...ไหว...ไหว...ยอดหญ้าส่าย ในป่าฝน....เพียงยอดหญ้าไหว ที่บ้านปลายฟ้า.......
เถื่อน









ภาพประกอบ "เถื่อน" โดย ปลายแปรง


ร่องรอยที่ค้นพบในแหล่งขุดค้นทั่วเอเชียทั้งกระดูกและฟันหลายซี่ ทำให้เกิดความเชื่อ มั่นมากขึ้นว่ามนุษย์ยุคใหม่น่าจะมีแหล่งกำเนิดในบริเวณนี้ก่อนจะอพยพไปยังแอฟริกา แล้วกระจายจากแอฟริกาไปยังส่วนต่างๆของโลกในระยะหลัง

แต่คณะกรรมการสถาบันฯ เจ้าของทุนวิจัย กำลังพิจารณางดสนับสนุนโครงการของ ดร.นารีรัตน์ เพราะในช่วง 3 ปีที่ดำเนินงานขุดค้น พบเพียงเศษกระดูก เศษลูกปัด ที่ไม่มีน้ำหนักมากพอ จะเชื่อมโยงข้อสมมุติฐานที่เธอตั้งไว้

ทันทีที่ภาพโครงกระดูกมนุษย์โฮโมซาเปี้ยนส์เพศชายในชั้นหินอายุนับแสนปี มีการจัดวางเหมือนได้รับการประกอบพิธีฝังศพ พร้อมผลทดสอบอายุชั้นดินและชั้นหินที่เธอส่งอีเมล์ไปถึงบรรดา กรรมการรีบจัดเครื่องบินเที่ยวพิเศษมาดูหลุมขุดค้น เพราะนี่อาจจะเป็นหลักฐานที่ใช้คว่ำทฤษฏีเดิมแล้วเปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่ขึ้นมา

เมื่อกลุ่มผู้สนับสนุนทุนเดินทางกลับ พร้อมคำมั่นสัญญาที่จะอุดหนุนการขุดค้นจนถึงที่สุด ดร.นารีรัตน์รีบกระโดดกลับไปยังหลุมขุดค้นลงมือกะเทาะเซาะปัดเศษหินด้วยตนเอง

กระดูกท่อนขาโฮโมซาเปี้ยนส์อายุน่าจะเก่ากว่ามนุษย์โครมันยอง โผล่ขึ้นมาสัมผัสอากาศแห่งศตวรรษที่ 21 นักโบราณคดีสาวระงับความพลุ่งพล่านในหัวใจไว้ไม่มิด เอื้อมมือสัมผัสสั่นเทา ไอร้อนแผ่วูบกระจายวาบไปทั้งตัว ระอุคุกว่าแดดที่ตอกลิ่มร้อนลงมาสับกระแทกแผ่นหินให้ป่นแตกเป็นผุยผง ร้อนจนเธอยกท่อนแขนขึ้นปาดหน้าผากที่ปราศจากเหงื่อ




นารีรัตน์เงยหน้าขึ้นมองบรรดาลูกทีมที่เลือนหายไปทีละคนๆ ท้องฟ้าสีครามกลับพร่าลางดั่งหมอกขาวแผ่คลุม....เธอกระพริบตาถี่พยายามเรียกภาพทุ่งหินโล่งกลับคืนมา หญิงสาวสวยสมัยอย่างเธอแม้ผ่านวัยเลข 3 มาเนิ่นนานไม่เคยปล่อยให้ตัวเองร่วงโรย ยังคงดูแลร่างกายได้เสมือนสาวรุ่น การนั่งทำงานกลางแดดเปรี้ยงไม่กี่ชั่วโมงเช่นวันนี้ยังถือว่าน้อย.....ไม่น่าใช่เหตุทำให้เป็นลมแดดได้ดอก

นักโบราณคดีสาวสะบัดหน้าซ้ำ....ลานหินโล่งหายวับไปกับตา ปรากฏขอบครามของฟ้าตัดเส้นเขียวสดของทุ่งหญ้ารกทึบ หญิงสาวครางสบถในใจกับตัวเองก่อนเงยหน้าขึ้น

ดวงตาดุวาววับจ้องมายังเธอแฝงความงุนงงอยู่ในแววตาตื่น ต่างฝ่ายต่างผงะถอย นารีรัตน์แผดเสียงร้องสนั่นป่า ถอยหลังกรูดตะกายหนีคนร่างใหญ่ที่พันกายด้วยหนังสัตว์ผืนเล็กที่พุ่งเข้ามารวบตัวเธอเหวี่ยงขึ้นพาดบ่า พาวิ่งลุยดงหญ้าที่สูงมิดหัวตรงเข้าไปยังป่าสนทรงประหลาด

@@@@ @@@@ @@@@ @@@@



มนุษย์ร่างใหญ่คล้ายสัตว์ป่าพาเธอมาหยุดที่เนินเขาเตี้ยๆ ซึ่งมีแผ่นหินแบนมหึมาเทินอยู่บนหินกลมก้อนใหญ่ กระโจมหนังสัตว์ขนาดร่วมๆ 8 เมตร ใช้ผืนหนังเย็บต่อกันหยาบๆร้อยด้วยเอ็นสัตว์ ขึงรั้งไว้กับรากไม้ที่แผ่คลุมยึดหินสองก้อนไว้ด้วยกัน ดึงลงมาที่พื้นค้ำยันด้วยซี่โครงสัตว์ขนาดใหญ่มีกลิ่นควันไฟ และเสียงคนพูดคุยกันอือๆ อาๆ ไม่เป็นภาษาอยู่ข้างใน



นารีรัตน์ถูกจับโยนลงข้างซอกหินด้านในสุดของกระโจมที่มีหญ้าแห้งสุมอยู่ มันก้มลงมองเธอชั่วอึดใจแล้วค้อมตัวลอดโครงเต็นท์ไปนั่งล้อมรวมกลุ่มที่กองไฟ คนเถื่อนทั้งชายหญิงสิบกว่าคน ค่อยๆคืบคลานเข้ามาหาเธอ นักโบราณคดีพลัดถิ่นรีบขดตัวเข้าหลืบจนตัวลีบ แต่มือไม้ที่เสือกเข้ามาทึ้ง กระชาก ลาก จับ นารีรัตน์ปัดป้องได้เพียงกรีดร้องไล่ ครวญคร่ำร่ำไห้สะอื้นสะอึก

