Yogyakata มีดียิ่งกว่าบุโรพุทโธ
ภาพสถานที่ที่มีความประสงค์อย่างแรงกล้ามานานที่จะมาเยือน
|
Borobudor |
เนื่องด้วยพลอยได้รับคำแนะนำว่าถ้าไปยอร์คยาต้องโทรหา Darna ฮีบริการดีเป็นกันเอง ก่อนไปก็เลยโทรหาฮี แต่ด้วยความที่กระชั้นชิดเกินไป ฮีไม่ว่างในช่วงเวลานี้ ก็เลยให้น้องชาย iBot มาบริการแทน โทรคุยกันนานสองนาน เพราะนอกเรื่องตลอด เพราะ Darna ชอบเมืองไทย มาบ่อย ก็เลยมีเรื่องเม๊าท์กันมากมาย สอบถามเรื่องที่พัก พลอยบอกอยากพักที่มโนราห์ 1 คืน เพราะอยากตื่นมาเจอบุโรพุทโธที่รอคอยมานาน อยากซึมซับเวลา บรรยากาศของที่นี่ให้นานที่สุด แต่จองบนเวปทั้ง Booking และ Agoda ปรากฏว่า Fully Booked ก็เลยถามให้ Darnaแนะนำ ฮีบอกพักแถวๆ Malioboro ก็ได้ ไม่ต้องนอนตรงนั้นหรอกไม่มีไร แต่พลอยว่ามันพลุกพล่านมากเกินไปนะ ที่นั่น ฮีเลยแนะนำว่า ลองดูที่ DOmah นะ อะเครเราเชื่อนายนะ...
เดินออกมาพบ iBot ยืนรออยู่ด้านหน้าเห็นชัดเจน เราเดินไปที่รถด้วยกัน ก่อนอื่นขอเล่านิดส์!
ก่อนเดินออกมานอกประตูจะมีเจ้าหน้าที่ตรวจแทคกระเป๋าว่าตรงกับสติกเกอร์ที่มีในมือไหม กรี๊ด... เคยเห็นหลายๆประเทศตรวจแต่ยัยพลอยไม่เคยโดนตรวจเลยสักที และเคยสะเพร่าอยู่บ่อยๆ แอบทำหาย 5555 ก็เข้าใจนะว่ามันสำคัญถ้าเกิดกระเป๋าเราหายหรือมีปัญหา ต้องมีหาง Tag ที่ติดกระเป๋าที่เจ้าหน้าที่ให้มาตอนโหลดกระเป๋า เก็บไว้สำหรับเพื่อติดตามกระเป๋าของเราเผื่อเวลากระเป๋าหาย แต่ก็....อะนะ บ่อยไป 5555 แต่ยังดีที่คราวนี่ไม่หายแต่ยับเยินเชียว หาออกมาจากก้นบึ้งของกระเป๋าสะพายหลัง เพราะ ยัยพลอยชอบที่จะใส่ปกพาสปอร์ต แต่บางทีพอจะสแตมป์ หรือ ผ่านตม. มันหนาไม่สะดวกก็เอาออก แต่หางแท็กกระเป๋ามันติดอยู่ที่นั่นบางทีจึงหลุดหาย ที่นี่คนที่ไม่มีห้ามเอากระเป๋าออก และที่นี่ตรวจทุกคน ทุกใบนะคะ ขอย้ำว่าทุกคน และทุกใบค่ะ เป็นบทเรียนให้ยัยพลอยอย่างดี คราวหน้าจะได้เก็บไว้ให้ดีๆ
ขึ้นรถแล้ว ให้ iBot พาไปแลกเงินก่อน ฮีพาไปแถว Maliobolo เป็นโรงแรมใหญ่แต่ลานด้านหน้ามีบริษัทรับแลกเงินใหญ่อยู่ 2 ร้าน เรทดีทีเดียว จริงๆแล้วดีที่สุดในทริปเลยด้วยซ้ำ (1บาท: 380RP) เลิศค่ะ ขอบคุณนะคะ...
