แมวขนฟู....ช่วงนี้ขอตามรอยพ่อ #ตามรอยพ่อ #โครงการพระราชดำริ
space
space
space
<<
กุมภาพันธ์ 2559
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
2829 
space
space
15 กุมภาพันธ์ 2559
space
space
space

.....ดอยหลวงเชียงดาว เดินมาทำไม....
เวลาคุณทำอะไรแล้วเหนื่อยสุดขีด
ก็จะตั้งคำถามกับตัวเองว่า
ทำไปทำไม
ทำแล้วได้อะไร
เกิดมาทำไม
จะมาเดินทำไม
ที่เที่ยวอื่นขับรถถึงก็มี
นอนอยู่บ้านอ่านรีวิวก็ดีอยู่แล้ววววววววว
จะมาเหนื่อยทำไมมมมมม  มีไรทำตั้งเยอะแยะ

...................................................................................

ดอยหลวงเชียงดาว
ได้ยินชื่อนี้ตั้งแต่เด็ก ถึงความโหดของเส้นทาง
เดินวันเดียวไม่ถึง ต้องกางเต็นท์นอนระหว่างทาง อาหารน้ำแบกขึ้นเอง ห้องน้ำอยู่ในป่า
บอกเลย.........ไม่มีทางมาแน่นอน  เรามันพวกสายอ่อน ชอบขับรถกินลมเที่ยว
แต่ทริปนี้   "ต้องเดิน"

เส้นทาง
ง่ายๆ กด กูเกิลแมบ ไปที่  "เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดอยเชียงดาว"   จ.เชียงใหม่
โทรจองก่อนที่เบอร 089-955-1471
เขาจะจองลูกหาบ รถ4wd ให้  เก๋งไปไม่ถึง  แค่ทางรถก็โหดแล้ว

มีทางขึ้นดอย 2 ทาง
1.ปางวัว....เดินขึ้นเพียง 6500 ม
2.เด่นหญ้าขัด.....เดินไกลตั้ง 8500 ม
ส่วน จขกท. นั้น เลือก  .........เด่นหญ้าขัด



เราออกเดินทางจาก นนทบุรี 4 ทุ่ม  รู้สึกตื่นเต้นมากมาย  กินอะไรในเซเว่นก็อร่อย
มาถึงเชียงใหม่ ตี 5   
เจอไอหมอกเย็นๆ ยินดีต้อนรับพวกเรา




ฟ้าสว่าง ระหว่างทาง


ระหว่างทางเราจะเห็นภูเขาสูงของดอยหลวงเชียงดาววิ่งตามไปเรื่อยๆ พอให้ตื่นเต้นว่าจะเจออะไรในอนาคตอันใกล้

แวะสะสมเสบียงกันก่อนที่ตลาดเชียงดาวตอนเช้า

อากาศหนาวยะเยือก  กับปังอุ่นๆ ฟินเว่อออ



ตลาดเชียงดาว ของยังชีพครบ   
ใครจะขึ้นดอยหลวง   มาแต่ตัวกะเงินก็พอ  ซื้อของที่นี่ครบ อุดหนุนชาวบ้านซะหน่อย
สิ่งที่ต้องใช้ สำคัญมาก    หมวก  ถุงมือ  ถุงเท้า  และหมวกไอ้โม่ง  ใส่แล้วอาจดูตลก แต่กันลมหนาวตั้งแต่หัวยันหูได้ดี พิสูจน์มาแล้ว    ราคาถูกกว่า กทม.



ภายในก็ตลาดสดนี่ล่ะ   แต่เราต้องเตรียมหาข้าวเหนียวไก่ทอดไปทานบนนั้น 1 มื้อระหว่างทางเดิน



ในชุมชนอำเภอเชียงดาว  
แสงอุ่นๆมาแล้ว  



ทางผ่านเจอโบสถ์คริสต์ ที่แบคกราวด์ด้านหลังเป็นภูเขาที่เราจะเดินขึ้นไป
โบสถ์เล็กๆ แต่น่าสนใจ  



อีกถนนฝั่งตรงข้ามก็มีโบสถ์   น่าสนใจทีเดียว
เป็นเวลา 8.00 เช้า  มีโรงเรียนประถมอยู่ใกล้ๆ



เมื่อเราผ่านทางแยก  ไอหมอกฟุ้งกระจายไปทั่ว
เย็นชื่นใจ



เรามาถึงเขตอนุรักษ์สัตว์ป่าดอยเชียงดาวแล้ว
ติดต่อ จนท.  จ่ายค่าธรรมเนียม  ขึ้นรถกระบะ  และลูกหาบนั่งเด้งดึ๋งไปกับเรา 555+
มุ่งหน้าไปที่  เด่นหญ้าขัด



