Group Blog
 
 
เมษายน 2553
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
12 เมษายน 2553
 
All Blogs
 

5 วิธี ดูแล "ดวงตาคู่ใส" ให้ลูกน้อย




วันนี้มีข้อมูลเกี่ยวกับดวงตาคู่สวยของลูกน้อย
ที่คุณพ่อคุณแม่ควรรู้ พร้อมวิธีการดูแลประสาทสัมผัส
ส่วนสำคัญที่ช่วยให้ลูกเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ
รอบตัวได้จากการมองเห็นมาแนะนำกันค่ะ



1. สังเกตดวงตาสักนิด


หากมีอะไรผิดปกติหรือสงสัยว่าดวงตาของลูกจะมีปัญหา
เช่นตาดำดูผิดปกติ
, ตาลูกเหล่
(เป็นบางครั้งหรือว่าบางเวลา)
, หนังตาข้างใดข้าง
หนึ่งตกลง เป็นต้น คุณแม่ควรปรึกษาขอคำแนะนำจากคุณหมอ
หรือพาลูกไปพบจักษุแพทย์โดยตรง เพื่อตรวจหาสาเหตุ
ป้องกันและแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้น



การเช็กพัฒนาการด้านการมองเห็นเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ทำให้รู้ว่ากำลัง
เกิดความผิดปกติกับดวงตาลูก เช่น ถ้า
3 เดือนแรกลูกยังมองเห็นได้ไม่ดี ไม่หันมองวัตถุ
สิ่งของที่แกว่งไปมาได้ ก้ควรตั้งเป็นข้อสงสัย
และรีบปรึกษาคุณหมอเช่นกันค่ะ



นอกจากนี้
คุณแม่ควรพึงระวังสังเกตเกี่ยวกับดวงตาลูกน้อย จากอาการต่าง ๆ ต่อไปนี้ค่ะ



- ภาวะท่อน้ำตาตัน


เป็นอาการที่พบได้กับเด็กแรกเกิด ลูกน้อยจะน้ำตาไหลทั้ง ๆ
ที่ไม่ได้ร้องไห้ การดูแลเบื้องต้นในกรณีนี้ไม่ต้องถึงมือคุณหมอ คือ
การนวดบริเวณหัวตา ตำแหน่งของถุงทางเดินน้ำตา แต่ถ้าอาการไม่ดีขึ้น
ก็ควรไปพบคุณหมอ (ส่วนใหญ่อาการจะดีขึ้น เมื่ออายุประมาณ
1 ปีไปแล้ว



-
ภาวะติดเชื้อ


อาจมีขี้ตาสีเหลืองหรือสีเหลืองปนเขียวหรือหนังตาบวมแดงร่วมด้วย
อาการเช่นนี้แสดงว่ามีเชื้อโรคเข้าตาลูก ทำให้ตาอักเสบ
เชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อไวรัสที่มาจากฝุ่นละอองในอากาศ
ไม่ควรนิ่งนอนใจรีบไปพบคุณหมอทันทีค่ะ



-
ตาแฉะ


มักเกิดจากมีสิ่งที่แปลกปลอมเข้าไปในดวงตา ทำให้ลูกมีขี้ตามาก
และอาจเกิดจากการแพ้สารเคมี (สารซิลเวอร์ไนเตรต) ที่หยอดตาหลังคลอด
ทำให้มีอาการตาแฉะได้
คุณพ่อคุณแม่ควรทำความสะอาดเช็ดขี้ตาให้ลูกอย่างสม่ำเสมอ อาการแพ้จะค่อย ๆ
หายไปเอง



