Ploy Journey Journal.........Welcome to my world
Group Blog
 
 
กรกฏาคม 2559
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
26 กรกฏาคม 2559
 
All Blogs
 
Sendai (April 2016)





โอฮาโยะ โกะไซมัสสสส  เจแปน...


รอบนี้เราจะไปตามหาซากุระกันอย่างจริงจัง เลทเมษาแล้วก็ต้องขึ้นเหนือสินะ ไป Sendai และ Aomori ดีกว่า จุดหมายเรานอกจากดอกไม้ ยังต้องไป Onsen Onsen แล้วก็ Onsen ให้มันสบายอุรา



คราวนี้บินไปลงสนามบิน ฮาเนดะ เพราะว่ายังไงวันแรกก็ต้องเสียไป 1 วันจากการบิน จะตื่นเช้าไปลงนาริตะทำไม สู้ตื่นสายหน่อย ไปสุวรรณภูมิ ชิว ชิว ดีกว่า แล้วค่อยกลับที่นาริตะ เพราะการบินไทย ไปฮาเนดะบ่าย แต่กลับเช้าตรู่  ส่วนนาริตะไปเช้าตรู่ กลับเย็น ตามสไตล์คนชอบตื่นสายก็ ไปฮาเนดะ กลับนาริตะสิจ๊ะ ทุกอย่างก็ถูกแก้ใขให้มีชีวิตตื่นสายได้สบายๆสไตล์ยายพลอย  


มาถึง 4 ทุ่มแล้วได้เวลาเข้าที่พักและนอน ดีอย่างฮาเนดะอยู่ใกล้โตเกียวกว่า จึงถึงที่พักได้เร็วกว่า  แต่เอ๊ะเดี๋ยวก่อนถึงแม้จะดึกแล้ว ขอแวะหาอาหารที่ซุปเปอร์มาร์เกตก่อนค่อยเข้าโรงแรม ยังดีที่ใกล้ๆมีซุปเปอร์มาร์เกตออแกนิคขาย ก็เลยได้ อโวคาโด กล้วย อ้อย (เอ้ย..ไม่ใช่ช้างนะ) มะเขือเทศ (ขอบอกว่าถ้าใครไปญี่ปุ่นแล้วไม่เคยลองมะเขือเทศ ยัยพลอยขอแนะนำว่าพลาดมากกกก  รีบลองเมื่อไปคราวหน้าเลยค่ะ แล้วคุณจะติดใจ รสชาติแบบ 3D มากๆ หวานกรอบอร่อยมาก ไม่จำเป็นต้องยี่ห้อนี้นะคะ แต่เลือกแบบลูกประมาณนี้ค่ะ



เช้าวันถัดมา อาหารเช้าโรงแรมตามระเบียบพัก  แล้วไปหา "ดาเต๊ะ มาซามูเน๊ะ" กันเถิดจะเกิดผล ไปแลก JR Pass ที่สถานี Tokyo นับไป 3 ชม. ร่างกายก็ได้มาหายใจในอากาศของ เมืองSendai โดยพลัน เมื่อมาถึงแล้ว ก่อนอื่นก็ต้อง ซุนดะ ก่อนเลย ไม่ว่าจะเป็นไอติม น้ำถั่วบด และ ถั่วบดใส่โมจิ จบ 3 อย่าง แล้วเดินไปเช็คอินโรงแรมแบบสวยๆ





เราพักโรงแรมหน้าสถานี สำหรับคนขี้เกียจเดินอย่างอิชั้นก็ต้อง Hotel Metropolitant Sendai เลย เพราะอยุ่ติดสถานีเลย 5555  โรงแรมให้เช็คอินบ่าย 3 งั้นเราก็ออกเป็นเสพบรรยากาศเซ็นไดให้สบายอารมณ์กันก่อนก็แล้วกันค่ะคุณขา ค่อยกลับมาเช็คอิน


เราออกจากโตเกียวสายมากๆ ก็เลยมีเวลาโรมมิ่งในเซ็นไดน้อยไปหน่อย แต่ม๊ะเป็นไร ไว้มาใหม่ 5555

