14 Blades
กำหนดฉาย : 13 พฤษภาคม 2553
แนว : แอ็คชั่น
นำแสดง : เจินจื่อตัน, จ้าวเหว่ย, อู๋จุน
กำกับ : แดเนียล ลี

จุดเด่น

- ภาพยนตร์แอ็คชั่นอลังการฟอร์มยักษ์ รวมสุดยอดนักแสดงแห่งเกาะฮ่องกงเอาไว้อย่างคับคั่งไม่ว่าจะเป็น เจินจื่อตัน ซูเปอร์สตาร์นักบู๊สุดร้อนแรงแห่งเกาะฮ่องกง รับบทเป็น "มังกรเขียว" ยอดองค์รักษ์ที่เริ่มสงสัยว่า สิ่งที่ตนและพวกพ้องทำอยู่นั้น เป็นสิ่งที่ถูกต้องหรือไม่, เจ้าหญิงแสนสวย จ้าวเหว่ย และนักฆ่าหน้าหล่อ อู๋จุน กำกับภาพยนตร์โดย แดเนียล ลี จาก Black Mask และ Three Kingdoms : Resurrection of the Dragon (สามก๊ก) เป็นการดัดแปลงจากภาพยนตร์เก่าสุดคลาสสิคของ ชอว์บราเดอร์เรื่อง Secet Service of the Imperial Court (ยอดองค์รักเสื้อแพร) ที่มีเหลียงเจียเหยิน นำแสดงเมื่อ 25 ปีที่แล้ว

- 14 Blades หนังกำลังภายในยุคราชวงศ์หมิง กลุ่มราชองค์รักษ์ของฮ่องเต้ กลายเป็นหน่วยงานนอกกฎหมายที่มีความสำคัญยิ่งยวด ในการปฎิบัติการลับต่าง ๆ ทั้ง ล้วงความลับ ลอบสังหาร ค้นหา และทำลายผู้มีแนวโน้มเป็นภัยต่อสถาบัน พวกเขาล้วนเป็นเด็กกำพร้าที่ถูกเก็บมาจากข้างถนน ถูกฝึกฝนวิชาชั้นยอด และมอบมีดทั้ง 14 เล่ม (8 เล่มเพื่อทรมาน, 5 เล่มเพื่อสังหารเหยื่อ และเล่มสุดท้ายสำหรับปลิดชีพตัวเอง ยามเสียทีแก่คู่ต่อสู้)

เนื้อเรื่อง 14 Blades

"องค์รักษ์เสื้อแพร" คือหน่วยลับของทางราชการที่ก่อตั้งขึ้นในสมัยราชวงศ์หมิง ประกอบไปด้วยเหล่าราชองค์รักษ์มากฝีมือ วัตถุประสงค์หลักคือปกป้ององค์ฮ่องเต้ในภาวะวิกฤตศรัทธาและกำจัดผู้ที่หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ด้วยความที่ขึ้นตรงต่อองค์ฮ่องเต้ หน่วยองค์รักษ์เสื้อแพรจึงอยู่เหนือกฎหมาย คอยดูแลต่างพระเนตรพระกรรณ สืบหาและกำจัดผู้ต้องสงสัยว่าเป็นภัยต่อราชบัลลังก์ที่เงื้อมมือของกฎหมายเอื้อมไม่ถึง

