...ไหว...ไหว...ยอดหญ้าส่าย ในป่าฝน....เพียงยอดหญ้าไหว ที่บ้านปลายฟ้า.......
สิงโตที่ขู่ใครไม่เป็น


ครั้งหนึ่ง....ณ ดินแดนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์

ครานั้นท้าวสหัสนัยไตรตรึงษา (พระอินทร์น่ะ) ร้อนรุ่มกลุ้มพระทัยเหวยไม่ได้บรรทมไม่หลับด้วยมิ่ง มเหสีศรีสุชาดาไม่มาหาหลายเพลาราตรี ส่วนอีกสามชายาหามีใครเดาพระทัยได้เสมอเหมือน ยิ่งสนมนางในนับร้อยพันนางที่สถิตสถานวิมานกลางหาวไม่ต้องกล่าวถึงเพียงเสี้ยวเศษสายพระเนตรเชยให้ชื่นทรวง



อีกพวกเจ้าจักรๆวงศ์ๆ ทั้งหลายยังสร้างความยุ่งยากลำบากพระทัยให้ทิพยอาสน์กระด้างกระเดื่องผลักไสให้ลงจากแท่น..... แท่นบรรทมยิ่งเปลี่ยวเปล่า เหลียวหาน้องยา โอ้...มารศรีแม่สุชาดาขวัญข้าวเจ้าห่างหาย ฤาเทพองค์ใดร่ายเวทย์แปลงตนมาเสพสมน้องนาง



คิดแล้วให้เคืองขุ่น...ฤาจักเป็นเช่นที่คาด หารอช้าได้แล้วเราต้องแอบย่องไปปราสาทบนก้อนเมฆสีชมพูพราวราวอาทิตยเทพใกล้จรลี

เสียงกระซิกกระเซ้าเหย้าหยอกจากตำหนักใน ยิ่งสุมไฟแค้นให้ลุกโชน อินทราคว้าตรีศูลขึ้นมากำแล้วเงื้อง่าจะสั่งสายฟ้าฟาดลงกลางสวนสราญ พลันเงื้อมือค้าง...สุชาดามเหสีรักคลอเคลียหยอกเอินกับสัตว์เลี้ยงตัวใหม่ สิงโตจ้าวป่าที่เทพรักษาประตูปราสาทจับได้จากหิมพานต์แล้วทูลถวาย....นางสุชาดาหลงเป็นหนักหนา พามาอยู่เคียงมิห่างกาย



“อ้อ..เพียงเพราะเจ้าสิงโตไม่รู้อยู่ป่า มาเกลือกกลั้วฝูงชนเป็นสัตว์บ้านกระนั้นรึ เจ้าถึงเอาใจออกห่างจากพี่ แม่สุชาดาน้องรัก” องค์อินทร์กริ้ว ตวาดเสียงกร้าว......เจ้าสิงโตหนุ่มน้อยยินเสียงกัมปนาทจ้าวแห่งเทวารีบวิ่งแอบหลังนางกำบังตน


“ชิชะ....เจ้าสิงโตเจ้าเล่ห์มารยาสารไถ ดูเจ้ากระทำน่าอนาถใจเป็นเจ้าป่าเจ้าเขาแอบหลังสตรีให้เป็นที่กำบัง...เจ้าจงกลับไปอยู่ป่าเขาเสียเดี๋ยวนี้”


“เอ๊ะ....มันจะเกินไปแล้วนะเจ้าพี่ น้องเลี้ยงของน้องแล้วไยอิจฉาตาร้อนกับสัตว์หน้าขนตัวหนึ่ง แล้วที่องค์เองยังเวียนวนอยู่กับนางสนมกำนัลนับร้อยนับพัน น้องใช่จะวิ่งไล่ตามไปหวงหึง....จะให้น้องเล่นกับสิงโตฤาพี่จะให้น้องออกจากวังไปหาเทพองค์ใหม่แต่งงาน น้องจะหาเทพที่ไม่มากเมียเช่นเจ้าพี่”