เจ้าคนเถื่อนลุกขึ้นกลับมากระชากคนเหล่านั้น ผลักให้ออกห่าง มันกู่เสียงตวาดกราดเกรี้ยว จนคนอื่นๆถอยกระเจิงกลับไปที่ของตน ดวงตาวาววับจ้องมองเธอคล้ายปรามให้หยุดส่งเสียง

นารีรัตน์กลั้นสะอื้นเชยตาขึ้นมอง.....พร่ำปลอบใจตนว่า ฉันเป็นลมแดด.....ฉันฝันไป....ฝันเห็นหลุมขุดค้นฟื้นภาพอดีต ให้เธอเขียนบทความได้ตรงตามข้อเท็จจริงว่าที่นี่มีพัฒนาการขั้นสูงกว่ามนุษย์โครมันยองในฝรั่งเศส และฉากต่อไปคือนักโบราณคดีชื่อดังอย่างเธอบรรยายไปทั่วโลกพร้อมกับเสียงปรบมือกึกก้อง....ด๊อกเตอร์สาวพยายามฝันจนม่อยหลับไปในซอกหินมืดชื้นอับ อีกสักพักเมื่อฟื้นขึ้น มา.....ฉันคงนอนอยู่บนเตียงสนามในแค้มป์ที่พัก

หญิงสาวค่อยๆเผยอตาตื่นในความมืด ทะมึนร่างในความมืดเบื้องหน้าทำเอาเธอผวาสุดตัว คนเถื่อนที่จับตัวเธอมานั่งจ้องอยู่ตรงหน้าไม่ไหวติง เธอรีบผลุดลุกนั่งกอดเข่า....เจ้าคนเถื่อนโยนชิ้นเนื้อให้เธอราวกับสัตว์เลี้ยง

ชิ้นเนื้อแดงเถือกหล่นแปะลงที่เท้า คาวเนื้อคลุ้งเลือดที่กระเซ็นติด คนเถื่อนใช้หินที่กะเทาะบางเฉียบเถือเนื้อชิ้นเล็กเข้าปากเคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อย....มวนลมป่วนปั่นในท้อง ตีย้อนขึ้นกระบังลมพุ่งขึ้นคอหอย นารีรัตน์ตะกายออกจากซอกหินโถมตัวอาเจียนจนตัวโก่ง....

@@@@ @@@@ @@@@ @@@@



ฝันกลางแดดของ ดร.นารีรัตน์ในกระโจมมืดทึม แม้จะมีกองไฟที่ถูกเลี้ยงเชื้อไว้ตลอด เวลา ท่ามกลางคนเถื่อนที่อยู่รวมกันเป็นครอบครัวขนาดใหญ่ใช้ชีวิต กิน นอน มีเพศสัมพันธ์กันโจ่งแจ้งอยู่ในนี้ ไม่รู้ว่าผ่านไปกี่โมงยามหรือข้ามวัน....แค่ความฝันรึ

แล้วคนเถื่อนคนนี้ที่ปฏิบัติกับเธอราวกับสัตว์เลี้ยงอีกเล่า.......แค่จินตนาการของตัวเองหรือ ฝันนี้ไยยาวนานนัก......ลืมตาตื่นกี่ครั้งก็ยังเหมือนเดิม

นารีรัตน์ชำเลืองแลคนเถื่อนที่จดจ้องมายังตน มนุษย์โลกเก่าค่อยๆคลานมาหาเธอด้วยแววตาประหลาด จินตนาการของเธอร้อนฉ่าขึ้นดังเปลวไฟลามเลีย หัวใจหญิงสาวเต้นระทึกสั่นไหว มือสากกร้านคว้าข้อเท้าเธอลากเข้าหาตัว ใกล้จนได้กลิ่นฉุนสาบสางอย่างรุนแรง......มันจับเธอกดไว้กับก้อนหิน กวาดตามองหัวจรดเท้าแล้วทาบอุ้งมือลากสัมผัสวงหน้าไล้เลื่อนลงมา หยุดกึกที่เนินเนื้อหนั่นแน่นระอุร้อนจากมือสู่ทรวง นารีรัตน์ดิ้นรนปัดป้องมือใหญ่กระด้าง ที่กดแรงลงไหล่แล้วกระชากเสื้อเชิ้ต ผ้าฝ้ายทิ้ง ตะปบมือลงคลำขยำบดสำรวจทั้งเรือนกายแล้วคร่อมตัวลงเบียดทับสัตว์เลี้ยงตัวขาว ครั้งแล้ว ครั้งเล่าที่เงาทาบแผ่นหินโยกส่าย ท่ามกลางสายตาคนทั้งเผ่า เสียงกรีดร้องโหยไห้เคล้าเสียงครางอย่างสุขสมของคนเถื่อน สวดส่งวิญญาณของนักโบราณดีสาวหลุดลอยออกจากร่าง

สัตว์เลี้ยงตัวขาวนวลของคนเถื่อนขดกายเปล่าเปลือยซุกเข้าซอกหิน หนาวเหน็บ เจ็บร้าวเกินกว่าจะทำใจยอมรับ....พยายามหยิกหนัง ขบเนื้อให้ลืมตาตื่นแล้วบอกตัวเองว่า แค่ฝันไป

@@@@ @@@@ @@@@ @@@@@


จินตนาการจากแหล่งสำรวจไม่มีทีท่าว่าจะเลือนหาย ผ่านวันผ่านคืนจนไม่อยากรู้ ด็อกเตอร์สาวจำยอมปรับตนให้อยู่รอดในป่าดึกดำบรรพ์กับคนเถื่อนโครมันยองของเอเชีย ซึ่งช่วยให้เธอได้เรียนรู้การอยู่กับป่า สื่อสารด้วยคำง่ายๆกับคนในเผ่า ทำให้พวกเขาเห็นว่าเนื้อสัตว์ทำได้มากว่าการกินดิบ หรือปิ้ง ย่าง และเธอต้องเป็นสัตว์เลี้ยงข้างกายคนเถื่อนที่ไม่ยอมให้คนอื่นๆเข้าใกล้คนเถื่อนผู้นี้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆที่เธอถ่ายทอดให้ได้อย่างรวดเร็วจนน่าทึ่ง แล้วสอนให้คนอื่นๆในเผ่าที่รับรู้ไร้ข้อโต้แย้ง พฤติกรรมหลายอย่างที่สังเกตเห็น คนเถื่อนของเธอคือหัวหน้าครอบครัวนี้

