แบบทดสอบเช็ค"ความสัมพันธ์ชีวิตคู่"
หลายคู่เชื่อมั่นในต้นทุนความรักเดิมที่นับวันยิ่งมีสิ่งยั่วยุเข้ามากัดกร่อน ซึ่งพอมีเหตุการณ์เข้ามาเปลี่ยนแปลง ความหนักแน่นในชีวิตก็อาจเริ่มลดน้อยลงได้ ถ้าสามีภรรยาคู่ไหนกำลังเกิดเหตุการณ์ทำนองนี้...นี่คือสัญญาณความห่างเหิน (รึเปล่า) ลองมาทดสอบดีกรีสัมพันธ์ระหว่างคุณทั้งสองกันหน่อยดีกว่าค่ะ

Love Test

แบบประเมินนี้จัดทำโดยกรมสุขภาพจิต เพื่อเป็นแนวทางให้กับคู่สมรสได้มีโอกาสทบทวนถึงความเป็นไปในชีวิตสมรส สามารถใช้ประเมินได้ด้วยตนเอง โดยเฉพาะกับคู่สมรสที่ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันมา 3 ปีขึ้นไปค่ะ แต่ละข้อมีหัวข้อย่อยให้เลือก 5 ข้อ ให้เลือกคำตอบที่ตรงกับคุณและครอบครัวมากที่สุด เพราะจะทำให้เห็นสภาวะความสัมพันธ์คู่ของเราได้ใกล้เคียงกับความเป็นจริง และผลดีก็คือคุณสามารถประเมินและวางแผนปรับตัวกับสถานการณ์ของชีวิตคู่ได้ อย่างเหมาะสมยังไงล่ะคะ

แบบประเมินความคิดเห็นต่อคู่สมรส

ด้านที่ 1 : ชื่นชมเห็นคุณค่า

..........1.1 (สามี/ภรรยา) เขาชื่นชมฉันเมื่อทำความดี
..........1.2 ให้กำลังใจเมื่อฉันต้องการ
..........1.3 ฉันภูมิใจในตัวเขา
..........1.4 เขามองเห็นคุณค่าในตัวฉัน
..........1.5 ครอบครัวของเขายอมรับฉัน

ด้านที่ 2 : เวลาที่อยู่ร่วมกัน

..........2.1 เขาพร้อมที่จะใช้เวลาพูดคุยกับฉันเสมอ
..........2.2 เรามีเวลาว่างพักผ่อนด้วยกัน
..........2.3 ฉันมีความสุขที่ได้ใช้เวลาอยู่ร่วมกับเขา
..........2.4 เรามีเวลาดี ๆ ตอนกินข้าวมื้อเย็นด้วยกัน
..........2.5 ฉันมีความสุขเมื่อมีเพศสัมพันธ์กับเขา

ด้านที่ 3 : ร่วมทุกข์ร่วมสุข

..........3.1 เขาห่วงใยฉัน
..........3.2 เขาพร้อมรับฟังปัญหาของฉัน
..........3.3 เมื่อมีปัญหาเดือดร้อนฉันจะนึกถึงเขา
..........3.4 ฉันมั่นใจว่าเขาจะอยู่เคียงข้างทุกเมื่อ
..........3.5 ฉันมั่นใจว่าเขาจะไม่ทอดทิ้งฉัน

ด้านที่ 4 : การสื่อสารกัน

..........4.1 เขาพูดกับฉันด้วยคำพูดที่ฉันพอใจ
..........4.2 เขาเปิดโอกาสให้ฉันแสดงความคิดเห็นที่ขัดแย้งได้
..........4.3 ฉันเปิดเผยความรู้สึกอย่างตรงไปตรงมาได้กับเขา
..........4.4 เขาเข้าใจฉันโดยไม่ต้องพูด
..........4.5 เขาแสดงว่ายังรักฉันอยู่