“อย่ามาขึ้นเสียงกับพี่นะ...แม่สุชาดา เพียงเพราะสัตว์หน้าขนตัวเดียวทำน้องเจ้าแปรเปลี่ยน น้องเป็นของพี่คนเดียวเท่านั้น...เจ้าสิงโตเจ้าเล่ห์ข้าจะฉีกทึ้งเจ้านับหมื่นๆชิ้นจะได้ไม่เหลือซากใดให้เมียข้าคร่ำครวญ” อินทรเงื้อตรีศูลขึ้นเหนือเกศ ชูพลังสายฟ้าเตรียมฟาดฟันสิงโตหนุ่มที่สั่นงันงกอยู่หลังนางสุชาดา สายฟ้าฟาดเปรี้ยงแล้วเบี่ยงสาย...องค์นารายณ์เหาะผ่านมาประสบเหตุจึงรีบงัดจักรออกมาขว้างกั้นสายอสุนีบาต


“นารายะ...นี่เป็นเรื่องในครัวเรือนท่านจักเข้าขวางด้วยเหตุใด ไม่เกรงรึว่าเทพทั้งสวรรค์จักติเตียนกล่าวหาว่าท่านยุ่งเรื่องผัวเมียเขา” องค์อินทร์ชี้นิ้ว กระทืบบาทปึงปัง ฟ้าคำรามเลื่อน สายฟ้าที่สะท้อนกลับตวัดเอาปลายเส้นผมพระอินทร์ปลิวละอองลงสู่โลกมนุษย์....ละอองเกาะกิ่งไม้แล้วแตกตัวกลายเป็นกล้วยไม้ในป่าเมืองเหนือคือ กุหลาบอินทจักร


“โธ๋..อินทร เทพองค์ใดจะอยากยุ่งเรื่องของท่านกันเล่า แค่ท่านยุ่งเรื่องชาวบ้านไปสามภพ ทั้งสวรรค์ นรก มนุษยภูมิ...เราก็รำคาญเรื่องท่านเต็มแก่แล้ว เราแค่ผ่านมาสายฟ้าของท่านนั้นรบกวนเส้นทางการบินครุฑาของข้าจึงต้องขวางไว้ ทำอะไรก็ทำไปสิ...จะเป็นพยานให้ว่าท่านฆ่ามเหสีเพราะหึงสิงโตตัวหนึ่ง...น่าอายนัก หึงแม้กระทั่งสัตว์ ฤาว่าเทพเยี่ยงท่านหาดีในตนไม่ได้แล้วจึงสู้สัตว์ตัวหนึ่งไม่ได้”


“หนอย...หนอย...วาจาสามหาวก้าวร้าวนักองค์นารายะ มเหสีท่านไม่หึงหวงบ้างให้รู้ไป” เจ้าสิงโตหนุ่มเห็นที่พึ่งใหม่รีบกระโจนไปหาองค์นารายณ์ แต่ไม่ได้ไวกว่าอินทรเทพที่ฟาดฟ้าลงกลางตน ร่างสิงโตหนุ่มแตกสลายเป็นผุยผง.....นางสุชาดาหวีดร้องร่ำไห้ ยังไม่หนำใจอินทรากำเถ้าร่างสิงโตซัดลงพื้นโลก


“ไสหัวไป...ไอ้สิงโตเจ้าเล่ห์ เจ้าจงลงไปยังโลกมนุษย์อย่าให้ผู้ใดพบเห็นเจ้า อยู่ป่าโปร่งหาเหยื่อง่ายใช่ไหม ไปเลย...จงไปอยู่ป่าชื้นๆอยู่ในที่ๆไม่มีใครอยากเข้าไปพานพบ...ต้องเพ่งหา ส่องกล้องสอดจึงเห็นกายเจ้า...”


“ใจร้าย....เจ้าพี่ใจร้ายนัก” นางสุชาดาร่ำไห้หยดลงผืนโลกตามเถ้าละอองของสิงโตหนุ่ม องค์นารายณ์ส่ายหน้าระอาใจแล้วขึ้นหลังครุฑบินจาก
ไป...



