space
space
space
 
กุมภาพันธ์ 2567
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
2526272829 
space
space
8 กุมภาพันธ์ 2567
space
space
space

งงกับพุทธที่บอกคร่งถือศีลไม่กินเนื้อสัตว์แต่มีsexได้มีลูกได้แต่คนกินเนื้อกับห่างกิเลสกว่าถือสันโดษบร

งงกับพุทธที่บอกคร่งถือศีลไม่กินเนื้อสัตว์แต่มีsexได้มีลูกได้แต่คนกินเนื้อกับห่างกิเลสกว่าถือสันโดษบริสุทธิ์ใจได้ดีกว่า


กระทู้คำถาม

ศาสนาพุทธ

งงกับพุทธที่บอกคร่งถือศีลไม่กินเนื้อสัตว์แต่มีsexได้มีลูกได้แต่คนกินเนื้อกับห่างกิเลสกว่าถือสันโดษบริสุทธิ์ใจได้ดีกว่า

 แปลกดีไหม เขาแยกแยะธรรมยังงัย

แยกแยะกิเลสยังงัย
0
 
0
 

สมาชิกหมายเลข 7935428

ความคิดเห็นที่ 1มีลูกเป็นเรื่องธรรมชาติ เกี่ยวอะไรกับกินเนื้อไม่กินเนือ
ตอบกลับ
1
 
1
 

ฉันจะเป็นแมวที่แข็งแรง  
15 มกราคม เวลา 13:58 น.
สมาชิกหมายเลข 709094 ถูกใจ
ความคิดเห็นที่ 2งงกับคำถามเหมือนกัน

ถ้าเป็นเรื่องไม่กินเนื้อสัตว์ ทำไมถึงมีลูกมีเซ็กส์ได้ ก็ตาม คห 1 เลย
เขาเน้นเรื่องไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ไม่ไปเบียดเบียนชีวิตอื่น
เรื่องของศาสนาก็เป็นเรื่องความเชื่อและศรัทธา ไม่เห็นมีอะไรน่างง
ตอบกลับ
0
 
0
 

สมาชิกหมายเลข 7886959
15 มกราคม เวลา 14:07 น.
ความคิดเห็นที่ 3พระพุทธเจ้าไม่เคยตรัสว่า การกินเนื้อหรือไม่กินเนื้อเป็นกิเลสอะไรเลยครับ
ตอบกลับ
0
 
1
 

สมาชิกหมายเลข 869744
15 มกราคม เวลา 15:59 น.
สมาชิกหมายเลข 709094 ถูกใจ
ความคิดเห็นที่ 4ศาสนาพุทธไม่ได้สอนให้งดกินเนื้อสัตว์นะครับ
ตอบกลับ
0
 
1
 

พักผ่อน  
15 มกราคม เวลา 17:13 น.
สมาชิกหมายเลข 709094 ถูกใจ
ความคิดเห็นที่ 5             พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๕  พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๗
             ขุททกนิกาย ขุททกปาฐะ-ธรรมบท-อุทาน-อิติวุตตกะ-สุตตนิบาต
             อามคันธสูตรที่ ๒
https://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=25&A=7747&Z=7809
             อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ :-
https://84000.org/tipitaka/pitaka_item/m_siri.php?B=25&siri=241
             ศึกษาอรรถกถานี้ได้ที่ :-
https://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=25&i=315

             พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๓  พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๕
             มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์
             ชีวกสูตร
https://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=13&A=950&Z=1043
             อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ :-
https://84000.org/tipitaka/pitaka_item/m_siri.php?B=13&siri=5
             ศึกษาอรรถกถานี้ได้ที่ :-
https://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=13&i=56

แนะนำ :-
             อ่านและค้นพระไตรปิฎก ๔๕ เล่ม
             อรรถกถาชาดกทั้งหมด ๕๔๗ เรื่อง
             พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์
             พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม
https://84000.org/tipitaka/pitaka_item/

             พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม
             สารบัญประเภทธรรม
https://84000.org/tipitaka/dic/d_type_index.php#

             หมวดหนังสือธรรมะ
https://84000.org/tipitaka/book/
             เรื่อง ศีลเป็นอาภรณ์อันประเสริฐ
https://84000.org/tipitaka/book/bookpn02.html
             เรื่อง สิ่งที่เป็นมงคล (มงคล ๓๘)
https://84000.org/tipitaka/book/bookpn06.html
             เรื่อง ทานที่มีผลมาก มีอานิสงส์มาก
https://84000.org/tipitaka/book/bookpn01.html
ตอบกลับ
0
 