ไม่มีใครหลุดรอดจากหน่วยงานที่เปรียบเสมือนตำรวจลับนี้ไปได้แม้แต่สมาชิกในหน่วยเอง อย่างไรก็ตาม หน่วยกล้าตายนี้ถึงคราวต้องระส่ำระสายเมื่อองค์ฮ่องเต้ที่พวกเขาเคยถวายสัตย์ปฏิญาณว่าจะจงรักภักดีตราบชั่วฟ้าดินสลายกลายเป็นตัวประกันและหุ่นเชิดของ เจี่ย เจ้ากระทรวงพิธีการและขันทีที่ทรงอิทธิพลที่สุดในวังหลวง ในขณะเดียวกัน เฉียวฮัว สาวน้อยซึ่งตกบันไดพลอยโจนมาพัวพันกับเรื่องลับในราชสำนักและสถานการณ์การเมืองอันร้อนแรงต้องดั้นด้นฝ่าพายุทะเลทรายโหมกระหน่ำเพียงลำพัง แต่กระนั้น แม้ว่าเสียงลมจะอื้ออึงสักเพียงใดก็ไม่อาจกลบเสียงใส ๆ จากกระดิ่งน้อย ๆ บนกำไลข้อเท้า อันเป็นของกำนัลที่เปี่ยมไปด้วยความหมายจากหัวหน้าหน่วยองค์รักษ์เสื้อแพรผู้ซึ่งติดตรึงอยู่ในใจเธอไม่เสื่อมคลาย

ท่ามกลางสายฝนสาดซัดในยามเย็น จอมยุทธ์ในเสื้อกันฝนที่ชุ่มโชกไปด้วยเลือดระหกระเหินมาขอความช่วยเหลือจากสำนักคุ้มภัย เวลานี้ชิงหลงกับตัวตนที่ไม่มีใครรู้ว่าเดิมทีคือหนึ่งในหน่วยองค์รักษ์เสื้อแพรต้องการที่พักฟื้น เขาบาดเจ็บระหว่างปฏิบัติภารกิจที่ได้รับมอบหมายจาก ฉี ผู้ที่เป็นทั้งอาจารย์และผู้บัญชาการหน่วย นั่นคือ โจรกรรมตราประจำตำแหน่งเจ้ากระทรวงกลาโหมมาจาก จ้าว เพื่อสั่งเดินทัพไปช่วยเหลือองค์ฮ่องเต้ รวมถึงรายนามขุนนางผู้ภักดีที่เตรียมจะสมคบคิดกับกบฏจ้าวเพื่อต่อต้าน เจี่ย ขันทีกังฉินที่ยึดอำนาจในราชสำนักไว้หมดแล้ว แต่เมื่อภารกิจลุล่วง เสียนอู่ สหายในหน่วยองค์รักษ์เสื้อแพรกลับสังหารจ้าวและช่วงชิงรายนามไป มิหนำซ้ำ ระหว่างที่ชิงหลงสับสนจนแทบจะตั้งตัวไม่ติด เสียนอู่ยังหันกลับมาจ้วงแทง แต่ท้ายที่สุด ชิงหลงก็รวบรวมสติหนีมาได้พร้อมกับตราประจำตำแหน่งของท่านจ้าว นอกจากจะเศร้าโศกที่ถูกหักหลังและพ่ายแพ้ เขายังแค้นใจที่หลงซื่อสัตย์ไม่ลืมหูลืมตาและทำเรื่องเลวร้ายเพื่อหน่วยองค์รักษ์เสื้อแพรมามากมาย นับแต่นี้ เขาไม่กล้าไว้ใจใครและไม่อยากศรัทธาสิ่งใดอีกต่อไป

ประกาศจับชิงหลงพร้อมด้วยข่าวลือว่าเขาคือผู้สังหารท่านจ้าวและครอบครัวของขุนนางผู้ภักดีแพร่สะพัดไปทั่วเมืองหลวง เพียงชั่วข้ามคืน ชิงหลงเปลี่ยนสถานะจากผู้ล่าเป็นถูกล่า ผู้ลี้ภัยที่ถูกใส่ร้ายและเต็มไปด้วยความคับข้องใจหลบหลีกการจับกุมด้วยกลยุทธ์อันแยบคายที่ฝึกมาเป็นอย่างดีจากหน่วยองค์รักษ์เสื้อแพร โดยขอให้สำนักคุ้มภัยอี้เทียนช่วยลักลอบนำเขาออกจากเมืองหลวง