ด้านที่ 5 : ศรัทธาต่อศาสนา

..........5.1 เขาสนใจหลักคำสอนของศาสนา
..........5.2 เรามีกิจกรรมทางศาสนาร่วมกัน
..........5.3 เขาปฏิบัติตนตามหลักศาสนา
..........5.4 เขาพร้อมที่จะช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อน
..........5.5 เขานำหลักศาสนามาใช้ในแก้ปัญหา

ด้านที่ 6 : การจัดการกับวิกฤตการณ์ในครอบครัว

..........6.1 เขามีวิธีที่ดีในการตัดสินใจแก้ปัญหา
..........6.2 เขาไว้วางใจให้ฉันร่วมแก้ปัญหา
..........6.3 ฉันเชื่อมั่นว่าเขาสามารถจัดการปัญหาเฉพาะหน้าได้
..........6.4 เขามองว่าทุกปัญหามีทางออก
..........6.5 เขาวางแผนการชีวิตในอนาคต

การให้คะแนนแบ่งเป็น 5 ข้อ แต่ละข้อมีคะแนน ดังนี้...

- ไม่เคย ให้ 1 คะแนน
- น้อย ให้ 2 คะแนน
- ปานกลาง ให้ 3 คะแนน
- มาก ให้ 4 คะแนน
- มากที่สุด ให้ 5 คะแนน

การรวมคะแนน

ชั้นที่ 1 นำคะแนนที่ได้ในแต่ละด้านมาบวกกันแล้วหารด้วย 5 คุณจะเห็นผลของคะแนนที่แสดงถึงความสัมพันธ์ของคุณกับคู่สมรสในด้านนั้นๆ

ขั้นที่ 2 นำผลคะแนนที่ได้แต่ละด้านมาบวกกันแล้วหารด้วย 6 คุณก็จะได้ผลคะแนนเฉลี่ยออกมา ซึ่งมีเกณฑ์การแปลความหมายของค่าคะแนน ดังนี้…

* ค่าคะแนนเฉลี่ย ระหว่าง 3.67 - 5.00 : ระดับคุณภาพชีวิตสมรสในครอบครัวระดับสูง แสดงถึงความสัมพันธ์ที่อยู่ในเกณฑ์ดีถึงดีมาก ขอให้รักษาระดับนี้ไว้นอกจากจะดีต่อคุณทั้งคู่แล้วยังดีต่อครอบครัวของคุณอีกด้วยค่ะ

* ค่าเฉลี่ยระหว่าง 2.34 - 3.66 : ระดับคุณภาพชีวิตสมรสในครอบครัวระดับปานกลาง แสดงถึงความสัมพันธ์ที่อยู๋ในเกณฑ์พอใช้ถึงดี (คู่สมรสบ้านเราส่วนใหญ่อยู่ในระดับนี้ค่ะ) ความสัมพันธ์ระดับนี้ต้องลงลึกในรายละเอียดว่าส่วนใดที่คู่สมรสต้องเสริม เพิ่มเติม เพื่อความรักที่จะได้อยู่ยืนยงต่อไปค่ะ

* ค่าเฉลี่ยระหว่าง 1.00 - 2.33 : ระดับคุณภาพชีวิตสมรสในครอบครัวระดับน้อย แสดงถึงความสัมพันธ์ที่ต้องปรับปรุงค่ะ แล้วควรได้รับการซ่อมเสริมเพิ่มเติมในส่วนที่คุณทั้งคู่ยังบกพร่อง





กำจัดจุดอ่อน... เพิ่มจุดแข่ง

ถ้าคุณได้ค่าเฉลี่ยระหว่าง 1.00 - 2.33 ยิ่งต้องการซ่อมแซมชีวิตคู่กันแล้วล่ะ ลองมาดูกันค่ะว่าถ้าพร่องข้อไหนต้องเสริมอย่างไร