0
 

ฐานาฐานะ  
15 มกราคม เวลา 19:22 น.
ความคิดเห็นที่ 6กี่ขวบแล้วเนี่ย
แก้ไขข้อความเมื่อ 15 มกราคม เวลา 19:26 น.
ตอบกลับ
0
 
0
 

สมาชิกหมายเลข 5396560 
15 มกราคม เวลา 19:26 น.
ความคิดเห็นที่ 7ถือศีล 5 ไม่มีข้อไหนห้ามการมีเพศสัมพันธ์นะครับ   ตราบเท่าที่ไม่ได้ไปล่วงเกินละเมิดใคร
ตอบกลับ
0
 
1
 

zodiac28 
15 มกราคม เวลา 21:06 น.
สมาชิกหมายเลข 709094 ถูกใจ
ความคิดเห็นที่ 8แยกให้ออกก่อนดีกว่า ว่าไปได้ยินมาจากไหน พระพุทธเจ้าว่าไว้อย่างไรโดยแท้จริงแล้ว

ถือศีล นี่ก็ไม่ใช่ พระพุทธเจ้า ไม่ได้สอนให้ ไป ถือ ศีล เลย ( อาการมีศีล ไม่ต้องถือไว้ )
กินเนื้อสัตว์ นี่ ก็ อนุโลม ใครอยากกินก็กิน ไม่กินก็ไม่เป็นไร ไม่ได้ขวางมรรคผลนิพพานเลย
มี sex ไม่มี sex ก็ไม่ได้ขวางมรรคผลนิพพาน ( ไม่ได้ขวางในการ ประจักษ์ นิพพาน ครั้งแรก )

เอาเรื่องศีลก่อน คือ สีลวิสุทธิ อธิสีล เป็นเรื่องหมดจดแห่งศีล คำว่า หมดจด คือ ไม่ติดข้องแล้ว
มันล่วงไปทันที ไม่ใช่ เอ๊อะ นี่มีศีลอย่างนั้นอย่างนี้แล้วหมั่นสำคัญอาการรักษาศีลว่าเป็นการปฏิบัติ
อันนี้ยังห่างไกลนิพพานนัก ลูบๆคลำๆ ไม่เลิก เรียกว่า รักษาศีลให้ตายก็ไม่บริสุทธิ์หมดจด

พระปุณณมันตานีบุตร เอตทัคคะทางด้านสอนฆราวาสบรรลุธรรมเยอะ มาเจอกับพระสารีบุตรเข้าให้
ก็ใส่กันไม่ยั้งเลย ท่านกล่าวไว้อย่างชัดเจนแจ่มแจ้งว่า การมีศีล ไม่ได้มีเพื่อ มีศีล แต่อาการของสีล
คือ เมื่อมีศีลก็ไม่สำคัญว่ามีศีล แล้วก็ล่วงศีลนั้นไป ผลของศีลก็คือส่วนของศีลมันให้ผลไปตามนั้น
แต่เราไม่ข้องเกี่ยว หมดจดในศีลทันที ถามว่า มีศีลหรือไม่มีศีล ก็ตอบว่ามีและไม่มี

คือ มีศีล แต่ไม่มีความข้องเกี่ยวว่ามีหรือไม่มีศีล เมื่อกระทำในใจให้แยบคายแบบนี้ ศีลก็เกิดทันที
แม้ในขณะที่ผิดศีล ตกปลาอยู่ก็ตาม หากสมาทานความหมดจดของศีลไว้ สุจริต ๓ เกิดก็เห็นวิบาก
เห็นเหตุของธรรม มีสัมมาทิฏฐิ มีความเพียร มีสติปัฏฐานขึ้นมา วิชชาวิมุตติก็อบรมอย่างนี้เอง

แต่ก็มิได้สำคัญแม้ วิชชาและวิมุตติ นั้น ว่าเป็นที่สุด นะ ก็อาศัยระลึกจนกว่าจะไม่กำเริบนั่นแหละ

