Ploy Journey Journal.........Welcome to my world
Group Blog
 
 
กรกฏาคม 2559
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
13 กรกฏาคม 2559
 
All Blogs
 

ตามหาสุลต่าน...ที่ The Empire of Brunei Darussalam



"The Smallest countries, The largest Oil fields"



Bander Seri Begawan เมืองหลวงของ Brunei Darrussalam 



ก็ตามสโลแกนค่ะ ประเทศนี้มีขนาดไม่ได้ใหญ่โตอะไรนัก แต่เป็นประเทศที่เราได้ยินมาเสมอว่าเป็นประเทศร่ำรวย เพราะเค๊ามีบ่อน้ำมัน แล้วแถมสุลต่านเลี้ยงอีก ที่สำคัญประเทศนี้เราคนไทยสามารถเข้าไปเที่ยวได้ภายใน 14 วันโดยไม่ต้องขอวีซ่า  เราตื่นเต้นมากมายกับการไปทริปนี้ เพราะเป็นการไปเยือนครั้งแรกของอิฉัน และ จะได้ไปเอนกายที่โรงแรมที่ใหญ่และหรูหราที่สุดในบรูไน "The Empire Hotel and Country Club" 


มาเหยียบดินแดนปุ๊ปเราก็ไปเช็คอินเข้าโรงแรมเพราะต้องการเอนจอย facilities ของโรงแรมให้สบายอุรา จากสนามบินใช้เวลา 15 นาทีก็ขับถึงโรงแรม  


เมื่อเราย่างก้าวเข้าไปในล็อบบี้  อุ๊ต๊ะ!! ยิ่งใหญ่สวยงามมาก มีพระบรมฉายาลักษณ์ของกษัตริย์และพระราชินีแห่งบรูไนประดับอยู่บริเวณนี้ด้วย 



บนเพดานมี เชนเดอเรียใหญ่ยักษ์เป็นจุดๆไป




ตอนแรกพวกเราจองห้องธรรมดาไป แต่พอไปถึงทางโรงแรมแจ้งว่าจะ upgrade ห้องให้เป็นแบบ sea view   เลิศสะแมนแตนคร่าาาาา.... แล้วเอารายการมาให้เราดู สงสัยคิดว่ายัยพลอยจะอัพเกรดห้องหรูเพิ่มขึ้นไปอีก 5555  


แต่ยัยพลอยแอบเห็นห้อง Suit แบบ Empress Suite และ Emperor Suite ห้องเหล่านี้ค่าที่พักตกคืนละ 9,000 US ดอลล่าร์ และ 16,000 US ดอลล่าห์ แม่เจ้า!! ยัยพลอยคิดในใจใคร๊จะมาพัก  เลยถามไปว่ามีคนมาพักห้องเหล่านี้เยอะไหม เจ้าหน้าที่บอกมีครับ เค๊ามีไว้ต้อนรับ ผู้นำทั่วโลก แขกของประเทศ และเศรษฐี แต่ใครใคร่มาพักผ่อนใช้บริการก็ยินดีค่ะ 


เจ้าหน้าที่เล่าว่า ห้อง Emperor Suite เป็นห้องขนาด 666 ตารางเมตร อดีตประธานาธิบดี บิล คลินตันก็เคยมาพักที่นี่ รวมถึงคนดังอีกมากมาย ห้องนี้ได้รับรางวัล The World’s Leading Presidential Suite จาก the World Travel Awards ปี 2003 และ 2004 พรมทุกผืนทอจากเส้นด้ายทองคำ มีแกรนด์เปียโน ห้องประชุม สระว่ายน้ำ จากุซซี่ ซาวน่า ลิฟท์ส่วนตัวที่มีระบบรักษาความปลอดภัยและผู้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัว  และอีกสารพัดสารพันที่เค๊าพยายามอธิบาย..เริ่ดจริงๆ




