Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2548
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
15 สิงหาคม 2548
 
All Blogs
 
Super V.I.P

ฉันว่าสิ่งหนึ่งที่ทำให้ฉันชอบเวลาได้ออกไป onsite ก็คือ การได้รับบริการประหนึ่งว่าฉันเป็นวีไอพี นี่แหละ เวลาเราไปเที่ยวกันเอง อย่าหวังว่าจะได้เจออะไรแพงๆเริ่ดๆอย่างที่บริษัทส่งไป อะฮ้า...ใช้เงินคนอื่นนี่ทำไมมันดีอย่างนี้หนอ ก็เวลาไปทำงานแบบนี้ บริษัทก็จะส่งรถลีมูซีน(เบนซ์นะยะ ไม่ใช่อี้ๆนะย้า..)มารับ เราก็สามารถนั่งหน้าเชิดไปในรถ เปล่าหรอก ส่วนใหญ่จะนั่งสลืมสลือเสียมากกว่า(ง่วงอ่ะ) เมื่อวาน โกร๊ดโกรธลีมูที่มารับ ไม่ได้เรื่องจริงจริ๊ง มาช้าไปสิบนาที(ไม่เคยเจอเลยนะ ปกติ รถลีมูพวกนี้มาก่อนเวลาเสมอ) แล้วพอมาช้า ก็ไม่ได้ดูตาม้าตาเรือเลย ดันไปจอดตึกอื่น ฉันเห็นรถเลี้ยวเข้ามาหันไปจับกระเป๋าหันกลับมาอีกที หายไปไหนฟะ ป้างง คือแทนที่พี่แกจะถามการ์ด ก็ไม่ถาม แทนที่จะเลี้ยวซ้าย ก็ดันเลี้ยวขวา หมู่ตึกของคอนโดฉันก็หน้าเหมือนกันจะตายไป สักพักพี่การ์ดเปิดประตูจากป้อมหน้าทางเข้าถามฉันว่า รอรถอยู่ใช่ไหม ฉันก็บอกว่าใช่ ไม่รู้หันไปคุยกะตาคนขับแล้วคนขับบอกหรือว่าพูดเองก็ไม่รู้ว่า ยูเดินไปตึกโน้นซิ ไอ้บ้าเอ๊ย...ฉันมีกระเป๋านะ แล้วฉันจ่ายแก เกือบสี่สิบเหรียญทั้งๆที่ถ้านั่งแทกซี่ปกติ จ่ายไม่เกินสิบเหรียญหรอก เพื่ออะไรยะ ก็เพื่อการบริการที่เริ่ดหรูแสนสะดวกสบาย แล้วจะให้ฉันเดินลากกระเป๋าไป ไม่มีทาง โกรธว้อย แหม..พูดยังกะจ่ายเอง เปล่าหรอก เงินบริษัทก็เหมือนเงินฉันแหละ ว่าไหม (ฮา) ว่าแล้วก็ทำหน้าหงิกรอให้ราชรถมาจอดหน้าตึกน่ะซิ เรื่องอะไรจะเดิน

แล้วพอไปถึงสนามบิน ฉันก็เป็นวีไอพีอีก ก็อานิสงส์ของการทำงานให้บริษัทนี่แหละ ฉันได้รับบัตรทองของการบินไทย ( Star Alliance ) ทำให้ฉันสามารถไปนั่งใน วีไอพีเลาจน์ได้ บางทีก็ไปบางทีก็ไม่ไป แล้วแต่อารมณ์ แต่เลาจน์พวกนี้ก็จะมีขนมนมเนย กาแฟ ชา ต่างๆนานา ให้ได้กินฟรี(เหอเหอ) เป็นไง วีไอพีอีกแล้ว ยังจ้ะ...ยังไม่พอ เวลาจะไปขึ้นเครื่อง วีไอพีอย่างดั๊น ได้ขึ้นก่อน ถึงแม้ดั๊นจะบินชั้นประหยัดก็เหอะ วุ้ย... แถมบางทีถ้าโชคดีมากๆ เวลาเครื่องเต็ม ก็มีสิทธิได้อัพเกรดก่อนด้วยนะ หลายครั้งมากที่ฉันได้อัพเกรดไปเป็นชั้นธุรกิจเวลากลับบ้าน แหม...ดีจัง ลำพังให้จ่ายเอง ไม่ไหวหรอกมั้ง แล้วเวลารอกระเป๋านะ กระเป๋าวีไอพีอย่างฉันก็ต้องออกมาก่อนด้วยหละ นี่..เป็นไง