นับแต่นั้นมา...เถ้ากระดูกสิงโตปลิวลงมาสู่ป่าดิบชื้นเขตร้อนกลายเป็นกล้วยไม้เล็กๆซุกซ่อนอยู่ในป่าใหญ่....ยากที่ใครจะแลเห็นด้วยดอกนั้นเล็กจ้อยจนยากชำเลือง ฝ่ายน้ำตานางสุชาดาหยดลงมาแพร่เชื้อในตัวมนุษย์กลายเป็นผู้หลงใหลในกล้วยไม้สกุลสิงโตออกตะเวนตามหามาสะสม.



สิงโตลินเลย์ *** องค์อินทรเรียกเจ้าสิงโตว่าสิงโตเจ้าเล่ห์หลอกลวงเมียแกอยู่ตลอดเวลา พอเกิดมาบนโลก สิงโตเจ้าเล่ห์ก็เลยเพี้ยนเป็นสิงโตลินเลย์


สิงโตร่ม*** นางสุชาดาร่ำไห้อยู่หลายวัน จนนางกำนัลต้องเอาร่มมากางไว้รอบก้อนเมฆกั้นแดดให้นางเล็งหาเถ้าสิงโต ร่มเป็นสี
เหลืองสิงโตนี้เลยเป็นสิงโตร่มโดยปริยาย


สิงโตพัดโบก**** นางสุชาดาอยากใช้กล้องทิพย์ขององค์อินทร์เพื่อเล็งหาเจ้าสิงโต นางต้องมาปรนนิบัติพัดวีเจ้าพี่ของนางให้พอใจถึงจะได้เห็นสิงโตดอกนี้


สิงโตแดนใต้****เถ้าสวนหนึ่งปลิวมาแถวๆภาคใต้ของเมืองไทยนานมาแล้วล่ะตั้งกะยังเป็นสุวรรณภูมิ

สิงโตก็ตัวไม่ใช่น้อยๆนะ..เลยกลายเป็นกล้วยไม้ร้อยๆพันธุ์เลยเชียว เอามาให้ดูเท่าที่มีอยู่แถวบ้านก็แล้วกันนะ

สิงโตพู่รัศมี

สิงโตรวงข้าว


ตัวนี้ไม่รู้จริงๆจ้า..หาตำราแล้วยังไม่เจอตัวพี่แกเลย

ส่วนน้ำตานางสุชาดาที่แพร่เชื้อเข้าไปในสายเลือดมนุษย์นั้นไม่สามารถหาภาพมาสำแดงได้เกรงว่าเจ้าตัวจะรู้ว่าได้รับเชื้อนี้มาแล้วกลายร่างเป็นหยดน้ำตากลับไปหานางสุชาดา...เราก็จะไม่มีใครแสวงหามาให้เราเชยชมได้อีก.


นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า.....อย่าเชื่อเชียวนะ ไอ้เรื่องที่เล่ามาขี้โม้ทั้งเพ แต่กล้วยไม้สิงโตน่ะของแท้แน่นอน..จริงๆนะ
++++++++++ ++++++++++ ++++++++

กล้วยไม้สกุลสิงโตใบพัด Cirrhopetalum Lindi.
ตั้งขึ้นในปี ค.ศ.1830 โดยนักพฤกษศาสตร์ชาวอังกฤษ John Lindley ชื่อสกุลมาจากรากศัพท์ภาษาละติน cirrho แปลว่า ม้วนพัน และ petalum แปลว่ากลีบดอก หมายถึงกลีบดอกที่โค้ง ยังไม่แน่ชัดว่าทั่วโลกมีกี่ชนิด ประเทศไทยพบ 13 ชนิด
กล้วยไม้สกุลสิงโตกลอกตา BulboPhyllum Thou.
ตั้งขึ้นในปี ค.ศ.1822 โดยนักพฤกษศาสตร์ชาวฝรั่งเศส Louis MarieAubert du Petit Thouars ชื่อสกุลมาจากรากศัพท์ภาษากรีกคือ bulbos และ phyllon แปลว่า ใบ เป็นการอ่างถึงลักษณะที่ก้านใบพองคล้ายหัว ทั่วโลกมี 1.000 ฃนิดกระจายพันธุ์ในเขตร้อนทวีปเอเชีย ประเทศไทยพบ 140 ชนิด
ที่มา: คู่มือกล้วยไม้ เขียนโดย สลิล สิทธิสัจจธรรม และ นฤมล กฤษณชาญดี โดยสนพ.สารคดี