ถึงที่เราต้องเดินขึ้นกันแล้ววว
มีดอกพญาเสือโคร่ง ต้อนรับพวกเรา    
หนูมารอแจกฟามสดใสกะพวกพี่ๆนะฮ้าาาาาฟฟ



แจกฟามสดใส ก่อนพี่ๆจะเดินขึ้นเพื่อไปพบกับสิ่งที่พี่คิดว่ามันคือสรวงสรรค์ "ดอยหลวงเชียวดาว"



แต่หนูคิดว่า  พี่น่าจะเจอ นรกมากกว่า  ดอกสายdark  ได้เตือนไว้



ด้วยความโชคดีที่เราอ่านรีวิวมาก่อน  ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ หัวเราะอย่างสะใจ อย่ามาหลอกตรู
เดินทาง"เด่นหญ้าขัด" ทางนี้ไม่โหดดดด      
ลูกทัวร์คนอื่นก็ชวนไปปางวัวสิ ทางสั้นกว่าตั้งเยอะ ค่ารถก็ถูกกว่า
ไม่!!!!!!!!!!!!!



ถ้าคุณไปทางวัว   ชีวิตคุณจะเป็นสีขาวดำในทันที
เพราะมันทั้งชัน  ทั้งโหด  ถ้าใครไปทางนี้แล้ว  เรายอมรับว่าคุณเก่งมากกกก


เริ่มกันเลยยย
เดินตามลูกหาบ  ชิวๆ
แทบจะวิ่งแซงเลยอ่ะ


แล้วลูกหาบก็หายไป    คือ เดินนำ จขกท. ไปแล้ว



เส้นทางเดิน ผ่านป่าเขา  ทุ่งหญ้า  บ้างก็เดินบนขอบทางริมหน้าผา


ธรรมชาติอันกว้างใหญ่  ตัวเราเหลือนิดเดียว
ทริปนี้เราแบกสัมภาระเองส่วนหนึ่ง  เพื่อความมันส์



เดินสักพัก หอบบบลง
แวะทานข้าวเหนียวไก่มื้อแรก ที่เตรียมไว้
นั่งเล่นกับกลุ่มลูกหาบส



เดินขึ้นเรื่อยๆ แรงเริ่มหมด  มีแต่ความกระหายน้ำ
มองอะไรก็เป็นสีขาวดำ


รู้แล้วว่าทำไมเรียกทางนี้ว่า เด่นหญ้าขัด
ก็เดินไป หญ้าขัดขาไป นั่นเอง  




ถึงทางแยกแว้วววววววววววววว
ทางนี้คือจุดจบของคนมาทางปางวัว  เอ๊ย จุดพบกัน รวมกันเป็นหนึ่งเดียว  ของชาวเด่นหญ้าขัด+ปางวัว





กำลังเริ่มลดลง  เพราะกระเป๋าที่แบกมาหนัก  ทางชันขึ้นกว่าเดิม
แดดเที่ยงแรงมาก
ฉันมาทำอะไรที่นี่  ฉันอยากขับมอไซค์เที่ยวมากกว่า  ฉันไม่อยากเดิน
เดินมาแล้วก็ต้องไปให้ถึง    คิดเพื่อทำให้ตัวเองท้อไม่มีประโยชน์


ช่วงนี้เดิน 1 ก้าว พัก 1ก้าว  ขามันปวด  หลังมันเจ็บ หิวแต่น้ำ




แสงแดด ภูเขา  มอบพลังแก่ข้าเถิด



เห็นโค้งเขาลูกนั้นอยากจะไปกลิ้งเล่น




ใกล้ถึงแล้ววว  เข้าป่าเจอน้องปุยลอยไปมาติดแหงกอยู่นี่


หยิบกล้องมาถ่ายรูป เพื่อให้ลืมเหนื่อย



ถึงที่กางเต็นทืแล้ววว
ขาเดินเป๋เป็นปู


ถึงแล้ววววบ้านของเรา  น้ำตาจะไหล
ตรงดิ่งนอนทิ้งงงงตัวทั้งกระเป๋าที่หนักมาก
ลูกหาบเขามาถึงก่อน กางเต้นท์ให้พร้อม
 ใช้เวลาเดินขึ้นมา 4.30ชม.
ตรงกับบ่าย 2ครึ่ง พอดี  แล้วก็หลับสนิทท จนมีคนปลุกตอน 5โมง ให้เดินขึ้นไปจุดชมวิวต่อ


บนยอดดอยกึ่งเดิน กึ่งปีนเขา ประมาณ 45 นาที
เห็นดอยสามพี่น้องแล้วว



คงมีเพียงเราเรากับขอบฟ้ากางงงงงงงงงงงง




จ๊ะเอ๋



ขึ้นมาถึง  มองหาแต่เสาธง     เห็นรีวิวที่เขาไปกันโชวแต่รูปธง
อยู่นี่เองงง
คนต่อคิวยาวว เพื่อจะถ่าย