พอมาถึงสนามบินที่ไต้หวัน ก็จะมีรถลีมูซีนของโรงแรมมารับอีกเหมือนกัน และแน่นอน เบนซ์เหมือนเดิม ราคาที่บริษัทจ่ายก็คือ 1850NT$(คูณ1.2 ให้เป็นบาท) ซึ่งปกติแล้ว ถ้าเรียกแทกซี่มา ตกอยู่ประมาณ 600NT$เองนะ คนขับลีมูจะใส่ชุดเต็มยศใส่หมวกใส่ถุงมือด้วยแหละ แล้วพอเราขึ้นรถปุ๊บ คนขับก็จะรีบโทรศัพท์ไปบอกโรงแรมว่า รับคุณชื่อนี้ๆมาแล้วนะ สนามบินไต้หวันอยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ ขับรถชั่วโมงกว่าๆ พอลงทางด่วนเข้าเมืองปุ๊บ คนขับก็โทรอีกทีว่า ลงทางด่วนแล้วนะจ๊ะ ตั้งแถวได้(อันนี้ฉันคิดเอง..ก็เป็นแบบนี้จริงๆน่ะ) พอรถจอดปุ๊บ พนักงานโรงแรมก็จะกรูกันลงมารับฉัน ส่งสียงเรียกกันระงม(อันนี้เว่อร์น่ะ แฮ่ม) ชอบจริงจริ๊ง (สรุปว่าฉันชอบอะไรเว่อร์ๆมั้ง...)

โรงแรม Ritz Landis ที่ไต้หวันนี่เป็นโรงแรมที่ฉันชอบที่สุดตลอดชีวิตการเดินทางของฉันเลยนะ ขนาดไปอยู่ แชงกรีล่า มาแล้วฉันว่ายังไม่ดีเท่า ตัวโรงแรมไม่ใหญ่หรอก แต่พนักงานบริการกันสุดยอด ไม่รู้สอนกันมายังไง ฉันเดาเอาว่า คงประมาณ บริการของโอเรียนเต็ลที่ใครๆติดใจในบ้านเรานั่นแหละ ไม่รู้เหมือนกัน ยังไม่มีปัญญาไปลองนอนที่โอเรียนเต็ลเสียที ไว้เงินเหลือใช้จริงๆจะลองนะ

ที่โรงแรมนี้ เขาสอนพนักงานได้ดีมากๆ ทุกคนทุกระดับเลยนะ เขาจะสอนพนักงานให้ทักทาย จำชื่อแขกให้ได้ เวลาจะออกไปข้างนอก ทักกันตั้งแต่ พนักงานต้อนรับสาวๆสวยๆ เบลบอย คนเปิดประตูไปยันยาม ที่นี่จะมีพนักงานคอยจัดการเรื่องรถเข้าออกหน้าโรงแรม รวมทั้งเรียกแทกซี่ให้กับแขกด้วย คนที่ทำตำแหน่งนี้คนโปรดของฉันเป็นคุณลุงคนหนึ่ง ทำงานโคตรแอคทีฟ แกจำฉันได้(เพื่อนร่วมบริษัทฉันด้วย เพราะบริษัทเราส่งคนมาที่นี่หลายคน คนละนานๆ) แกชอบชวนฉันคุย ก็ทักทายกันน่ะ แรกๆไม่ชอบแกหรอก แกดุฉัน เพราะฉันไม่รู้ว่าไอ้ที่ๆลูกค้าแนะนำให้ไปมันเรียกว่าอะไร ตอนหลังพอสนิทกันถึงได้รู้ว่าไม่ได้ดุหรอก แต่แบบอยากช่วยแบบจริงจังจนเหมือนคาดคั้นน่ะ นึกออกไหม เวลาเห็นคุณลุงคนนี้ทำงานนะ ฉันจะนึกทุกทีเลยว่า อะไรทำให้แกสามารถทำงานแบบนี้เป็นเวลาสิบยี่สิบปี โดยยังคงความแอคทีฟแบบนี้ได้ น่าคิดไหม อะไรทำให้แกทำได้ แกกระตุ้นตัวเองยังไง แต่ฉันไม่ได้ถามหรอก ภาษาอังกฤษที่จำกัดของแก(เอ่อ...และภาษาจีนที่จำกัดของฉัน) ทำให้ฉันสามารถชวนแกคุยได้เฉพาะเรื่องง่ายๆเท่านั้น แต่คิดถึงทีไร ประหลาดใจทุกที ทำได้ไง (อยากทำได้แบบนี้มั่งน่ะ)