Create Date : 23 มิถุนายน 2550
Last Update : 30 สิงหาคม 2550 9:08:20 น. 11 comments
Counter : 2206 Pageviews.

 
ปลายแปรง

พอวิญญาณกลับมาก็งัดเอาของรักของพ่อพี่นุมาเขียนเลยนะ(แหมเสียดายนี่ถ้าก๊อบไปลงนิตยสารด้วยได้กะตังค์นะ) ก๊อปหรือเปล่า

วันก่อนอาพาอุเทน พรมแดง และแสงศรัทธา ณ ปลายฟ้า ไปเยี่ยมพ่อตานุ ทั้งอุเทนกับแสงศรัทธา หายเข้าไปในสวนพ่อเธอ ๒ ชั่วโมง พอกลับมามีภาพดอกไม้เป็นกะตั๊ก

งั้นก็เอาใจพ่อไว้ดี ๆ นะ ให้แกทำสวนสวย ๆ ไว้ ให้เราได้เก็บบบรรยากาศมาเขียน แกไม่เขียนก็ไม่เป็นไร แต่ช่วยสร้างบรรยากาศให้นี่เยี่ยมที่สุดเลยนะ

อ้อ ว่าจะถามหลายครั้ง ลืมทุกที ตาสู่กับยายหมอน เอาสวนมังคุดทำโฮมสเตย์ ได้ผลมากน้อยแค่ไหน มีแขกไปพักกินมังคุดหน้านี้มั้ย ถามเท่านี้แหละ กลับก่อน...


โดย: lungboon IP: 125.27.234.78 วันที่: 23 มิถุนายน 2550 เวลา:14:43:56 น.  

 
ลุงบูลย์คะ
ป๊ะป๋าน่ะ..ต้องเอาใจอยู่แล้ว แต่เอาใจตามแบบลูกทุ่งเอาใจคนแบบดุ่ยๆน่ะ...ถ้าป๋าไม่คิดว่าลูกๆเอาใจใส่ก็ไม่คิดอะไรกันมากหรอกเจ้าค่ะ เราทำให้แกดีที่สุดเท่าที่จะทำได้...แกจะเห็นหรือไม่ก็สุดแต่ใจ...แหม...น้อยอกน้อยใจอย่างไรไม่รู้...ดูเป็นคนดีจัง
และต้องแก้ไขข้อมูลค่ะ...สารพัดประดามีที่แอบๆเอามาลงในบล๊อคเป็นของหยดน้ำตานางสุชาดา...ป้าพิศคนงาม(สมัยโน้น) ของใครๆก็ไม่รู้แหละ สงสัยแกได้น้ำตามาหลายหยด ปลูกผัก ปลูกหญ้าเป็นก็เพราะแกนี่แหละ....
แล้วเรื่องโฮมสะเตย์...ก็ยังโอ้ละเห่ โอ้ละหกอยู่เลยจ้า...เขามีหลานกันแล้วเลยไม่ค่อยจะเอาอะไรแล้วกระมัง ก็ไม่รู้เขาสิ...เดี๋ยวนี้แกไม่ค่อยมาสุงสิงกะเราสองคนแล้ว หักคอ ดักคอแกแรงไปมั้ง...ป้าหมอนตั้งกะแกเออร์รี่แกอยู่กับบ้านจนฟุ้งซ่านน่ะ โลกของแกอยู่แค่รอบบ้านกะทีวี...เลยมีอะไรมันๆเล่นตลอด ยิ่งป้าพิศน่ะชอบแกล้งแก ร้องไห้อึ๊กๆไปหลายทีแหล่ว....

