Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2554
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
12 สิงหาคม 2554
 
All Blogs
 

ตอนที่ 5

บันช์ลากมือสัมผัสจากผ้าห่มขนม้าลายเทียมแสนนุ่มบนเตียงสีดำสู่อีกเตียงที่คลุมด้วยลูกไม้เนื้อดี เธอสัมผัสผ้าซาติลสีทองที่เป็นม่านคลุมลงมาจากเตียงชั้นบน แต่เมื่อมองขึ้นไปเธอพบว่าคือผ้าห่มที่ยาวจนคลี่ตัวลงมากลายเป็นม่านและมันลงมาจากเตียงชั้นบนซึ่งเป็นของวิเวียน ใช่บันช์รู้ได้ทันทีโดยไม่ต้องมีใครบอก ว่าเตียงชั้นบนนั้นเป็นเตียงของวิเวียน เตียงผ้าลูกไม้ที่เรดนอนอยู่เป็นเตียงของพีโอนี่และเตียงผ้าห่มขนม้าลายที่วิเวียนนอนอยู่เป็นเตียงของเรด สิ่งของต่างๆ แม้แต่ของตกแต่งกระจุกต่างแย่งกันบอกเรื่องราวความเป็นตัวตนของเจ้าของของมัน
“เธอกำลังจะบอกว่าพวกเราทำให้ห้องน่าอยู่ขึ้นเป็นสิบเท่า” วิเวียนแหล่ตามองบันช์ที่เดินไปมาสำรวจห้อง
“วิเวียนเธอรู้ได้ไง” บันช์พูดสียงสูง
“เหมือนเดินเข้ามาในแกลอรี่ที่ แบบว่าเป็นของศิลปินหลายคนแต่ก็อืม...วิเศษ”
“ก็พวกเราเป็นแล้วเธอก็ด้วยบันช์” วิเวียนลากบันช์มานั่งด้วยกันบนเตียง
บันช์เล่าเรื่องร้าน Ice heaven ที่เธอพึ่งไปกินกับไฮเดรนเยียให้ทุกๆ คนฟัง แล้วแผนการที่จะต้องไปกินให้ได้ซักวันหนึ่งก็กำเนิดขึ้น ซึ่งน่าจะเป็นวันพรุ่งนี้
“พอพูดถึงเรื่องของกินหิวทุกที กินไรกันดี” บันช์ลูบท้องตังเอง
“เดี๋ยวเราไปทำเอง” เรดผู้ชอบทำอาหารลุกขึ้นคว้าเสื้อคลุมแล้วเดินออกไปจากห้อง
วิเวียนก็ลุกขึ้นไปให้อาหารเจ้าซาฮาร่า เรดลุกไปแล้ววิเวียนก็ลุกไปแล้ว บันช์จึงนอนแผ่ครอบครองเตียงสองเตียงแต่เพียงผู้เดียว
“เธอว่าบันช์จะกินได้ไหม” เรดถามวิเวียนที่เดินมาช่วยเธอทำอาหารของคนเวลาน้อย คือมาม่าใส่ไส้กรอก
“บันช์ไม่กินเผ็ดหรอ” วิเวียนเดาสุ่ม
“หมายความว่าเธอออกจะเป็นคุณหนู อย่างที่เห็น เธออาจได้กินปลาหมึกยักษ์จากทะเลขั้วโลกเหนือกับไวท์ขาวเป็นอาหารเย็นทุกวัน” เรดกระซิบกระซาบแล้วตอกไข่ลงไปในหม้อ

