Don't Worry,
Be HAPPY!! ^_____^

"nobody perfects"
..but you are close!
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2549
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
9 สิงหาคม 2549
 
All Blogs
 
เหตุเกิดบนรถเมล์สาย 43

เมื่อวันศุกร์นั่งรถเมล์ไปรับเพื่อนที่สนามบิน จริง ๆ มันก็ไม่ลำบากอะไรหรอก แค่ขึ้นรถเมล์จากหน้าหอแล้วนั่งไปเรื่อย ๆ ลงเอาสุดสายก็ถึงสนามบินพอดีอะ (ประมาณเกือบ ๆ ชั่วโมง)

จริง ๆ แล้วถ้านั่งรถไฟจะถูกกว่านะ
ทั้งถูกกว่า ทั้งเร็วกว่า.. เสียอย่างเดียว... ต้องเดินไปขึ้นที่สถานีรถไฟ(ซึ่งไกลจากหอนี่หว่า)

ไปรับเพื่อนตอนเย็น(ดึก)ด้วย กว่าจะกลับคงดึก... แล้วใครจะถ่อไปรถไฟล่า

ก่อนออกไปยังร่ำลากะลุงบางคนที่คุยเอ็มกันอยู่
ตาลุงนั่นบอกว่า "ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพนะ"

แหม....ตอนนั้นแอบคิดว่า "อิชั้นไปรับเพื่อน ไม่ได้จะไปรบ" ย่ะ





รถเมล์ที่จะไปได้ต้องเป็นรถของบริษัท Stagecoach สาย 43 เท่านั้น
ก่อนไปก็เช็คตารางในเนทไว้ดิบดี กลัวไม่มีรถกลับน่ะนะ ฮะๆๆ
(ความจริงแล้วรถเมล์ที่ไปสนามบินมีตลอดเวลาจ้ะ)

ไอ้รถของ Stagecoach เนี่ยปกติก็ไม่ค่อยขึ้นหรอก
ก็แหม..... มันแพงกว่าชาวบ้านตั้งเท่านึง ฮะๆๆ


คราวนี้ขึ้นไปปุ๊บ ไม่รู้ทำไมแฮะ.....


ปกติไม่ค่อยนั่งชั้นสองเลย เพราะปวดหัวมาก ๆ (เมารถอาการหนัก)
แต่คราวนี้ขึ้นไปปุ๊บเห็นข้างล่างไม่ว่างเท่าไหร่ก็เลยเดินขึ้นชั้นสองไปเฉยเลย

ถ้าคนรู้จักตู่ดีคงจะต้องงงพอ ๆ กับเวลาตู่นั่งรถยนต์แล้วไปนั่งข้างหลังแหละ... เพราะปกติ ให้ตายยังไง ถ้าไม่ใช่รถที่ "ไปเสนอหน้านั่งข้างหน้าไม่ได้" ล่ะก็ จ้างให้ตู่ก็ไม่ไปนั่งข้างหลังหรอก.... จะบ้าเหรอ ปวดหัวจะตายอ้ะ (เมารถขนาดหนักมาตั้งแต่เด็กก็งี้แหละ)

ขึ้นไปนั่งตรงกลางด้านซ้ายของรถ ระหว่างนั้นก็ฟังเพลงในมือถือไปเรื่อย
ไอ้หูฟังมือถือรุ่นนี้มีข้อเสียตรงที่ว่ามันดีไปหน่อย.... เลยทำให้แทบไม่ได้ยินเสียงอะไรข้างนอกเลยเวลาเปิดเพลงแล้วเสียบหูไว้อะ (เคยเกือบโดนรถที่มาจากไหนไม่รู้ชนไปหลายรอบแล้ว - -".... แหม ๆ ไม่ถึงขนาดนั้น แหะๆ ส่วนมากเป็นจักรยานที่มันขับแบบไม่เป็นระเบียบอะ)

