|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
Aloo Puri (อาลู ปูรี) แกงมันฝรั่ง VS โรตีทอด
หนึ่งในอาหารเช้าแสนโปรดของทุกคน รวมไปถึงเด็ก ๆ และคนที่เพิ่งหัดกินอาหารอินเดีย
แกงอาลูนี้ ทำง่าย กินง่าย ไม่ต้องปรับลิ้น ปรับความรู้สึกกันมากมาย ไม่เหมือนพวกแกงถั่ว ที่คนไทยอย่างเรา มักจะออกอาการแหยงในช่วงแรก ๆ ไม่กล้ากิน ไม่อยากกิน เพราะมันออกจะแหยะ เละ และเพราะเราเคยกินถั่วเขียวซีก ถั่วแดง เป็นของหวานมาตลอด ไม่ว่าจะเป็นเต้าส่วน, ถั่วแดงบวด เลยต้องใช้เวลาปรับตัวพักนึงเลยค่ะ กว่าจะกินแกงถั่วกับข้าวได้
อย่างไรก็ดี ตอนนี้การกินแกงถั่ว...กลายเป็นเรื่อง จิ๊บ จิ๊บ แถมบางทีนึกอยากน้ำลายไหล อยากกินข้าวสวยร้อน ๆ แกงถั่วเขละ ๆ หอม ๆ ราด แล้ว คลุก กับข้าวให้ชุ่ม ๆ กินกับมะม่วงดอง หรือ Ajar (อาจาด) เปรี้ยว ๆ หอม ๆ ตามด้วยพริกขี้หนูสด ๆ โอย
อร่อยมากจริง ๆ
มาดูกันค่ะ ส่วนผสม และ วิธีทำมีอะไรบ้าง ขออภัยนะคะ หากรูปไม่สวย ไม่ชัด เรื่องการถ่ายรูปนี้ไม่ค่อยจะชำนาญนัก และหากจะนั่งจัดฉาก หรือ ถ่ายใหม่บ่อย ๆ เกรงว่ากับข้าวจะไหม้เสียก่อน พอดีแม่ลูกสาวตัวน้อยที่มายืนคอยให้กำลังใจว่า มามี๊ มามี๊ โรตีอ่ะ... แกจะอดอาหารเช้าไปด้วยค่ะ แต่ก็พยายามถ่ายอย่างสุดฝีมือแล้ว หยวน ๆ เนอะ
วันนี้แกงอาลู ใช้มันฝรั่งขนาดหัวกลางประมาณ 3 หัว ลงต้มทั้งหัว ทั้งเปลือก ในหม้อแรงดันไอน้ำค่ะ ประหยัดเวลาดี แต่ถ้าใครไม่มี pressure cooker ก็ให้หั่นเต๋า ชิ้นประมาณ 1.5 ซม. แล้วต้มให้พอสุก อย่าให้เละ เพราะเดี๋ยวต้องมาต้มในน้ำแกงต่อค่ะ ส่วนเราต้มในหม้อแรงดัน ใช้ไฟแรงก็ประมาณ 5-6 เสียงหวีดก็ปิดแก๊ส

ต้มเสร็จ นำขึ้นมาพักไว้ให้เย็นลงนิดนึง

แล้วปอกเปลือก หั่นเป็นชิ้นอย่างนี้ เตรียมไว้

สำหรับเครื่องทำ masala (มะสะล่า) หรือเครื่องแกงนั้น ประกอบด้วย หอมแขก 1 หัว (ขนาดเท่าลูกเทนนิส) มะเขือเทศสุกจัด 2 ผล (ขนาดเท่าลูกปิงปอง) กระเทียมกลีบใหญ่ 3 กลีบ ขิงแก่ 1 ชิ้น (ขนาดเท่ากลีบกระเทียม)

ปกติแล้วเครื่องแกงนี้ คนอินเดียมักจะใส่พริกขี้หนูสีเขียวลงไปด้วยเม็ดสองเม็ด ใครชอบเผ็ดก็ใส่ได้ค่ะ แต่เราทำเผื่อลูกสาวด้วย เลยไม่ใส่ดีกว่า เพราะขิงก็ให้รสร้อนอยู่แล้ว ไหนจะต้องใส่พริกผงสีแดง กับ garam masala (กะรัม มะสะล่า) ผงเครื่องเทศเผ็ดร้อน ที่มีส่วนผสมของเครื่องเทศสมุนไพรรสร้อนหลายชนิด เช่น พริกไทยดำ, กานพลู และขิงอบแห้งอีก ยังไงก็ต้องมีรสเผ็ดร้อนออกมาอย่างแน่นอน
จัดการหั่นเป็นชิ้น แล้วนำลงเครื่องบดปั่น ปั่นให้ละเอียด เราแอบใส่น้ำประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ ลงไปเพื่อหล่อให้เครื่องที่ปั่นไม่แห้งเกินไป จะได้ปั่นได้ง่าย ละเอียดทั่วกัน