“ก็ถือเป็นโอกาสดีที่เธอจะได้ลองชิมไง”
“เสร็จแล้วๆ”เรดยกหม้อที่ร้อนระอุตั้งไว้กลางโต๊ะ
พิโอนี่กับบันช์วิ่งออกมาจากห้องเหมือนเด็กๆ เรดจับตาดูสีหน้าของบันช์เมื่อเธอเปิดหม้อ เธอโล่งอกเมื่อบันช์ไม่ได้แสดงสีหน้ารังเกียจ ดูเหมือนพิโอนี่จะเข้าใจสถานการณ์ได้ทันที
“คือเมื่อวานเรากินในหม้อเดียวกันจะได้ไม่ต้องล้างเยอะเธอกินได้หรือป่าว” พิโอนี่ถามบันช์อย่างเกรงอกเกรงใจ
“ยังไม่เคยแต่ก็น่าจะได้นะ” บันช์แสดงสีหน้าไม่แน่ใจ
“อืม... รสนี้อร่อยกว่ารสเมื่อวานอีก” วิเวียนดูดเส้นเข้าปากแต่ตายังจับจ้องที่ตะเกียบของบันช์อย่างลุ้นๆ
“เมื่อวานพวกเธอก็กินมาม่าหรอ” บันช์ถามด้วยสีหน้าใสซื่อ
เธอจะหาว่าพวกเรากินแต่ของไม่มีประโยชน์หรือป่าว เรดคิด
เธออาจคิดว่าอาหารพวกนี้จะทำให้เธอโง่ได้ พิโอนี่คิด
เธออาจรู้สึกสงสารพวกเราที่ไม่สั่งโออิชิดิลิเวอรี่มากิน วิเวียนคิด
บันช์คีปไส้กรอกชิ้นใหญ่ที่สุดในหม้อขึ้นพิจารนา ไส้กรอกลื่นจากตะเกียบตกลงพื้นเหมือนภาพสโลโมชั่น บันช์ใช้ตะเกียบตวัดไส้กรอกจากพื้นขึ้นมาใส่ปากเคี้ยวอย่างไม่อายฟ้าอายดิน
“ฮ่าๆๆ เชื้อโรคยังไม่ทันเห็น” บันช์ดูดนิ้วซ้ำ
โอเคเธอกินง่ายอยู่ง่ายเป็นความคิดของทุกคน
ท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนสี ทั้งสี่ในชุดนอนอยู่บนเตียงของตัวเอง ต่างทำในสิ่งเดียวกันคือรัวแป้นพิมพ์บนโน๊ตบุ๊ค ใส่ทุกๆ อย่างที่ตนเองรู้และพอจะหาข้อมูลได้ ในเรื่องที่ว่าด้วยแฟชั่นกับแรงดึงดูดของบุคคล
“เย้! สวรรค์เสร็จแล้วๆ” พิโอนี่กดเซฟงานแล้วซุกหน้ากับหมอนอย่างเกลียจคร้าน
“เราจะเขาเส้นชัยเป็นคนต่อไป” บันช์พูดโดยตาของเธอยังคงจ้องที่หน้าจอมือเร่งพิมพ์งาน
“สำหรับเราคืนนี้ยังอีกยาวนาน วิเวียนเราจะไม่เล่นไพ่ก่อนทำงานอีกแล้ว” เรดประกาศ
แต่ไม่มีเสียงโต้ตอบจากเตียงชั้นบน
“วิเวียน วิเวียน”
เรดชะโงกหน้าขึ้นไปเตียงชั้นสอง
“โอเค เธอหลับไปแล้ว” เรดลากงานของวิเวียนดู เธอพึ่งทำไปได้แค่ยี่สิบกว่าหน้า แต่เมื่อเรดเห็นวิเวียนกับเจ้าซาฮาร่านอนหลับสนิทขนาดนั้นเธอก็ไม่อยากที่จะปลุก การเลคเชอร์ห้าชั่วโมงเลวร้ายจริงๆ เรดจึงเซฟงานแล้วปิดโน๊ตบุ๊คของวิเวียน
“มีใครต้องการเติมพลังด้วยคัพเค้กไหม” พิโอนี่หยิบถาดคัพเค้กเขามา
เรดและบันช์หยิบไว้คนละอัน อีกซักพักบันช์ก็ขอเพิ่มอีกอันและพิจารณาว่าของกินของพิโอนี่ยังดูอ่อนละมุนตามสไตล์ของเธอ
แล้วพิโอนี่หลับไปทันทีที่หัวถึงหมอน เสียงรัวแป้นพิมพ์ยังคงดังต่อเนือง
มีเสียงรั่วเคาะประตูดังต่อเนือง
เรดหันไปมองหน้าบันช์ที่ส่งยิ้มมาให้ เธอรู้ได้ทันทีว่าเธอคงต้องเดินไปเปิดประตู
ผู้มาเยือนคือไฮเดรนเยียที่กำลังหน้าถอดสี
“ไฮเดรนเยีย เข้ามาๆ”
“เรด ช่วยด้วย วาซาบิเป็นอะไรไม่รู้ ร้องไห้แล้วก็อาละวาดอยู่นอกระเบียงเหมือนจะทะเลาะกับแฟน เราไม่กล้าออกไป” ไฮเดรนเยียพยามดึงมือเรดออกไปที่ห้องเธอ แต่ก็ต้องงุนงงเพราะเรดขืนมือไว้ มีสีหน้านิ่งเฉยและเหนื่อยอ่อน
“คือเรากำลังบอกว่า วาซาบิมีปัญหา” ไฮเดรนเยียพยามทำไม้ทำมือประกอบให้เรดรู้ว่าที่เธอพูดมันเป็นเรื่องใหญ่นะ
“ไฮจ๊ะเราฟังเธออยู่ แต่อีกไม่นานวาซาบิจะกลับมาเป็นปกติจนเธอแปลกใจเลยทีเดียว”
เรดโอบบ่าไฮเดรนเยียมานั่งบนโซฟา
“คือร้องไห้” ไฮเดรนเยียพูดตามหลังเรดที่เดินไปที่ตู้เย็น
เรดส่งช็อกโกแลตก้อนใหญ่ให้ไฮเดรนเยียอันหนึ่งเพื่อสงบอารมณ์
“คืออาละวาด” ไฮเดรนเยียยังแอบพูดก่อนจะส่งช็อกโกแลตเข้าปาก
“เธอมานอนห้องนี้สิถ้าเธอนอนไม่หลับ คือมันค่อนข้างอธิบายยากน่ะ” เรดสั่นหัวเหมือนว่าถ้าเธอไม่ทำอย่างนั้นเธอจะหลับลงไปได้ทุกขณะ