ได้เงินแล้ว ไปเที่ยวกันเถอะ
ที่แรก iBot พาเราไปที่พระราชวังสุลต่าน "Karton Ngayogyakata"
สัญญลักษณ์ด้านหน้า
ตามที่ได้พูดคุยทางโทรศัพท์กะดาร์น่า ฮีบอกว่า ยูอย่าคาดหวังอะไรกับ Palace ของสุลต่านไอมากนักนะ วัดพระแก้วของยูยังสวยกว่า... อะเคร ไม่คาดหวังจ๊ะ
***ประวัติยาวอยู่ท้ายบทความนะคะ***
สัญญลักษณ์ด้านหน้าประตูทางเข้า
ด้านขวามือเป็นที่ประทับ ห้ามเข้า
ใกล้กันมีพลับพลาสำหรับใช้ในการแสดง และดนตรี วันนี้สุลต่านไม่ฟัง ยัยพลอยเลยฟังแทน
สังเกตผมของข้าราชบริภารชวาผู้หญิงนะคะ จะต้องทำผมทรงประมาณซังกุงเกาหลีทุกคนค่ะ และแต่ละยศ ต่างลำดับชั้น จะทำต่างกันค่ะ
โซนแรกแสดง Family Tree ของสุลต่าน และรูปท่านต่างๆ
เอาถ่ายภาพท่านนี้มาฝาก เพราะปกติเจ้าบ้านเจ้าเมืองเค๊าถ่ายรูปด้วยอาการเรียบร้อยแต่ ท่านนี้นั่งได้เปิดเผย แนวดีค่ะ
สงสัยจังทำไมต้องมีหูแบบนี้
ด้านในแสดงข้าวของเครื่องใช้สุลต่าน ตั้งแต่เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย รองเท้า อาหาร จดหมายเหตุ สากกระเบือยังเรือรบ จนกระทั่งผงชูรสสุลต่าน
สโล่ง มีสตอรี่บอกเล่าว่าลายอะไร มี inspiration มาจากไหน
ข้าราชบริภารสมัยก่อน สังเกตทรงผม*
แต่หลังจากการเยี่ยมชม ยัยพลอยชอบนะคะ การไปดูพิพิธภัณฑ์เนี๊ยะ เหมือนเราได้ศึกษาขนบธรรมเนียม ประเพณี และวิถีชีวิตของทั้งคนสมัยก่อนและสมัยนี้ว่าเป็นอย่างไร แตกต่างกันอย่างไร เราจะได้อะไรมากมาย จากการที่เราได้ไปดูพิพิธภัณฑ์ทุกที่ มากน้อยว่ากันอีกเรื่อง แต่ที่แน่ๆ เราจะได้เห็นรากของคนพื้นที่พื้นเพแถวนั้น ต้นไม้ต้องมีรากใช่ไหมคะ คนก็เช่นกัน ต้นไม้ถ้าไม่มีรากแล้ว มันจะไม่ยืนต้นได้คงทนถาวร เท่ากับไม้ที่มีรากแก้วใหญ่ คนก็เช่นกันค่ะ ยัยพลอยคิดแบบนั้นมาตลอด จึงชอบที่จะศึกษาประวัติศาสตร์และดูสารคดีเกี่ยวกับประวัติศาสตร์มาก
ไปต่อที่ วังที่อาบน้ำของสุลต่าน "TAMAN SARI WATER CASTLE//Water Palace"
***ประวัติยาวอยู่ท้ายบทความนะคะ***
ด้านหน้า มีนาคราชที่ประตู
ด้านในมี 3 สระ สำหรับ สุลต่านและ สนมเอก, สนม, และข้าราชบริภารที่สระด้านหลัง
สระที่ติดกับตัวอาคารด้านหน้า และมีอีกสระที่อยู่ด้านหลังอาคารนี้