ปั่น ๆๆๆๆ จนละเอียดยิบเลยนะคะ แบบนี้

เสร็จแล้ว นำกระทะหรือหม้อแบบที่เราใช้ก็ได้ อันนี้ เอาหม้อแรงดันนั่นแหละ ไปล้างแล้วเอามาแกงต่อ อิอิ ทำไป ล้างไป reuse ไป พอทำเสร็จ เครื่องครัวที่ต้องล้างมันจะได้น้อยชิ้น ไม่ใช่ เหนื่อยจากการทำกับข้าวแล้วไม่พอ หันมาเห็น โอ้โฮ หม้อ กระทะ จาน ชาม ตะหลิว ช้อนตวง เขียง เกลื่อนครัวไปหมด ลมจะจับ
ใส่น้ำมันลงในกระทะประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ ตั้งไฟจนน้ำมันเริ่มร้อน ใส่เม็ดยี่หร่าลงไป รอจนเม็ดยี่หร่าเริ่มมีเสียงแตก ส่งกลิ่นหอม และเปลี่ยนสีเป็นสีดำ

นำหอม กระเทียม ที่ปั่นไว้เมื่อสักครู่ลงผัดได้เลย โดยใช้ไฟกลาง ๆ ผัดและคน รวมทั้งขูดก้นกระทะ เป็นระยะ ๆ

พอหอมเริ่มเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล ให้เติมเกลือลงไปประมาณครึ่งช้อนชา เพื่อให้น้ำมันแยกตัว

ผัดให้เข้ากัน แล้วเติมผงขมิ้นประมาณ ¼ ช้อนชา

ผัดให้เข้ากัน เติมพริกผงอินเดียอีกประมาณ ¼ ช้อนชา

คนและขูดก้นกระทะ ผัดให้เข้ากัน ถ้าเห็นว่าไฟแรงไป กระทะจะไหม้ ให้เบาไฟลง จากนั้นใส่มะเขือเทศปั่นละเอียด ลงไปผัดต่อประมาณ 1 นาที

จากนั้นใส่ผงผักชี 1 ช้อนชาพูน ผงผักชีนี้ ปกติก็มีขายเป็นห่อแบบสำเร็จรูปอยู่แล้ว แต่ที่เห็นในรูปอาจจะมีเป็นเสี้ยน ๆ บ้าง เพราะเราใช้เมล็ดผักชี ใส่กระทะตั้งไฟพอหอม ๆ แล้วเอาเข้าเครื่องปั่นจนละเอียด หอมดีมาก ๆ เลย

ผัดเครื่องแกงเข้ากันแล้ว เติมผงยี่หร่าอีก 1 ช้อนชาพูน ผัดให้เข้ากันอีก

เครื่องเทศอย่างสุดท้ายที่จะใส่คือ กะรัม มะสะล่า ประมาณ ½ ช้อนชา

ผัดและขูดกระทะไปด้วย จนส่งกลิ่นหอมตลบอบอวลให้ข้างบ้านจามเล่น แล้วค่อยเติมเกลืออีกประมาณ 1 ช้อนชาพูน หรือจะลองใส่แต่น้อยก่อนแล้วชิมรสดูก็ได้

รอจนเครื่องแกงกับน้ำมันแยกตัว ถ้าเครื่องแกงมันจะดำติดกระทะไปบ้าง ก็ไม่ต้องกังวล เพราะเราต้องใส่น้ำอยู่แล้ว ค่อย ๆ เติมน้ำแล้วขูดก้นกระทะไปด้วยพอให้มีน้ำบ้าง

นำมันฝรั่งต้มใส่ลงไปเลย

เติมน้ำพอท่วม กะว่า ให้พอดีกับเวลาที่น้ำแกงงวดข้นพอดี แล้วมันฝรั่งสุกนิ่มน้ำแกงเข้าเนื้อ และน้ำแกงไม่ใส เปิดไฟกลางค่อนไปทางอ่อน ปิดฝา แง้มทิ้งไว้ได้เลย

คราวนี้มาทำ Puri (ปูรี) หรือโรตีทอดกันดีกว่า
เริ่มจากตักแป้งอัตตาประมาณ 2 ½ ทัพพี ใส่ลงในกะละมังนวดแป้ง

