คุณ"นับถือ"ตัวเองหรือไม่
บางคนก็บอกว่าความรักมาก่อนความนับถือ บ้างก็บอกว่าความนับถือมาก่อนความรัก แต่เราว่าทั้งความนับถือและความรักต้องมาพร้อมกันนะ ถ้าไม่นับถือตัวเองแล้วจะรักตัวเองได้อย่างไร มาตอบคำถามแล้วเช็กคำตอบข้างล่างกันก่อน


1. คุณเพิ่งกลับมาจากสัมภาษณ์งาน คนที่สัมภาษณ์คุณไม่ยิ้มเลย บางคำถามที่เขาถามคุณก็ตอบไม่ได้เสียด้วย เมื่อกลับถึงบ้านแล้ว สิ่งที่จะอยู่ในความคิดของคุณก็คือ

A. ชีวิตนี้คงหมดหวังแล้ว ฉันคงไม่ได้งานทำอีกแน่ ๆ
B. รู้อยู่แล้วล่ะว่าคงไม่ได้งานนั้น ไม่น่าสมัครเลย
C. ฉันน่าจะเตรียมตัวดีกว่านี้ เอาไว้คราวต่อไปฉันจะเตรียมตอบคำถามให้พร้อมเลย

2. คุณเพิ่งเสร็จโปรเจ็กต์ใหญ่ยักษ์ และหวังว่า หัวหน้าจะชมเชยคุณบ้าง แต่เขากลับวิพากษ์วิจารณ์ และไม่ยินดีเลย คุณจะทำอย่างไร

A. ฉันมันห่วย ทำงานอะไรก็ไม่ได้ ชีวิตนี้คงไม่ประสบความสำเร็จแน่ ๆ
B. นั่นน่ะดีที่สุดเท่าที่ฉันทำได้แล้ว ถ้าเขาไม่ชอบก็แสดงว่าฉันล้มเหลว
C. ฉันจะบอกหัวหน้าว่าฉันทำงานหนัก รู้สึกว่าทำงานได้ดี และก็ภูมิใจกับงานที่เพิ่งเสร็จไปมาก ๆ

3. ในที่สุดคุณก็ตัดสินใจนัตบอร์ดกับหนุ่มคนหนึ่ง คุณรู้สึกดีกับเขา และอยากนัดเจอกันอีก แต่เขากลับบอกว่าไม่อยากพบกับคุณอีกแล้ว

A. ไม่มีใครอยากจะอยู่กับคนอย่างฉันหรอก
B. คนดี ๆ อย่างนั้นคงไม่สนใจฉัน
C. เหอะ เขาพลาดซะแล้ว!
4. คนรู้จักที่ไม่สนิทด้วยเลยมาทักว่าคุณดูดีมาก ๆ คุณจะตอบว่า

A. อยากได้แว่นมั้ยคะ
B. ฉันว่าวันนี้ฉันดูโทรม ๆ น่ะค่ะ แต่ว่าขอบคุณนะคะ
C. ขอบคุณมากค่ะ
5. ทั้งทำงาน ทั้งเรียนปริญญาโท ทั้งงานบ้านล้นมือ ไม่เห็นมีคนในครอบครัวช่วยเลย

A. จะทำยังไงได้ งานทุกอย่างก็เป็นของฉัน ได้แต่เก็บกดเพิ่มขึ้น ๆ ทุกวัน
B. กรี๊ดก็แล้ว วีนใส่คนอื่นก็แล้ว แต่ฉันก็ยังต้องทำอยู่
C. ไม่ได้นะ มันต้องเปลี่ยน ฉันต้องเริ่มแจกงานให้ลูก ๆ และสามีช่วยบ้างแล้ว


เฉลย

ตอบข้อ A ส่วนใหญ่

คุณไม่นับถือตัวเองเลย คุณเชื่อว่าคนอื่น ๆ เก่งกว่า ฉลาดกว่า หน้าตาดีกว่า และมีค่ามากกว่าคุณ ต้องเปลี่ยนทัศนคติกันอีกยาว อย่างแรกเลยคือรับรู้ไว้เสียว่าคุณมีความสามารถและสมควรได้รับสิ่งดี ๆ เท่ากับคนอื่นนะคะ

ตอบข้อ B ส่วนใหญ่

ความเคารพนับถือตัวเองของคุณมักจะขึ้นอยู่กับปัญหาที่อยู่ตรงหน้า อาจจะต้องพัฒนากันบ้าง อย่างเขียนบันทึก และสังเกตดูว่าในแต่ละวันคุณได้เรียนรู้อะไรใหม่ ๆ บ้าง ต่อให้เป็นแค่การต้มไข่ให้สุก พอดีกับที่ชอบก็ตามเถอะ

ตอบข้อ C ส่วนใหญ่

ปรบมือให้ 365 แปะ เยี่ยมไปเลยค่ะ คุณรู้ดีว่าค่าของตัวเองไม่ได้ขึ้นอยู่กับการที่คนอื่นเขาจะคิดอย่างไร และคุณก็นับถือตัวเองมาก ๆ เพราะคุณรู้ดีว่าคุณเป็นคนมีค่าเหลือเกิน