เดินชมนิดหน่อยแล้วออกไปทานอาหารเย็นข้างนอกกัน ริมแม่น้ำเคียงเกะ (Kianggeh) และไปมัสยิดMosque of Sultan Hassanal Bolkiah's fatherด้วย



ภาพนี้ที่ไปตอนทานกลางวันก่อนไปกัมปงไอเยอร์




เวลานี้เราไม่สามารถเข้าได้เพราะเป็นเวลาละหมาด เลยเดินที่ช็อปปิ้งและชมรอบๆ ได้เวลาก็ไปทานอาหารเย็นเป็นสุกี้ที่ริมแม่น้ำ 



กลับโรงแรม ไปนวดสปาดีกว่า  ที่นี่เค๊าใช้ผลิตภัณฑ์ Valmont ผ่อนคลาย ดีงามมากมาย


เดินเล่นที่คลับเฮาส์ที่สปาตั้งอยู่ ในตึกนี้มีสนามแบดมินตัน สควอช  สระว่ายน้ำในร่ม  สตีม ซาวน่ารูม โบวลิ่ง ... ดูไม่หมด 555




เดินชมสักพัก แล้วกลับตึกกลาง พนักงานขับรถกล์อฟพาไปส่งที่ล๊อบบี้ ทางกลับผ่านMovie Theatre ของโรงแรม ก็ใหญ่เอาการอยู่นะคะ เป็นอาคารstand alone เลยหล่ะ 




เราตื่นกันแต่เช้า ได้เห็นวิวทะเลสวยๆในห้องนอนของเรา จากนั้นก็ลงมาเดินเล่นที่สวนและสระว่ายน้ำที่มีไม่รู้กี่สระสักพัก  เพิ่งเห็นว่าโรงแรมนี้ใหญ่จริงๆ  แล้วรีบไปห้องทานอาหารเช้าด้วยความหิว ทั่วทั้งโรงแรมจะเป็นโทนสีทอง พร้อมแชนดาเลียที่ประดับด้วยคริสตัลสวารอฟสกี้สวยงามยิ่งใหญ่มากมายหลายจุดด้วยกัน มีวิวทะเลสวยๆระหว่างทาน อาหารเช้าบุฟเฟ่ต์จัดเต็ม มีข้าวต้ม อาหารจำพวกไข่สารพัดแบบที่สามารถสั่งได้เลย ของยัยพลอยขอเป็น egg benedict อร่อยมากๆ ประทับจิตประทับใจกันไปมากมาย  ข้าวต้มก็รสดีมากๆค่ะ และยังมีบัฟเฟ่ที่สามารถให้ตักได้เองร่วมด้วย มีมูสลี ผลไม้ นม โยเกริ์ต ผลไม้แห้งต่างๆ บูลชีส หรือ สารพัดชีส แยม ขนมปังแบบต่างๆที่สุลต่านทรงโปรด กาแฟ และชา ดี ๆ จากต่างประเทศในหลายมุมโลกถูกนำมารวมไว้ที่นี่ ทุกอย่างจัดมาในจาน ชาม แก้วน้ำ และ Silverware เนื้อดี ละเอียดชั้นเลิศ ยี่ห้อไฮแบรนด์สมศักดิ์ศรีท่านสุลต่านเลยค่ะ  คุณไกด์บอกว่าท่านสุลต่านชอบเสวยอะไรเค๊าก็เอามาจัดไว้ให้แขกที่พักได้ทาน คือดีงามมากๆค่ะ 




ทะเลเทียมเป็นสระว่ายน้ำ 



และทะเลจริง อยู่ติดกัน เราสามารถมองลงมาจากห้องพักได้ 




เราออกไปนั่งรถชมรอบๆโรงแรม มันแกรนด์จริงๆ ทั้งสระว่ายน้ำและสนามกล์อฟ  สนามที่นี่ออกแบบโดย Jack Nicklaus ถ้าใครชอบกีฬานี้ควรมาจัดสักครั้งค่ะ โรงแรมนี่มันยิ่งใหญ่ยังกะพระราชวังจริงๆ



