|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
Shahi Paneer อร่อยนุ่ม ละมุนลิ้น
สวัสดีจ้า พี่น้อง ผองเพื่อนผู้นิยมอาหาร และวัฒนธรรมอินเดีย
ขอประทานโทษ ที่เจ้าของบล็อกหายไปนานเหลือเกิน ถ้าจะบอกว่ามีธุระติดพัน จะเชื่อกันไหม?? อิอิ คงไม่เชื่อ... งั้นบอกว่า มีธุระเดินทางไปมาต่างจังหวัด ประกอบกับงานบ้านรัดตัว และความขี้เกียจปนกันอีกพองาม ทำให้พัชหายไปได้นานนนนนนน.....ขนาดนี้อ่ะจ้า
ก่อนอื่น ต้องขอโทษ พี่อ้วนชวนคุย คุณแก้ม ที่เคยสัญญาเรื่องวิธีทำอาหารที่เคยเกริ่น ๆ กันไว้ แต่ก็ยังไม่ได้เอามาลงให้เสียที แต่ไม่ได้ลืมนะคะ ที่จริง ถ้าไม่ติดว่างานยุ่ง ติดลูก ก็อยากจะมาโพสต์ให้ทุกวันเว้นวันเหมือนกันแหละ
สำหรับบางคนที่ยังไม่ได้ตอบคอมเม้นท์ อย่างคุณ jubjeeplumpang ก็ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยก็แล้วกัน เพราะตอนนั้นอยู่ต่างจังหวัด และรีบดู รีบออก กะจะมาตอบก็คิดว่าเวลามันผ่านล่วงเลยไปแล้ว คุณอาจจะไม่ได้เข้ามาอ่านอีก แต่ไม่เป็นไร ขอให้คอยติดตามนะคะ จะพยายาม สรรหาอะไรดี ๆ มาแบ่งปันอีก
ล่าสุด คุณแตน กาญจนบุรี เค้าอยากรู้จักถั่วต่าง ๆ ของอินเดีย เอ่อ ที่จริงอันนี้ก็มีโครงการเหมือนกัน และเนื่องจากมันไม่ต้องทำไปโพสต์ไป ง่ายกว่าตอนที่ทำอาหาร จึงคิดว่าน่าจะรวบรวมมาให้ดูได้ไม่นานนี้แหละจ้า
แต่สำหรับวันนี้ ขอนำเสนอ Shahi Paneer (ชาฮิ ปะนีร) เอ...เมนูโปรดของใครน้อ????
ปะนีร หรือ โฮมเมด ชีส ในสูตรภาษาอังกฤษจะเรียกว่า Homemade Cottage Cheese วิธีทำอยู่ในส่วนประกอบอาหารอินเดียแล้ว
ทีนี้มาเริ่มทำแกง Shahi Paneer กันดีกว่า เป็นแกงที่ทำไม่ยาก แต่อร่อยมากจริง ๆ ค่ะ
ขั้นแรก นำหอมแขก หรือหอมหัวใหญ่ก็ได้ ประมาณ 1 หัวกลาง กับ พริกขี้หนูสีเขียว 1 เม็ด

มาปั่นรวมกันด้วยเครื่องปั่นให้ละเอียดที่สุด

ล้างมะเขือเทศ ผลกลางไว้ 3 ผล ปั่นละเอียด พักไว้ก่อน

ตอนนี้ตั้งกะทะ ใส่น้ำมันลงไปซัก 2 ช้อนโต๊ะ

พอเริ่มร้อนให้ใส่ ผงกระวาน Elaichi ซัก ½ ช้อนชา (ป่นละเอียดหน่อยนะจ๊ะ ในรูปนี่ไม่ค่อยละเอียดเท่าไหร่ โปรดอย่าเลียนแบบ)

พอส่งกลิ่นหอม สีเข้มขึ้น แบบนี้

ใส่หอมที่ปั่นละเอียดกับพริก ลงไปผัด จนสีเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล

แล้วจึงใส่ขิงและกระเทียมบดละเอียด ๆๆๆๆ แบบ paste เลย นะคะ (ขิงประมาณครึ่งหัวแม่มือ หรือ 1 นิ้ว และกระเทียมประมาณ 2-3 กลีบใหญ่

ผัดซัก 1 นาที พอเข้ากัน แล้วใส่มะเขือเทศปั่นละเอียดที่เตรียมไว้ลงไปผัด ประมาณ 5 นาที จนน้ำมันเริ่มแยกตัวจากเครื่องแกง