วิหารของผู้ภาวนาก็จะกระทบผัสสะ ที่ไม่เนื่องกับความยึดมั่นถือมั่นในสังขาร เป็น สุญญต อนิมิต อัปปณิหิต
แม้ ผัสสะที่เกิด ก็ไม่สำคัญในอาการนั้น ฌาน ปิติ สุข สงบ สันติ ไม่เอาอะไรสักอย่างด้วยอาการสลัด ตัณหา
สลัดแม้ความต้องการสละตัณหา และแม้อาการที่เห็นถูก เห็นว่าการเห็นการสละนั้นเป็นทางที่ถูกที่ควร

ศีล จะมีหรือไม่มี มันต้องอาศัย ธรรมที่ปรากฎ ทั้งกุศล อกุศล อัพยากตา เพื่ออาศัยระลึกไปหาเหตุของมันให้เจอ
ถ้าเห็นศีลนั้นมี ด้วยเหตุ การผิดศีลมีด้วยเหตุ ทุกข โทมนัส อุปาทิ อุปาทานที่เข้าไปตั้งอยู่ในวิบาก ก็เปลื้องออก
สลัดคืน เบื่อหน่าย ใน ศีลแม้ทั้งดีชั่วกลางๆ แบบนี้จึงเรียก สีเลนะ สุคติง ยันติ ... สีเลนะ นิพพุติง ยันติ

ไม่ใช่ให้เลือก กิเลส เลือก ธรรม เขาเรียก เฟ้น ไม่เลือกสภาวะใดๆเลย เพราะทุกสภาวะมันเนื่องกันหมด
ล้วนแล้ว เกิดขึ้นเพราะมีเหตุ(อนัตตา) บีบคั้น แตกดับจนได้(ทุกขัง) ไม่เที่ยง เกิดแล้วต้องดับทั้งนั้น(อนิจจัง)

ทุกอย่างเสมอราบเรียบกันหมด จะหาแก่นสารการตั้งขึ้นของอุปาทิ อุปาทาน ตัณหา จากที่ไหน เพื่อสิ่งใดไม่มี

ทั้งหมดที่กล่าวมา เรียกสั้นๆ ใน ธัมมจักกัปปวัตนสูตร ว่า "ทุกข์ให้กำหนดรู้"

สมุทัย เป็นอัน ละ สลัดคืน ดับ จึงแจ้งนิโรธ ( ไม่กำเริบกลับอีก-นิพพาน ) เข้าใจใน มรรค มัชฌิมาปฏิปทา
ตอบกลับ
0
 
0
 

สมาชิกหมายเลข 7524605
15 มกราคม เวลา 22:19 น.
ความคิดเห็นที่ 9โห
คิดขึ้นมาได้ยังไงเนี๊ยะ
แก้ไขข้อความเมื่อ 16 มกราคม เวลา 07:28 น.
ตอบกลับ
0
 
0
 

สมาชิกหมายเลข 3232080 
15 มกราคม เวลา 23:09 น.
ความคิดเห็นที่ 10...พระพุทธเจ้า ไม่เคยทรงบัญญัติห้ามพระ หรือ ชาวพุทธกินเนื้อสัตว์...เพียงแต่ห้ามฆ่าคนหรือสัตว์ และห้ามใช้ให้คนอื่นๆฆ่า เท่านั้น
...ถ้าชาวพุทธอยากกินเนื้อสัตว์ ก็หาสัตว์ที่มันตายเองตามธรรมชาติของมัน หรือ โดนอุบัติเหตุตาย เอามากินได้ หรือ ซื้อเนื้อที่เขาวางขายทั่วไปตามตลาด ซึ่งถูกฆ่าโดยคนที่ไม่เชื่อเรื่องบาป หรือ โดนฆ่าโดนคนที่นับถือศาสนาอื่นๆ ที่เชื่อว่าการฆ่าสัตว์ไม่เป็นบาป และ ชาวพุทธไม่ได้ไปบอกให้เขาไปฆ่าเพื่อเอามาขายตนเอง  เขาสมัครใจฆ่ามาขายตามอาชีพของเขาเอง ...แบบนี้ ไม่บาปอะไรสำหรับชาวพุทธที่จะไปซื้อเนื้อพวกนี้มาปรุงเป็นอาหารกิน...
ตอบกลับ
0
 
0
 

ผีเสื้อพเนจร 
16 มกราคม เวลา 08:58 น.
 