จากนั้นไปพิพิธภัณฑ์แห่งชาติบรูไน ที่ Royal Regalia ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ที่เก็บเครื่องราชที่ใช้ในพิธีราชาภิเษก  เข้าไปด้านในปั๊บ จะได้เห็นราชรถที่ประดับลวดลายและตกแต่งด้วยทำคำแท้ ส่วนนี้ยังถ่ายภาพได้ค่ะ แต่ด้านในจะไม่สามารถถ่ายได้แล้ว ซึ่งจะเป็นการโชว์พระมหามงกุฎที่อลังการหาค่ามิได้ขององค์สุลต่าน,เครื่องใช้ต่างๆในพระราชพิธีสำคัญ ประวัติของสุลต่านทุกพระองค์ และของขวัญพิเศษต่างๆจากเหล่าผู้นำประเทศทั่วโลก มีของขวัญจากท่านสมเด็จพระบรมฯ ของประเทศไทยด้วย และจากรัฐบาลไทย ภูมิใจจังของขวัญของประเทศเราก็มีโชว์ด้วย



หมู่บ้านน้ำกัมปงไอเยอร์ของชาวมาเลย์ในบรูไน


ไปที่หมู่บ้านกลางน้ำ มีการค้าขายทางเรือ ดูวิธีการตกปลา และผลิตภัณท์พื้นเมืองของเขาค่ะ จากการชมจะเห็นว่าหมู่บ้านน้ำนั้นมีมานาน มีการเสนอบ้านแบบต่างๆที่พัฒนาตามกาลเวลา ปัจจุบันผู้คนเริ่มทยอยมาอยู่บกแทน แต่ทางรัฐบาลบรูไนก็พยายามอย่างมากที่จะสนับสนุนให้ผู้คนอนุรักษณ์หมู่บ้านน้ำนี้ไว้นะคะ เพราะเป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่ทั่วโลกอยากเดินทางมาสัมผัส  ที่นี่ไม่เสียค่าเข้าค่ะ



พี่ไกด์มีให้เข้าไปชมบ้านเรือนของคนที่นี่ เจ้าของบ้านก็เลี้ยงชาและอาหารว่า พร้อมมีชุดและหมวกให้ลองใสถ่ายภาพ แต่ภาพนี้พลอยขอเหอะ หน้ามันกระเซิงแบบดูไม่ได้จริงๆ 555 




ไปทานอาหารกลางวันแล้วไปมัสยิส Sultan Hassanal Bolkiah's Mosque ต่อ 




5555 ไม่ได้เข้าข้างในอีกตามเคย ก็เค๊ากำลังสวดมนต์กันอยู่เสียงดัง ขมักเขม้นมากมาย 


ที่นี่ทุกวันศุกร์ ผู้คนในบรูไน จะต้องไปสวดมนต์ ฉะนั้นทุกอย่างจะปิดตั้งแต่เวลาเที่ยงถึงบ่าย 2 และเหล่ามัสยิดจะคลาคล่ำไปด้วยผู้คน การทำงานราชการบรูไนโดยส่วนใหญ่จะหยุดวันศุกร์อยู่แล้ว และทำงานวันเสาร์ ซึ่งไม่มีใครบ่น เพราะทุกคนชินกับธรรมเนียมแบบนี้ตั้งแต่เกิด แต่สำหรับเอกชนจะหยุดเสาร์อาทิตย์ค่ะ  ประเทศนี้เขาไม่มีความเร่งรีบ เพราะรถไม่ติด ใช้ชีวิตสงบแบบช้าๆ ด้วยความที่เป็นประเทศที่เล็กๆ แต่ร่ำรวย 