สิ่งที่เจอบนนี้  มีแต่คน
นี่พี่มาเดินเล่นกันหรออออ




พวกเรามาดูอาทิตย์ตกด้วยกัน


ดูไปเหมือนหัวก๊อดซิลล่า  บ้างก็เหมือนหัวใจ




ทางลงจากดอยน่ากลัว  ทางชันลง ลื่นฝุ่น และมันมืดมากกกก
พอลงมาถึงทานอาหารค่ำกันแล้ว  ก็แยกย้ายไปนอน
มันหมดแรงจนไม่อยากถ่ายรูป  แต่ก็ต้องดันตัวเองออกมาจากเต็นท์
ก็พบว่า ดาวบนฟ้าคืนนี้ สวยงามมากกกกกกกกกกก
นี่ถ่ายจากหน้าเต็นท์เลย



เห็นหางทางช้างเผือกไกลๆ


ในเช้าวันรุ่งขึ้น ตี 5 ถูกปลุกให้ตื่นไปเดินขึ้นดอยกิ่วลม ชมอาทิตย์ขึ้น
นี่เราต้องเดินอีกแล้ว ทางมืดเห็นแต่แสงไฟฉาย
ทางเดินมีแต่หมอกฟุ้ง    วันนี้เราคงอดได้ภาพทะเลหมอกแล้วล่ะ




อาทิตย์ขึ้นแล้ว  ด้านล่างไม่มีทะเลหมอก



ได้แต่แอบมองแบบผิดหวัง




แค่เดิน มากินมาม่าบนนี้ก็สุขใจ  มั้ง


ทริปนี้ไม่มีภาพวิวสวย ทะเลหมอกอย่างที่หวัง ก็ไม่เป็นไร
ถ่ายดอกไม้แปลกๆดีกว่า




ดอกไม้บนนี้คงมีความสุขดี   อากาศหนาวเย็น สดชื่นน










พลังเทพพพพ



นี่น่ะหรือ คือ ดอยหลวงเชียงดาว
ที่เราไม่คิดฝันว่าจะมา



ความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ   จากหมอกที่ลอยฟุ้ง รวมตัวไหลผ่านหน้าไปเป็นเมฆ
เราอยู่สูงเท่าเมฆแล้ว




บนยอดนั้นยังเดินเท้าขึ้นไปถึงได้  แต่เราคงพอแค่นี้
มองดู  ซึมซับบรรยากาศนิ่งๆ ไม่ต้องตามหา



เจอหล่นตามทาง  น่าจะเป็นดอกข้าวปั้น



เดินลงจากดอยกิ่วลม ระหว่างทางเป็นหิน เดินยากนิดนึง


วิวแบบนี้เห็นจนชินตา  



ทางลงเราผ่านป่า  อากาศเย็น  สะอาด




ดอกม่วงนี้มีเต็มไปหมด


ทางเดินป่า สลับทุ่งโล่ง
เดินลงมาเพียงลำพัง   คนอื่นก็แยกย้ายกันไป




ต้นน้อยแรกเกิด   น่ารักดี


มีแต่สีเขียว  วันนี้ไม่ถ่ายรูปวิว ถ่ายแต่ต้นไม้



น้องปุย มีเต้มไปหมด



จุดกางเต็นท์กลางเขา   ไม่ได้ใกล้วิวอะไร  จะดูวิวต้องเดินขึ้นเขาต่อ




ชอบดอกนี้มาก  รูปร่างคล้ายดวงดาว





ไม่ทราบว่าดอกอะไร  เจอตามโขดหิน


ต้นไม้บนนี้ ใบจะหนาเป็นพิเศษ ถ่ายรูปออกมาเล่นแสงเงาดี




เย็นนี้เราขึ้นมาดูหมอกบนจุดสูงสุดอีกที   ไม่เห็นแสงอาทิตย์  มีแต่หมอก


อาทิตย์ตกไม่เห็น โผล่แสงมาแค่นี้ หมอกก็บัง




ยอดอ่อน คล้ายอยุ่บนขาแมงมุม  


ต้นไม้แปลกๆเยอะ คนชอบถ่ายมาโครชอบแน่



หมอกไหลมาผ่านหน้า  ละลายเข้าปาก  ซึมเข้าผิวหนัง




ถ่ายแต่ดอกไม้วันนี้   เมื่อวานถ่ายวิวไปเยอะละ


ลุกอะไรนะ สีสวยๆ



สิ่งมีชีวิตเล้กๆ




จะมาถ่ายดาวบนนี้  อด  มีแต่หมอกเย็นๆ



จนบางทีดุน่ากลัว


วันนี้ไม่มีใครต่อคิวถ่ายกับธง   
แล้วเราก็ลงไปที่กางเต็นท์  รอบตัวมีแต่หมอกฟุ้ง  ดีที่เราถ่ายดาวเมื่อวานไปแล้ว
วันนี้เราวางกล้อง นอนเต็มที่  