คุณธารดาว
ขอยกยอด..หลายยอดวันเหลือเกินมาคุยที่หน้านี้ก็แล้วกัน ถ้าเปิดมาอ่านเนอะ
ก็ยังคิดว่าคงจะมีโอกาสได้อ่านงานของคุณธารดาวบ้างในอนาคต เพราะตอนสมัยเรียน อาจารย์เคยบอกว่าถ้าอยากรู้จักศิลปินให้ดูงานศิลปะที่เขาทำ และตอนนี้ถ้าเราอยากรู้จักนักเขียนสักคนก็ต้องอ่านงานที่เขาเขียนใช่ไหมคะ เพราะของพ่อพเยียกะลุงบูลย์ก็เหมือนจะรู้จักมาบ้างเพราะเพิ่งได้อ่านงานในช่วงปีหลังๆ...แต่ยังไม่ได้อ่านทั้งหมดเลย...
อ่านความคิดเรื่องชื่อเสียงเรียงนามในเส้นทางวรรณกรรมแล้วรู้สึกเข้าใจบางอย่าง มีจุดร่วมที่แตกต่าง (อยากให้อ่าน"เวลาหลังประตู"อีกครั้งค่ะ) รู้สึกเหมือนได้เจอ "จอมยุทธไร้นาม" เข้ากระนั้น เพราะทุกวันนี้อุปโลกป์ตนเป็น "จอมยุทธไร้รูป" อยู่ค่ะ
ลูกสาวคงจะน่ารัก...พ่อที่เลี้ยงลูกเองกับมือจะพิถีพิถันกับลูกมากกว่าผู้หญิงในหลายเรื่องนะคะ และลูกสาวที่โตขึ้นมาเขาจะแข็งแกร่งกว่าคนอื่น ตัวอย่างแถวนี้มีค่ะ...ขอให้เขาเป็นเด็กดีนะคะ

คุณนกแสงตะวัน
ขอบคุณในความกรุณาเป็นอย่างยิ่ง แต่คิดว่าของปลายแปรงต้องมีอุปสรรคหรือติดขัดอะไรบางอย่างแน่เลย วันนี้อัพบล๊อคเลยยังไม่ได้ทำอะไร เพราะดาวเทียมที่ใช้จะวูบวาบบางขณะ เลยรีบๆอัพก่อน
เดี๋ยวจะพยายามอีกทีค่ะ...คนมีน้ำใจจะได้แห้งเหี่ยว

คุณสีน้ำฟ้า
โลกหมุนเหมือนเดิมแล้วใช่ไหมคะถึงรู้สึกหิวขึ้นมาแล้ว วันนี้มาส่องกล้องดูสิงโตกันเถอะค่ะ ที่กระบี่ก็น่าจะมีเยอะนะ


โดย: ปลายแปรง IP: 203.113.17.148 วันที่: 23 มิถุนายน 2550 เวลา:18:38:17 น.  

 
แก้คำผิดค่ะ..คุณนกแดดเช้าเจ้าขา
คนมีน้ำใจจะได้ไม่แห้งเหี่ยวน่ะ...อ่านแล้วเดี๋ยวเหี่ยวไปจริงๆ แย่เลยเรา


โดย: ปลายแปรง IP: 203.113.17.148 วันที่: 23 มิถุนายน 2550 เวลา:18:41:15 น.  

 
มาเที่ยวบ้านปลายฟ้า
ฟังคุณปราบแปรง
จินตนาการได้ถึงเบื้องสวรรค์
บังอาจนะเนี่ย แตะต้องถึงพระอินทร์เชียว...
(ตกลงกล้วยไม้เนี่ยของพ่อ..เหรอคะ อิอิ)


โดย: ยิปซีสีน้ำเงิน วันที่: 24 มิถุนายน 2550 เวลา:9:56:03 น.  