ลูกสาวคนเดียวของหัวหน้าเฉียว คือ เฉียวฮัว ซึ่งรับหน้าที่เบ็ดเตล็ดอยู่ในสำนักคุ้มภัย ได้รับมอบหมายให้คอยพยาบาลชิงหลงอย่างดี ทันทีที่ผ่านพ้นประตูเมืองมาได้อย่างปลอดภัย ชิงหลงหยิบมีดเล่มหนึ่งออกจากกระเป๋าและเปิดปากแผลที่ซ่อนตราประจำตำแหน่งของท่านจ้าวไว้ ในขณะเดียวกัน มีการเผยรายนามที่ได้มาจากท่านจ้าว รวมถึงรายนามของเจ้ากระทรวงต่าง ๆ ที่ถูกสังหารต่อเนื่องกันมา ซึ่งทั้งหมดถูกยัดเยียดให้เป็นฝีมือของชิงหลง เวลานี้เขากลายเป็นผู้ที่ทางการต้องการตัวมากที่สุดในปฐพี มีชีวิตที่แขวนอยู่บนเส้นด้าย แค้นเคืองอย่างสุดแสน และสาบานว่าจะสืบเสาะลงไปให้ถึงต้นตอของแผนชั่วเพื่อทวงคืนความยุติธรรมให้ตัวเองให้ได้

ระหว่างเดินทาง โจรกลุ่มหนึ่งขูดรีดค่าผ่านทางจากขบวนของสำนักคุ้มภัยอี้เทียน ทว่าเฉียวฮัวออกหน้าปฏิเสธตามวิธีที่ชิงหลงบอก หลังจากนั้น เฉียวฮัวยิ่งหลงใหลได้ปลื้มในตัวชิงหลงมากยิ่งขึ้นเมื่อเขาออกโรงปกป้องคนอ่อนแอจากความอยุติธรรมอย่างกล้าหาญ แต่นั่นกลับหมายถึงการเผยที่อยู่ของตัวเองให้ศัตรูล่วงรู้ เสียนอู่และสมาชิกในหน่วยองค์รักษ์เสื้อแพรจึงพุ่งตรงมาหาเขาทันที ทว่าชิงหลงเอาชนะได้และไว้ชีวิตทุกคน

หลังจากการต่อสู้อันดุเดือดผ่านพ้นไป เสื้อของชิงหลงฉีกขาดและเผยให้เฉียวฮัวเห็นรอยสักคำว่า "องค์รักษ์เสื้อแพร" บนหน้าอก หัวใจของเธอแตกสลายที่ได้รู้ว่า "อัศวินในฝัน" แท้ที่จริงแล้วเป็นหนึ่งในสมาชิกของหน่วยงานลับอันแสนโหดเหี้ยมและไร้คุณธรรม เมื่อความจริงเผยออกมา พ่อของเฉียวฮัวซึ่งเป็นนายใหญ่แห่งสำนักคุ้มภัยถึงกับยกเลิกการช่วยเหลือชิงหลงทันที มิหนำซ้ำยังสั่งให้จ่ายค่าจ้างทั้งหมดคืนเขาไป ชิงหลงในความสิ้นหวังไร้ทางออกจำต้องเลือกที่จะใช้วิธีเลวร้ายแบบองค์รักษ์เสื้อแพร นั่นคือ จับเฉียวฮัวเป็นตัวประกันและบังคับให้พ่อของเธอปล่อยข้อมูลเท็จเกี่ยวกับเส้นทางที่เขาใช้หนี

ฝ่าย เจี่ย ขันทีกังฉินและเจ้ากระทรวงพิธีการก็ไล่สังหารขุนนางผู้ภักดีในรายนามที่ได้มาจากจ้าวจนหมดสิ้นเพื่อถางทางไปสู่แผนการโค่นราชบัลลังก์ แต่กระนั้น ชิงหลงที่หนีไปพร้อมกับตราประจำตำแหน่งของท่านจ้าวยังคงเป็นเสี้ยนหนามในใจเขาไม่เสื่อมคลาย เป็นเหตุให้ต้องเดินหมากนอกแผน ส่งอักษรสาส์นไปถึงกษัตริย์มองโกล โดยยื่นข้อเสนอให้มองโกลเป็นแนวร่วมในการลดความเป็นปึกแผ่นของคนในชาติลงแล้วจะแบ่งดินแดนให้ครึ่งหนึ่งหลังจากทุกอย่างจบลง