นั่งไปซักพักก็เหมือนได้ยินเสียงข้างหลังคุยอะไรกันดั๊งดัง
แล้วเราก็ไม่สนใจต่อไป

นั่งไปอีกซักพัก เอ๊ ทำไมไม่มีคนไปนั่งข้างหลังกว่าเราแล้วเลยนะ
จนมีครอบครัวนึงขึ้นมา มากันเป็นครอบครัวใหญ่เชียว เค้าก็นั่งอยู่ที่นั่งฝั่งด้านขวา ส่วนตัวคนเป็นพ่อมานั่งอยู่ด้านหลังเรา

ก็............. เห็นอยู่หรอกว่ามีแต่คนเค้าหันไปมองข้างหลัง
ก็............. รู้สึกมั่งอะนะว่าเสียงอะไรมันดั๊งดัง



จนช่วงระหว่างต่อเพลงน่ะ... ถึงจะได้รู้ตัว

คือ... ไอ้วัยรุ่นข้างหลังสี่คน (น่าจะประมาณม.ปลาย) มันทะเลาะกัน
เป็นผู้หญิงหนึ่งคอยห้าม อีกสามคนผู้ชายกำลังทะเลาะกันอยู่

มันมิได้ทะเลาะกันด้วยวาจาเท่านั้น....
โอ้...... ผัวะ ผัวะ ผัวะ ผัวะ เลือดโชกเลยอะ



แหะแหะ แอบตื่นเต้น
อ๊าย มีคนมาทะเลาะกันข้างหลังเค้าด้วยอ้ะ



พ่อหนุ่มคนที่น่าจะเป็นแฟนของแม่สาวคนที่กำลังพยายามห้าม (มันห้ามกันไปด่ากันไปนะ) เห็นเลือดไหลโชกมาจากหัวทางด้านขวาแฮะ โดนอีกสองคนรุมมั่ง ทำกลับมั่ง

มิน่าล่ะ คนในรถที่นั่งข้างบนหันไปมองกันใหญ่เลย ฮะๆๆ
(ไอ้คนที่แทบจะนั่งใกล้เค้าที่สุดอย่างเราดันไม่ทันสนใจ - -")

ก็ว่ามีคนเดินขึ้นมาแล้วลงไปเลยไม่หาที่นั่งตั้งหลายคน
ครอบครัวที่เดินขึ้นมานั่งนั่นก็ลงไปเลยเหมือนกัน
เห็นลูก ๆ เค้าทำสีหน้าห้ามปรามพ่อ ประมาณว่าอย่าไปยุ่งกะเค้า
มีหลายคนที่ลงไปแล้วทำเป็นชะเง้อ ๆ กลับมาดูก็หลายคน


แล้วเราจะทำไงดีล่ะ????????????


จริง ๆ ก็นะ.... ไม่ได้คิดจะทำอะไรหรอก เพราะเข้าใจว่าอย่างมากก็เอาเลือดโง่ ๆ ออกกันไปซะบ้าง เลยยังนั่งต่อไป....... แต่......... ทะเลาะกันดังขนาดนี้มันฟังเพลงไม่รู้เรื่องอะพวกหนู พี่กำลังฟังโคบุคุโระอยู่นะยะ

ประกอบกับ ปวดหัวเหลือเกินเพราะเป็นชั้นสองของรถเมล์ คนที่เมารถได้เป็นปกติพอ ๆ กับกินข้าวอย่างเราก็เลยจรลีลงไปข้างล่างดีกว่าแฮะ

ตอนตัดสินใจจะลง มีคนลงตามกันไปเพียบเลย ฮะๆ
ไม่ใช่อะไรหรอก ไอ้ที่มันทะเลาะกันมันเสียงดังขึ้นอีกแล้วน่ะซิ

งานนี้ก็ต้องตัวใครตัวมันกันก่อนน่อ


ลงไปข้างล่างแล้ว พวกฝรั่งก็ไปบอกคนขับกันใหญ่เลยว่ามีเรื่องอยู่ข้างบน แต่ลุงคนขับไม่ออกมาแฮะ เค้าก็ขับของเค้าไปอย่างนั้น.............. เอ หรือเค้าจะใช้มาตรการเดียวกับขับเครื่องบิน?? ฮ่าๆๆ