1. ชื่นชมคุณค่าคู่สมรส การชื่นชมเป็นสิ่งที่มนุษย์ทุกคนต้องการค่ะ แล้วยิ่งเป็นคนที่รักหากได้รับการชื่นชมจะเป็นเหมือนน้ำหล่อเลี้ยงที่ช่วย เติมคุณค่าชีวิตรักให้หวานชื่น แต่หากคุณภรรยามองว่าสามีไม่เคยพูดชมเลย ขณะที่ข้างฝ่ายคุณสามีมองว่าการสัมผัส การกอด หรือยิ้มให้ นั่นก็นับเป็นการชื่นชมอย่างหนึ่ง ถ้าคู่ไหนที่เป็นแบบนี้คุณทั้งคู่คงต้องปรับท่าทีและพูดคุยกันเพื่อให้เข้า ถึงความหมายและนัยยะของการชมเชย (อย่าลืมว่าคุณผู้ชายไม่ได้ปากหวานเหมือนกันทุกคนนะคะ)

2. การมีเวลาอยู่ร่วมกัน การลืมห้วงเวลาดี ๆ ที่เคยอยู่ร่วมกันเพราะถูกบดบังด้วยงานและภาระต่าง ๆ สิ่งเหล่านี้ลิดรอนความสัมพันธ์ชีวิตคู่ค่ะ ยิ่งนับวันการใช้เวลาอยู่ร่วมกันน้อยลง ความห่างเหินเข้ามาแทนที่ ทุกอย่างดูเร่งด่วนและต้องจัดการ ลองใช้วิธีจัดลำดับความสำคัญ หากคุณเป็นคนให้ความสำคัญกับคู่ชีวิตและครอบครัว คุณจะสามารถเรียงลำดับและจัดการได้ไม่ยากเลย หากมีเวลาอยู่ร่วมกันน้อยแต่เป็นช่วงเวลาคุณภาพได้ทำกิจกรรมร่วมกันอย่าง เต็มที่ก็เพียงพอค่ะ

3. ร่วมทุกข์ร่วมสุข ทำนองว่ามีสุขร่วมเสพมีทุกข์ร่วมต้านเป็นคติชีวิตคู่ที่ดีเชียวล่ะ เพราะการใส่ใจร่วมแก้ปัญหาซึ่งกันและกันจะทำให้อีกฝ่ายต่างรู้สึกว่าตัวเอง มีความสำคัญ เช่น ปัญหาหรือธุระของคุณก็เหมือนเป็นของฉันและร่วมกันแก้ปัญหา ถึงจะไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาได้ อย่างน้อยการได้อยู่เคียงข้างกันในสภาวะที่ต้องการกำลังใจก็ช่วยคลี่คลาย ให้ปัญหาที่หนักอึ้งเบาบางลงได้ด้วยค่ะ

4. การสื่อสารกัน คือการพูดคุยและแสดงท่าทีต่อกันในเชิงสร้างสรรค์ ใช่สักแต่ว่าพูด ๆ อยู่ฝ่ายเดียวแล้วเหมาว่าอีกฝ่ายเข้าใจทั้งหมดนะคะ ถึงอย่างไรการพูดคุยและแสดงท่าทีที่รักกันและมีความเป็นห่วงเป็นใยต่อกัน เป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับชีวิตคู่ นอกจากนั้น การพูดคุยกันยังเป็นจุดเริ่มต้นที่จะนำไปสู่การแก้ไขและนำไปสู่ ความเข้าใจซึ่งกันและกัน การกอด กุมมือ และสัมผัสกันเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่เพียงเท่านี้ก็ทำให้อีกฝ่ายรับรู้ถึงความห่วงใยที่มีให้กัน

5. ศรัทธาต่อศาสนา กิจกรรมทางศาสนาช่วยเชื่อมให้คนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ศาสนาเป็นเรื่องของความศรัทธาและเป็นที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจ แล้วความเชื่อนั้นก็เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงการประพฤติปฏิบัติของคน การมีหลักยึดมั่นในสิ่งเดียวกันจะช่วยเชื่อมให้คนทั้งคู่เข้าใจกันและกันได้ค่ะ