6 โมงเช้า  ตื่นมาดูหมอกหน้าเต็นท์  แล้วกลับไปนอนต่อ เพราะมันหนาวววววว



8 องศา  ถ้าไม่มีเครื่องกันหนาวมาพร้อม คงแย่แน่ๆ



10 ม. เราเดินลงกลับทางเดิม  แต่เราจะลงทางปางวัว



สดชื่นเหลือเกิน ตามทางเจอหมอก ไอน้ำบนยอดไม้




ขดเป็นรูปหัวใจเลยย


เดินผ่านป่า  หมอกสีขาวกับป่าสีเขียว เข้ากันนน



หมอกยังอยู่กับเรา



เก็บภาพระหว่างทางไป



เดินมาเจอดินแดนสนธยา



แมงมุมหาย




เดินข้ามโขดหิน ในดินแดนลึกลับ


มีใบไม้สีแดงร่วงหล่นเต็มไปหมด






ฟอสซิลหอย   ลุกหาบชี้ให้ดู


วิวไม่ถ่ายแล้ว  ถ่ายแต่ดอกไม้ล่ะ




ยอดอ่อนหนานุ่ม


ดอกอะไรนะ




หนอนบุ้ง เจอเยอะ ระวังเหยียบเขานะ




แล้วเราก็ถึงทางแยก  ช่างยาวนานเหลือเกิน

แต่หลังจากทางแยกนี้ บอกเลยว่า  โหดกว่าเดิม

เราลงทางปางวัว  ที่มีความชันมาก     ใครไม่แข็งแรงอย่าพาตัวเองมาลำบากที่นี่




เดินลงเรื่อยๆ เจอกลุ่มนักท่องเที่ยวหน้าใหม่เดินทางนี้ขึ้นมา
บางคนโดนเพื่อนหลอกมา  น่าสงสาร
บางคนสายแข็ง ก็เดินชิวสบายตัว
ช่วงนี้เดินลงแบบว่า ขาสั่น ขาล้า  เหนื่อย เมื่อไหร่จะถึง 
คิดถึงแต่บ้าน  อยากกลับบ้านนนนนนนนน คิดถึงแมว




ถึงทางลงซะที  รถกระบะรอรับด้านล่างแล้ว




แล้วเราก็ไปนอนแช่น้ำพุร้อนใกล้ๆ ที่ชาวบ้านแนะนำ
สบายตัว สบายกายยยยยยที่สุดดด

ในที่สุดก็จบทริป  ได้กลับบ้านซะที

จริงๆการเดินป่าลำบากแบบนี้ เคยเดินมาแล้ว 
เคยบอกตัวเองว่าเราไม่เหมาะเที่ยวแนวนี้   แต่ก็ยังจะมา
คนเราก็ชอบอะไรที่ท้าทาย   แต่มันควรอยู่ในวัยที่มีแรงทำได้

ดอยหลวงเชียงดาว    
คงไม่ได้ภาพสวยอย่างที่คิด หรือเคยเห็นจากคนอื่นเท่าไหร่  ไม่มีทะเลหมอกให้เห็น

ก็ ตั้งคำถามให้ตัวเองว่า   เดินมาทำไม

คำตอบ ......... 

ดาวบนฟ้าสวยเว่ออออออออ
อาหารทำกินกันอร่อยยยยยยย
ขนมปังปิ้งมื้อแรกอร่อยที่สุด
น้ำสไปรท์ในขวดมันช่างชื่นใจ
มาม่าเส้นอืดโคดอร่อยยยยยยย
มืออุ่นๆที่ไม่อยากปล่อย
ดอกไม้แปลกประหลาดสวยกว่าตาเห็น
ไอหมอกผ่านหน้าเหมือนเปิดตู้เย็น
และ เห็นคุณค่าของสิ่งที่มีมากขึ้น






Create Date : 15 กุมภาพันธ์ 2559
Last Update : 18 กุมภาพันธ์ 2559 9:29:35 น. 1 comments
Counter : 1432 Pageviews.

 
thx u crab


โดย: Kavanich96 วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2559 เวลา:5:21:32 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
space

คนหัวฟู
Location :
ปทุมธานี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 32 คน [?]




เด็กบ้า

space
space
[Add คนหัวฟู's blog to your web]
space
space
space
space
space