5 ขั้นตอน สู่การนับถือตนเอง

กลเม็ดเคล็ดไม่ลับให้คุณรู้สึกนับถือตัวเองมากเท่าที่กับ Lisa รักคุณผู้อ่านนะคะ

1. แต่งตัวให้เริ่ด เสื้อผ้าอาจไม่เกี่ยวกับความสามารถ แต่มันมีผลอย่างมากกับความคิด เชื่อมั้ยว่าไม่มีใครสนใจเสื้อผ้าของคุณมากไปกว่าตัวคุณเองหรอก เวลาที่แต่งตัวปอน ๆ ความรู้สึกของคุณต่อตนเองจะเปลี่ยนไป เช่นเดียวกับท่าทางของคนอื่น แต่นี่ไม่ได้ หมายความว่าต้องมีเสื้อผ้าเต็มตู้ ซื้อทุกอย่างที่ขวางหน้า ลองใช้เทคนิค "จ่ายเงินมากกว่าเดิมสองเท่า แต่ซื้อให้น้อยชิ้นลงครึ่งหนึ่ง" แทนที่จะซื้อเสื้อผ้าถูก ๆ ให้ลงทุนกับของดี ๆ คัตติ้งเนี้ยบ ๆ แต่มีสไตล์และใช้ได้นานดีกว่า

2. เดินอย่างเฉิดฉาย วิธีที่ง่ายที่สุดในการบอกว่าคนคนนั้นนับถือตัวเองหรือไม่ดูได้จากท่าเดิน เดินช้า เดินเหนื่อย ลากเท้าเดินหรือก้าวเท้ายาว ๆ กระฉับกระเฉง โดยคนที่มั่นใจในตัวเองมักจะเดินเร็วกว่าคนอื่น เขามีเรื่องที่ต้องทำ ต้องไป ต้องพบคน ต่อให้ไม่รีบก็เพิ่มความมั่นใจในตัวเองได้โดยการใส่จังหวะเข้าหน่อย เดินเร็วขึ้นอีกนิด คุณจะรู้สึกว่า "ฉันสำคัญ" ขึ้นมาทันที

3. คุยกับตัวเองดี ๆ แรกเริ่มสุดเราต้องคุยกับตัวเองไปดี ๆ ก่อน ถ้าเห็นกระจกแล้วพูดว่า "อ้วนจัง" หรือเห็นงานแล้วบ่นว่า "ฉันห่วยเรื่องนี้จริง ๆ" ก็คงจะไม่มีอะไรดีพอไปตลอด ให้คิดคำขวัญประจำใจขึ้นมาหนึ่งอย่างที่เราเชื่อถือได้ ไม่จำเป็นต้องมองโลกในแง่ดี พาตัวเองในโลกอุดมคติกับในโลกจริงมาเจอกัน บอกกับคนในกระจก "ไม่มีใครเพอร์เฟ็กต์" จำไว้ว่าคนที่วิพากษ์วิจารณ์เราได้รุนแรงที่สุด ก็คือตัวเองนั่นแหละ ชิลล์ลงอีกสักนิดนะ

4. หลบออกจากที่ทำงานที่กัตกร่อน! ต่อให้มีการแข่งขันกันสูง หรือเลื่อยขาเก้าอี้กันคนแค่ไหน คุณก็ไม่จำเป็นจะต้องไปแข่งขันกับคนไร้หัวใจพวกนั้น ไม่มีใครเขาจะชมเชยหรอก ต่อให้คุณทำงานจนลืมกินข้าวเที่ยวข้างเย็นก็ตาม ใช้เวลานั้นกับคนที่ห่วงใยคุณจริงๆ ดีกว่า การทำงานในสภาพแวดล้อมที่กัดกร่อนจะรังแต่ฉุดจิตใจคุณให้ตกต่ำ การแข่งขันมีทุกที่ เก็บแรงไว้แข่งในที่ที่ดีเถอะนะ

5. ทำไม่เป็น...ก็ทำให้เป็นสี! เขียนแปะเอาไว้ว่าคุณอยากเป็นคนแบบไหนในอนาคต และถ้ายังขาดคุณสมบัติไหนอยู่ ก็ทำให้มีคุณสมบัตินั้นให้ได้ เราสามารถเรียนรู้เติบโต และพัฒนาความสามารถในสาขาที่ตัวเองไม่ถนัดได้ด้วยซ้ำ ถ้าสิ่งที่คุณอยากทำเคยมีคนทำมาก่อน แล้วก็ยิ่งง่ายเข้าไปใหญ่ เพราะนั่น หมายความว่าคุณเองก็ทำได้ อย่างการขับรถ ให้คิดเสียว่าคนฉลาดน้อยกว่าเราก็มีถมเถไปเขายังขับได้ ทำไมเราจะขับไม่ได้



ข้อมูลจาก Lisa



Create Date : 11 กันยายน 2553
Last Update : 11 กันยายน 2553 14:01:53 น.
Counter : 713 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Caffein Dog
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]



Group Blog
กันยายน 2553

 
 
 
2
3
4
5
6
9
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
23
24
25
26
27
 
 
All Blog