คนเถื่อนหยาบกระด้างนั้นเพียงสัญชาตญาณดิบปราศจากวัถตุฉาบเคลือบ ป่าดงพงไพรไร้สิ่งปรุงแต่งช่วยให้คน เป็นคนที่บริสุทธิ์ สะอาดใสมาจากข้างในแห่งตน

มนุษย์โบราณกร้าน สกปรก น่าสะอิดสะเอียนเมื่อแรกพบ บัดนี้ช่างเย้ายวนรัญจวนใจยิ่งนัก เพียงอุ้งมือสัมผัสแนบ มัดกล้ามกระชับเบียดยิ่งหวามหวิว เนื้อสาวสั่นริกซ่านกระเส่า บอกกับเจ้า ของกายว่าปรารถนาคนเถื่อนแสนกำยำผู้นี้เหลือเกิน

ในกระโจมแนบเพิงหิน วอมแวมด้วยกองไฟกลางโถง กิ่งไม้สดที่ส่งลงกลางกองฟอนกระดอนสะเก็ดแตกระยิบ สะบัดเปลวลามเลีย สะท้อนเลื่อมเงาทอทาบแผ่นหนังให้แยกเดาได้ว่าใครทำอะไรในค่ำคืน คนเถื่อนของนารีรัตน์ก่ายทับร่างสัตว์เลี้ยงเนื้อนุ่มละมุนผิดคนในเผ่าเบียดเข้าซอกหลืบ ฉายเงาภาพวาบวูบที่บรรเลงเพลงลิบิโดครั้งแล้ว ครั้งเล่า

แรงช้างชักเชือกสิบช้าง มิอาจรั้งแรงใคร่ในราคะ ข้ามคืน ข้ามวัน นารีรัตน์เป็นฝ่ายโอบรัดจัดแจงท่วงท่าจนคนป่าเถื่อนครางระงม แผ่หราตาลอย

หากเพียงแค่ฝันไป ก็ขออยู่ในฝันให้มันสุดขีดคราวนี้เถอะ....ทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ ในโลกล้านปี ไม่ต้องเป็นอาจารย์ระวังตน นักโบราณคดีระวังภาพ แต่สามารถเสพสุขได้ทุกที่ ทุกเวลา ในทุ่งหญ้า โขดผา หน้าถ้ำ หรือกลางกระโจม แม้จะมีสายตาคนทั้งเผ่าเฝ้าจ้องมอง....

หากลืมตาตื่นขึ้นมาในโลกที่เคยอยู่.....เธอจะทำเช่นนี้ได้หรือ แล้วจะหาได้จากไหน...คนเถื่อนอายุหมื่นๆปีที่สง่างามเป็นผู้ชายจริงๆยิ่งกว่าคนในเทพนิยาย


@@@@ @@@@ @@@@ @@@@


น้ำผึ้งพระจันทร์ของนักโบราณคดีสาวหลงยุคกับคนเถื่อนหนุ่มรูปงามในเพิงที่พักล้านปีผ่านเวลามาอย่างหวานหวาม แม้ผู้หญิงบางคนในเผ่าจะไม่พอใจนักที่เธอยึดครองเถื่อนรูปงามไว้เป็นของตัวเอง แต่แลกกับการเย็บร้อยหนังสัตว์เป็นผ้าพันกายแปลกความเคยชิน มีดอกไม้ ใบไม้ ร้อยทัด ประดับกาย...พวกหล่อนดูคลายความขุ่นเคืองไปพอสมควร ยิ่งสำรวจมองผู้ชาย 4-5 คนในเผ่าแล้ว นารีรัตน์หยันหยามในใจ...อย่าหวังว่าฉันจะปล่อยให้หลุดมือ คิดรึว่าฉันจะก่ายกอดพวกนั้น....ไม่มีทาง

นารีรัตน์ระเริงระรื่นอาบน้ำในลำธารใสแจ๋ว ลูบล้างเนื้อตัวอย่างมีความสุข ข้างฝ่ายคนเถื่อนเฝ้ามองสัตว์เลี้ยงของตัวเองอย่างไม่เข้าใจ เจ้าเพศเมียตัวขาวทำไมจะต้องล้างตนให้หมดกลิ่นเผ่า เคยสงสัยทุกครั้งที่ร่วมเสพสุขเธอจะต้องหาวิธีทำความสะอาดตัวเอง ทั้งที่กลิ่นเฉกเช่นนั้นทุกคนล้วนอยากให้อวลอบติดกาย กลิ่นที่จะแยกแยะได้ว่าใครเป็นเจ้าของใคร.....เจ้าตัวขาวเนื้อนุ่มกลับทำลายแล้วกลบกลิ่นกลุ่มด้วยดอกไม้ ใบหญ้า

คนเถื่อนของนารีรัตน์ขมวดคิ้วดกดำอย่างไม่รู้ตัว ซัดหอกแทงปลาร้อยเข้าพวงโยนพาดไว้บนโขดหิน วันนี้เขาหาปลาได้มากพอสำหรับทุกคนและคาดว่าคนหนุ่มคนอื่นคงล่าเหยื่อได้มากเช่นกัน เลยวางหอกนั่งพักวักน้ำขึ้นล้างหน้า......นารีรัตน์แอบย่องโผเข้าใส่จนหล่นตูมลงน้ำด้วยกันทั้งคู่

นักโบราณคดีสาวกระโดดขึ้นนั่งคร่อมจับหัวกดน้ำขยี้ผมล้างคราบสะสมที่พอกหนาออกจากศีรษะ....พ่อคนเถื่อนดิ้นรนพอเป็นพิธีก่อนสยบยอม เธอเอื้อมหยิบหินใต้ลำธารมาขัดคราบตามตัวเจ้าบ่าวร่างใหญ่ คว้าปลายหอกเฉือนเล็มหนวดเครา ตกแต่งจอน ตัดผมที่หยาบกระด้างทิ้งแล้วรวบตึงรัดด้วยเถาวัลย์ พลางเพ่งพิศพินิจชม

โอ......พ่อคนเถื่อนหมื่นปีของฉัน ช่างงามอะไรเช่นนี้......วงหน้าเข้ม ตาคม โครงร่างสง่า ยิ่งพิศกายเปลือยเปล่า เกร็งกระชับด้วยมัดกล้ามทั้งสรรพางค์ เจ้าสาวพลัดเวลาเอื้อมมือลูบไล้ลืมตน สายน้ำเย็นเยียบถึงจุดเดือดในทันใด

@@@@ @@@@ @@@@ @@@@@



ไหวดงหญ้ายวบโชยกลิ่นแปลก ผู้อาวุโสในเผ่ารีบต้อนเด็กเข้าซ่อนในกระโจม คนหนุ่มสาวย่องหยิบหอก กำขวาน ซุ่มโอบล้อมพงหญ้าที่เอนราบมาเป็นแนว เมื่อสัญญาณเสียงวู้..วู้ ... ดังขึ้น ทุกคนกระโจนออกไปพร้อมกันแล้วชะงักค้าง.....