ให้ยกกะทะลงจากเตา แล้วเติมโยเกิร์ตที่ตีแล้วประมาณ ¼ ถ้วยลงไป

คนผสมให้เข้ากัน

นำกะทะกลับไปตั้งไฟใหม่ แล้วเติมน้ำลงไปซัก ½ ถ้วยตวง คนให้เข้ากัน

เติมผงพริกแดง ½ ช้อนชา เกลืออีกพอประมาณ มากน้อยตามชอบค่ะ
ปล่อยให้แกงเดือดปุด ๆ ไม่ต้องใช้ไฟแรง จนกว่าน้ำแกงจะเริ่มข้นขึ้น
จากนั้นก็เติมนมสดลงไปอีก ¼ ถ้วย

แล้วตั้งไฟอ่อนอีกพักนึง คนได้เป็นครั้งคราว สังเกตดูว่าน้ำแกงข้นเป็นเกรวี่ ก็ใช้ได้ และถ้าคิดว่าเครื่องปรุงยังไม่ละเอียดพอ เอาเจ้าคอยาวลงไปปั่นแบบนี้ก็ได้เหมือนกัน

FYI ที่จริงในสูตรให้ใส่น้ำตาลด้วยนิดนึง แต่พอดีวันนี้เราใช้โยเกิร์ตกระป๋อง โยโมสต์ ซึ่งแม้จะไม่หวานมาก แต่ก็ถือว่าหวานแล้วเมื่อเทียบกับโยเกิร์ตธรรมดา ที่ทำเองที่บ้าน เลยของดไม่ใส่น้ำตาล แต่ถ้าหากใครใช้โยเกิร์ตเปรี้ยว ชิมแล้วอยากให้หวานอีกหน่อย จะใส่น้ำตาลก็ได้ แกงปะนีร์ รสชาติจะออกหวานปะแล่มนิด ๆ เคี้ยวชีสมัน ๆ อร่อยดีค่ะ
เมื่อแกงข้นได้ที่ตามต้องการแล้ว จัดการหั่นปะนีร์เป็นชิ้นพอคำแบบนี้

ใส่ลงไปค่ะ ใส่แล้วปิดไฟเลยนะคะ แล้วก็คนผสมให้ปะนีร์ หมกตัวอยู่ในน้ำแกงให้ทั่ว

เวลาตักเสิร์ฟ โรยหน้าด้วยผักชีเป็นช่อ ดูสวย น่ากิน สีตัดกันดีเหลือเกินค่ะ

ใครทำโรตีเป็นแล้ว ก็ทำมากินกับแกงปะนีร์ได้เลย

เล็ก ๆ น้อย ๆ ก่อนจาก บางคนเค้าชอบเอาปะนีร์ไปทอดก่อน เพราะจะได้รักษารูปทรง ไม่เละ หรือชอบให้มันหอม ๆ แต่บางคน ก็ไม่ชอบเพราะบอกว่าปะนีร์ทอดนั้นแข็ง เพราะฉะนั้น เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ปะนีร์เละ เลยให้ใส่ปะนีร์ในขั้นตอนสุดท้ายของการทำค่ะ
จบแล้ว ขอให้มีความสุขกับการทำอาหารนะคะ
Create Date : 15 มิถุนายน 2551 |
Last Update : 15 มิถุนายน 2551 21:33:17 น. |
|
10 comments
|
Counter : 5322 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: jjbd วันที่: 16 มิถุนายน 2551 เวลา:2:20:01 น. |
|
|
|
โดย: แม่มะอึ่ด IP: 58.9.148.214 วันที่: 23 มิถุนายน 2551 เวลา:19:32:36 น. |
|
|
|
โดย: พ็อบเบิ้ล IP: 58.9.3.129 วันที่: 30 มิถุนายน 2551 เวลา:10:20:30 น. |
|
|
|
โดย: แม่มะอึ่ด IP: 58.9.210.177 วันที่: 11 กรกฎาคม 2551 เวลา:20:58:09 น. |
|
|
|
โดย: พ็อบเบิ้ล วันที่: 5 ตุลาคม 2551 เวลา:10:06:30 น. |
|
|
|
โดย: มะลิปางเม็ง วันที่: 12 กรกฎาคม 2553 เวลา:12:33:35 น. |
|
|
|
|
|
|
|