 
วันนี้ ได้อ่านเรื่องสั้น "ตลาดหุ้น"
ในจุดประกายวรรณกรรม

ชอบงานของปลายแปรง
ตรงที่เข้าใจคิด เข้าใจเปรียบเปรย
เสียดสี ยั่วล้อ แต่มีอารมณ์ขัน
หลังจากอ่านจบเรื่อง
ก็มักจะได้แง่คิดทางด้านสังคม
เป็นการสะท้อนปัญหาคนรากหญ้า
ด้วยวิธีการเล่าเรื่องที่สนุกค่ะ
สไตล์คล้าย ๆ อาบูลย์ของเราเหมือนกัน

ยินดีที่ได้เห็นเรื่องสั้นปลายแปรงปรากฏในจุดประกายฉบับวันนี้ค่ะ แล้วจะรออ่านเรื่องต่อไปนะคะ

ปล. ตลาดหุ้น ของคนเมือง (ในที่ทำงานหนอนฯ ) ก็ไม่ต่างกันค่ะ มีอยู่จริง และชีวิตของพวกเขา (คนงาน) ก็จะยอมลงทุนในตลาดหุ้นทั้งที่เสี่ยงค่ะ แต่ดูเขาจะมีชีวิตชีวา มีความหวัง เวลาหนอนฯ คุยกับน้องคนงานที่ทำงาน ว่าเมื่อคืนนี้พี่ฝันนะ เอ้อ...เธอก็จะบอกว่าฝันว่าอะไร และพากันใช้สูตรผกผันภาพฝันกลายเป็นตัวเลข 2 หลัก 3 หลัก อย่างช่ำชอง ผลสุดท้าย...ถูก....ถูกกินก็มี...ถูกเงินก็มี... แต่หักกลบลบกันแล้ว หนอนฯ ว่า ทุนหายกำไรหดมากกว่านิ ถูกเงินนิด ๆ หน่อย ๆ ก็ดีใจซะมากมายแล้ว ไม่สนหรอกว่า ที่เคยลงทุนไปมากมายนั้น มันแค่ไหน คือมันถูกใจน่ะที่ถูกเลขถูกเงิน เป็นความสุขของคนชอบการลงทุนแบบเสี่ยง ๆ อย่างงี้ล่ะมัง


โดย: หนอนเมืองกรุงฯ วันที่: 24 มิถุนายน 2550 เวลา:14:39:28 น.  

 
ข่าวว่า..เรื่องสั้นลงจุดประกายวรรณกรรม
ก็เลยเร่เข้ามา.. อิอิ.. ขอแสดงความดีใจด้วยนะคะ

ยังไม่ได้อ่าน.. คงต้องไปหามาอ่าน..ไม่รู้ยังจะหาได้ไหม ต้องไปตลาดหรือไม่ก็ร้านหนังสือใหญ่ ๆ ไม่งั้นแผงเล็ก ๆ เขาจะไม่ขายกรุงเทพธุรกิจค่ะ



โดย: สีน้ำฟ้า วันที่: 25 มิถุนายน 2550 เวลา:0:06:31 น.  