2.
ดูแลดวงตาให้ถูกวิธี


วิธีดูแลอย่างง่ายฉบับครอบครัวก็คือ การหมั่นดูแลเรื่องความสะอาด
ทั้งเครื่องนอนและอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ใบหน้า หรือดวงตาลูกอาจสัมผัส เช่น
เปลี่ยนผ้ารองที่นอนหมอนที่ลูกหนุน เพื่อเป็นการป้องกันเชื้อโรคต่าง ๆ
และถ้าสังเกตว่า ดวงตาลูกมีขี้ตาออกมา ให้ทำความสะอาด
โดยใช้สำลีชุบน้ำต้มสุกอุ่น ๆ เช็ดจากหัวตาไปยังหางตา
และควรเปลี่ยนสำลีก้อนใหม่เช็ดอีกข้าง



สำหรับการเลือกถุงมือ คุณแม่ควรให้มือน้อย ๆ ของลูกสัมผัสอากาศบ้าง
เพราะบ้านเราเป็นเมืองร้อน อาจเป็นปมปัญหาเรื่องผิวตามมารบกวน
ถ้าเลือกวิธีโปร่งโล่งสบายก็ควรตัดเล็บมือ
ดูแลความสะอาดเป็นเป็นสิ่งสำคัญค่ะ



3.ใช้ยาอย่างถูกวิธี


ดวงมีเนื้อเยื่อที่บอบบาง ติดเชื้อได้ง่ายดังนั้น
การใช้ยากับเด็กเล็กจึงต้องระมัดระวัง เช่น การใช้ยาหยอดตา
ควรล้างมือให้สะอาดทุกครั้งก่อนหยอดตา
ขณะที่หยอดต้องระวังไม่ให้หยดแตะกับตาหรือขนตา และเมื่อเปิดใช้แล้ว
ควรเก็บยาไว้ในที่เย็นในระยะเวลาไม่เกิน
1 เดือน และไม่ควรใช้ยาหยอดร่วมกับผู้อื่น
ที่สำคัญยาหยอดตาต้องมาจากที่คุณหมอสั่งเท่านั้น



4.
เรื่องต้องห้าม


หลีกเลี่ยงการพาลูกไปสถานที่ที่อาจเกิดอุบัติเหตุกับดวงตา
เช่นสถานที่ที่มีฝุ่น ควันเยอะ ๆ ลมแรง หรือแสงแดดจ้ามาก ๆ รวมถึงไม่ควรแคะ
แกะ เกา หรือทำอะไรกับดวงตาของลูก และเมื่อมีความต้องการใช้ยา
ก็ไม่ควรซื้อยามาใช้กับลูกเองโดยเด็ดขาด
ควรขอคำแนะนำจากคุณหมอหรือจักษุแพทย์โดยตรง
เพื่อความปลอดภัยต่อดวงตาลูกน้อย



5.เปิดโลกกว้างทางสายตา


แม้ดวงตาเป็นอวัยวะเล็ก ๆ ที่ต้องดุแลให้ความสำคัญแล้ว
ดวงตาของลูกน้อยยังสามารถเก็บบันทึกข้อมูล เชื่อมโยงสิ่งต่าง ๆ รอบตัว
ดังนั้นยิ่งส่งเสริมพัฒนาการด้านการมองเห็น ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ
ในชีวิตประจำวันของลูกมากเท่าไร
ก็เท่ากับเปิดโอกาสให้ลูกเรียนรู้ได้ดีมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยค่ะ



หลังจากรู้เคล็ดลับดี ๆ ในการดูแลดวงตาดวงน้อย ๆ ของลูกแล้ว
คุณพ่อคุณแม่ก็ต้องคอยสังเกตความเปลี่ยนแปลงของดวงตาลูก
เพื่อให้ลูกมีดวงตาที่สดใส เปล่งประกายอยู่ตลอดเวลา






ที่มา: หนังสือพิมพ์ ASTVผู้
จัดการ






Free TextEditor




 

Create Date : 12 เมษายน 2553
0 comments
Last Update : 12 เมษายน 2553 12:09:58 น.
Counter : 246 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


สมหญิง ณ ทรายทอง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add สมหญิง ณ ทรายทอง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.