นิทรรศการ "เย็นศิระ เพราะพระบริบาล" จัดที่สนามหลวง โซนเต็นท์ฝั่งซ้ายมือ หมวด ซ.โซ่ เปิด 7.00-19.00 ใครเข้ามากราบถวายพระบรมศพ ลองแวะมาชมนิทรรศการที่นี่ต่อ แนะนำว่าเข้ามาชมก่อนแล้วค่อยเข้าไปกราบค่ะ
ต้องเข้าคิว และเข้าตามรอบ รอบนึงเข้าได้ประมาณ20คน รอบละ15-20นาที
การแต่งกายชุดสุภาพสีดำ เสื้อมีคอปก ไม่มีลาย กางเกงสีดำเท่านั้น(ห้ามใส่ยีนส์) ผู้หญิงใส่กระโปรง หรือมายืมผ้านุ่งหน้างานได้
กฎเคร่งครัดนะคะ เตรียมแต่งตัวให้ถูกมาก่อน กลัวจะมาเสียเที่ยวกัน
ตามมาชมรีวิวกัน............
.............................................................
อาคารภายนอกสูง 6 ม. ภายในติดแอร์ทุกห้อง มีห้องใหญ่3ห้อง แบ่งเป็น5โซน
ภาพกลางวัน
และ
กลางคืน
ด้านหน้าตกแต่งด้วยดอกไม้สีสดใส
แต่ตอนเข้ามาชม จนท.พาเดินเข้าไปชมด้านในก่อน อย่าหยุดถ่ายรูป
หลายคนจะหยุดถ่ายรูปดอกไม้ด้านหน้าก่อน จะทำให้เสียเวลา ควรเข้าชมก่อนค่อยถ่ายค่า
ใครนำรถส่วนตัวมา เข้ามาจอดใน ม.ธรรมศาสตร์ได้
จขกท.ขับมอไซค์มา สะดวกกว่า หาที่จอดง่าย จอดใน มธ.หน้าหอประชุม ปลอดภัย มี รปภ.ดูแลให้
มาเข้าคิวรอที่ โหมด "ซ.โซ่" เท่านั้น มาแต่เช้าสบาย คิวน้อย
มาแต่ตัวเปล่าๆนะคะ ไม่ต้องแบกน้ำ อาหารมา ที่นี่มีของอร่อยเสิร์ฟถึงที่
เดินมาเต็นท์ติดๆกัน ที่เขาเข้าแถวรอกราบพระบรมศพ
เมนูเช้านี้ ข้าวไก่ทอด
หยิบทานจานเดียว แค่พออิ่ม ทานแค่พอเพียง
ยาดม ก็มีแจก
อากาศร้อน อย่าไปร้อนตามแดด รับน้ำใจเย็นๆไป
ป่ะ ไปลุยกันน ตื่นเต้น อยากรู้ด้านในเป็นยังไง
ได้คิวเข้าไปแล้ว สิ่งแรกเจอด้านใน คือ รูปปั้นประติมากรรมในหลวงรัชกาลที่ 9
เสมือนพระองค์จริงมากๆ
ในห้องแรก มีเปียโน และพระบรมฉายาลักษณ์ บางภาพไม่เคยเห็นก็มี
เราจะได้ยินเสียงเปียโนเล่นเพลงพระราชนิพนธ์เอง
ทั้งหมด 48 เพลง
เหมือนท่านกำลังทรงเล่นเปียโนให้เราฟัง ตื้นตันยังไงก็ไม่รู้
ท่านไม่ได้ไป ท่านสร้างผลงานและคำสอนให้เราทำตาม
โดยเฉพาะ "เศรษฐกิจพอเพียง"
คุณยาย ฟัง เพลงอะไรนะ ได้ยินไม่ชัด
ฟังดนตรีเพราะ เดินชมภาพถ่าย มีความสุข
ภาพถ่ายต่างๆ ให้ชม ยิ่งคิดถึง
เคยมีคนกล่าวว่า " all that remains are photography "
มีทีวีเล่นภาพ VDO กรณียกิจต่างๆ ในขณะทรงงานยากลำบากไปตามที่ต่างๆในประเทศไทย
ภาพถ่ายหลายๆภาพ เราเคยเห็นผ่านตาในอินเตอร์เน็ตมาบ้าง เป็นภาพที่มีคุณค่าจริงๆ
ภาพนี้ในหลายสิบปีก่อน พระองค์ได้เลนส์ฟิชอายมาลองถ่ายในห้องประชุม ถือว่าทันสมัยมาก ท่านชอบถ่ายภาพตั้งแต่ทรงพระเยาว์
มีพระราชดำรัสมาฝากสำหรับน้องๆที่เริ่มเล่นกล้อง
"การถ่ายภาพเป็นงานศิลปะ เป็นของดีมีประโยชน์ ขออย่าได้ถ่ายภาพกันเพื่อความสนุกสนานหรือความสวยงามเท่านั้น จงใช้ภาพให้เกิดคุณค่าแก่สังคมให้เป็นประโยชน์แก่ส่วนรวม งานศิลปะจะได้ช่วยพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้าได้อีกแรงหนึ่ง"
คุณยายกำลังมองภาพอะไร ยิ้มอยู่คนเดียว.....