เจี่ยแอบสอดแทรกอักษรสาส์นไว้ในของกำนัลที่จะนำไปถวายกษัตริย์มองโกลเนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ พร้อมกับสั่งเพิ่มกำลังพลพลิกแผ่นดินล่าชิงหลง โดยหวังว่าจะลุล่วงก่อนที่ชิงหลงจะส่งตราประจำตำแหน่งเจ้ากระทรวงกลาโหมไปถึงศัตรูคู่อาฆาตของเขา นั่นคือ นายพลหลงซี ในขณะเดียวกัน จากการที่เจี่ยตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จใส่ร้ายชิงหลง ผู้คนต่างพากันเข้าร่วมในกองกำลังไล่ล่ามากขึ้นเรื่อย ๆ งานนี้ชิงหลงและตัวประกันสาว เฉียวฮัว จึงตกอยู่ในอันตรายอย่างสุดแสนจากศัตรูที่รุมล้อมรอบด้าน

ทันทีที่ล่วงรู้ที่อยู่ของชิงหลงจากสายลับสอดแนมของ เสียนอู่ ผู้เป็นหนึ่งในหน่วยองค์รักษ์เสื้อแพร เจี่ยรีบประกาศเคลื่อนพลตามล่าสะท้านแผ่นดิน แต่ทันใดนั้น หญิงงามนางหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าเจี่ย แท้ที่จริงแล้ว แม่นางแปลกหน้าที่แสนจะชดช้อยและงามสง่าผู้นี้คือทูตลับจากกษัตริย์มองโกล นามว่า เถา เธอเป็นสมาชิกในหน่วยงานลับของมองโกลที่เทียบได้กับหน่วยองค์รักษ์เสื้อแพรของจีน จึงเชี่ยวชาญศิลปะการต่อสู้ เล่ห์เหลี่ยมแพรวพราว และดูเย็นชาไร้อารมณ์ความรู้สึก เถาบอกเจี่ยว่า อันที่จริงนั้น ชิงหลงไม่ได้กำลังหนี แต่องค์รักษ์เสื้อแพรคนนี้กำลังวางแผนต่อต้านเจี่ย เขาจงใจปล่อยเสียนอู่กลับมาเพื่อจะได้รู้ที่อยู่ของเจี่ย ทั้งหมดล้วนเป็นแผนที่ชิงหลงวางไว้เพื่อสกัดกั้นแผนการถวายของกำนัลสอดแทรกอักษรสาส์นแด่กษัตริย์มองโกล นอกจากนี้ เธอยังเตือนเจี่ยว่าถ้าชิงหลงล่วงรู้ทุกอย่าง เขาจะต้องส่งตราประจำตำแหน่งเจ้ากระทรวงกลาโหมของท่านจ้าวไปให้นายพลหลงซีซึ่งสามารถระดมพลมาต่อต้านเจี่ยได้ ด้วยความไม่ไว้ใจแม่นางเถา องค์รักษ์ประจำตัวเจี่ยนายหนึ่งพุ่งกระบี่ไปหาเธอ แต่เธอใช้เสื้อคลุมวิเศษปัดป้องได้ทั้งสามครั้ง มิหนำซ้ำยังไม่พูดพล่ามทำเพลงพุ่งกระบี่สวนกลับไปเจาะกะโหลกองค์รักษ์ หลังจากปล่อยให้ความเงียบปกคลุมอยู่สักพัก เถาเผยต่อเกี่ยวกับแผนของชิงหลงในการสกัดกั้นขบวนอารักขาของกำนัลแด่กษัตริย์มองโกล และท้ายที่สุดก็ให้คำมั่นสัญญาว่าจะใช้สติปัญญาแบบสายลับชั้นเลิศบวกกับการรู้เท่าทันกลยุทธ์แบบทะลุปรุโปร่งจับตัวชิงหลงมาให้ได้