เกือบตีสองแล้วแต่วิเวียนยังคงนั่งทำงานอยู่บนโต๊ะที่เหลือว่างไว้ วาซาบิทำเธอหลับไม่ลง เรด พิโอนี่ วิเวียนและบันช์ หลับกับไปหมดแล้ว เธอสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อวาซาบิเดินเข้ามา
“ไม่มีอะไรๆ” วาซาบิตบไหล่ไฮเดรนเยียเบาๆ ก่อนจะปีนขึ้นไปนอนบนเตียงชั้นบนที่ติดกับเตียงของวิเวียน ไฮเดรนเยียได้ยินเสียงสะอื่นจากใต้ผ้าห่ม
วิเวียนรู้สึกตัวเพราะได้ยินเสียงสะอึ่นของวาซาบิ เธอจึงเอื้อมมือไปลูบหัวของเพื่อนทีสองที ผลิกตัวและหลับสนิท

สามวันแรกผ่านไปโดยที่วาซาบิกับไฮเดรนเยียย้ายมานอนห้อง 302 โดยปริยาย วาซาบิทำทุกคนช๊อคโดยการคุยกับธีนัทแฟนของเธอหวานหยดจนมดขึ้น รูมเมทที่เหลือของทั้งสองห้องดูเหมือนจะหายตัวไปอย่างลึกลับ และแม้จะรู้สึกเหมือนนอนไม่พอแต่ทั้งหกสละเวลาเกือบสองชั่วโมงในการแต่งตัวก่อนไปเรียน บรรยากาศในคลาศเรียนแฟชั่นเหมือนมีคนพยามจับผีเสื้อจอมคึกหลากสีมาขังรวมกันไว้ในห้องเล็กๆ ทั้งหกได้เรียนรู้เรื่องเกี่ยวกับ การตลาด ทฤษฎีและประวัติศาสตร์ศิลป์ และภาควิชาปฏิบัติอย่างการสร้างแพทเทิร์น แม้วิชาพวกนี้จะเข้มข้นมากมายเพียงใด แต่ในปีหนึ่งของรัชตก็ยังคงถือเป็นเรื่องพื้นฐานทั้งสิ้น เมื่อการบ้านของวันแรกยังไม่เสร็จการบ้านของวันที่สองก็มาจ่อรอ แผนการไปกินร้าน Ice heaven ก็ถูกเลื่อนไปอย่างไม่มีกำหนด ทั้งหกอุทิศเวลากว่าแปดชั่วโมงต่อวันให้กับการทำงานแต่สำหรับพิโอนี่ที่ยังมีงานออกแบบพิเศษเข้ามาเธอแทบไม่ได้นอนเลยทีเดียว แต่ทุกคนก็รู้สึกภูมิใจกับการทำงานหนักของตัวเอง เพราะมันทำให้พวกเธอซาบซึ้งกับศักดิ์ศรีความเป็นนักเรียนของรัชตสถาบันออกแบบอันดับหนึ่งของประเทศ และพวกเขาทั้งหกยังปรับตัวได้ดีกับชีวิตใหม่อาหารเช้าของพวกเขาจะเป็นอะไรก็ได้ที่ถือกินไปได้ระหว่างทางเดินไปตึกเรียน อาหารกลางวันก็คือร้านที่คนน้อยที่สุดในโรงอาหาร ส่วนอาหารเย็นก็จะทำกินกันเองอย่างง่ายๆ พวกเขาไขว่คว้าเวลาว่างอันเล็กน้อยก่อนนอนพูดคุยกันในทุกเรื่องก่อนที่จะผลอยหลับไปทีละคนด้วยความเหนื่อยอ่อน