ได้เวลาอาหารกลางวัน iBot พาเราไปทานอาหารชวา ร้านใหญ่มาก แต่พนักงานพูดอังกฤษไม่ได้ แถมเมนูภาษาชวาล้วน พวกเราก็เลยใช้ภาษามือแทน สั่งอย่างนึงได้มาอีกอย่าง สั่งกันจนเมื่อยมือเลยทีเดียว อาหารที่นี่ค่อนข้างเค็ม และหนักผงชูรสทุกที่ค่ะ กินไปแล้วก็ suffer นิดนึงค่ะ อิ่มแล้วไปเที่ยวต่อกันที่
ปราสาทพรัมบานัน (Prambanan Temple)
|
Prambanan |
เมื่อไปถึง iBot ก็พาไปซื้อตั๋วและฮีแนะนำว่าเราควรซื้อตั๋ว Combined ticket จะประหยัดกว่า ใช้สำหรับที่นี่และบุโรพุทโธ สนนราคา US$ 130 ได้ตั๋วทีนี้ว่าจ้างไกด์ของปราสาทต่อ ราคา 300,000Rp ต่อ ชั่วโมง มครบทุกอย่างแล้วไปข้างในกันเถอะ
พรัมบานัน หรือ จันดีโลโลจงกรัง เป็นวัดในศาสนาฮินดูที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ในศิลปะชวาภาคกลางตอนปลาย สร้างขึ้นในราชวงศ์สัญชัย ซึ่งนับถือศาสนาฮินดูในราวพุทธศตวรรษที่ 15 เทวาลัยประธานนั้น ประกอบด้วยเทวาลัยจำนวน 8 หลัง สร้างขึ้นอุทิศให้กับตรีมูรติ โดยเทวาลัย 8 หลัง เทวาลัยประธานจำนวนสามหลัง สร้างอุทิศให้กับตรีมูรติ อันได้แก่ เทวาลัยหลังกลางอุทิศให้กับพระศิวะ เทวาลัยหลังทิศเหนืออุทิศให้กับพระวิษณุ และเทวาลัยหลังทิศใต้อุทิศให้กับพระพรหม ส่วนเทวาลัยด้านหน้าอีกสามหลัง นั้นเป็นเทวาลัยที่สำหรับพาหนะของเทพเจ้าทั้งสาม อันได้แก่ โคนนทิ ครุฑและหงส์ ตามลำดับ นอกจากนี้ ยังมีเทวาลัยอีกสองหลังเล็กขนาบทั้งสองด้าน เทวาลัยหลังเล็กนี้คงสร้างขั้นเพื่ออุทิศให้กับพระสูรยะและพระจันทร์
ด้านหน้า
|
Prambanan |
สร้างแบบ สี่เหลี่ยม มีทางล้อมเป็นวงกลม จึงเป็นวงกลมล้อมรอบสี่เหลี่ยม แบบฮินดู
เเเเเเเอ๋.. มันเหมือนสัญลักษณ์ UNESCO โดยบังเอิญหรือเปล่านี่
|
UNESCO |
ถ้าเป็นพุทธจะสร้างเป็นสี่เหลี่ยมล้อมรอบวงกลม แบบ บุโรพุทโธ
|
Prambanan |
รอบนอกของพระปรางค์ด้านฐาน จะเป็นรูปแกะสลักสัตว์เพื่อrepresentให้เห็นถึงตัวตนของมนุษย์ เมื่อมีความรักความสามัคคี และเมื่อเกิดการแตกแยก ทั้งเดี่ยวและหมู่คณะ
ปรองดอง สามัคคี
|
Prambanan |
|
Prambanan |
แตกแยก แตกสามัคคี
|
Prambanan |
|
Prambanan |
|
Prambanan |
กำแพงรอบฐานด้านในเป็นรูปแกะสลักเรื่องราวของรามเกียรติ์
บนฐานเป็นรูปปั้นแกะสลักเทพเจ้าต่างๆ เช่นเทพเจ้าแห่งความร่ำรวย ความรัก ความฉลาด และอื่นๆรอบฐาน