ที่ sendai มี Bus Loople Sightseeing tour รถตกแต่งแบบเก๋ไก๋สไลเดอร์มาก บัตรบัสอย่างเดียว ผู้ใหญ่ 620 เยน เด็ก 310เยน ส่วนถ้าเป็นบัตรที่รวมทั้งบัสและsubway จะราคา 900 เยน และ 450 เยน (สำหรับเด็ก) ส่วน Single ride เที่ยวละ 260 เยน และ 130 เยนค่ะ  เรามาถึงบ่ายมากแล้วพนักงานแนะนำว่าควรซื้อ single ดีกว่า, ซื้อ one day pass ไม่คุ้ม เพราะวันนี้บัสหมด 4 โมงเย็นค่ะ


Sendai Bus Loope  ตกแต่งน่ารัก


จริงๆแล้วเราควรจะไปปราสาท ท่านดาเต๊ะ ก่อนแต่ไม่ค่อยจะมีเวลา กอรปกับเมื่อหลายปีก่อนเคยมาแล้วเลยขอผ่านไปก่อน  เอาภาพถ่ายมาให้ดูแทน แต่เมื่อคราวก่อนไป เวลาถ่ายรูปก็มองไม่ค่อยจะเห็นนะคะ ถ่ายมากลายเป็นก้อนอะไรดำๆเฉยเลย ไม่ค่อยเหมือนในรูปที่ในโบรชัวร์นะคะ  เพราะมุมที่ถ่ายเราจะยืนต่ำกว่าอนุเสาวรีย์มาก เดี๋ยวแอบไปหารูปก่อน ถ้าเจอจะเอามาใส่ไว้ให้นะคะ




ไปในที่ๆยังไม่เคยไปดีกว่า วัด Osaki Hachimangu Shrine



ก่อนเข้าวัด ต้องล้างมือก่อน




Osaka Hachimangu Shrine สร้างในปีคศ. 1607 ตามคำสั่งของท่านแม่ทัพดาเตะ มาซามูเนะ เป็นวิหารที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่นที่ยังคงเหลืออยู่และได้การรับรองเป็นมรดกแห่งชาติ




ศาลเจ้าเล็กด้านข้าง




ทำบุญเสร็จ ตบมือ 2 ครั้ง แล้วสั่นกระดิ่ง




ซากุระมิมัสในวัด





จะกลับหล่ะ ลงมารอบัส ว่างเลยถ่ายประตูหน้าวัดสักนิด




ไปต่อด้วย Miyagi Museum of Art.  เป็นพิพิธภัณฑ์ ทั้งยังเป็นศูนย์แสดงสินค้าและห้องประชุมนานาชาติขนาดใหญ่ของเมืองเซนได ที่เพียบพร้อมด้วยอุปกรณ์แปลภาษา 6 ภาษา  ด้านในมีTourist info. บริการให้ข้อมูลการท่องเที่ยวเซนไดอยู่ แต่ที่เด็ดไปกว่านั้น ด้านในมีร้านหนังสือและขายของกิ๋บเกร๋ มีสไตล์อยู่ แห่ๆ อยากได้ไปหมดตามเคย ก็ของมันช่างน่ารักซะนี่กระไร ด้านหลังมีร้านกาแฟเก๋ๆให้นั่งจิบอย่างสบายอารมณ์



เดินชิม ชม ช๊อป ฉี่ จนพอพอแล้ว  นั่งบัสกลับไปสถานีเซ็นได เพื่อไปช๊อปปิ้งและรอเวลาหม่ำอาหารเย็น

หน้าสถานีก็มีห้างสรรพสินค้าสารพัดให้เลือกสรร ก็เลือกสรรกันไปจนได้เวลาอาหาร  มาถึงเซ็นไดแล้วสิ่งที่ต้องกินแบบ The Must มากๆ คือ กิวทันยากิ (ลิ้นวัวย่าง) ,เซนไดกิว (เนื้อ A5 ของจังหวัดมิยางิ), ซุนดะ (ถั่ว Edamame บด), หยิสาเก, ซะซะ-คะมะโบะโกะ (ลูกชิ้นปลาทรงใบไผ่), เซนไดมิโซะ, และ คาคิ(หอยนางรม)   ได้เวลาอาหารเย็นแล้วเราก็ไปลุยกันเลย จุดหมายคือร้านนี้ที่ห้าง Arte