ในขณะที่ชิงหลงซึ่งอัดแน่นไปด้วยความคับข้องใจหนีมาพร้อมกับตัวประกันสาว เฉียวฮัวโกรธจัด หน้าบึ้ง และเงียบกริบตลอดทาง แต่แล้วก็เปิดอกพูดว่าเธอไม่มีประโยชน์ต่อเขาแถมยังเป็นภาระเสียด้วยซ้ำ ก่อนจะตั้งคำถามว่าแล้วเขาจะจับเธอไว้อีกทำไม อันเป็นคำถามที่ชิงหลงเองก็หาได้รู้คำตอบไม่

วันเวลาผ่านไป เฉียวฮัวสังเกตเห็นว่า ระหว่างที่ถูกตามล่า ชิงหลงปกป้องเธอแบบสุดความสามารถ แต่ไม่เคยพูดถึงหรือเอ่ยถามใด ๆ จนกระทั่งมุมมองที่มีต่อองค์รักษ์เสื้อแพรเริ่มเปลี่ยนไปเพราะความใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อย ๆ ที่ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะมี กล่าวคือ ครั้งหนึ่งชิงหลงกุมมือเธอไว้ขณะที่กระโดดลงไปในทะเลสาบด้วยกัน ทันทีที่ดวงตาของทั้งสองจับจ้องกันและกันใต้ผิวน้ำ ภาพเก่า ๆ เมื่อครั้งที่เขาสังหารเพื่อนเพียงคนเดียวในชีวิตระหว่างฝึกดำน้ำมหาโหดก็ย้อนกลับมาย้ำเตือน พอพ้นจากน้ำขึ้นมาได้ ข้อเท้าของเฉียวฮัวกลับถูกพันธนาการด้วยกำไลกระดิ่งน้อยซึ่งเขาใช้เป็นเครื่องเตือนยามเธอหนีเสียแล้ว

เถาคาดการณ์ได้ถูกต้องเกี่ยวกับเรื่องที่ชิงหลงจงใจปล่อยเสียนอู่เพื่อจะได้ล่วงรู้แผนร้ายของเจี่ยที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังการถวายของกำนัล ชิงหลงตกใจมากเมื่อเห็นว่าผู้อารักขาขบวนอัญเชิญของกำนัลคือ ฉี ซึ่งเป็นทั้งอาจารย์ของเขาและผู้บัญชาการหน่วยองค์รักษ์เสื้อแพร เวลานี้ชิงหลงตระหนักชัดแล้วว่าภารกิจที่อาจารย์มอบหมายให้ไปโจรกรรมตราประจำตำแหน่งและรายนามจากท่านจ้าวนั้นแท้ที่จริงแล้วคือต้องการส่งเขาไปเป็นแพะรับบาปและเอื้อประโยชน์ต่อเจี่ย เมื่อความจริงปรากฏชัดขนาดนี้ ชิงหลงก็ยิ่งทวีความเศร้า ความอดสู และความเกลียดชังอย่างสุดแสน จึงตัดสินใจบุกช่วงชิงอักษรสาส์นเพื่อลบล้างความผิดเก่า ๆ ที่กระทำไว้ ทันใดนั้น การต่อสู้ชุลมุนดุเดือดยิ่งขึ้นเมื่อ เฟิง ผู้นำกลุ่มกรรมกรเหมืองเข้ามาผสมโรงกำจัดชิงหลงเพื่อแก้แค้นให้กับเหล่าขุนนางผู้ภักดีที่ถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยม ทว่าประฝีมือกันไปสักพัก ต่างฝ่ายต่างรู้จักกันมากขึ้นและกลายเป็นสหายกันในที่สุด ชิงหลงเผยแผนของเจี่ยในการก่อกบฏเพื่อยึดอำนาจปกครองจากองค์ฮ่องเต้ให้เฟิงรู้ พร้อมทั้งแสดงตราประจำตำแหน่งของเจ้ากระทรวงกลาโหมผู้ล่วงลับและชักชวนผู้นำกรรมกรคนนี้มาเป็นแนวร่วมในการช่วงชิงตราระดมพลและอักษรสาส์นเพื่อส่งต่อให้นายพลหลงซี ซึ่งมีอำนาจพอที่จะส่งกองทัพไปปกป้ององค์ฮ่องเต้

