กรกฏาคม 2549

 
 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
เลือกเอาจะเป็นเจ้าสาว หรือ Bridezilla


การแต่งงานเป็นเรื่องน่ายินดี แต่กว่าจะเป็นเจ้าสาวได้ ไม่รู้ทำไม๊ ทำไม มันช่างยุ่งยากขนาดนั้น ขนาดว่า ดิฉันไม่ได้เป็นเจ้าสาวไอเดียกระฉูดมากมายนัก ก็ยังรู้สึกว่า มีเรื่องมากมายต้องทำ ขนาดว่าแทบจะกลายร่างเป็น Bridezilla หลายครั้งหลายครา

นับตั้งแต่วันที่ตกลงปลงใจแต่งงานกับคุณสามีเมื่อเกือบสองปีก่อนนั้น ความวุ่นวายมากมายก็ครอบงำชีวิตของดิฉัน บางครั้งวุ่นวาย จนร่ำ ๆ จะยกเลิกงานแต่ง หนีตามกันไปเสียให้มันรู้เรื่องรู้ราว แต่ในที่สุดก็ผ่านพ้นมันไปได้ค่ะ

เริ่มต้น เราสองคนก็มาเลือกวันจัดงาน โอ๊ย กว่าจะลงตัวได้ก็วุ่นวายไม่รู้กี่ตลบ ดิฉันยืนยันว่า ขอเน้นฤกษ์สะดวก เพราะลองได้ชื่อว่า สะดวกแล้ว มันย่อมดีกว่าการที่จะไปจัดในวันที่เราไม่สะดวกและสบายใจเป็นแน่แท้ พอบอกแม่ แม่ดิฉันก็ไปจัดแจงหาข้อมูลว่าเป็นวันมงคล หรือวันอุบาทว์ สุดท้าย มีคนกระซิบบอกให้เปลี่ยนวัน เพื่อความเป็นศิริมงคล ซึ่งเพื่อความสบายใจของแม่ ดิฉันและสามียอมเลื่อนเป็นวันสะดวกตามใจแม่ ก็นับว่า ยังอยู่ในข่ายฤกษ์สะดวกนะคะ เพราะเลื่อนมาอีกแค่ 2 วัน

พอได้วันแล้ว เราก็มานั่งคิดรูปแบบการจัดงาน ว่าจะจัดแบบมีพิธีทางศาสนาหรือไม่ หรือจะจัดเฉพาะงานฉลองสมรส เพราะว่าดิฉันแต่งงานกับฝรั่ง พ่อกับแม่ก็เลยมิได้เรียกร้องสินสมรสอะไรมากมายนัก (อาจจะกลัวลูกสาวมิได้แต่งน่ะฮ่ะ เลยไม่กล้าเรียกร้อง อุตส่าห์ตามล่าหารถด่วนขบวนสุดท้ายได้ทั้งที)

ดิฉันยืนยันว่าอยากจะมีพิธีทางศาสนา เพื่อเป็นสิริมงคลค่ะ แล้วก็ไม่ผิดหวังด้วยนะคะ พอจัดไปแล้ว นึกดีใจที่จัดให้มี เพราะมีเพื่อนหลายคนบอกว่า ถ้าไม่ได้จัดแล้วจะเสียใจ พอจัดแล้ว รู้สึกดีมาก ๆ เลยค่ะ เป็นพิธีการที่น่าประทับใจมาก มากเสียกว่าพิธีฉลองสมรสตอนค่ำเสียอีก พิธีการแบบไทย ๆ ให้ความรู้สึกและคุณค่าทางด้านจิตใจมากกว่า เวลามานั่งดูรูปทีไร ก็รู้สึกอบอุ่นใจทุกทีเลยค่ะ