ไปต่อที่ พระราชวัง Istana Nurul Iman ของพระราชาธิบดี สมเด็จพระราชาธิบดีฮัจญี ฮัสซานัล โบลเกียห์ มูอิซซัดดีน วัดเดาละห์ แห่งบรูไน เนื่องจากจอดรถหน้าพระราชวังไม่ได้ แต่คนรถจะขับช้าๆ เพื่อให้ถ่ายประตูทางเข้า หลังจากนั้น เราก็ไปจอดห่างๆเพื่อถ่ายภาพพระราชวังจากมุมไกลๆ พี่ไกด์บอกว่า พระราชวังแห่งนี้ทาง Guinness World Records ได้ทำการจัดอันดับเป็นพระราชวังที่ใหญ่ที่สุดในโลก แม้เข้าไปชมไม่ได้ แต่ถ้าใครสนใจ โดยปกติหลังคือ งานฉลองหลังจากการถือศีลอดในเดือนรอมฏอน ซึ่งเป็นงานเฉลิมฉลองที่สำคัญในรอบปีของชาวมุสลิม เรียกว่า "เทศกาลฉลองวันฮารีรายอ อีดิล ฟิตรี"  พระองค์จะอนุญาติให้ท่านฑูต ข้าราชการ  รวมถึงประชาชน โดยไม่จำกัดเชื้อชาติ และศาสนา เข้าพบได้ 3 วัน .. เข้าพบในทีนี้ หมายถึงเข้าไปในพระราชวัง เพื่อจับพระหัตถ์ของพระองค์ท่านและยังได้รับของขวัญ อาหารจากพระองค์ท่านอีกด้วย   ยัยพลอยได้ยินแล้วก็อยากพบสุลต่านในบัดดล...ก็ท่านหล่อสมาร์ทจะตายไปใครจะไม่อยากเจอหล่ะ จิงม๊ะ  



พลอยไปทานอาหารกลางวันตอนบ่ายแก่ๆที่โรงแรมใหญ่แห่งหนึ่งในเมือง อาหารอร่อยมาก แต่จำชื่อโรงแรมไม่ได้  แล้วไปเดินช๊อปปิ้งต่อ ไม่ค่อยได้ซื้ออะไรที่นี่ เพราะทุกอย่างก็สามารถหาซื้อได้จากประเทศไทย เผลอๆ อิมพอร์ตมาจากไทย ได้เวลาเย็นแล้ว ไปสนามบินเพื่อเตรียมตัวกลับบ้าน... 


บรูไน ไปง่ายใช้เวลาน้อย มีเวลาก็ไปPamperตัวเอง ใช้ชีวิตแบบ Slow life ที่โน่นก็ดีเหมือนกันแฮะ



Ploy Journey Journal




 

Create Date : 13 กรกฎาคม 2559
0 comments
Last Update : 15 กรกฎาคม 2559 12:17:37 น.
Counter : 1451 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


สมาชิกหมายเลข 3271775
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




Hi guys, I'm "Ploy" who always have full of bucket list. It is because the world is gigantic, so step out 'n explore its. I write, i-dive, i-trek, i-run, i-yoga, i-blog, and I love good food. Let's follow the dream. สวัสดีค่ะ ชื่อ"พลอย"ค่ะ เป็นพวกชีวิตมีแต่บวก ไม่มีลบ Bucket list เต็มตลอดเวย์ อะไรๆก็เป็นลิสต์ที่ต้องทำก่อนตายสำหรับยัยพลอยทั้งนั้น (ก็โลกนี้มันกว้างใหญ่จะตายไป!) ไหนๆก็ได้เกิดมาบนโลกสวยงามใบนี้แล้วหนิ คิดแล้วจะรออะไร...เก็บกระเป๋า ก้าวเท้าออกมา โลกรอเราอยู่ (หรือความอยากรอเราอยู่) พลอยชอบขีดๆเขียนๆ, วิ่ง, โยคะ, ดำน้ำ, เทรค, และทุกทริปจะขาดไม่ได้เลยคือ อาหารอร่อย. มาออกเดินทางตามความฝันกับ "พลอย เจอนี่ เจอนั่น" ด้วยกันนะคะ... : )
New Comments
Friends' blogs
[Add สมาชิกหมายเลข 3271775's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.