หลังจากพูดคุยจนเห็นพ้องต้องกันแล้ว เฟิงเสนอแนะให้เฉียวฮัวปลอมเป็นเกอิชาเพื่อเข้าไปประชิดขบวนอัญเชิญของกำนัลและค้นหาที่ซ่อนอักษรสาส์น ขณะที่เฉียวฮัวแต่งองค์ทรงเครื่องเป็นเกอิชาอยู่นั้น ชิงหลงมองเธอเงียบ ๆ ด้วยความรู้สึกเสียใจที่พาสาวน้อยคนนี้มาตกระกำลำบาก ต่อเมื่อเฉียวฮัวพร้อมจะออกปฏิบัติการ ทั้งคู่กลับโผเข้ากอดกันแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยและไร้ซึ่งเหตุผล

ชิงหลงได้พบกับอาจารย์ฉีอีกครั้งเมื่อฉีได้เลื่อนตำแหน่งเป็นผู้คุมกฎในมณฑลตะวันออกซึ่งกินเนื้อที่กว่าหนึ่งพันหลังคาเรือน ชิงหลงเชื่อว่าการเลื่อนตำแหน่งครั้งนี้คือเหตุผลที่ฉีทรยศเขา แต่แท้ที่จริงแล้วหาได้เป็นเยี่ยงนั้นไม่ ครอบครัวของฉีตกอยู่ในกำมือของเจี่ย ซึ่งฉีไม่มีทางเลือกนอกจากทำตามคำสั่งและกำจัดชิงหลงที่ล่วงรู้ความลับมากเกินไป อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้น อาจารย์กับศิษย์ซึ่งเคยเป็นดังพ่อกับลูกต้องต่อสู้ห้ำหั่นกันอย่างขมขื่น ทว่าสุดท้ายชิงหลงก็ใจไม่แข็งพอที่จะสังหารอาจารย์ซึ่งสนิทสนมเหมือนญาติในครอบครัวและปล่อยเขาไป

ในที่สุด เฟิงก็ได้อักษรสาส์นมาอยู่ในมือ แต่เถากลับตามมาทันและพลิกสถานการณ์จากหน้ามือเป็นหลังมือ เฟิงรีบส่งตราประจำตำแหน่งเจ้ากระทรวงกลาโหมคืนให้ชิงหลง และคุ้มกันกลุ่มกรรมกรด้วยชีวิตระหว่างล่าถอย ในขณะที่เถาและชิงหลงซึ่งฝีมือเท่าเทียมกันต่างใช้ทักษะและเล่ห์เหลี่ยมที่เรียนรู้และฝึกฝนมาตลอดชีวิตมาประหัตประหารกัน ผ่านไปหลายกระบวนยุทธ์ แต่ชิงหลงยังคงปกป้องตราประจำตำแหน่งและอักษรสาส์นไว้ได้เป็นอย่างดี เถาจึงแก้คืนด้วยการจับตัวเฉียวฮัวไป ชิงหลงตามไปช่วยเฉียวฮัวออกมาจากพวกมองโกลและกลับมาได้อย่างปลอดภัยทั้งคู่ แต่กระนั้น ชิงหลงตระหนักว่ายังมีสถานการณ์เลวร้ายรออยู่ข้างหน้าอีกมากมายตราบที่เถายังวนเวียนอยู่ใกล้ ๆ และคงถึงเวลาแล้วที่ต้องส่งเฉียวฮัวกลับบ้านเพื่อความปลอดภัยของเธอเอง