6. การจัดการกับวิฤตการณ์ในครอบครัว การมองโลกในแง่ดีและเห็นว่าทุกปัญหามีทางออกร่วมกัน ทั้งต่างฝ่ายต่างเชื่อมั่นว่าอีกฝ่ายสามารถแก้ไขปัญหาไปได้ จะช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นในการแก้ปัญหาแล้วก้าวผ่านอุปสรรคที่เข้ามาได้ค่ะ

3 จุด...เสริมรักแข็งแรง

1. อยู่ที่เรียนรู้อยู่ที่ยอมรับ (และปรับตัว) ทำตัวให้เหมือนเด็ก ที่เรียนรู้อยู่ตลอดเวลา ยิ่งกับความรักด้วยแล้ว ควรต้องเรียนรู้ทั้งอุปนิสัย ใจคอ บุคลิกลักษณะเป็นไปของเขา จะทำให้เข้าใจกันและกันเพื่อปรับตัว จูนความสัมพันธ์ให้ลงตัวค่ะ

2. ทะเลาะอย่างสร้างสรรค์ การขัดแย้งกันเป็นเรื่องธรรมดาของคนที่ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันค่ะ แต่การทะเลาะที่มุ่งไปเพื่อหาฝ่ายผิดรังแต่จะทำให้เกิดความขัดแย้งและไม่มี ที่สิ้นสุด ก่อนจะเริ่มทะเลาะให้สำรวจอารมณ์ของตัวเองก่อนที่จะเริ่มพูด เปลี่ยนจากความคิดที่จะทะเลาะกันมาเป็นร่วมกันหาสาเหตุของความขัดแย้งและหา ทางยุติเพื่อคลี่คลายปัญหาไปในทางที่ดีขึ้น ท่องไว้ว่าความเห็นต่างกันไม่ได้หมายความว่าไม่รักกันนะคะ

3. จัดการกับความผิดหวังครั้งแรก ชีวิตคู่ย่อมเกิดความผิดหวังขึ้นได้ค่ะ แต่เมื่อเกิดความผิดหวังเราสามารถจัดการกับความผิดหวังนั้นได้ เช่น "ทำไมถึงจำไม่ได้ว่าชอบสีอะไร" ด้วยความคาดหวังเพียงเล็กน้อยก็อาจจะกลายเป็นตะกอนสะสมในใจได้ว่าเขาไม่ใส่ ใจเรา ซึ่งจะส่งผลให้ท่าทีที่มีต่อกันเปลี่ยนแปลงไป แต่หากบอกกันตรง ๆ ว่าชอบสีแดง หรืออีกฝ่ายก็ถามตรง ๆ แทนการเงียบเฉยไปทั้งคู่ ก็จะช่วยให้ไม่สะสมกลายเป็นคลื่นใต้น้ำนะคะ

ด้วยวิธีการปรับทัศนคติ และนำเสนอวิธีการที่ให้นี้ อาจจะยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้ทั้งหมด แต่หากการแก้ปัญหาอยู่บนพื้นฐานของความต้องการอยู่ร่วมกันแล้วล่ะก็ เชื่อว่าไม่ว่าอุปสรรคใดๆ ทั้งคู่ก็จะสามารถก้าวผ่านไปได้ด้วยดีค่ะ

ศูนย์ซ่อมแซมชีวิตคู่

กรมสุขภาพจิตรับให้คำปรึกษา โทร. 0-2951-1300-29

ศูนย์ให้การปรึกษาชีวิตสมรส กลุ่มงานสังคมสงเคราะห์ โรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยา กรุงเทพฯ โทร. 0-2437-0220-8 ต่อ 4202-4205

มูลนิธิสถาบันครอบครัวไทย (มีคอร์สอบรมเพื่อพัฒนาชีวิตครอบครัว) โทร. 0-2559-3097-99 / //www.thisisfamily.org





ที่มาkapook.com



Create Date : 28 กันยายน 2553
Last Update : 28 กันยายน 2553 23:35:12 น.
Counter : 5907 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Caffein Dog
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]



Group Blog
กันยายน 2553

 
 
 
2
3
4
5
6
9
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
23
24
25
26
27
 
 
All Blog