เป็น VDO ในกรอบรูป ในหลวงกำลังทรงทักทายเล่นกับสุนัขทรงเลี้ยง
ใครยังไม่เคยเห็น หามาให้ดูกันค่ะ
ตามชั้นหนังสือ ตู้ต่างๆ ก็มีผลงานฝีพระหัตถ์ หนังสือแปลติโต
ภาพถ่ายที่น่าประทับใจของท่าน
ห้องแรกมีเวลาเดินชมแป๊บเดียว แค่10 นาที จนท.ก็พาเราเข้าไปห้องถัดไป ยังชมภาพไม่หมดเลย แต่ก็ต้องเผื่อให้คนคิวอื่นได้เข้ามาชมบ้าง อยากชมแบบจุใจ ก็ต้องไปต่อคิวรอบ2 มาไวไปไวไปหน่อย
ส่วนห้องต่อมา พาชม VDO เกี่ยวกับในหลวง พระราชกรณียกิจสำคัญต่างๆ ที่ท่านพัฒนาประเทศตลอดการทำงาน 70ปี ท่านทำงานไม่ได้พัก ปิดทองหลังพระตลอด ถ้าได้ชมvdoนี่จบ บอกตัวเองเลยว่า เราโชคดีขนาดไหนที่เกิดมาในรัชกาลที่ 9 ท่านทำให้เรามากกว่าที่เห็น กษัตริย์ผู้ทรงติดดิน แก้ปัญหาเข้าถึงประชาชนทุกคน
บ้านเราปัญหาใหญ่ คือ น้ำท่วม คลองลัดโพธิ์ ท่านสร้างแก้ไขน้ำท่วมกรุงเทพ ให้เบี่ยงน้ำออกจากเจ้าพระยา ลงสู่ทะเล ใช้หลักน้ำขึ้น-น้ำลง และยังใช้ผลิตไฟฟ้าพลังงานน้ำได้อีก
โครงการมากมายที่ในหลวงทำ มีประโยชน์เห็นผลใกล้ตัวที่สุด ก็คือ การจัดการน้ำ ทำแก้มลิง ทำสะพานทางคุ่ขนาดลอยฟ้าบรมราชชนนี สะพานภูมิพล แก้ปัญหารถติดได้ดีมากๆ พระองค์ทรงมองการณ์ไกล แก้ปัญหาแบบยั่งยืนที่สุด
ส่วนปรัชญาที่เห็นผลดีชัดที่สุด "เศรษฐกิจพอเพียง" พระองค์ดำรัสไว้เมื่อ30ปีที่แล้ว แต่ใช้ได้ทุกยุค ยิ่งยุคนี้ ต้องนำมาปรับใช้กับชีวิต
เราจะอยู่รอด ปลอดภัย มีความสุข ไม่ว่าจะผ่านเศรษฐกิจแย่แค่ไหน ถ้ารู้จักพอในตัวเอง
พระราชดำรัสส่วนหนึ่งมาให้อ่านค่ะ
"...พอเพียง มีความหมายกว้างขวางยิ่งกว่านี้อีก คือคำว่าพอ ก็พอเพียงนี้ก็พอแค่นั้นเอง คนเราถ้าพอในความต้องการก็มีความโลภน้อย เมื่อมีความโลภน้อยก็เบียดเบียนคนอื่นน้อย ถ้าประเทศใดมีความคิดอันนี้ มีความคิดว่าทำอะไรต้องพอเพียง หมายความว่าพอประมาณ ซื่อตรง ไม่โลภอย่างมาก คนเราก็อยู่เป็นสุข พอเพียงนี้อาจจะมี มีมากอาจจะมีของหรูหราก็ได้ แต่ว่าต้องไม่ไปเบียดเบียนคนอื่น...
มีคลิปมาให้ชมค่ะ โหลดฟังใส่มือถือได้ยิ่งดี อาจจะยากสำหรับคนที่ชอบทุนนิยม แต่ความฟุ่มเฟือยจนเกินไป ไม่ได้ทำให้มีความสุข เท่าเรา"รู้จักพอ"
แล้วก็แสดงภาพพระบรมฉายาลักษณ์ที่หาดูยากให้ชม
ได้ดูแล้ว ยิ่งคิดถึงท่าน
พีคสุดก็ช่วงท้าย เปิดภาพจบด้วยพระองค์โบกพระหัตถ์ และภาพประชาชนร้องไห้
น้ำตามันไหลไม่รู้ตัว.............