|
Prambanan |
ด้านในปรางค์ ทั้ง 4 ด้าน มีเทพสถิตย์ทั้ง 4 ทิศ
|
Shiva |
|
Guru |
โอม ศรี คเณชาศายะ หะมะฮาห์
|
Ganesh |
ด้านที่ 4 พระแม่อุมาเทวี
โอม ศรี มหา อุมาเทวะไย นะมะห์
|
Uma Dheve |
ที่ผนังกำแพง คุณไกด์ บอกว่า ผู้หญิง 3 คนนี้เป็นต้นแบบความสวยของหญิงชวา
บริเวณโดยรอบ
เมื่อเดินออกจากโซนด้านนี้จะมีวัดอีก 3 วัด
|
Candi Lumbung// Prambanan |
Candi Bubrah
|
Candi Bubrah// Prambanan |
วัดที่สำคัญวัดหนึ่ง คือ Candi Loro Joggrang
เทวสถานฮินดู ลัทธิไสวนิกาย สร้างในปี คริสตศัตวรรตที่ 10 โดย พระเจ้าบาลีตุง แต่จากหนังสือประวัติศาสตร์ของ southeast asia ( D.G. Halls) กล่าวว่าน่าจะเป็นพระเจ้าทักษา กษัตริย์องค์สุดท้ายของชวาภาคกลาง เป็นผู้สร้าง และน่าจะสร้างเพื่อบรรจุศพกษัตริย์และสมาชิกในาชวงศ์,, ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรกดโลกปี 1991 Loro Joggrang ภาษาถิ่นแปลว่าเจ้าหญิงผู้เลอโฉม จึงมียักษ์มาขอแต่งงาน แต่เจ้าหญิงไม่กล้าปฏิเสธ จึงทรงขอให้ยักษ์สร้างจันทิให้ได้ 1000 หลัง จึงจะแต่งงานด้วย ยักษ์ใช้เวทมนต์สร้าง ส่วนเจ้าหญิงใช้เวทมนต์ทำลาย เพื่อวัดไม่ให้สร้างเสร็จ ยักษ์โกธรจึงสาปเจ้าหญิงเป็นหินแล้วไว้ที่วัดแห่งนี้
|
Candi Loro Joggrang |
เมื่อเดินเข้าไปสักการะท่านศิวะ ฝนก็เทลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา จากนั้นมีคนมาเสนอร่มให้เช่า เอ๊ะม๊ะกี๊ฟ้าเปิดสุดๆ ไม่มีวี่แววฝนเลยนะ และมีคนมาให้เช่าร่ม เราก็เลยมีคำถามในใจว่าทำไมจึงมีมาให้เช่าได้ทันเวลาพอดี พอเดินรอบพระปรางค์เสร็จฝนก็หยุดให้เราพักหายใจแป็ป พอถ่ายรูปไปไม่กี่รูป เราจะเดินไปที่อีก 3 วัดเล็ก ฝนก็เทลงมาหนักมากแบบไม่เคยพบไม่เคยเจอ
พอขึ้นรถได้จึงถาม iBot ฮีบอกว่าที่นี่ฝนจะตกหนักตอนบ่ายๆ อย่างนี้ทุกวัน โอ๊วว แกรรร ทำไมไม่พาชั้นมาตอนเช้ายะ นังบ้า ... อย่างนี้ถ้าใครอยากลองพิสูจน์เมื่อไปที่นี่ควรไปเช้านะคะเผื่อจะไม่เจอฝนแบบเรา
สวนกวาง แต่กวางหลบฝนหมด สามารถซื้ออาหารเลี้ยงกวางได้นะคะ
กลับดีกว่าฝนแรงมากไม่ไหวแล้ว กลับโรงแรมพักผ่อนดีกว่า
พบกันที่ Yogya Epi 2 นะคะ
Ploy Journey Journal