“เดี๋ยว วันนี้วันอะไรจ๊ะสาวๆ” บันช์ประกาศขึ้นเมื่อเลิกคลาส
“วันเสาร์ทำไมหรอ” วาซาบิถามขึ้น
“วันนี้วันเสาร์พรุ่งนี้ก็วันอาทิตย์เป็นวันหยุดของพวกเราดังนั้นวันนี้ไปกินร้าน Ice heaven กันเถอะ”
วู้ๆๆว้าวๆๆ สาวๆ กระโดดโลดเต้นออกจากห้องเรียน
ไอศครีม ลาวาพาราไดซ์ ถ้วยยักษ์หายเกลี้ยงอย่างรวดเร็ว แต่ไม่มีใครอยากลุกขึ้นเลย พวกเขานั่งฝังตัวบนโซฟาอย่างเงียบๆ พูดคุยกันแค่เพียงเบาๆ เหมือนบรรยายความสบาย ความสวยงามของร้านจะทำให้พวกเขาพึ่งรู้สึกตัวว่าตนเองใช้เรี่ยวแรงไปจนหมด เมื่อซึมซับบรรยากาศจนชุ่มฉ่ำไฮเดรนเยียก็เร่งให้ทุกคนกลับก่อนที่จะเผลอหลับไปบนโซฟาแสนสบายนี้ ภายใต้แสงเย็นตาของยามสนธยา ร้านรวงส่วนมากเริ่มเปิดไฟก่อนที่ฟ้าจะมืดลง เสียงเพลงจังหวะไพเราะดังออกมาจากร้านใดร้านหนึ่งบนถนน แสงสีสว่างสดใสของร้านตัดกับความมืดของทางเท้าที่ปูด้วยอิฐสีเข้มที่ทำให้พวกแทบมองไม่เห็นเท้าของผู้ที่ก้าวเดินอยู่ บรรยากาศสร้างความรู้สึกล่องลอยเหมือนกับเดินอยู่ในความฝัน สวยงามและเพลิดเพลิน พวกเขาเดินช้าลง เรดหยุดอ้อยอิ่งที่ร้านขายสัตว์เลี้ยงนานเป็นพิเศษ
และในที่สุดก็ถึงห้อง 302 เรดดึงม่านขึ้นก่อนไฟจะถูกเปิดแสงไฟสว่างไสวจากภายนอกส่องเข้ามาทำให้ห้องเกิดแสงสลัวและเงาตกกระทบสวยงามจนไม่มีใครอยากเปิดไฟ น้ำแร่เย็นเจี๊ยบถูกแจกให้ทุกคนเป็นบริการพิเศษจากวาซาบิ บันช์เปิดเพลงเพลงแจ๊สแสนโรแมนติก
“ว้าวบรรยายกาศดีจังเต้นรำกันเถอะ” วิเวียนชูมือขึ้นแล้วบิดสะโพกเป็นเลขแปดแบบสบายๆ ไปตามจังหวะเพลง แล้วห้องนั้งเล่นก็กลายสภาพเป็นฟรอเต้นรำ ร่างหญิงสาวทั้งหกเคลื่อนไหวตามจังหวะเพลง ท่าร้อนแรงขึ้นตามเวลาที่ผ่านไป พิโอนี่เสยผมหยิบแก้วน้ำแร่กระดกรวดเดียวหมดในท่าทางเหมือนดื่มบรั่นดี
และเมื่อจังหวะสุดท้ายของเพลงหยุดลงทุกคนโพสค้างในท่าสุดเซ็กซี่ระดับสาวFHM โดยเฉพาะเรดที่อินถึงกับเลิ่กกระโปรงขึ้นเล็กน้อยและปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตเพื่อให้ไหล่ตกลงมา
“ต้องเพลงนี้ๆ” บันช์รีบวิ่งไปเลือกเพลงต่อ