เราสามารถกินของThe Must ของเซนไดได้หลายสิ่งในร้านนี้



จานแรกมาเป็น Complimentary Salad เป็นหอยกับลูกชิ้นปลาหั่นคลุกน้ำสลัดมา สั่งเนื้อวัวเซนได,  ลิ้นวัวที่ผ่านการบ่มให้มีรสชาติฝังอยู่ในตัวเนื้อ (สวรรค์ชัดๆ สุดยอดมาก) ย่าง ทานกับข้าวมุหงิ ที่ร้านให้เต้าเจี้ยวบดมาทานเป็นน้ำจิ้ม เราสั่งสาเกเซนไดมา ไม่ได้มาเป็นขวดแต่มาเป็นกาเซรามิคชิคๆ เล็กๆ, เนื้อคลุกวาซาบิสด ที่ย่างแล้ววาซาบิหวาน หอม แต่ยังคงความเผ็ดจัดจ้านของวาซาบิสดไว้, เรเมนของร้านนี้ เส้นสุดยอด เกินคำบรรยาย   มาถึงของหวาน ที่เป็นแครมบูเล่ย์ ร้อนๆแต่พอตักลงไปเอ๊ะมีอะไรอยู่ข้างล่าง เทคเจอร์แปลกๆ พอชิมเท่านั้นแหละ ว๊าวววว++ มีไอศครีมวนิลาอยู่ด้านล่าง ช่างเข้ากันซะนี่กะไร  คำถามในหัวต่อมา???แล้วเค๊าทำได้ไงอะ เอาของเย็นกับของที่ต้องอบร้อนมาอยู่ด้วยกัน  ส่วนพุดดิ้งอัลมอนด์ อร่อย หอมมากๆ



อีกร้านเป็นร้านขนมซุ่นดะ  ที่แนะนำให้ชิม ร้านสีเขียวมีนมถั่ว   อ้อร้านทางขวาสีน้ำเงิน มีขนมซอฟเค๊กก้อนสีเหลือง(ในรูปด้านล่างตรงกลาง) มันอร่อยมากๆนะคะ... ขอบอก




โมจิใส้ถั่ว Eddamame บดของร้านสีเขียวด้านบน รวมถึง นมถั่วเอดดามาเมะ และ โมจิใส่เอดดามาเมะบด อร่อยมากค่ะ


รูปล่าง Soft cake ร้านสีน้ำเงิน


ถั่วบดนมๆ แก้วสีขาว // ถั่วบดใส่โมจิ แก้วใสๆ



ขนมรวมๆของเซ็นไดที่น่าชิม




เช้าวันต่อมา อยากไปวัดเก่าแก่บนภูเขา ชื่อ"ยามาเดระ" อายุ 800 ปี และไปล่องเรืออีกเมือง ปัญหาคือทั้ง 2 ที่มันอยู่คนละทิศกันเลย แต่รถไฟจะไปล่องเรือมีรอบเที่ยง  กลับมาไม่น่าทันไป Mizawa ในตอนบ่าย เพราะบุคดินเนอร์ไว้ 6 โมงเย็น เลยเปลี่ยนแผน ไปล่องเรือที่ Matsushima แทน ใช้เวลาจาก Sendai Station ประมาณ 30 นาที โดย JR


มัทซึชิมะ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงแต่โบราณเพราะมีเกาะเล็กเกาะน้อยอยู่มากกว่า 260 เกาะ ทั้งในและนอกอ่าวและมีสิ่งก่อสร้างทางประวัติศาสตร์ให้ชม ถูกจัดเป็นแหล่งที่มีทัศนียภาพที่งดงาม 1 ใน 3 แห่งของญี่ปุ่น ยังได้รับการแนะนำเป็นที่เที่ยว 3 "ดาวของมิชลินกรีนไกด์ เจแปน" ของฝรั่งเศสด้วย