ผู้บุกรุกกลับเป็นหัวหน้าเผ่าของตนเองแบกพวงปลามาเต็มหลัง เดินหยอกเอินกันมากับสัตว์เลี้ยงขาวนุ่ม ผู้อาวุโสเดินออกมาดูแล้วครางเสียงต่ำแต่หนักหน่วงอยู่ในคอ คนหนุ่มผู้รับช่วงต่อจากตน ทำลายกลิ่นเผ่าให้เป็นเหมือนเจ้าตัวเมียผิวขาว.....

คืนค่ำ....หญิงในเผ่าที่เพิ่งโตเป็นสาว คืบคลานผ่านร่างคนอื่นๆเงียบกริบแอบลูบไล้เรือนร่างเกลี้ยงเกลาของหัวหน้าเผ่าสั่นสะท้าน เถื่อนรูปงามของนารีรัตน์โงหัวขึ้นดูแล้วเอนนอนนิ่ง......ไม่ทันที่เถื่อนสาวจะโผลงซุกซบ วงแขนสัตว์เลี้ยงตัวขาวรั้งตัวกลับกลิ้งกอดสอดเบียด เจ้าบ่าวคนเถื่อนถึงกับผวา เฮือกลืมโลก...คนลักลอบกระแทกฝ่ามือตบพื้นอย่างขัดใจ ครางฟืดฟาดแล้วย่องกลับ

รุ่งสางเสียงเอ็ดอึงดังขึ้น คนหนุ่มในเผ่าออกมารวมกันหน้าเต็นท์ ชี้มือชี้ไม้ไปที่แนวทุ่งหญ้า นารีรัตน์เดาจากท่าทางว่าคงมีสัตว์หรือสิ่งที่น่าจะเป็นอันตรายต่อคนในเผ่า เถื่อนรูปงามของเธอแบ่งคนหนุ่มเป็นสองส่วน ตัวเองเดินกลุ่มหน้าย่องไปเงียบๆ ส่วนอีกกลุ่มอ้อมไปอีกด้าน.....นารีรัตน์ปีนขึ้นไปบนโขดหินสังเกตการณ์

เงาดำตะคุ่มขนาดใหญ่เคลื่อนไหวอยู่ในป่าเฟิร์นใกล้ๆ คนเถื่อนของเธอซุ่มลงข้างก้อนหินกับคนหนุ่มอีกคนหนึ่ง......ทันใดนั้นเองเสือเขี้ยวดาบขนาดใหญ่โจนออกมาจากแนวป่า เขี้ยวเหลืองงุ้มโง้งสะท้อนส้มแสงเช้าน่าสะพรึงกลัว มันเชิดหัวขึ้นสูดกลิ่นรอบทิศ แล้วหยุดที่หัวหน้าเผ่าซุ่มอยู่

หัวหน้าเผ่าสะกิดให้คนหนุ่มอีกคนย่องอ้อมออกไปด้านข้าง เสือใหญ่สูดกลิ่นตามทิศให้แน่ใจ ซ้ายครั้ง ขวาครั้ง แล้วดมซ้ำๆ บริเวณที่คนเถื่อนของนารีรัตน์ซ่อนตัวอยู่.....เงาทะมึนเผ่นโผนขึ้นเหนือยอดหญ้าตะปบอุ้งเท้าที่กางเล็บวาววับลงกลางตัวคน

ร่างใหญ่กำยำหงายหลังล้มตึง เอื้อมหอกจะจ้วงแทง เสือเขี้ยวดาบงับลงต้นคอมิดเขี้ยว กระชากสะบัดจนนิ่งสนิท นารีรัตน์ร่างรูดลงจากต้นไม้เข่าอ่อน กายชาดิก......คนเถื่อนที่เธอจับแปลงโฉมแต่งกลิ่นให้เป็นเจ้าบ่าวรูปงาม กำลังกลายเป็นอาหารเสือเขี้ยวดาบที่ฉีกทึ้งร่างขย้ำเคี้ยวต่อหน้าต่อตาคนทั้งเผ่า

เถื่อนหนุ่มๆ รีบกรูออกมาพุ่งหอกเข้าใส่....เสือเขี้ยวดาบ สละอาหารมื้อเช้าในรอบหลายวันทิ้งอย่างเสียดาย นารีรัตน์ทรุดลงร่ำไห้ข้างกายฉีกเหวอะของเถื่อนรูปงาม ที่คนในเผ่าลากกลับมาหน้ากระโจม โอ้อนิจจา....เจ้าบ่าวแสนสง่าของฉัน เหลือเพียงร่าง แขนขาพลัดพรากจากตัวตน

ผู้อาวุโสในเผ่ากดฝ่ามือลงบนศีรษะเธอนิ่ง นาน..... นานเสียจนคนหลงเวลาเคว้งคว้าง โลกล้านปีนี้ช่างกว้างใหญ่เหลือเกินสำหรับมนุษย์ นักโบราณคดีสาวเงยหน้าอาบคราบน้ำตากวาดดูคนในเผ่าที่มองเธออย่างหดหู่

นารีรัตน์ทอดตามองหลุมฝังศพคนเถื่อนรูปงาม ที่เธอบรรจงตกแต่งไว้อย่างงดงามเป็นครั้งสุดท้าย หญิงวัยกลางคนในเผ่าจับแขนเธอกระตุกเบาๆ นางทาบอุ้งมือลูบท้องที่นูนขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัดของนักโบราณคดีหลงกาล จ้องลึกในดวงตาเจือความอาทรออกมาอย่างเห็นได้ชัด นารีรัตน์ก้าวตามนางกลับเผ่า.....