เมื่อจังหวะเพลงตื๊ดๆ ดังขึ้นท่าเต้นของพวกเขาก็เปลื่ยนไป ไฮเดรนเยียคนสวยโยกหัวไปมาแล้วชูมือขึ้นในสัญลักษณ์คาราบาวผมยาวลงมาปิดหน้าเธอ วาซาบิกระโดดขึ้นบนโซฟาทำท่าเล่นเบสของนักร้องเพลงร็อกหัวรุนแรง ท่าเต้นเพี้ยนๆ ถูกงัดออกมาอวดกันจนท้องจะขึ้นซิกแพ็คจากการขำ ขณะที่วิเวียนเต้นบีเกิร์ลประชันกับท่ารูดเสาร์ของเรด บันช์ก็รำวงขึ้นมาด้วยท่าทางทีดูก็รู้ว่าเกิดมาไม่เคยรำ ทุกคนปล่อยกากดังลั่นและร่วมรำในวงรำวงสุดเพี้ยน ความสนุกสุดเหวี้ยงประทุขึ้น ทั้งหกทำสิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือหันเข้าหากันเป็นวงกลมและรำท่าครุฑรัวขาถี่ยิบเหมือนเล่นโขน
ห้องสว่างวาบขึ้นเพราะการเปิดประตูโดยพลการของใครบางคน
“เกิดอะไรขึ้น พวกเธอทำอะไรกัน” เสียงของผู้หญิงคนใดคนหนึ่งในกลุ่มที่อออยู่หน้าประตูห้องของพวกเขา พวกเขาหยุดเต้นกันทันทีด้วยความแปลกใจและความอาย คนกลุ่มหนึ่งประมาณห้าหกคนยืนออกันอยู่หน้าประตูห้อง มองเห็นได้ไม่ชัดนัก
พิโอนี่ถองข้อศอกไปที่ซี่โครงของวาซวาบิเพราะเธอยังคงลืมตัวรัวขาค้างอยู่
“อุ้ย” วาซาบิหยุดขาของเธอทันที
“อุ้ย” วิเวียนรีบอุ้มซาฮาร่าที่วิ่งไปวิ่งมาด้วยความคึกไปแอบไว้ด้านหลังเพราะกลัวคนเห็นแล้วไปฟ้องคนคุมหอ
เรดเอื้อมมือไปเปิดไฟทันที ภาพหญิงสาวผู้มาใหม่ทั้งหกคนที่ตีมีหน้าตารับไม่ได้ใส่พวกเขา ที่เหงื่อโทรมกาย
“พวกเธอทำบ้าอะไรกันอยู่ ชั้นมาผิดห้องหรือป่าวเนีย” ยัยผู้หญิงหน้าขาวโป๊ะหน้าหนาพูดขึ้นเสียงดัง
“แล้วพวกเธอละเป็นใคร อยู่ๆ เปิดเข้ามาไม่มีมรยาท” บัชน์ยืดตัวดึงภาพลักษณ์คุณหนูแสนหยิ่งที่หายไปกลับคืนมาเหมือนว่าเธอไม่เคยทำท่าครุฑสุดเพี้ยนมาก่อน
“ก็เป็นเจ้าของห้องอีกคนไงละ”
ทั้งหกใจหายเล็กน้อยเพราะเพียงสามวันที่พวกเขาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน ทำให้พวกเขาลืมไปแล้วว่ารูมเมทของเขายังมาไม่ครบ
“แล้วพวกแกไปมุดหัวอยู่ที่รูแมลงสาบไหนมาทราบ” วาซาบิที่เหมือนจะมีความอดทนน้อยสุดตะโกนก้องกังวาน จนห้องอื่นๆ ต้องเปิดประตูออกมาดูเหตุการณ์




 

Create Date : 12 สิงหาคม 2554
2 comments
Last Update : 12 สิงหาคม 2554 19:45:18 น.
Counter : 394 Pageviews.

 

จบเร็วอ่าาาาาาาาาาาาาา

 

โดย: mammm IP: 183.89.234.137 12 สิงหาคม 2554 20:17:36 น.  

 

สวัสดีวันแม่นะคะ

 

โดย: nangjai1 12 สิงหาคม 2554 21:28:21 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


pattamon road
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




แน็ต
fashion design SWU
pattamon(facebook)
Friends' blogs
[Add pattamon road's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.