบ่อยแค่ไหน บางคนดูฟรีทีวีผ่านเคเบิลทีวีอีกต่างหาก ก็เสียค่าใช้จ่ายแต่ละเดือนเยอะมาก แต่หากดูเคเบิลทีวีติดซะแล้ว ลองเลือกแพ็คเกจที่สอดคล้องกับช่องที่คุณต้องการดูก็ได้ บางทีค่าใช้จ่ายส่วนนี้ของคุณอาจลดลงมาก หรือถ้าจะลองหันมาดูฟรีทีวีกัน ก็ลดค่าใช้จ่ายได้เยอะเลย

อิอิ อันนี้ที่บ้านจ่ายอะนะ เลยไม่คิดมากค่ะ มีก็ดี ฟรีทีวีมีแต่ละครกรี๊ดๆๆ ตบกันนัวเนีย ดูแล้วเครียดอะ ผู้จัดน่าจะพัฒนารายการให้สร้างสรรหน่อย

4. ค่ากาแฟ
ตรงนี้หลายคนอาจจะบอกว่าเลิกไม่ได้ ยังไงก็พยายามลดกาแฟลง โดยเฉพาะลดเหลือวันละแก้วก็พอ ไม่ต้องดื่มกาแฟทุกมื้อ เพราะไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพแล้ว หรือคุณอาจลองเปลี่ยนรสนิยมมาดื่มกาแฟแบบไทยๆ บ้าง ก็จะช่วยลดค่าใช้จ่ายได้มากโขทีเดียว

โดยส่วนตัวไม่ทานกาแฟอยู่แล้ว แต่ถ้าใครชอบทานกาแฟสดอย่างสามีเราก็แนะนำให้ลองหันมาซื้อเมล็ดกาแฟคั่วมาบดและชงทานเอง ประหยัดบวกได้กลิ่นอายหอมๆๆ สดชื่นสุดๆเลยค่ะ รับรองว่าถูกกว่าร้านแน่นอน

5. ค่าอินเทอร์เน็ต
ในยุคปัจจุบัน หลายๆ คนติดอินเทอร์เน็ตงอมแงมเลย ทั้งใช้เล่นเกมอินเทอร์เน็ต ใช้หาข้อมูล คุณลองทบทวนดูว่าแพ็คเกจไหนให้ชั่วโมงอินเทอร์เน็ตมากๆ ไม่หลุดบ่อย เพราะถ้าหลุดบ่อยๆ ก็ต้องเสียค่าต่อโมเด็มเพิ่มขึ้นอีก และบางครั้งคุณเป็นสมาชิกแบบต่อเนื่องจำนวนชั่วโมงก็ได้เพิ่มขึ้น และหากลดการใช้ลงก็ประหยัดชั่วโมงอินเทอร์เน็ตได้อีก ลองใช้เวลาไปหาข้อมูลที่ "ห้องสมุดประชาชน" หรือ "ห้องสมุดมารวย" บ้างก็ได้

6. ค่า SMS ดาวน์โหลดเพลง และเพลงรอสาย
แต่ละบริการก็แพงเอาการอยู่ และบางอย่างเช่นเพลงรอสายคุณก็ไม่ได้เป็นคนฟัง แต่เสียสตางค์เอง แปลกดีเหมือนกัน ก็ลองทบทวนดูว่าคุณใช้จ่ายในเรื่องเหล่านี้มากไปหรือเปล่า ถ้ามากเกินไปก็ลดลงบ้างก็ไม่เสียหายอะไร