 
คุณหนอนคะ
ขอบคุณสำหรับคำวิจารณ์ ไม่สงสัยเลยว่าหนอนฯเป็นกัลยาณมิตรของลุงบูลย์มาเนิ่นได้อย่างไร เพราะมีคนอ่านอย่างนี้เราถึงอยากเขียนต่อไปเรื่อยๆ.....เคยบอกคุณธารดาวค่ะว่าแกเป็นจอมยุทธไร้นาม...ปลายแปรงก็อยากจะเป็นจอมยุทธไร้รูป (อุปโลกป์ตัวเองเสียเลย) ตั้งแต่กลับมาเขียนหนังสือ (เพราะลุงบูลย์นั่นแหละมาเคาะประตู) แค่อยากเขียนอยากให้คนอ่านงานเราแต่ไม่อยากเอาตัวเองไปออกงานที่ไหน ค่อนข้างหวงความวิเวกส่วนตัว
แต่ไหนแต่ไรก็ไม่ชอบการแข่งขัน งานประกวด
เพราะเมื่อมีการแข่งขันย่อมต้องมีที่หนึ่ง สอง สาม เกิดเป็นมาตรฐานที่สร้างทิฐิให้ในใจตนทั้งผู้เป็นหนึ่ง และผู้รั้งท้าย ใจย่อมฟูแฟบ..อหังการ์...หรือใดๆ นั่นไม่ใช่วิถีของตนเองเลย คิดเสมอว่าตัวเองเป็นเพียงไม้ต้นเล็กในป่าใหญ่...ไม่ยิ่งใหญ่ ไม่สลักสำคัญใดๆ แต่เป็นเฟืองที่ขับเคลื่อนวัฏจักรของป่า เท่านั้นเอง..ไม่ได้น้อยอกน้อยใจอะไรกับสังคม แต่อยู่กับสังคมด้วยความรู้สึกแบบนี้เสมอมา...การเขียนหนังสือก็เพียงเขียนเรื่อยๆมีคนอ่านแล้วแบ่งปันความเห็นกันเหมือนตลาดหุ้น
ถึงได้รู้ไงคะว่าตลาดหุ้นหิ่งห้อยยังสว่างไสวอยู่ทุกภาคส่วนสังคมไทย...

สีน้ำฟ้าคะ
ขอบคุณค่ะที่มาแอบยิ้มยินดี ที่นี่กรุงเทพฯหาซื้อยากยิ่งกว่า ตะกั่วป่าทั้งเมืองจะเหลือแค่เล่มเดียวเท่านั้นเพราะเขาจะสั่งมาตามจำนวนสมาชิก แต่ร้านสายส่งเขาจะเผื่อไว้ 1 เล่มเสมอ และเป็นเล่มเดียวนี่แหละที่หาซื้อได้....โอ อนาคตการอ่านของประเทศชาติ ตามแผงมีแต่หนังสือดาราจ้า
อาศัยอ่านในเว็บกรุงเทพธุรกิจก็ได้ค่ะมีแอดไว้ในบล๊อคไม่รู้ว่าจะลิงค์เข้าไปได้ไหมเพราะเมื่อวานลองแล้วไม่เข้า
สีน้ำฟ้าจะได้ไม่เสียตังค์ซื้อหรือไปเสียเวลาวิ่งหาตามร้าน เดี๋ยวมีพวกฮิดเด้นไฟล์โผล่มาที่ร้านอีกจะเซ็งชีวิต...แฮ๋

คุณยิปซีสีน้ำเงิน
แอบไปดูหน้าอาปาเช่แล้วล่ะแต่ยังไม่ได้อ่านเลย....ติดประกาศแจ้งความคนหายไปจากบล๊อคปลายแปรงก่อนดีกว่าแฮะ....


โดย: ปลายแปรง IP: 203.113.17.148 วันที่: 25 มิถุนายน 2550 เวลา:8:52:33 น.  

 
สีน้ำฟ้า
เจ้าแม่แห่งเวบทำไมมาจนปัญญากะเรื่องแค่นี้ ก็ไปที่เวบเนชั่น แล้วก็เข้าจุดประกาย แต่มายังไม่รู้ ส่วนที่ลุงบูลย์รับเนชั่นกับจุดประกายเป็นประจำจึงไม่ตกหล่น

เมื่อเช้าไปรื้อ ๆ เห็นแล้ว ผลงานของปลายแปรงแต่ยังไม่ได้อ่านเลย ยุ่งจะตายชัก

เขียนได้ลุงทุกเดือน ๆ ละ ๒-๓ เรื่อง สำหรับบ้านปลายฟ้านี่ก็อยู่ได้แล้ว ที่ลุงเคยไปดู ๆ นอกจากกับข้าวแล้วอย่างอื่นไม่เห็นจะต้องซื้อสิ่งใด