ผสมแป้ง Suji (ซูจี๊) เป็นแป้งสาลีเม็ดหยาบคล้ายเม็ดทรายแบบนี้

ผสมลงไป 1 ทัพพี บ้านอื่น หรือคนอื่น อาจไม่ใส่แป้งซูจีลงไปด้วย แต่สำหรับเรา ได้รับการสั่งสอนมาจากพี่ชายสามีที่ทำอาหารเก่งมากว่า ควรจะใส่ เพราะจะทำให้โรตีไม่อมน้ำมัน ที่สำคัญพองอยู่นานด้วย

เติมน้ำประมาณ 1 ถ้วยกาแฟก่อน นวดไปจนไม่เหลือแป้งแห้งติดอยู่ที่ขอบกะละมังนวดแป้ง ถ้าแป้งแห้งไป แข็งไป ให้เติมน้ำทีละน้อย แล้วนวดด้วยสันมือกด ๆ ๆ หยุดใส่น้ำเมื่อแป้งนิ่มเหนียว ติดมือบ้างนิดหน่อยไม่เป็นไร
ให้นำแป้งออกมาวางที่พื้นโต๊ะเรียบ ๆ นวดแป้งด้วยมือสองข้าง นวดกดไสออกนอกตัว แล้วดันแป้งกลับเข้าหาตัว ทำจนกว่าแป้งจะเนียนละเอียดและไม่ติดมือ
คลึงแป้งเป็นเส้นยาวเส้นขนาดเท่าผลมะเขือยาว

ใช้มือแตะน้ำมันนิด ๆ เด็ดแบ่งแป้งเป็นลูก ขนาดเท่าลูกปิงปอง ใส่กะละมังไว้ เมื่อแบ่งแป้งหมดแล้ว ให้เทน้ำมันใส่อุ้งมือเล็กน้อย พรม ๆ ลงบนแป้งที่แบ่งไว้ให้ทั่ว ใช้สองมือช่วยคลุกด้วยก็ได้

ต่อมาก็เตรียมทอดโรตีได้ ตั้งน้ำมันพอประมาณ ไม่ต้องเยอะมาก ตั้งไฟกลาง รอให้ร้อนจัด

เมื่อกี๊ ตอนที่เด็ดแบ่งแป้ง รูปร่างของแป้งอาจจะยังไม่กลม เราก็มาทำกลมตอนนี้ได้ค่ะ ใช้สองฝ่ามือคลึงแป้งหมุนไปเรื่อย ๆ ให้แป้งกลมกลึง และปิดรอยแตกให้หมด ก่อนจะคลึงด้วยไม้คลึงแป้ง ให้แตะก้อนแป้งในน้ำมันอุ่น ๆ ที่อยู่ในกระทะ แล้วใช้ปลายนิ้วกดเบา ๆ ให้แบน

จากนั้นจึงเริ่มคลึงแผ่แป้งออกเป็นแผ่นกลม แต่ถึงจะไม่กลมก็ไม่เป็นไร ขอให้คลึงให้เรียบ ความหนาเสมอกันทั่วแผ่นก็พอ ความหนาก็แค่ 1 มิลลิเมตร
วิธีคลึงก็ให้กดไม้ไล่จ่ากตรงกลางไล่ขึ้นด้านบน และลงด้านล่าง กดด้วยความเบามือแต่เร็ว
เสร็จแล้วพลิกโรตีกลับด้านล่างขึ้นมา กลับด้านแนวบนล่าง ให้อยู่แนวข้างซ้ายขวา เพื่อคลึงท่าเดิม แต่ให้แป้งด้านที่ยังไม่โดนรีด ให้ถูกรีดด้วย
แล้วลองสังเกตดูว่า มีมุมไหนด้านไหน ที่หนากว่าด้านอื่น หรือไม่ ถ้ามีก็อาจคลึงเฉพาะมุมก็ได้ แต่ก็ต้องมือเบาเหมือนเดิม ถ้ามือหนัก จะกลายเป็นว่า แป้งในส่วนที่คลึงทีหลังนั้นบางสุด จนอากาศเข้าไม่ถึง หรืออาจเกิดเป็นรูได้ เป็นสาเหตุให้โรตีไม่พองนั่นเอง

เมื่อคลึงโรตีเป็นแผ่นแล้ว น้ำมันร้อนได้ที่แล้ว ก็ให้นำลงทอดได้เลย

เมื่อโรตีเริ่มพองนิดหน่อย เราจะใช้ตะหลิวค่อย ๆ กดตรงขอบด้านใดด้านหนึ่งเบา ๆ แล้วหมุนไปด้วย ขั้นตอนนี้มันจะเกิดขึ้นเร็วมาก เมื่อพองทั่วแผ่นแล้วก็ให้รีบกลับเอาบนลงไปทอดบ้าง มันจะพองอยู่อย่างนั้น

ลองใช้ตะหลิวพลิกด้านข้างดูนิดหน่อย ถ้าหากโรตีสุก เป็นสีน้ำตาลสวยทั่วกันดีแล้วก็นำขึ้นมาพักบนตะแกรงได้เลย