ความคิดเห็นที่ 11นอบน้อมแด่พุทธ ธรรม สงฆ์ ซึ่งมีคุณมากหาประมาณไม่ได้และเป็นที่พึ่งของข้าพเจ้า

   ในพุทธสาสนาผู้รักษาศีล 5 หรือผู้ที่ยังไม่รักษาศีลเพียงแต่มีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง สามารถมีสามี มีภรรยา สามารถเสพเมถุนได้ สามารถเพลิดเพลินในรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัสได้เต็มที่ แต่ผู้ที่รักษาศีล 8 ศีล 10 หรือศีลสูงกว่านี้ขึ้นไปแล้ว จะเสพเมถุนไม่ได้แล้ว ถ้าไปเสพแล้วมีความผิด ส่วนการเพลิดเพลินใน รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส ก็ต้องมีความสำรวมระวังยิ่งๆขึ้น

ถามว่าแยกแยะกิเลสยังงัย ?
ตอบ เบื้องต้นดูที่ศีลที่เค้ารักษาครับ ถ้าเราศึกษาศีลและองค์ประกอบของศีลในแต่ละระดับให้เข้าใจ จะช่วยทำให้เราเข้าใจผู้ที่เราคบหาอยู่ได้ดียิ่งๆขึ้น
ตอบกลับ
0
 
0
 

สมาชิกหมายเลข 1772882 
16 มกราคม เวลา 11:20 น.
ความคิดเห็นที่ 121. ศาสนาพุทธ ไม่ได้ห้ามกินเนื้อสัตว์นะครับ  อันนั้นลัทธิเต๋าของจีน ไม่ใช่ศาสนาพุทธ

2. คนนับถือศาสนาพุทธจริงจัง คือถือศีล5 หรือศีล8 ซึ่งทั้ง5ข้อ8ข้อก็ไม่ได้มีบอกว่าห้ามมี Sex แต่บอกว่าอย่าไปทำผิดต่อคนอื่น

3. กิเลสสำหรับคนธรรมดาก็วัดจาก ศีล5 ศีล8 หากไม่ไปทำให้บุคคลอื่นเสียหายก็ไม่ผิด ไม่บาป ไม่ใช่กิเลสที่เป็นบาป ส่วนพระสงฆ์ถือศีล 227 ข้อ มากกว่าคนธรรมดา จึงถือว่าต้องปฎิบัติตนพ้นจากกิเลสมากกว่าคนทั่วไป (อย่าปนมั่วซั่วว่าคนปกติต้องลดกิเลสให้เหลือ 0 แบบพระสงฆ์)
ตอบกลับ
0
 
0
 

สมาชิกหมายเลข 6564637
16 มกราคม เวลา 12:21 น.
ดู 1 ความเห็นย่อย
ความคิดเห็นที่ 13งงกับพุทธที่บอก เคร่งถือศีลไม่กินเนื้อสัตว์แต่มีsexได้มีลูกได้  แต่คนกินเนื้อกับห่างกิเลสกว่าถือสันโดษบริสุทธิ์ใจได้ดีกว่า
๑. เคร่งถือศีลไม่กินเนื้อสัตว์แต่มีsexได้มีลูกได้ --  ศีล ๕ ข้อปาณาติบาต ห้ามฆ่าเองหรือใช้คนอื่นให้ฆ่าเพื่อตนเอง. ข้อ ๓ กาเมสุ มิจฉาจาร ห้ามทำผิดประเพณีทางเพศ เช่น เป็นชู้ หรือลักขโขย ได้เสียกับ คู่ครอง หรือ ลูกหลาน ของใคร ๆ ทั้งสิ้น แต่งงานถูกต้องแล้วมีเซ็กส์กับคู่ครองของเราได้ ฯ
๒. การทานเจ ไม่รับประกันว่าจะไม่ ปากร้าย ลักขโมย ดื่มเหล้า มีชู้ ฯลฯ จิตใจสกปรก ก็มี ไม่น้อย

ขอร่วมกันศึกษาพระธรรม. เจริญในธรรมครับ.
ตอบกลับ
0
 
0
 

ฆราวาสมุนี  
16 มกราคม เวลา 16:13 น.


Create Date : 08 กุมภาพันธ์ 2567
Last Update : 8 กุมภาพันธ์ 2567 8:02:36 น. 0 comments
Counter : 47 Pageviews.
(โหวต blog นี้) 

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
space

สมาชิกหมายเลข 7881572
Location :
ขอนแก่น Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






space
space
[Add สมาชิกหมายเลข 7881572's blog to your web]
space
space
space
space
space