พอเลือกรูปแบบได้แล้ว ก็มาถึงขั้นตอนที่ยากที่สุด คือการเลือกสถานที่ เพราะโรงแรมในกรุงเทพฯ มีมากมายให้เลือกตามกำลังทรัพย์จนมึนงงและเลือกไม่ค่อยถูก แต่ดิฉันและสามี ตกลงเลือกโรงแรมสุโขทัยค่ะ เพราะชอบความเคร่งขรึมและความเป็นไทยของโรงแรม ที่สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นไทยที่อ่อนโยน และสุขุมลุ่มลึก ท่ามกลางความวุ่นวายในสังคมปัจจุบัน ส่วนงานตอนเช้า ดิฉันยืนยันให้จัดที่โรงพยาบาลสงฆ์ เพราะเห็นว่ามีบ่าว-สาวหลายคู่จัดที่นั่น และก็ออกมาดี แถมได้บุญด้วย พ่อกับแม่ก็ไม่ขัดข้อง แม้บรรยากาศจะไม่สวยเริ่ดอลังการงานช้าง แต่ก็งานที่อบอุ่นดีค่ะ
ภาพบรรยากาศในงานพิธีตอนเช้าที่โรงพยาบาลสงฆ์ค่ะ



ก่อนเริ่มพิธี เราสองคนยังมีโอกาสได้มาโพสต์ท่าถ่ายรูปเก็บเป็นที่ระลึกเลยค่ะ



กำลังจะเริ่มพิธีรดน้ำค่ะ





พอเลือกสถานที่ได้แล้ว ก็ติดต่อทำการจองสถานที่เลยค่ะ สำหรับโรงแรม ดิฉันส่งอีเมลล์ไป ส่วนโรงพยาบาลสงฆ์ต้องจองและจ่ายเงินไว้แต่เนิ่น ๆ ถ้าอยากได้ห้องทำพิธีเป็นส่วนตัว เพราะมีแค่ 3 ห้องเองค่ะ ถ้าแต่งงานในเดือนที่คนนิยมแต่งงานละก็ เห็นว่าต้องจองล่วงหน้ากันเป็นเดือน ๆ เลยค่ะ สำหรับดิฉันจองเดือนสิงหาคม เพื่อจะจัดงานเดือนตุลาคม ห้องเต็มแล้ว เหลือแค่เห้องเดียว ก็เลยเลือกมากไม่ได้อ่ะค่ะ

นอกจากนั้น เราก็ต้องเตรียมหาสถานที่เลี้ยงอาหารกลางวันแขกที่มาร่วมงานในตอนเช้าด้วยค่ะ ดิฉันก็เลือกที่โรงแรมสยามซิตี้อ่ะค่ะ เลี้ยงอาหารจีน แบบฉุกละหุกมากเลย เพราะไม่ได้คิดล่วงหน้า มัวเย็นใจอยู่น่ะค่ะ แต่งานเลี้ยงก็ออกมาอบอุ่นดีค่ะ คงเพราะแขกที่มาร่วมงานในตอนเช้าส่วนใหญ่ค่ะญาติสนิทของครอบครัวจริง ๆ ไม่ค่อยมีคนนอกมามากนัก ที่ประทับที่สุดก็ตรงที่ ครอบครัวเจ้าบ่าวที่อุตส่าห์มาร่วมงานที่กรุงเทพฯ กันเกือบสิบคน เอาของขวัญแต่งงานออกมาให้ เป็นสมุดรวมภาพสามีตั้งแต่ยังเด็กจนโตค่ะ คุณพ่อสามีทำให้ เป็นอะไรที่ประทับใจมากเลยค่ะ
สามีกำลังอวดรูปสมัยยังเด็กให้ดู จากหนูน้อยผมบลอนด์ แก้มยุ้ยเป็นพวง โตขึ้นเป็นน้องแมนจูค่ะ