แต่ถือว่าเป็นครั้งแรกนะเนี่ยที่เจอคน "ทะเลาะ" กันแบบเลือดอาบให้เห็นในรถเมล์ (ที่อื่นเคยเจอแต่คนรับจ้างไปยืนให้คนอื่นชก) .......... จริง ๆ รถเมล์ที่นี่ไม่ค่อยดีเลยน้า





สรุปว่าวันนั้น กว่าจะไปถึงสนามบิน (เครื่องลงสี่ทุ่ม เพื่อนออกสี่ทุ่มครึ่ง) สละเสื้อหนาวไปให้ด้วย เพราะคุณเพื่อนไม่ยอมฟัง อุตส่าห์เตือนแล้วนาว่าพักนี้หนาวอีกแล้ว ยังไม่หยิบเสื้อหนาวมาอีก.... คนกลับจากจีนมา มาถึงตัวสั่นงั่ก ๆ เห็นแล้วสงสาร ฮะๆๆ (แอบทับถมเล็กน้อย ข้อหาเตือนแล้วไม่ฟัง)

แล้วกว่าพวกเราจะนั่งรถกลับมาถึงเมือง กว่าจะช่วยมันขนกระเป๋าเก็บห้อง ดูๆ มันอีกนิดเผื่อเค้าจะเอาอะไรมั้ย กว่าจะเดินกลับมาถึงห้อง.....................

เที่ยงคืนครึ่งแล้วง่ะ

ง่วง..... สุดท้ายก็อาบน้ำแล้วนอนเลยดีกว่าน่า
ดีนะหออยู่ใกล้ ๆ กันแบบเดินห้านาทีก็ถึง
เอาไว้เราจะย้ายที่พักเมื่อไหร่ต้องเรียกมาใช้บริการกันมั่ง ฮะๆๆ


ปล. คุณลุงคนนั้นที่คุยกัน.... ไอ้ที่เจอแบบนี้เค้าเรียกว่า "เดินทางโดยสวัสดิภาพ" รึเปล่าเนี่ยลุง??


Create Date : 09 สิงหาคม 2549
Last Update : 9 สิงหาคม 2549 3:35:54 น. 4 comments
Counter : 450 Pageviews.

 
อูว น่าถ่ายรูปไว้ด้วย ใครชนะหว่า


โดย: แป๊กก วันที่: 9 สิงหาคม 2549 เวลา:3:45:02 น.  

 
วันหลังจะเสียบหูฟังก็เปิดเสียงเบาๆ หน่อยดิ
ไม่งั้นก็เสียบแค่ข้างเดียวก็พอ

นี่ยังดีที่ไม่มีลูกหลงอ่ะ เกิดวันไหนแจ็กพ็อตแตก มีลูกหลงมานี่ไม่ต้องมารู้สึกตัวอีกทีที่โรงบาลหรอกเรอะ


โดย: หญิงเหล็ก IP: 58.10.84.105 วันที่: 9 สิงหาคม 2549 เวลา:9:01:50 น.  

 
ซื่อบื้อจริง
เอาเหอะ เค้าก็เคยเปิดเพลงฟังไม่ทันสนใจ
เสียงมือถือดังเป็นสิบรอบ
(ก็คิดอยู่ว่า ของใครวะ ทำไมไม่รับ)
มารู้สึกตัวตอนที่คนข้างๆหันมาสะกิด บอกว่า
"โทษนะคะ มือถือดังไม่ใช่เหรอ"


โดย: toay IP: 58.8.49.94 วันที่: 10 สิงหาคม 2549 เวลา:22:27:30 น.  

 
เหอเหอเหอ

สงสัยคราวหลังอวยพรอะไร ตู่คงบอกไม่รับอีกแล้วแน่ๆเลย


โดย: being's lover วันที่: 17 สิงหาคม 2549 เวลา:14:28:54 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

=too=
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]






『ไม่ต้องเป็นที่หนึ่ง.. แต่ขอเป็นหนึ่งเดียว』

- 世界に一つだけの花 (槇原敬之)

wherever you go, whatever you do, believe in future...

let's get together.... : )

Friends' blogs
[Add =too='s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.