สัการะพระทันตะธาตุ(พระเขี้ยวแก้ว) จากประเทศจีน ณ ท้องสนามหลวง
สัการะพระทันตะธาตุ(พระเขี้ยวแก้ว) จากประเทศจีน ณ ท้องสนามหลวง
เนื่องในวันมาฆบูชา และวันแห่งความรัก ประจำปี 2568 
พระเขี่ยวแก้ว ตั้งอยู่ ท้องสนามหลวง ถนนราชดำเนินกลาง แขวงพระบรมมหาราชวัง
เขตพระนคร จังหวัดกรุงเทพมหานคร
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/BHr26UL1HXUGMP199 



ใครที่ยังไม่ไปผม เก็บภาพบรรยากาศ กิจกรรมต่างๆในงานวันมาฆบูชาที่จัดขึ้น
ในท้องสนามหลวง พร้อมกับ ภาพบรรยากาศแสงสีเสียงยามตำคืน
ก่อนที่จะอัญเชิญกลับประเทศจีน ในวันที่ 14 พุมภาพันธ์ 2568



เรามารู้จักกันก่อนครับว่า พระเขี้ยวแก้วคืออะไร "พระเขี้ยวแก้ว" หรือ "พระทาฐธาตุ"
คือพระทันตธาตุส่วนที่เป็นเขี้ยวของพระโคตมพุทธเจ้า 



ซึ่งตามลักขณสูตรในพระไตรปิฎกภาษาบาลี ได้กล่าวถึงมหาปุริสลักขณะ 32 ประการ
มีข้อความตอนหนึ่งกล่าวถึง ลักษณะของพระทาฐะหรือเขี้ยวของบุคคลผู้มีลักษณะ
แห่งมหาบุรุษว่า "เขี้ยวพระทนต์ทั้งสี่งามบริสุทธิ์" ข้อมูลนี้จึงทำให้เชื่อกันว่า
พระเขี้ยวแก้วมีทั้งหมด 4 องค์



พระเขี้ยวแก้วเบื้องบนขวา ท้าวสักกะอัญเชิญไปประดิษฐาน ณ พระจุฬามณีเจดีย์
บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์



พระเขี้ยวแก้วเบื้องต่ำขวา ประดิษฐานที่แคว้นกลิงคะ แล้วจึงถูกอัญเชิญไปประดิษฐาน
ณ ลังกาทวีป (วัดพระเขี้ยวแก้ว ประเทศศรีลังกา ในปัจจุบัน)



พระเขี้ยวแก้วเบื้องบนซ้าย ประดิษฐาน ณ แคว้นคันธาระ แล้วเชื่อว่าถูกอัญเชิญไปประดิษฐาน
ไว้ที่เมืองฉางอัน ประเทศจีน (ซีอาน) โดยพระภิกษุฟาเหียนเมื่อคราวจาริก



ไปสืบพระศาสนายังอินเดีย ปัจจุบัน พระเขี้ยวแก้วองค์นี้ถูกอัญเชิญไปประดิษฐาน
ณ พระมหาเจดีย์ ณ วัดหลิงกวง กรุงปักกิ่ง ปัจจุบันถูกอัญเชิญมาที่ทองสถามหลวง ปะเทศไทย
จะถูกอัญเชิญกลับ ในวันศุกร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568 นี้



พระเขี้ยวแก้วเบื้องต่ำซ้าย ประดิษฐานในภพพญานาค



เป็นที่เชื่อกันว่า บนโลกมนุษย์ของเรานี้ มีพระเขี้ยวแก้วขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ประดิษฐานอยู่ 2 องค์ นอกจากนี้ พระเขี้ยวแก้วยังจัดเป็นพระบรมสารีริกธาตุ



ที่ไม่แยกกระจัดกระจาย องค์มีลักษณะแข็งแกร่งรวมกันแน่น พุทธศาสนิกชนจึง
มีความศรัทธาเลื่อมใสในองค์พระเขี้ยวแก้วเป็นอย่างมาก



พระบรมสารีริกธาตุ ( บาลี ดันตะ ธาตุ ) เป็นที่เคารพสักการะในศรีลังกา ในฐานะ
พระบรมสารีริกธาตุ อันศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธเจ้าโดยหลักแล้วหมายถึงพระเขี้ยวแก้วที่
วัดพระเขี้ยวแก้ว แต่ยังสามารถหมายถึงพระเขี้ยวแก้วที่เชื่อกันว่าอยู่ที่ โสมาวาธียะไชยได้อีกด้วย



"ประวัติศาสตร์" ตามมหาปรินิพพานสูตรหลังจากพระพุทธเจ้าปรินิพพานและเผาพระศพแล้ว
มีการระบุอย่างชัดเจนว่ามีฟันอยู่ 4 ซี่ โดยพระบรมสารีริกธาตุ 2 ซี่อยู่ในสถานที่ในตำนาน
( ตริยาสตฤษณะและอาณาจักรนาคราช ) ในขณะที่อีก 2 ซี่อยู่ในสถานที่ทางโลก
( คันธาระและกลีงกะ ) จากทั้งหมดนี้ พระบรมสารีริกธาตุและกลีงกะยังคงมีอยู่



