The Rite คนอวดผี เอ้ย !! คนไล่ผี
เมื่อวานมีโอกาสได้เดินทางกลับบ้านที่ต่างจังหวัด ซึ่งเป็นโอกาสที่ได้รับเกือบทุกสัปดาห์ เพราะความสุขของการกลับมาอยู่บ้าน คือการได้นอนดูหนังเคเบิ้ลแบบนอนสต๊อป และในช่วงกลางดึกของทุกคืน เคเบิ้ลจะฉายหนังผี หรือหนังอะไรที่ชวนขนลุกดีๆสักเรื่องเสมอ
ส่วนในกลางดึกของเมื่อวาน เราก็มีโอกาสได้ดูหนังพระที่มากับผี ผีซึ่งมาเกี่ยวกับพระ แล้วผีก็โดนพระไล่อีกที ชื่อเรื่องแบบเป็นทางการก็คือ " The Rite "
หนังเรื่องนี้เราจำได้ว่าไปดูกับแฟนเก่าในคืนวันวาเลนไทน์ ซึ่งน่าแปลกมากว่าเป็นแฟนเก่าที่ชวนดู เพราะเค้าเคยบอกว่าไม่ชอบหนังผี แต่เค้าคงมีเหตุผลบางอย่าง ซึ่งเราเองก็ไม่รู้ได้ และไม่เคยถาม แต่ก็ต้องยกเครดิตความดีให้เค้า ที่ทำให้เราได้โอกาสดูหนังดีๆอีกเรื่องนึงในรอบปีนั้น เพราะในความเห็นของเราแล้ว หนังผีเรื่องนี้ ต่ า ง ออกไปจากหนังผีที่มีพระมาไล่ผีอย่างเรื่องอื่นๆ
เพราะว่า " The Rite " เป็นหนังที่เอาเค้าโครงเรื่องมาจากเรื่องจริง ของบาทหลวงสัญชาติอเมริกันรูปหนึ่ง ซึ่งว่ากันไปตามท้องเรื่องแล้วเนี่ย ท่านเป็นบุคคลซึ่งมีปมในชีวิตหลายอย่าง อีกทั้งความสับสนที่ซ่อนอยู่ภายใต้ท่าทีที่ดูมั่นคงของท่าน แต่นั่นอาจเป็นเพราะว่า... ท่านยังไม่เคยได้เปิดประตูออกไปเพื่อหาคำตอบจากสิ่งที่สงสัยอยู่ จนกระทั่ง... โชคชะตานำพาท่านมาหาวิถีแห่งตนในที่สุด
หนังเรื่องนี้ดำเนินเรื่องไปแบบเนือยๆ เรื่อยๆ มีช่วงลุ้นไม่มาก แต่ถ้าถามเราแล้วล่ะก็ ช่วงไล่ผีเป็นอะไรที่ทำเอากลั้นหายใจอยู่เหมือนกัน เรียกได้ว่า เราไม่เสียดายเงินค่าตั๋ว เพราะความตั้งใจเรามีมาก ซึ่งมันแปรผกผันกับความคาดหวัง เลยทำให้เราคุ้ม ! และถึงแม้จะดูรอบที่สามหรือสี่ หรือหนังจะชวนง่วงแค่ไหน แต่เรากลับไม่หลับเลยในสักครั้ง
เหมือนเป็นหน้าม้า แต่เปล่าเลย เรารู้สึกแบบนั้นจริงๆ ความประทับใจเราไม่ให้มาก แต่ถ้าในเรื่องแง่คิดแล้ว ต้องยอมรับว่าเรื่องนี้ให้มาก
ช่วงหนึ่งของหนัง... บาทหลวงที่ชื่อว่า คุณพ่อลูคัส กำลังถกเถียงกับไมเคิล (พระเอกของเรื่อง รึ? ตัวเอก) เกี่ยวเนื่องมาจากเรื่องการไล่ผีให้กับเด็กสาวที่กำลังตั้งครรภ์แก่ใกล้คลอด ไมเคิลโต้แย้งในสิ่งที่เค้าเห็น และสัมผัสได้โดยตรงทุกอย่างกับคุณพ่อลูคัส จนเมื่อประโยคสุดท้ายของไมเคิลที่แย้งอีกฝ่ายหลุดออกมา คุณพ่อลูคัสจึงพูดหนึ่งประโยคให้ไมเคิลได้ฟัง
" การที่คุณไม่กลัวผีหรือว่าซาตาน นั่นไม่ได้หมายความว่า ...มันจะเป็นการปกป้องคุณจากสิ่งเหล่านั้นได้ "
แล้วที่สุดไมเคิลก็เป็นฝ่ายเงียบนิ่งไป ในความคิดเรา คิดว่าพ่อลูคัสรู้แจ้งอยู่แล้วว่าไมเคิลนั้นเชื่อเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ เพียงแต่อุปสรรคในการมีศรัทธาของเค้าก็คือ ใจที่ไม่เคยถูกเปิดออก
คนเราต่างมีความเชื่อ มีศรัทธาที่ต่างกันออกไป และไม่มีใครเป็นแรงบันดาลใจ ให้กับตัวเองได้ดีเท่ากับ "ตัวเอง" อีกแล้ว เฉกเช่นเดียวกับไมเคิล หากไม่มีความชอบ ไม่มีความเชื่อในศาสตร์เหล่านี้ เค้าจะเลือกมาใช้ชีวิตที่นั่นทำไม ทั้งๆที่... ก็มีหนทางอื่นให้เลือกเดินไปตั้งเยอะแยะสำหรับคนหนุ่มเช่นเค้า
และนี่ก็เป็นสิ่งที่เราได้จากหนังเรื่องนี้ คนเราไม่ว่าจะมีโชคชะตาที่แร้นแค้นเช่นใด วันหนึ่งที่ลมแห่งโชคชะตาพัดมาถึง มันอาจเรียกได้ว่า ทางแยกของชีวิต เราก็จำต้องเลือก... บางคนมีทางหลายสายให้เลือกเดินไป บางคนก็มีเพียงไม่กี่ทาง บางคนก็เจอแบบวันเวย์ แต่ที่สุดแล้วคือ การเลือกเดินไป หรือว่า หยุดเดิน! ซึ่งช่วงนั้นของชีวิต เราอาจต้องใช้ "ความรู้" "ประสบการณ์" และ "ศรัทธา" ตัดสินมัน ทั้งหมดนั่นเริ่มได้จากคนๆเดียว แค่คนเดียวจริงๆ ...
Create Date : 05 มกราคม 2556 |
Last Update : 5 มกราคม 2556 15:38:00 น. |
|
2 comments
|
Counter : 1984 Pageviews. |
|
|