7. ค่าแผ่น DVD หรือ CD หนัง DVD กับ CD เพลงเพราะๆ นั้น เชื่อไหมถ้าคุณไปดูที่ตู้เก็บแผ่นเหล่านี้ จะพบว่ามีเยอะมากจริงๆ บางแผ่นซื้อมายังไม่มีเวลาดูเลย ก็กลัวว่าถ้าไม่ซื้อตอนนี้ก็จะอดดู แต่อยากจะบอกว่า ถ้าคุณซื้อช้าลงอีกสักนิด ราคาแผ่น DVD หรือ CD เหล่านี้จะลดราคาลงมาให้ซื้อในราคาที่ถูกลง หรือไม่คุณก็จัดก๊วนดู DVD หรือ CD กับเพื่อนๆ แล้วผลัดกันซื้อแล้วเวียนดูกันในก๊วน อย่างนี้ก็ลดค่าใช้จ่ายด้านนี้ได้ตั้งเยอะ

แรกๆ เราก็บ้าซื้อเหมือนกัน ใครแนะนำนั่นดี นี่เพราะตามเก็บหมดค่ะ ไปๆ มาๆ ไม่เคยหยิบมาดูมาฟังเลยก็มี หลังๆ เลิกค่ะ ยืมตามร้านเอาดีกว่า ช้าหน่อยแต่ save money

8. เลิกซื้อของเพราะของแถมหรือลดราคา
เรื่องจริงที่หลายคนก็น่าจะเคยเป็น คือ บางครั้งอยากได้ของแถมมากกว่า ซึ่งต้องบอกว่า "ของแถม" นี้จะมีผลต่อจิตใจหลายคนอย่างมาก ทั้งที่บางทีของยังไม่จำเป็นต้องซื้อเลย หรือจะซื้อครั้งละไม่มาก แต่คุณก็ยินดีจ่ายซื้อยกโหลเพื่อจะได้ของแถม อย่างนี้ทำให้รายจ่ายของคุณไม่สม่ำเสมอ
ที่สำคัญ "ของลดราคา" บางครั้งคุณก็ชอบซื้อมาเสร็จก็ไม่ได้ใช้งาน เพราะอารมณ์ตอนแย่งซื้อของลดราคานั้น เห็นคนมุงกันคุ้ยกระบะลดราคามันช่างเย้ายวนใจเสียเหลือเกิน ดังนั้นช่วงห้างลดราคา อย่าไปเดินเลยจะได้หักค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออกเสียบ้าง

9. เลิกซื้อสินค้าตามเทคโนโลยี
ไม่ว่ามือถือ คอมฯ สินค้าIT ต่างๆ อยากได้แนะนำให้รอค่ะ ไม่ถึง 6 เดือนรับรองราคาหน้ามือหลังมือเลย ดีไม่ดีได้ของดีกว่าในราคาแทบไม่ต่างกันด้วยซ้ำ ยกเว้นถ้าคุณต้องใช้จริงๆ ก็ซื้อเถอะค่ะ


10. งดทานข้าวนอกบ้านลงบ้าง
ลองหันมาชวนกันทำอาหารทานที่บ้านก็น่ารักดีนะค่ะ

ทั้งสิบข้อนี้เป็นเพียงคำแนะนำเบื้องต้น ซึ่งแต่ละคนอาจมีข้อจำกัดที่แตกต่างกัน สำหรับค่าใช้จ่ายบางรายการคุณอาจจะลืมนึกถึง ก็ลองกลับมาทบทวนกัน เผื่อจะได้มีเงินออมเพิ่มมากขึ้นในแต่ละเดือน และนำเงินออมที่เพิ่มขึ้นไปสร้างผลตอบแทน หรือนำไปใช้จ่ายในส่วนอื่นที่จำเป็นต่อไป

ใครมีไอเดียแจ๋วๆ ก็แนะนำกันเพิ่มเติมได้เลยค่า..........


Create Date : 13 มิถุนายน 2551
Last Update : 13 มิถุนายน 2551 16:50:46 น. 1 comments
Counter : 483 Pageviews.

 

HBD ขอให้ประสบความสำเร็จในทุกๆ ด้าน คุณพระคุ้มครอง มีความสุขมากๆนะคะ





โดย: Joy*~Joystick~* วันที่: 30 มิถุนายน 2551 เวลา:1:29:27 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

red color
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 23 คน [?]




powered by ハピネム

Friends' blogs
[Add red color's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.