ภาพประกอบของ Jean-Louis Mourier



"เถื่อน" ตีพิมพ์ใน นิตยสารหญิงไทย ฉบับปักษ์แรก เดือนสิงหาคม พ.ศ. 2550


Create Date : 05 กันยายน 2550
Last Update : 9 กันยายน 2550 11:40:10 น. 20 comments
Counter : 1956 Pageviews.

 
สวัสดีจ้ะปลายแปรง

ขอบคุณที่เอาเรื่องสั้นมาอัพบล็อกให้อ่านนะ

ดูคร่าว ๆ น่าอ่านจัง (แต่นี่ยังไม่ได้อ่านหรอก แวะมาเยือนก่อน เพราะพี่หนอนฯ ติดทำงานอยู่หลายชิ้น กำลังเร่งมือเพื่อให้ตัวเองเป็นไทอีกสักเล็กน้อยน่ะ)

ถ้าเสร็จงานแล้ว จะแวะมาอ่าน และอ่านแล้วเป็นไง แล้วค่อยมาคุยให้ฟังนะจ๊ะ

กลับมาเป็นปลายแปรงแสนซนคนขยันคนเดิมซะแล้ว หวังว่าคงรู้สึกดีขึ้นแล้วนะ ตอนนี้เขียนอะไรอยู่หรือเปล่าจ๊ะ


โดย: หนอนเมืองกรุงฯ IP: 58.9.174.125 วันที่: 5 กันยายน 2550 เวลา:21:57:48 น.  

 

ตามมาอ่านอีกครั้งค่ะ แม้จะได้อ่านในหญิงไทยแล้วก็ตามนะคะ พี่ปลายแปรง


โดย: หทัยชนก (Nok_Noah ) วันที่: 5 กันยายน 2550 เวลา:22:17:26 น.  

 
อ่านจบแย้ว เป็นการอ่านเรื่องสั้นแต่ยาว
ในบล็อกจบครั้งแรกมั้งเนี่ย
สนุกๆ เซอร์ๆ เร้าใจ อีโรติก เก็บกด เถื่อนๆ
เค้าว่าสไตล์เรื่องสั้นบอกตัวตนคนเขียนนะ จริงไหมหว่า
ปลายแปรง เปลี่ยนโหมดเศร้าแล้วนะจ้ะ

ตอนบล็อกเมรุ มาแล้วแต่ไม่อยากเม้นท์เลยน่ะ


โดย: ยิปซีสีน้ำเงิน วันที่: 5 กันยายน 2550 เวลา:22:32:04 น.  

 
สวัสดีจ๊ะปลายแปรง..

ในที่สุดปลายแปรงก็กลับมาสู่สภาพ ในโลกแห่งความเป็นจริงเสียที..

กลับมาอ่านเถื่อนในฉบับเต็มๆ อีกครั้งหนึ่ง ก็ยังนึกจินตนา
การไปเองว่า นางเอกเป็นปลายแปรงอยู่เหมือนเดิม...แล้วพระเอกก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงความคิดได้ ว่าคือพี่ณุ

คราวหน้า..เปลี่ยนตัวนางเอกจนๆหน่อยนะ แล้วให้พระเอกรวยๆ เน่านิดๆ
พูดไปงั้นแหละ...ขอให้ผลงานของปลายแปรง เขียนอะไรมาก็ให้กำลังใจกันอยู่แล้วจ้า...


โดย: ยานา IP: 61.7.173.37 วันที่: 6 กันยายน 2550 เวลา:9:46:38 น.  

 
เพิ่งกลับมาถึงบ้านค่า...ไปงานที่ชุมพรมา


................คุณบุญสิตาคะ

เมื่อก่อนเคยหวาด...แต่ไม่ถึงกับกลัวนะคะสำหรับความตาย
แต่ระยะหลังสัมผัสความตายใกล้ชิดมากขึ้น....ตัวเองเคยเฉียดตายมาก เลยรู้สึกนิ่ง สงบ กับความตายมากขึ้น เพราะเราทิ้งห่วงไปได้หลายห่วง จึงไม่กังวลกับความตายนัก...เพราะปลายแปรงไม่มีห่วงอะไรให้กังวลกับการอยู่หลัง

มีความสุขกับตัวเองและวันเวลาแม้ว่าจะมีเรื่องสุข และทุกข์.....คุณค่าก็ปรากฏมากล้นค่ะ...

แม้แต่ชีวิตต่างแดน...ได้สุขเล็กน้อยกับส้มตำสักจานรสชาติบ้านเกิดก็มีคุณค่า.......จริงไหมคะ


..........ลุ๊ง....ลุงบูลย์

แหม...ไม่ยักกะรู้ว่าเล่นมุข
ปลายแปรงก็คิดว่า ลุงบูลย์ซ๊เรียสน่ะสิ ก็เล่นไวยากรณ์ ไวยาวัจกร มัคทายก ซะเต็มตำราเลย....

ที่ไหนได้....ลุงเรา
ลูกเล่นเยอะนักนะ ปลายแปรงห่างบล๊อคไปไม่เท่าไร...ตามไม่ทันเสียแล้ว

ร่ำๆจะหาคนมาเช่าบ้านอยู่แล้วเชียว.....ช่วงนี้วังเวงพิกลอยู่
ลุงมาเช่าหน่อยสิ


............น้องเบญจ์คะ (ลูกของพ่อค่ะ )

ประสบการณ์แรกๆน่าสนุกใช่ไหมล่ะ....
เดี๋ยวก็มีเรื่องสนุกๆอีกเยอะในชีวิตรอบรั้วมหาวิทยาลัยมาให้น้องเบญจ์เขียนได้หลายเรื่องเชียวล่ะ

ดีไม่ดีนะ...รวบเล่มได้ก่อนใครเชียวนา

แล้วจะแวะไปอานจดหมายน้องอีกค่ะ....

ยกยอดจากคอมเมนท์หน้าที่แล้วมาเหมารวมไว้หน้านี้ค่ะ.....จะหอบผ้ามาตั้งกะเมื่อคืน แต่ทั้งสามท่านตัวหนักจริงๆ แล้วปลายแปรงเองก็ไม่ค่อยจะไหว เลยต้องแช่ไว้จนถึงบ่าย...พามาได้แล้วจ้า......