สวยแมะ สวยแมะ

ถึงตอนนี้ลองกลับไปดูแกงอาลูว่าได้ที่หรือยัง สังเกตดูว่ามันฝรั่งดูนิ่มเกือบเละ น้ำแกงข้นดี ไม่ใส รสชาติเค็มพอดีแล้ว ก็ให้ปิดไฟเตรียมตักเสิร์ฟได้เลย

เสร็จแล้ว อาลู ปูรี ทำจริง ๆ ก็ไม่ได้ใช้เวลานานมากนะคะ แค่จัดลำดับให้ดี ทำอะไรก่อนหลัง เช่น ขณะที่รอมันฝรั่งสุก ก็หันมานวดแป้ง เตรียมเครื่องแกง
อาจจะมียากนิดหน่อยก็ตรงการทำโรตีทอดครั้งแรก อาศัยสังเกตดูว่าแป้งบางไปไหม หนาไปไหม น้ำมันร้อนเกินไปก็ทำให้โรตีเกรียมได้ ขั้นตอนคลึงแป้ง จะคลึงไว้หลาย ๆ แผ่นแล้วค่อยทอดทีเดียวก็ได้ แต่เราถนัดแบบ คลึงไป ทอดไป เพราะคลึงแป้งวางทิ้งไว้ มันจะติดพื้นโต๊ะ ยิ่งถ้าโรตีคลึงออกมาค่อนข้างบาง เวลาดึงขึ้นมาจากโต๊ะ จะทำให้เสียรูป หรือขาด หรือทำให้ส่วนที่ถูกดึง บางกว่าส่วนอื่น เสียของไปอีก
ปูรีนั้น ถ้าไม่พองทั้งแผ่น คือพองครึ่งเดียว หรือบางส่วน ก็จะกระด้างไปเลย เพราะฉะนั้น ทำครั้งแรกใจเย็น ลองทำทีละแผ่นแล้วทอด แล้วลองสังเกตดูว่า คลึงแบบไหน บางแค่ไหน โรตีจึงจะพองเสมอกัน
ได้เมนูใหม่แล้ว ไปลองทำกันดูนะจ๊ะ รับรองซะมี เซอร์ไพรส์ชัวร์ หุหุหุ ไปละน้า ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาเยี่ยมจ้า
Create Date : 27 กรกฎาคม 2551 |
Last Update : 28 กรกฎาคม 2551 8:21:24 น. |
|
26 comments
|
Counter : 14611 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: popang (popang ) วันที่: 28 กรกฎาคม 2551 เวลา:11:00:32 น. |
|
|
|
โดย: ฟ้าคงสั่งมา วันที่: 28 กรกฎาคม 2551 เวลา:11:07:16 น. |
|
|
|
โดย: พ็อบเบิ้ล วันที่: 28 กรกฎาคม 2551 เวลา:14:23:37 น. |
|
|
|
โดย: แม่มะอึ่ด (noo-uan ) วันที่: 28 กรกฎาคม 2551 เวลา:16:03:06 น. |
|
|
|
โดย: พ็อบเบิ้ล วันที่: 29 กรกฎาคม 2551 เวลา:12:25:10 น. |
|
|
|
โดย: พ็อบเบิ้ล วันที่: 1 สิงหาคม 2551 เวลา:18:46:48 น. |
|
|
|
โดย: its_gemmi วันที่: 2 สิงหาคม 2551 เวลา:22:28:35 น. |
|
|
|
โดย: ปุ๊ก (Moti ) วันที่: 13 กันยายน 2551 เวลา:0:07:25 น. |
|
|
|
โดย: พ็อบเบิ้ล วันที่: 16 กันยายน 2551 เวลา:12:53:54 น. |
|
|
|
โดย: พ็อบเบิ้ล วันที่: 5 ตุลาคม 2551 เวลา:10:02:51 น. |
|
|
|
โดย: หนูอ้วน (noo-uan ) วันที่: 21 ตุลาคม 2551 เวลา:13:30:33 น. |
|
|
|
โดย: พ็อบเบิ้ล วันที่: 5 พฤศจิกายน 2551 เวลา:20:28:29 น. |
|
|
|
โดย: aLi (alishaaaliah ) วันที่: 29 มกราคม 2553 เวลา:22:00:55 น. |
|
|
|
โดย: aLi (alishaaaliah ) วันที่: 29 มกราคม 2553 เวลา:22:03:37 น. |
|
|
|
โดย: aLi (alishaaaliah ) วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:10:48:58 น. |
|
|
|
โดย: พ็อบเบิ้ล วันที่: 11 มีนาคม 2553 เวลา:13:10:12 น. |
|
|
|
|
|
|
|