ทั้งตื้นตัน เสียใจ เสียดาย อยากย้อนเวลากลับไป อยากให้ท่านแข็งแรง ท่านทำงานหนักมาก ตลอด70ปี เราเป็นคนธรรมดายังบ่นเลย ทำงานทุกวันไม่ได้พัก และนี่ท่านทำงานตลอดชีวิต
เพราะอยากให้ประชาชนมีชีวิตที่ดี
ในประเทศเราไม่มีทำให้เรามากขนาดนี้เท่าท่านแล้ว
นึกถึงคลิปที่ฝรั่งสัมภาษณ์การทำงานของท่าน
เมื่อชม vdo จบแล้ว ก็จะมีของใช้ส่วนพระองค์ให้เราชม
ความมัธยัสถ์ถือเป็นคุณูปการสำคัญที่ทำให้ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงเรียนรู้หลักความพอเพียง สมถะมาตั้งแต่ครั้งยังทรงพระเยาว์ จนกระทั่งสมเด็จย่ามีพระดำรัสในเวลาต่อมาว่า
ในสวนจิตรเนี่ย คนที่ประหยัดที่สุดคือในหลวงรัชกาลที่ 9 ประหยัดที่สุดทั้งน้ำ ทั้งไฟ เรื่องฟุ้งเฟ้อฟุ่มเฟือยไม่มี
ดังเช่นของใช้ส่วนพระองค์ที่รวบรวมมาให้ชม ทำให้รู้ว่าในหลวงรัชกาลที่ 9 ท่านทรงพอเพียงและทรงงานหนักเพียงใดเพื่อปวงชนชาวไทย
ชุดฉลองพระองค์ทรงงาน
สังเกตุดีๆ กระดุมติดคนละสี
คิดได้หลายอย่าง คือ ท่านใช้กระดุมสีอะไรก็ได้ ขอให้ใช้งานได้ก็พอ
ของใช้ส่วนพระองค์
นาฬิกาธรรมดา ไม่หรูหราอะไร ใช้ดูเวลาได้ก็พอ
โต๊ะทรงงาน มีแผนที่ แว่นขยาย ไม้ที
ดินสอ และ แผนที่
มีบันทึกว่าในปีหนึ่งพระองค์จะทรงเบิกดินสอที่มียางลบติดท้ายแท่ง เพียงแค่ 12 แท่งเท่านั้น โดยใช้เดือนละ 1 แท่ง จนกระทั่งดินสอแท่งนั้นกุดจนเขียนไม่ได้แล้วจึงเปลี่ยน
หลายคนอาจสงสัยว่า ทำไมพระองค์ท่านจึงทรงเลือกใช้ดินสอในการทรงงานแทนปากกาตามสมัยนิยม ที่เป็นเช่นนั้นเพราะด้วยทรงเห็นว่าราคาถูกและผลิตได้ในประเทศ อีกทั้งเมื่อผิดก็สามารถลบออกได้ง่าย
เครื่องดนตรีส่วนพระองค์
ท่านใช้ดนตรีผ่อนคลาย งานอดิเรกที่ท่านชอบ คือ เล่นดนตรี และถ่ายรูป
ที่นี่ไม่ได้นำกล้องส่วนพระองค์มาให้ชมนะคะ
เราก็เคยเห็นกันใน social กันแล้ว
เราเป็นคนเล่นกล้องเหมือนกัน รุ่นกล้องที่ท่านใช้ก็แบบธรรมดา เลนสก็ธรรมดา ใช้แค่พอใช้งาน ไม่ได้ใช้ตัวที่ดีที่สุด แพงที่สุดเลย
เครื่องมือสื่อสารทางไกลเมื่อทรงงานตามที่ห่างไกล ชนบท
ในวังสวนจิตรลดา ภายในเหมือนเป็นลานวิทยาศาสตร์ ที่ใช้ทดลองปลูกพืช ทดลองประดิษฐ์สิ่งต่างๆของในหลวง มีโอกาส ขอเข้าไปศึกษางานด้านในบ้าง
ยังไม่ทันเช็ดน้ำตาให้แห้ง.......