"ฟันกะหลิ๊ง" ตามบันทึก ของ มหาวังและดาฏวังในระหว่างการเผาศพของพระพุทธเจ้า
เขี้ยวซ้ายของพระองค์ถูกเก็บโดยเขมะ สาวกของพระองค์ ซึ่งต่อมาได้มอบให้
กับพระเจ้าพรหมทัตแห่งกลีงกะเพื่อบูชา



โดยเก็บรักษาไว้ที่ดันตปุระ (ปัจจุบันคือดันตปุรัม ) ในบางจุดพระเขี้ยวแก้วได้รับชื่อเสียง
ว่าให้สิทธิ์อันศักดิ์สิทธิ์แก่ผู้ที่ถือครองพระเขี้ยวแก้วในการปกครองดินแดน โดยดาฏวัง
รายงานสงครามระหว่างกุหสีวะแห่งกลีงกะและพระเจ้าปาณฑุเกี่ยวกับการครอบครอง



ตำนานเล่าว่าหลังจากเกิดความขัดแย้งในกลีงกะ พระเขี้ยวแก้วก็ถูกนำไปที่
Abhayagiri Vihāraในอนุราธปุระประเทศศรีลังกา พระเขี้ยวแก้วจะถูกเปลี่ยนตำแหน่งเมื่อ
ที่นั่งของรัฐบาลบนเกาะเปลี่ยนไป จากนั้นพระเขี้ยวแก้วจึงถูกนำไปที่เมืองแคนดีซึ่ง
ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ที่วัดพระเขี้ยวแก้ว



อย่างไรก็ตาม นักวิชาการ ชาร์ลส์ บ็อกเซอร์ อ้างว่าฟันซี่ดังกล่าว
"ถูกทุบจนแหลกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยด้วยครกและสากต่อหน้าธารกำนัล "
ซึ่งเป็นหนึ่งในผลลัพธ์จากความพยายามของคริสตจักรที่จะกำจัดศาสนาพื้นเมืองซึ่ง
เชื่อกันว่าเกิดขึ้นเมื่อประมาณปี ค.ศ. 1550 เนื่องจากมีความสำคัญทางศาสนาต่อชาวพุทธ



"ข่าวลือเรื่องพระทันตธาตุ" นอกจากพระทันตธาตุ 2 องค์ในศรีลังกาแล้ว ยังมีรายงานพบ
พระทันตธาตุอื่นๆ ทั่วโลก จากการสำรวจในปี 2024 พบว่าพิพิธภัณฑ์และวัด 32 แห่งอ้างว่ามี
พระทันตธาตุอย่างน้อย 1 องค์



ขอขอบคุณข้อมูล : https://th.wikipedia.org/พระเขี้ยวแก้ว ,
https://en.wikipedia.org/wiki/Relic_of_the_tooth_of_the_Buddha#References 



ใครที่ยังไม่ได้เข้าไปอ่านบล๊อก กิจกรรมปล่อยปลากับนักศึกษาชมรมพุทธศาสตร์
เนื่องในสัปดาห์วันมาฆบูชา
 
สามารถกดที่นี่ได้เลยครับ



ฝากกด like Facebook นายแว่นขยันเที่ยว : 
https://www.facebook.com/นายแว่นขยันเที่ยว-110467381183341 



ฝากกดติดตาม YouTube PT Channel : 
https://www.youtube.com/channel/UCGZdHn45JVfiyGdW4wZE0Tw 



ขอบคุณที่เข้ามาเป็นกำลังใจให้ผม
"นายแว่นขยันเที่ยว"



ขอบคุณเพลง : ค่อยๆเป็น ค่อยๆไป
ศิลปิน : ศักดา พัทธสีมา
Vote : ท่องเที่ยวไทย




Create Date : 14 กุมภาพันธ์ 2568
Last Update : 17 กุมภาพันธ์ 2568 0:53:24 น.
Counter : 321 Pageviews.

5 comments
(โหวต blog นี้) 

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณmultiple, คุณดอยสะเก็ด, คุณหอมกร, คุณกะว่าก๋า, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณpeaceplay, คุณผู้ชายในสายลมหนาว, คุณThe Kop Civil, คุณnonnoiGiwGiw, คุณปัญญา Dh, คุณกะริโตะคุง, คุณโฮมสเตย์ริมน้ำ, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณปรศุราม, คุณSweet_pills, คุณคิมหันต์วิษุวัต, คุณtanjira, คุณtuk-tuk@korat

  
อาจารย์เต๊ะ ไปกราบมาแล้วครับ
แต่ไปกลางวัน กลางคืนนี่ ประดับไฟ แสงสีสวยงามงามเลยนะครับ

โดย: multiple วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา:5:06:35 น.
  
เขาจัดแสงสีสวยดีจ้า
ใครก็ต้องคิดแหละของแทร่หรือ

โดย: หอมกร วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา:5:34:05 น.
  
กลับวันนี้แล้วเหรอครับ
ไม่ได้มีโอกาสไปครับ

โดย: กะริโตะคุง วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา:14:46:35 น.
  
โดย: tanjira วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา:7:02:14 น.
  
โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา:10:13:06 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

นายแว่นขยันเที่ยว
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed

 ผู้ติดตามบล็อก : 15 คน [?]



Group Blog
กุมภาพันธ์ 2568

 
 
 
 
 
 
1
2
4
6
8
9
11
13
15
16
18
20
22
23
25
27
 
 
All Blog