ชอบคุณทุกท่านค่า....ที่มาอุดหนุนขนมหนังสือบ้านปลายฟ้า ตั้งใจว่าจะเอา "เถื่อน" มาลงให้อ่านหลังจากเล่มที่ลงวางแผงพ้นไปสักครึ่งเดือน
แต่ก็มีเรื่องเข้ามาขัดตาทัพ เสียพักใหญ่ๆ....

ทำให้...พ่อแม่พี่น้อง เศี้ เหงา หงอย ไปตามๆกัน.....

เอาละค่ะ......มายกจอบ ยกเสียบ สำรวจรอบบ้านกันดีกว่า

เผื่อว่าจะเจอมนุษย์ดึกดำบรรพ์ พันล้านปี หล่อ ล่ำ ปานอาร์โนลด์ คนเหล็ก.....เหอ...เหอ....



......พี่หนอนเมืองกรุงฯ

ท่าทางงานราษฏร์ของพี่หนอนฯจะยุ่งอีรุงตุงนังแหงมๆ

เพราะตอนนี้ใกล้ปิดงบประมาณประจำปีใช่ไหมล่า...เร่งปิดงบ ปิดงาน ปิดคน คนทำงานก็หัวหมุนติ้วๆ

ช่วงน้แถวๆบ้านก็เนืองแน่นไปด้วยขบวนรถทัวร์ สารพัดทัวร์ 10 คนั 20 คัน พาอบตฬโน้น เทศบาลนี้ อำเภอนั่น ครูที่นี่ ฯลฯ มาดูงานใช้งบให้หมดๆ...

ช่วงนี้ปลายแปรงก็ยังลากสังขารไม่ให้ทรุดโทรมอยู่...เป็นหวัดงอมมาตั้งครึ่งเดือนแล้วตั้งแต่จัดงาน โครงการงานเขียนก็เลยลากเป็นเต่าอยู่เช่นเดิม
เป็นแรงใจ..ส่งกำลังใส่ไปรษณีย์ให้พี่หนอนฯ ทำงานลุล่วงอีกแรงก็แล้วกัน


......นู๋นก โนอาห์จ๊ะ

อยากมีมิตรรักแฟนเพลงอย่างน้องนกสักร้อยคน ชื่นใจตาย....

ฮี่...ฮี่....ทำยังกะเป็นดารานิเรา

"เถื่อน" ที่เอามาลงเป็นฉบับเต็มที่บางส่วนเขาตัดออก...ปลายแปรงป้ายแถบแดงตัวหน้าไว้ จริงๆอ่านเองก็ยังไม่เข้าใจว่ามันหยาบไหม เถื่อนไหม หรือเรทอาร์ไปไหม...เขาถึงตัดทิ้ง
เพราะจริงๆ...นั่นคือสารที่ต้องการจะบอกทั้งเรื่อง

สารที่อยากถาม..ว่า "เถื่อน" จริงแล้วคือ ดร.สาว หรือ เถื่อนหมื่นปี
ระหว่างคนมีการศึกษาที่ถูกกดด้วยกฏ.....กับคนเถื่อนที่ดำเนินตามกฏแห่งธรรมชาติ.....

ติ๊กต๊อก....ติ๊กต๊อก......จะตอบไหมเอ่ย?


.......ยิปซีสีน้ำเงินคะ

.....เค้าว่าสไตล์เรื่องสั้นบอกตัวตนคนเขียนนะ จริงไหมหว่า.....

พยักหน้าอย่างสุขุม.......

.......สนุกๆ เซอร์ๆ เร้าใจ อีโรติก เก็บกด เถื่อนๆ......

เอ้อ....อ้า....อ้ำอึ้ง......จะดีเร้อ !!!!!
เขาก็รูกันหมดสิ...ว่าปลายแปรงเป็นยังไง.....
แล้วอย่างนี้ใครเขาจะคบล่ะ......เถื่อนออกปานนั้น..
ต้องกลับคำเสียนิดดีกว่ามั้ง.....เถื่อนๆ....แต่เร้าใจ....
โฮะ.....โฮะ.....โฮะ.......



......พี่ยานาเจ้าขา

หูตูบ....หูไม่ตกแล้วเจ้าค่ะ......

แต่จมูกชื้นเล็กน้อย...สงสัยจะมีพายุฝน เรือเล็กงดออกจากฝั่ง..
อ้าว...จมูกชื้นนี่ก็หมาสิเนอะ.....

อย่าเลยนะพี่นะ.....พี่ยานาอย่าจินตนาการเช่นนั้นเลย..
เสียมู้ดคนเขียนหมด....ถ้าตัวเองเป็นนางเอกนะ พระเอกจะต้องประมาณ..ประมาณ....เอาละสิ......ไม่ค่อยดูดาราเลยจำชื่อเสียงเรียงนามไม่ได้....เฮ้อ

ปลายแปรงก็ยังเป็นหูตูบคนเดิมนั่นแหละ...แต่สถานการณ์ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตมันก็ต้องมีลดอารมณ์ แปลงจิตกันบ้าง

เขาเสียใจกันรอบบ้าน...มานั่งหัวเราะคั่กๆกับความตายคนเดียว เขาได้เฉดหัวส่งประไร.....

ไม่วายปอมอ.นะ..บอกว่าน้องเขาตายน่ะดีแล้ว แสดงว่าเขามีบุญ ไอ้พวกอยู่ๆนี่ต่างหาก...พวกเก็บทุกข์ สะสมกรรม....ตูม!!!!!

พี่ยานาโอเคไหม..... สุขภาพกายไม่เต็มร้อย สุขภาพจิตให้เกินล้าน.....
โลกนี้จะสดใสยิ่งกว่าสีชมพู.....นะจ๊ะ



โดย: ปลายแปรง วันที่: 6 กันยายน 2550 เวลา:14:18:23 น.  