ที่เกาะนี้สามารถเดินถึง ด้านบนเป็นศาลเจ้า



ทางเดินจากแผ่นดินไปเกาะ ที่มีศาลเจ้า



ข้ามสะพานนี้ไปก็ถึงศาลเจ้าแล้ว



ศาลเจ้าที่เกาะ



บรรยากาศเมือง Matsushima - Miyagi-Gun



สบายๆ สไตล์ Matsushima ไม่มีใครเร่งรีบ




เดินชมวิวทิวทัศน์จนโอเครแล้ว ไปนั่งเรือชมวิวเกาะน้อยใหญ่กันดีกว่า



เรือสาธารณะแต่ไหงเหมือนว่ากลายเป็นเรือส่วนตัวซะงั้น



วิวงดงาม



เกาะใหญ่น้อย






ไปขึ้นบกที่ Shiogama - Minatomachi (ภาพท่าเรือ)



Pier จอดเรือของเรา




ที่นี่อุดมไปด้วยอาหารทะเลสดๆ เที่ยงแล้วเราไปดูกันดีกว่ากินไรดี




คอเรสเตอรอสจาก Uni ที่ข้าพเจ้าทานคนเดียวทั้งจานมันคงมิใช่น้อย พร้อม + Unagidon + Tuna don



ณ ที่แห่งนี้ที่ข้าพเจ้ายืน  ข้าพเจ้าขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง เนื่องจากเมื่อปี 2011 เดือน 3 วันที่ 25 ได้เกิดเหตุการณ์ซึนามิถล่มเสียหายทั้งเมือง



บ้านเรือนพังเสียหาย



นี่คือภาพอาคารสถานที่ ที่เรามารับประทานอาหารกลางวันกันวันนี้ เมื่อตอนโดนซึนามิถล่ม



Pier ที่เรามาจอดเรือและขึ้นบกกันวันนี้ กลายเป็นที่อพยพผู้คนออกจากเมืองในวันนั้น



กินเสร็จ ชมวิวเสร็จ นั่ง JR กลับไป สถานี Sendai ไปเอากระเป๋าที่โรงแรม แล้วกลับไปขึ้นชินคังเซ็นไป Mizawa ต่อ ...


มาสคอตของเซนไดที่ยัยพลอยหลงรักมว๊าาาก.. ชอบสุดๆ



และที่ๆอยากไปสุดๆแต่โอกาสยังไม่อำนวย "Anpanman Museum" ,, I love Anpanman & Bikin...








Create Date : 26 กรกฎาคม 2559
Last Update : 27 กรกฎาคม 2559 11:06:19 น. 0 comments
Counter : 651 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สมาชิกหมายเลข 3271775
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




Hi guys, I'm "Ploy" who always have full of bucket list. It is because the world is gigantic, so step out 'n explore its. I write, i-dive, i-trek, i-run, i-yoga, i-blog, and I love good food. Let's follow the dream. สวัสดีค่ะ ชื่อ"พลอย"ค่ะ เป็นพวกชีวิตมีแต่บวก ไม่มีลบ Bucket list เต็มตลอดเวย์ อะไรๆก็เป็นลิสต์ที่ต้องทำก่อนตายสำหรับยัยพลอยทั้งนั้น (ก็โลกนี้มันกว้างใหญ่จะตายไป!) ไหนๆก็ได้เกิดมาบนโลกสวยงามใบนี้แล้วหนิ คิดแล้วจะรออะไร...เก็บกระเป๋า ก้าวเท้าออกมา โลกรอเราอยู่ (หรือความอยากรอเราอยู่) พลอยชอบขีดๆเขียนๆ, วิ่ง, โยคะ, ดำน้ำ, เทรค, และทุกทริปจะขาดไม่ได้เลยคือ อาหารอร่อย. มาออกเดินทางตามความฝันกับ "พลอย เจอนี่ เจอนั่น" ด้วยกันนะคะ... : )
New Comments
Friends' blogs
[Add สมาชิกหมายเลข 3271775's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.