จนท.ก็พาชมห้องถัดไป
ตกแต่งน่าร้าก มีเมฆปุยบนเพดาน
มีสะพานด้านข้าง กับจุดตรงกลาง แต่เอาไว้ทำอะไรนะ
ด้านบน มีทีวี หลายจอ นำเสนอเรื่องราวในหลวงมากมาย ให้เลือกดู
ห้องนี้เป็นห้องสุดท้าย มีเวลาชมนานๆได้
จอแรกรวมสิ่งประดิษฐ์ จดสิทธิบัตรแล้ว
พระองค์ทรงเป็นนักวิทยาศาสตร์และนักประดิษฐ์
โปรเจคนึง เคยได้ข่าวตอนเด็ก ที่ท่านทดลอง น้ำมันปาล์มใช้แทนน้ำมันหล่อลื่น
แต่ก็เงียบไป ไม่รู้เพราะอะไร เป็นทางเลือกนึงที่ผลิตน้ำมันปาล์มได้ในประเทศไทย
ไม่ต้องใช้น้ำมันนำเข้าจาก ตปท.
รู้มั้ยว่า ทั่วโลกยกให้ วันที่ 5 ธค. เป็น "วันดินโลก"
ยืนฟังอยู่นาน ถ้าไม่มีเวลามาฟัง ดูใน you tube ก็มีค่ะ
คนไทยไม่ต้องหาไอดอล ฝรั่งเมืองนอกที่ไหน ไอดอลเรา คือ ในหลวง
ทำตามท่านเลย ชีวิตจะมีความสุข
มาทางโซนด้านล่างในห้องเดียวกัน
มีกระดาษปุยเมฆ ให้เราเขียนความตั้งใจที่จะทำให้ในหลวง แล้วมาแขวนไว้ตรงนี้
ยังไม่หมด............ยังมีให้เขียนบนจอได้อีก
นึกคำที่เขียนไม่ออก มีให้เลือกค่า
แค่เซ็นต์ลงชื่อเราเท่านั้น
ข้อความจะไปขึ้นบนปุยเมฆบนเพดาน
ตรงนี้คนแก่ เด็ก สนุกสนานกันใหญ่ 555
เขียนสิ่งที่ตั้งใจทำแล้ว กลับบ้านไปเริ่มลงมือทำกันเลยยยยย
เมื่อมาทางออก
ยังไม่หมดดด
ยังมีของที่ระลึกแจกให้เราสะสม
คุณป้าท่านนึง แกมาทุกวัน สะสมจนกว่าจะครบ
แต่ละวันแจกไม่เหมือนกันนะ ลุ้นดี ว่าวันนี้จะได้รูปไหน
วันนี้ได้การ์ดรูปนี้ค่ะ รู้สึกอยากสะสมให้ครบจัง
พลิกมาด้านหลัง เจอข้อความพระราชดำรัส เตือนสติดีค่ะ
ปิดท้ายการชมนิทรรศการด้วยภาพนี้ค่ะ
ข้อความเต็มดังนี้
"การทำความดีนั้น สำคัญที่สุดอยู่ที่ตัวเอง ผู้อื่น
ไม่สำคัญ และไม่มีความจำเป็นอันใดที่จะต้อง
เป็นห่วง หรือต้องรอคอยเขาด้วย เมื่อได้ลงมือ
ลงแรงกระทำแล้ว ถึงแม้จะมีใครร่วมมือด้วยหรือ
ไม่ก็ตาม ผลดีที่ทำจะต้องเกิดขึ้นแน่นอน และยิ่ง
ทำมากเข้า นานเข้า ยั่งยืนเข้า ผลดีก็ยิ่งเพิ่มพูน
มากขึ้น และแผ่ขยายกว้างออกไปทุกที คนที่ไม่
เคยทำดีเพราะเขาไม่เคยเห็นผล ก็จะได้เห็นและ
หันเข้ามาตามอย่าง
หลักประกันสำคัญในการทำดีจึงอยู่ที่ว่า แต่ละ
คนต้องทำใจให้มั่นคงไม่หวั่นไหวกับสิ่งแวดล้อม ที่เห็นอยู่ ทราบอยู่ มากเกินไป จนเกิดความ
ท้อถอย เมื่อใจมั่นคงแล้ว ก็ขอให้ตั้งอกตั้งใจ
สร้างนิมิตและค่านิยมใหม่ขึ้นสำหรับตัวเอง ตาม
ที่พิจารณาเห็นดีด้วยเหตุผลอันถูกต้องเที่ยงตรง
แล้ว แล้วมุ่งหน้าปฏิบัติดำเนินไปให้เต็มกำลังจน
บรรลุผลสำเร็จ ในที่สุด ความดีความเจริญที่
ปรารถนาก็จะเกิดทวีขึ้น และจะเอาชนะความ
เสื่อมทรามต่าง ๆ ได้ไม่นานเกินรอ..."
(พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ณ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
วันศุกร์ที่ ๒๐ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๒๑)
ขอบคุณที่ตามอ่านรีวิวจนจบค่าาา
| Create Date : 19 เมษายน 2560 |
| Last Update : 19 เมษายน 2560 11:09:25 น. |
|
0 comments
|
| Counter : 1555 Pageviews. |
 |
|