 
สวัสดีจ้ะปลายแปรง


เมื่อวันก่อนมาถามว่าตกลงทางพะเยา - เชียงราย

เขาเรียก ไร่หอม ไร่กระเทียม

หรือ สวนหอม สวนกระเทียม

ปลายแปรงยืนยันว่า เรียกว่า ไร่หอม ไร่กระเทียม

เลยตกลงใจเชื่อปลายแปรงส่งต้นฉบับไปแล้ว เขียนว่า ไร่หอม ไร่หกระเทียม


แต่จำได้ว่าตอนที่ไปเป็นวิทยากรให้เด็กๆ เด้กๆบอกว่ามีเพลง "เสียสาวที่สวนหอม" เป็นเพลงฮิตแถบนั้น แต่ไม่ได้ฟัง

หลังจากส่งต้นแบบแล้วโทรไปถามยานา ว่าเขาเรียกอะไรกันแน่

เธอตอบยืนยันว่าแถวบ้านเธอเรียกว่า "สวนหอม สวนกระเทียม"

หรือว่าห่างคนละจังหวัดเรียกไม่เหมือนกัน

แต่ถามถึงเพลงที่เด็กบอก

ยานาก็บอกว่าไม่เคยฟังเหมือนกัน

ช่วงเพลงนี้ดังสงสัยเธอจะไปอยู่ญี่ปุ่น (เหอะ เหอะ)




โดย: พ่อพเยีย วันที่: 7 กันยายน 2550 เวลา:21:02:22 น.  

 
เย้ ปลายแปรงคนเก่ากลับมาแล้ว
ของแท้ต้อง..อย่างงี้แหละ
ถ้าเศร้าๆน่ะ ผีสิงแน่ๆ ไปล่ะจ้ะ


โดย: ยิปซีสีน้ำเงิน วันที่: 8 กันยายน 2550 เวลา:11:59:07 น.  

 
แวะมาขอบคุณครับ


โดย: Pichsud วันที่: 8 กันยายน 2550 เวลา:13:04:21 น.  

 
มาตั๊ก มาตาย..

เจ้ย.. มาทักทาย 5555..

หนูยังไม่ได้อ่านข้อความข้างบนสักตัว.. ดูแต่รูปผ่านๆ เหมือนคุณหทัยชนก

น่า..แล้ววันหนึ่งจะมาติดตาม



โดย: สีน้ำฟ้า วันที่: 8 กันยายน 2550 เวลา:21:18:56 น.  

 
อัพบล็อกแล้วค่ะ
อิอิอิ...อดีตนักโบราณคดีมาอ่านเรื่องราวของนักโบราณคดีค่ะ


โดย: สเลเต วันที่: 8 กันยายน 2550 เวลา:21:40:43 น.  

 
เหนื่อย จัง


โดย: สัญจร ดาวส่องทาง วันที่: 9 กันยายน 2550 เวลา:0:59:44 น.  

 
คุณปลายแปรง
เมื่อกี้ออกไปตัดส่นที่ใช้ขยายพันธุ์ของวอล์คกิ้งไอริสมาแช่น้ำไว้ค่ะ
กำลังหาทางว่า..
จะส่งไปให้คุณได้ไงโดยที่ไม่เน่าหรือแห้งตายไปซะก่อนอะ


โดย: สเลเต วันที่: 9 กันยายน 2550 เวลา:12:37:21 น.  

 
หวัดดีคะคุณปรายแปรง ว่างจะเข้ามาอ่านเรื่องานน่าสนุกนะ


โดย: บุสิตา (ดาวกระพริบฟ้า ) วันที่: 9 กันยายน 2550 เวลา:17:28:48 น.  

 
ผ่านคืนวันพันปีมิเปลี่ยนแปร
ด้วยแน่วแน่รักแท้มิแปรผัน
สงบนิ่งรอคอยชั่วกัปกัลป์
นอนห่มฝันใต้ผืนดินอย่างเดียวดาย


โดย: พราน IP: 58.147.113.98 วันที่: 10 กันยายน 2550 เวลา:14:51:14 น.  

 
สวัสดีวันแดดออกจ้า......

มัวแต่ระเริงระรื่นกะแสงแดด...เลยลืมหน้าจอไปเชียวเรา

กลับมาแล้วเด้อ.....

คุณ พราน คะ

ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคอมเมนต์ของคุณทำให้ "เถื่อน" ของปลายแปรง หวานซึ้งตรึงใจจนตัวเองยังบรรยายไม่ถูกเลย

ทั้งๆที่ผู้คนว่ากันว่า เถื่อน และก้อเซอร์นะเนี่ย
ของคุณค่ะที่แวะมาเยี่ยมเยือนและฝากคอมเมนต์สวยๆไว้ให้


คุณบุญสิตาคะ

ท่าทางจะยุ่งมากใช่ไหมคะ แค่แวะมาทักทายก็ดีใจแล้วค่ะ....

แล้วปลายแปรงจะตำบักหุ่งเผื่อนนะ เพราะช่วงนี้เป็นโรคเบื่ออาหาร....หาเรื่องกินแต่ส้มตำปูปลาร้าอย่างเดียว...
อยากเบื่ออาหารสักครึ่งปี เผื่อน้ำหนักจะลด...แฮ่


สเลเตเจ้าขา

ปลายแปรงกำลังไปทำสนธิสัญญากะบ้านพ่อกำนันว่า....ถ้าฝากเลี้ยงต้นไม้สักกอจะได้ไหมหนอ...

เพราะกิเลสบังตา...แค่เห็นภาพเท่านั้นก็น้ำลายหกอยากได้...
แต่ว่าไกลตั้งฝั่งอันดามัน ไม่รู้ว่าจะหันหัวเรือลำไหนไปถึงฝั่งเจ้าพระยา...

แว่วๆว่า...บ้านดอกไม้งามกับบ้านพ่อกำนันนั้นท่าทางไม่ไกลกันสักเท่าไร....ได้ไหม...ได้ไหม....

ทำหูตก น้ำลายยืดแล้วก๊า....อนาจแท้เรากิเลสตัวเดียว


พี่ปอนคะ

รักษาสุขภาพนะคะ...
หายเจ็บ หายไข้...บ่ดีอ่านหนังสือนักหลาย ตาจะลายเมาหัวเวิ้นๆ

พักผ่อนเยอะๆค่ะ..อายุเยอะแล้วเดี๋ยวจะว่าพี่น้องไม่ดูแล....อะโหย...อะโหย๋ว..


สีน้ำฟ้าจ๋า

น้ำกลายเป็นสีแดงของทะเลเพลิงแห่งการแผดเผางานหรือยังจ๊ะ....

แหม..ยังว่างมาตั๊ก มาตาย...
คำหล้ายังซำบายดีเด้อ..