ส่วนกับข้าวถ้ากินมังสวิรัติได้จะรอดปลอดภัย แต่ถ้ายังกินมังสาหารอยู่ ไข่มดแดงมีไหมหน้านี้ นั่นละอร่อยที่สุดเลย แต่บาปฉายหิบเพราะไม่รู้จะกี่พันชีวิต

ลุงบูลย์ถ้าบาปหนัก็ตรงที่เมืท่อสามสี่เดือนมาแล้วมีคนนำไข่มดแดงและแม่ปีกมดแดงมาขาย โละละตั้ง ๒๐๐ บาทแน่ะ แต่อร่อยสุด ๆ


โดย: ลุงบูลย์ IP: 125.27.234.234 วันที่: 25 มิถุนายน 2550 เวลา:12:04:53 น.  

 
เมื่อไม่นานมานี้ คุณลุงสม ก็เป็นนักเล่นกล้วยไม้ คนหนึ่ง รู้สึกว่าตำราที่บ้านจะมี
ไม่น้อยเลยทีเดียว มอบให้ มหาวิทยาลัย
แม่โจ้ ก็ หลายเล่มอยู่และ เป็นสมาชิก สมคมพฤษชาติแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ สนุกมากกับการเอากล้วยไม้ไปประกวด จะอยู่จังหวัดไหน ก็ไปเกือบจะทุกที่ และที่น่าตลกนะ รางวัลที่ 1 ตั้ง 500บาท และที่2 ก็ 300 บาท ยอดเยี่ยม ก็ 800บาท ส่วนใหญ่ที่ไปก็เป็นคนรักษ์ และชอบมากกว่าจะเป็นธุรกิจ

ตอนนี้ก็เลิกแล้ว แต่ก็มีเลี้ยงไว้บ้าง (เอาไว้ดูเล่น) ถ้ามีใครคุยถึงเรื่องกล้วยไม้ เขาจะชอบมากถูกคอเลยล่ะ

อ่านแล้วเพลินดีนะค่ะ เพิ่งจะรู้นะเนี้ยที่ไปที่มาของสิงโตทั้งหลาย สนุกดีค่ะ


โดย: p tim IP: 222.123.65.249 วันที่: 26 มิถุนายน 2550 เวลา:14:56:04 น.  

 
ดึกๆดื่นๆ...แหกขี้้ตาตื่นมาทัก
รู้ว่าเจ้าของบ้านไม่อยู่ ไปเฝ้าบ้านลุงบูลย์
บ้านต้องมีเสา
ชีวิตต้องมีลมหายใจ
ไฉนแปรง...จึงไร้ปลาย
(กลอนเปล่าจริงๆนะ)5..5..5

แวะไปดูบ้านพ่อเพยียคนเยอะดีจัง กลัวเจ้าของบ้านเหนื่อยกับการรับแขก
ก็เลยไม่ค่อยได้ทัก


โดย: ธารดาว IP: 203.146.63.185 วันที่: 1 กรกฎาคม 2550 เวลา:2:53:20 น.  

 
แอบเข้ามาวางระเบิดหัวข้อเก่า ๆ อิ อิ


โดย: ธาร ยุทธชัยบดินทร์ IP: 115.67.2.189 วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:15:50:06 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ปลายแปรง
Location :
พังงา Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




สุดปลายของแปรง
อาจป้าย...ได้ภาพเขียนงาม
อาจปาด....ได้ภาพสะเทือนขวัญ

แปรงสุดปลาย....วาดในอากาศ
สูญญากาศของสีที่ว่างเปล่า

เพียง "ใจ" ผู้ป้ายแปรง
ว่างเปล่า....ไร้แปรง....ปราศจากปลาย
สรรพเรื่องราว...ว่างเปล่าในกาลเวลา
Group Blog
 
 
มิถุนายน 2550
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
23 มิถุนายน 2550
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ปลายแปรง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.