หลังจากชิงหลงส่งเฉียวฮัวคืนให้พ่อของเธอ เธอเล่าทุกอย่างให้พ่อฟัง เพื่อผดุงความเป็นธรรม หัวหน้าสำนักคุ้มภัยจึงเสนอตัวเป็นแนวร่วมกับฉิงหลงระหว่างเดินทางไปหานายพลหลงซี

บนเส้นทางสู่นายพลหลงซี มีไพร่พลของเจี่ยประจำการอยู่พร้อมด้วยฉีที่เฝ้ารอการมาถึงของชิงหลงตามแผนการที่เถาวางไว้ ในขณะที่พายุทรายโหมกระหน่ำ ขบวนอาวุธครบมือของสำนักคุ้มภัยอี้เทียนเข้าโรมรันฟาดฟันศัตรูแบบไม่คิดชีวิต เฉียวผู้พ่อห้ำหั่นกับอาจารย์ฉีจนกระทั่งตายตกตามกันไปในที่สุด ส่วนทางด้านสมรภูมิหลัก ระหว่างที่ชิงหลงเตรียมสู้กับเถาเป็นครั้งสุดท้าย เขาสั่งให้เฉียวฮัวที่น้ำตานองหน้าคุมขบวนต่อไปด้วยตัวเอง พร้อมทั้งปลอบโยนด้วยการบอกความลับกับเธอว่ากำไลกระดิ่งน้อยที่สวมข้อเท้าของเธออยู่นั้น แท้ที่จริงแล้วมันเคยอยู่กับเขาเมื่อตอนที่เขาเป็นเด็กกำพร้าถูกทิ้ง และนั่นคือของชิ้นเดียวที่บ่งชี้ถึงชีวิตของชิงหลงก่อนที่จะกลายเป็นองค์รักษ์เสื้อแพร

พายุทรายในเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ครั้งนี้ราวกับมีส่วนช่วยให้แต่ละคนได้ย้อนทบทวนตัวเอง ระหว่างที่จับจ้องแววตาของชิงหลงขณะมองเฉียวฮัวเดินจากไป หัวใจของหญิงงามชาวมองโกลท่วมท้นไปด้วยความรู้สึกอิจฉาริษยา ความน้อยเนื้อต่ำใจ และความว่างเปล่า เธอหวังว่าการต่อสู้ในวันนี้จะเป็นการจบชีวิตที่ไม่ต่างจากอาวุธสังหารไร้ความรู้สึกนี้เสียที เช่นเดียวกับชิงหลงที่ไม่หวาดหวั่นต่อบทลงเอยของการต่อสู้ เขาล้างมลทินให้ตัวเองเรียบร้อยแล้ว เขาหลุดพ้นออกจากเงาของหน่วยองค์รักษ์เสื้อแพรแล้ว เขารู้สึกเป็นอิสระอย่างแท้จริง และนับจากนี้เขาจะสู้ด้วยหัวใจ

เฉียวฮัวออกเดินทางฝ่าพายุทรายโดยลำพังเป็นครั้งแรก มิหนำซ้ำยังแบกภาระรับผิดชอบหนักอึ้งในการช่วยเหลือประเทศชาติและผู้คนให้อยู่รอดปลอดภัย ทว่าเธอจดจำสัญญาที่ให้ไว้กับชิงหลงได้เป็นอย่างดี : ลูกสาวของสำนักคุ้มภัยเทียนอี้จะไม่ทำให้ ชิงหลง ชายที่เธอเฝ้ารอวันที่จะได้พบกันอีกครั้งต้องผิดหวัง เธอยืนหยัดด้วยศรัทธาอันแรงกล้าและก้าวไปสู่วันข้างหน้าโดยไม่หวั่นเกรงใด ๆ




ข้อมูลจาก M Pictures



Create Date : 30 เมษายน 2553
Last Update : 30 เมษายน 2553 23:33:51 น.
Counter : 478 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Caffein Dog
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]



Group Blog
เมษายน 2553

 
 
 
 
2
3
4
5
6
7
10
11
12
13
14
15
16
18
20
21
22
23
25
27
29
 
 
All Blog