คุณPichsud

ขอให้มีความสุขกับการงานนะคะ....
ดูแลสุขภาพทั้งกายใจ.....ปลายแปรงจะได้มีนกงามๆไว้แอบดูเรื่อยๆ...ฮี่...ฮี่


ยิปซีสีน้ำเงินขา

วันเศ้าๆนะ..ปลายแปรงผีออกจ้า
ไอ้วันพรรค์อย่างนี้แหละ ไม่รู้ว่าทั้งผี ทั้งองค์มาลงวันละกี่รอบ

ยังไงก็อย่าเลิกคบกันนะ...คนเพื่อนเยอะอย่างปลายแปรงเนี่ย(แฮ่...เพื่อนต่างมิตินิ เรียกว่าเอเลี่ยนดีก่าเนอะ...เดี๋ยวจะกลายเป็นบล๊อคชมรมขนหัวลุก)


พ่อพเยียคะ
ว่าแล้วก็เห็นดีที่ให้ฝ่ายพิสูจน์เขาจัดการ
เพราะแต่ละบ้านก็เรียกกันตามถนัดปาก ถนัดความเคยชิน...ว่ากันบ่อได้น๊อ.....

ปลายแปรงก็ประเภทบ้านๆน่ะ...อย่าถือสาหาความเลย...(เลี่ยงน่ะ...เดี๋ยวว่าไร้สาระ)



โดย: ปลายแปรง วันที่: 10 กันยายน 2550 เวลา:15:17:01 น.  

 
"เรื่องสั้น" แบบนี้ที่ชอบอ่าน
โท่ง ๆ เอ้ย! ตรง ๆ ทิ่มอารมณ์ โดนใจไปถึงกึน
ไปถึงไหนต่อไหน ทะลุลำเล็กสอดลำใส้ใหญ่
กลายเป็น......
------------------------------
ว่าจะไม่เม้นท์แล้วเชียว
แต่...ใจมันคัน อะคึ่ ๆ


โดย: สาวบ้านนอก ณ ขอนแก่น วันที่: 10 กันยายน 2550 เวลา:17:28:13 น.  

 


พี่ปลายแปรงคะ

ไม่ตอบดีกว่าค่ะ ไม่ทราบจะตอบยังไงดี ไม่คุ้นนะคะ ไม่คุ้นกับคำถามแบบนี้ แต่อ่านแล้ว สนุกนะคะ


โดย: หทัยชนก (Nok_Noah ) วันที่: 10 กันยายน 2550 เวลา:19:05:08 น.  

 
ลุงเพิ่งหาเวลาว่างมาอ่าน "เถื่อน" ของปลายแปรง แล้วทำให้นึกถึงเรื่องสั้นแนวอีโรติก ของนักเขียนหญิงหลายคนในช่อการะเกด

ตอนนั้น นักเขียนหญิงสามสี่คนที่เขียนแนวนี้เป็นที่ฮือฮามากในหมู่นักเขียน ประมาณ พ.ศ.๒๕๔๐ ไปงานชุนุมที่ไหนต่างยืดซะไม่มี แต่ลุงกลับถอยไม่เข้าไปร่วมปีติ

เพราะลุงอ่านแล้วมันไม่อิน

แต่พอมาอ่าน เถื่อน ของปลายแปรงเรื่องนี้ บอกได้คำเดียวว่า "ไปโลด" ไปโลดด้วยสาระ ศิลปะ สำนวนภาษา และการเสนอภาพในเบื้องลึกที่เป็นสัจจะของธรรมมนุษย์

ลุงขอยอมแพ้เธออย่างหมดรูปกับเรื่องสั้นเรื่องนี้ ขอยกให้เป็นเรื่องสั้น ๕ ดาว...

เสียดายที่เรื่องนี้น่าจะได้ไปปรากฏใน "ช่อการะเกด" หรือ "ราหูอมจันทร์" เพราะเธอจะสามารถไปลบภาพเรื่องสั้นแนวอีโรติกดัง ๆ ที่เคย ๆ เขียนมาทั้งหมด

ในความรู้สึกของลุงไม่หยาบคายเลย แต่นี่แหละคือศิลปะในงานวรรณกรรม

ขอบอกอย่างไม่เสแสร้งว่าชอบเรื่องนี้ของปลายแปรงมาก และอยากให้ บก.สุชาติ สวัสดิศรี ได้มาอ่านงานชิ้นนี้ ท่านคงชอบ

ต่อไปนี้เรื่องสั้นทุก ๆ เรื่องของปลายแปรงลุงจะต้องรีบอ่านเสียแล้ว

เขียนเรื่องดี ๆ แบบนี้ออกมาเรื่อย ๆ นะปลายแปรง

ไม่ทราบว่าตอนนี้มีเรื่องสั้นผ่านการตีพิมพ์ได้กี่เรื่องแล้ว รีบหาที่พิมพ์รวมเล่มเถอะ ที่ไหน ๆ เขาก็คงรีบอ้าแขนรับงานระดับคุณภาพ

ใครที่ผ่าน ๆ ถ้าไม่ได้อ่านน่าเสียดายนะครับ

เฮ่อ ลุงกลายเป็นนักเขียนตกรุ่นไปทันที เมื่ออ่านงานของปลายแปรงเรื่องนี้...

ยอมรับ ๆ ๆ


โดย: ลุงบูลย์ (pantamuang ) วันที่: 11 กันยายน 2550 เวลา:20:34:39 น.  

 
แวะมาอ่านคำสมกับคำชมของลุงบุลย์


โดย: รุ่ง IP: 58.8.174.228 วันที่: 25 ตุลาคม 2550 เวลา:19:59:19 น.  

 
แด


โดย: ดะ IP: 203.113.77.100 วันที่: 11 พฤศจิกายน 2550 เวลา:20:42:30 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ปลายแปรง
Location :
พังงา Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




สุดปลายของแปรง
อาจป้าย...ได้ภาพเขียนงาม
อาจปาด....ได้ภาพสะเทือนขวัญ

แปรงสุดปลาย....วาดในอากาศ
สูญญากาศของสีที่ว่างเปล่า

เพียง "ใจ" ผู้ป้ายแปรง
ว่างเปล่า....ไร้แปรง....ปราศจากปลาย
สรรพเรื่องราว...ว่างเปล่าในกาลเวลา
Group Blog
 
<<
กันยายน 2550
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
5 กันยายน 2550
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ปลายแปรง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.