สำหรับการเลือกโรงแรมที่จะจัดพิธีฉลองสมรสตอนเย็น ก็คงต้องดูเมนูอาหาร ดูแพ็คเก็จของโรงแรม ฯลฯ เป็นอะไรที่ยุบยิบมากค่ะ แต่พอดีเราเลือกโรงแรมในดวงใจอยู่แล้วก็เลยไม่ได้สนใจตรงรายละเอียดมากนักอ่ะค่ะ เราแค่เน้นธีมดอกบัวเท่านั้น ตรงที่จัดซุ้มดอกไม้ เราก็เอาตามที่โรงแรมทำเลยค่ะ พอมานั่งดูภาพงานคนอื่น ที่เขายอมทุ่มงบจัดดอกไม้ประดับในงานแล้วก็แอบเซ็งเหมือนกัน ว่าทำไมเราไม่ทุ่มมั่งวะ แต่งานเราก็สวยงามสมใจเราแล้วล่ะค่ะ
การตกแต่งที่หน้าเวทีด้วยดอกไม้อันเป็นไม้เด็ดของโรงแรมนี้


การจัดโต๊ะในวันงานค่ะ





อันนี้เป็นกล่องใส่ซอง ที่ได้มาจากน้องพิม น้องสาวน่ารักที่รู้จักกันในเวบค่ะ เป็นของทำเอง ที่น่ารักมาก ๆ ที่จริงน้องเค้าให้ยืม แต่พอหลังจากวันงานดิฉันและสามียุ่งมาก ไม่มีเวลาคืนให้เสียที น้องเค้าก็เลยยกให้เลยค่ะ บอกว่าให้เป็นของขวัญแล้วกัน ก็รับสิคะ ที่จริงกะแฮบอยู่แล้วอ่ะ แต่ไม่ได้บอกใคร



เดี๋ยวมาต่อกันใหม่ ขอเวลาไปเลือกรูปแป๊บ เดี๋ยวมาต่อภาคสองกัน



Create Date : 31 กรกฎาคม 2549
Last Update : 2 ธันวาคม 2550 1:25:46 น.
Counter : 2421 Pageviews.

3 comments
  
แวะมาทักทายค่า..รูปสวยอ่ะค่ะ เจ้าสาวยิ้มน่ารัก หน้าตาอิ่มเอิบดี น่ารักทั้งคู่เลยค่ะ รอยยิ้มแห่งความสุขเปล่งประกายเด่นชัดมากๆ (นักวิเคราะห์) เดี๋ยวจะแวะมาดูชุดต่อๆ ไปนะคะ
โดย: สร้อยสายรุ้ง วันที่: 1 สิงหาคม 2549 เวลา:0:11:24 น.
  
เจ้าบ่าวก็หล่อ เจ้าสาวก็สวย สมกันมากๆเลยค่ะ
ขอให้รักกันยืนยง มีลูกมีหลานให้เป็นแก้วตา ดวงใจไวไวนะคะ
โดย: Picike วันที่: 2 สิงหาคม 2549 เวลา:5:21:06 น.
  
ขอบคุณสำหรับทุกความเห็นค่ะ แวะมาเยี่ยมกันบ่อย ๆ นะคะ
โดย: Ninie (Ninie ) วันที่: 2 สิงหาคม 2549 เวลา:23:04:34 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Ninie
Location :
กรุงเทพ  Netherlands

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 127 คน [?]




ได้ออกประจำการเสียที....แต่ต้องหนีร้อนไปถึงรัสเซียเชียวหรือ จะไหวรื้อ?
เมื่อเขาฉันถามว่า "เธอจะบ้ารองเท้าไปถึงไหน?"
ใครอยากได้วารสารสราญรมย์ หนังสือดี ๆ ของกระทรวงการต่างประเทศ โปรดเข้ามาอ่านด้วยจ้า
Cast away ที่ La a Natu@Pranburi
เมืองไทยในสายตาของพี่แจส ผ่านเลนส์
10 ยอดการ์ตูนผู้หญิงในดวงใจ ภาค 1
เมื่อคิดจะแต่งงานกับฝรั่ง และย้ายฐานทัพมาอยู่เมืองไทย ต้องทำอย่างไร

บ ล็ อ ก ข อ ง เ พื่ อ น