แล้วเวลาไปกินอาหารเช้าก็จะมีพนักงานทักทาย ชวนคุย บางคนวิ่งมาคุยด้วยทั้งๆที่ภาษาอังกฤษของตัวก็ไม่ได้เก่ง พูดได้งูๆปลาๆ แต่ก็มายิ้ม มาทัก มาอีกแล้วเหรอยู หนนี้มากี่วันละจ๊ะ ทำนองนี้ แขกอย่างฉันรู้สึกดีทุกครั้งเลย เหมือนมาเจอคนคุ้นเคยน่ะ ไม่ใช่โรงแรมที่แสนจะแห้งแล้งน่าเบื่อ อย่าลืมว่าคนอย่างพวกฉัน ทำงานที อยู่กันเป็นเดือน อะไรทำให้รู้สึกดีเหมือนอยู่บ้านหรืออยู่ในแวดวงของคนคุ้นเคย ก็จะรู้สึกดีและอบอุ่น พูดจริงๆนะ

แล้วเวลากลับจากข้างนอกเข้ามา วู้ย...ทักกันเกรียว...เอ๊ย...ไม่ใช่ๆ ทักกันระงม...เอ๊ะ...นี่มันดีขึ้นไหม เอาว่า ทักจนฉันอายน่ะ ยิ่งฉันเป็นแขกที่มาบ่อย บางคนจำชื่อได้ วุ้ย..ทักกันดังจนฉันเขินไปเลย เดินไปขึ้นลิฟท์ขาแทบขวิดกัน บ้าน่ะตะเอง....เค้าเขินนะยะ

แต่เชื่อไหม ฉันว่าการที่ฉันได้รับการให้บริการแบบพิเศษพวกนี้ ทำให้บางครั้งฉันว่าฉันเอาแต่ใจตัวมากขึ้นนะ บางทีหงุดหงิดว่า ทำไมไม่ได้แบบนั้นๆแบบนี้ๆนะ เช่นว่า พอกระเป๋าฉันซึ่งมีป้าย priority ไม่ออกมา ฉันก็จะหงุดหงิดแล้ว ทำไมฟะ ว้าย ยัยนั่นทำไมได้กระเป๋าก่อนเรา ไม่มีป้ายเสียหน่อย(เว่อร์ไหม เกิดกะฉันจริงๆนะ) หรืออย่างรถลีมูสุดหรูมาช้าไปแค่ห้านาทีสิบนาที วุ้ยโกรธ แปลกน่า..โกรธทำไม ชาวบ้านเขารอรถเมล์กันเป็นชั่วโมง แค่นี้ทำบ่น เว่อร์ย่ะยัยคุณนาย อะไรงี่เง่าทำนองนี้น่ะ แต่หลังๆฉันเริ่มรู้ตัวแล้วว่า ไม่ควรงี่เง่ากับเรื่องแบบนี้ ไอ้อะไรพิเศษๆที่ได้มา ถือว่าเป็นกำไร ไม่ได้ก็อย่าเดือดร้อนไป ไม่เห็นจะเป็นไร อย่าเว่อร์ อย่าเอาแต่ใจตัวกับเรื่องไร้สาระ บางทีรู้สึกว่าตัวเองเป็นวัวลืมตีน ยังไงไม่รู้ ต้องพยายามเตือนตัวเองไว้ ก็พอจะดีขึ้นนะ พ่อไม่อยู่กำราบฉันแล้ว ฉันต้องหัดกำราบตัวเอง ถ้าพ่ออยู่พ่อคงทำหน้าเครียดแล้วเรียกมาอบรมขนานใหญ่แน่เลย โทษฐานลืมตัวเกินเหตุน่ะซิ

ปล. พระเจ้ายังคงรักษาสมดุลธรรมชาติอยู่เสมอ ฉันได้ชดใช้ไอ้ความเป็น V.I.P. ทั้งหลายด้วยการทำงานโงหัวไม่ขึ้นอย่างที่รู้กัน อย่างทริปนี้นะ วันนี้วันแรก ทำงานจนถึงสี่ทุ่มเลยจ้า...สมน้ำหน้าจริงๆ




Create Date : 15 สิงหาคม 2548
Last Update : 15 สิงหาคม 2548 23:09:32 น. 0 comments
Counter : 360 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Nung+Ning+
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add Nung+Ning+'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.