|
วิธีกิน..หลีกเลี่ยงหัวใจอ่อนกำลัง
ภาวะหัวใจอ่อนกำลัง หรือที่เคยเรียกกันว่า ภาวะหัวใจล้มเหลว ซึ่งพบว่าผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่มีภาวะหัวใจอ่อนกำลัง มักมีความดันโลหิตสูงมานาน และควบคุมได้ไม่ค่อยดี จริงๆ แล้วการควบคุมภาวะความดันโลหิตสูงนอกเหนือจากการใช้ยา การเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสมควบคู่กับการควบคุมน้ำหนักก็ช่วยควบคุมความดันโลหิตสูงได้เช่นกัน
อาหารเค็มจัด เป็นอาหารที่เสี่ยงต่อการเกิดภาวะความดันโลหิตสูง เพราะทำให้น้ำขังในอวัยวะต่างๆ ของร่างกาย และการตามมาของภาวะหัวใจอ่อนกำลัง จนถึงหัวใจล้มเหลวในที่สุดได้
คำแนะนำในการบริโภคอาหาร 1. การปรุงแต่งรสชาติอาหารควรใช้สารปรุงแต่งรส เช่น น้ำปลา ซอส ซีอิ้ว ในปริมาณพอเหมาะ หลีกเลี่ยงการใช้ผงชูรส (monosodium glutamate) เนื่องจากสารปรุงรสเหล่านี้มีสารประกอบของโซเดียมซึ่งทำให้ความดันโลหิตสูง อาจทำให้มีการสะสมน้ำในร่างกาย ทำให้เกิดภาวะบวมน้ำ หัวใจและไตทำงานหนักมากขึ้น
2.ปริมาณโซเดียมที่แนะนำให้กินในแต่ละวัน (Thai RDI) ไม่ควรเกิน 2,400 มิลลิกรัม อาหาร......หนึ่งหน่วยบริโภค.......โซเดียม น้ำปลา...... 1 ช้อนโต๊ะ.......1,160-1,490 ซีอิ้วขาว...... 1 ช้อนโต๊ะ ....... 960-1,460 ซอสหอยนางรม...... 1 ช้อนโต๊ะ ....... 420-490 กะปิ...... 1 ช้อนโต๊ะ ....... 1,430-1,490 เกลือ...... 1 ช้อนโต๊ะ ....... 2,000 ผงชูรส...... 1 ช้อนโต๊ะ ....... 492 น้ำพริกเผา...... 1 ช้อนโต๊ะ ....... 410 น้ำพริกตาแดง...... 1 ช้อนโต๊ะ....... 560
3.หลีกเลี่ยงอาหารที่เค็มจัดหรือมีปริมาณโซเดียมสูง เช่น อาหารแปรรูปต่างๆ ไส้กรอก กุนเชียง แฮม หมูแผ่น หมูหยอง ผักดองต่างๆ เต้าหู้ยี้ ปลาเค็ม ไข่เค็ม เป็นต้น
4.หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง เช่น ปาท่องโก๋ ไก่ทอด มันฝรั่งทอด หรืออาหารที่ใช้น้ำมันปริมาณมาก โดยเฉพาะอาหารที่มีไขมันอิ่มตัว และคอเลสเตอรอลสูง เช่น เนื้อสัตว์ติดมัน ไขมันจากสัตว์ น้ำมันมะพร้าว น้ำมันปาล์ม กะทิ เป็นต้น
5.จำกัดน้ำมันในการประกอบอาหาร และควรเลือกใช้น้ำมันพืชในการประกอบอาหาร เช่น น้ำมันมะกอก น้ำมันรำข้าว น้ำมันเมล็ดดอกทานตะวัน น้ำมันถั่วเหลือง เป็นต้น
6.รับประทานผัก และผลไม้เป็นประจำ
7.ดื่มนมพร่องมันเนย หรือผลิตภัณฑ์จากนมพร่องมันเนย เช่น โยเกิร์ตไขมันต่ำ เป็นประจำทุกวัน พบว่า แคลเซี่ยมจากนมจะช่วยในการควบคุมความดันโลหิตได้
นอกจากนี้ยังสนับสนุนให้บริโภคธัญพืชและผลิตภัณฑ์ เนื้อปลา เนื้อไก่ และถั่วต่างๆ ซึ่งลักษณะของอาหารนี้อุดมไปด้วยแร่ธาตุ แมกนีเซียม โปแตสเซียม แคลเซียม แลใยอาหาร ก็จะทำให้สุขภาพดี ช่วยลดปัจจัยเสี่ยงของโรคหัวใจได้
ที่มา : วารสาร Heart Matters ********************************************* เห็นน่าสนใจดี ด้วยความห่วงใยคร๊าบผม
Create Date : 15 กันยายน 2548 |
|
20 comments |
Last Update : 28 กันยายน 2548 10:37:22 น. |
Counter : 571 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: กุมภีน 15 กันยายน 2548 14:29:38 น. |
|
|
|
| |
โดย: เงือกลม loginเข้าไม่ได้ IP: 203.152.33.6 15 กันยายน 2548 16:25:57 น. |
|
|
|
| |
โดย: ว่าน 15 กันยายน 2548 19:01:06 น. |
|
|
|
| |
โดย: เงือกลม 16 กันยายน 2548 10:27:32 น. |
|
|
|
| |
โดย: ทูน่าค่ะ 16 กันยายน 2548 16:47:53 น. |
|
|
|
| |
โดย: yyswim 17 กันยายน 2548 21:35:50 น. |
|
|
|
| |
โดย: zouthfern (fern_south ) 19 กันยายน 2548 8:31:02 น. |
|
|
|
| |
โดย: เงือกลม 19 กันยายน 2548 10:00:08 น. |
|
|
|
| |
โดย: ดา ดา 19 กันยายน 2548 12:05:08 น. |
|
|
|
| |
โดย: สเลเต 20 กันยายน 2548 8:06:29 น. |
|
|
|
| |
โดย: เงือกลม 20 กันยายน 2548 8:27:59 น. |
|
|
|
|
|
|
|
ป.ล. ว่าแต่ว่า..แล้ววิธีหลีกเลี่ยง หัวใจอ่อนกำลัง..ตอนทำกิจกรรมอย่างอื่น..นอกเหนือจากเวลากินแล้ว..มีมั๊ยอ่ะครับ..55555