Bloggang.com : =too= : ทัวร์คุณนาย...ไปเที่ยวเมืองปาย

ทัวร์คุณนาย...ไปเที่ยวเมืองปาย

ซื้อ Vouchure ของบ้านกระทิงมาตั้งสามใบ
ต้องใช้ภายในตุลานี้!!

เอาล่ะสิ นี่ก็เดือนกันยาเข้าไปแล้ว
ยังไม่มีวี่แววว่าจะได้ไปเลยซักหน

แถมตอนแรกที่กะว่าจะไปกับที่บ้านกันทั้งหมดก็ดั๊นไม่มีใครอยากไปด้วยอีก
สุดท้ายเลยได้เป็นตู่เต้ยผจญภัยไปกันสองคนซะละ ฮะๆๆ
แถมพ่วงด้วยเพื่อนสนิท(มาตั้งแต่นานนม)อีกหนึ่งคน

จะว่าไปเพื่อนคนนี้เคยมีวีรกรรมในบล็อคมาหลายอันแล้วนะ
แต่บางทีไม่พูดถึงจะดีกว่า ฮะๆๆ
เอาเป็นว่าสนิทกันมาก รู้จักกันมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม
เรียนโรงเรียนเดียวกันมาตั้งแต่อนุบาล
คนอื่นเค้าสนิทกันแบบแค่อ้าปากก็รู้ว่าจะพูดอะไร
แต่อย่างพวกเราต้องบอกว่า ไม่ต้องพูด ไม่ต้องเห็น ไม่ต้องอะไรทั้งนั้นก็เดาได้ว่ามันจะทำอะไร!!

เพราะงี้แหละ................ทัวร์เมืองปายจากที่คิดว่าจะเป็นทัวร์ธรรมดา ๆ เลยเริ่มกลายเป็นทัวร์คุณนายขึ้นเรื่อย ๆ!!!

จริงอยู่ว่าเราเป็นคนลุย แต่ลุยแบบคุณหนูหน่อย ๆ ขอที่พักดี ๆ มีห้องน้ำเป็นใช้ได้
ที่เหลือจะเอาชั้นไปต้มยำทำแกง (เอ๊ะ ไม่เอาดีกว่า อันตราย) ยังไงก็ไม่บ่น ขอแต่อย่าร้อนเหอะน่า

แต่คุณเพื่อนนี่สิ นิสัยตรงข้ามกันโดยสิ้นเชิง
เราอาบน้ำเสร็จเป็นเสร็จกัน ขณะที่เพื่อนอาบน้ำแป๊บเดียวเสร็จแต่แต่งตัวอีกเป็นชั่วโมง อะไรทำนองนี้

ต๊ายยยย จะไปกันรอดเหรอนี่???

ทัวร์เมืองปายมันกลายเป็นทัวร์คุณนายไปซะด้วยองค์ประกอบหลายส่วน
ส่วนใหญ่ ๆ เลยน่าจะเป็นเพราะการเดินทาง

จากเดิมคิดว่าจะนั่งเครื่องไปแล้วไปต่อรถตู้รับส่งที่โน่น
สุดท้ายไป ๆ มา ๆ กลายเป็นนั่งเครื่องไปแล้วไป "เช่าเหมารถตู้" ที่โน่นแทน

เอ๊ ทำไมน้า??? จริง ๆ เราไม่รังเกียจมินิบัสหรือรถตู้บริการหรอกนะ

ค่ารถตู้ที่หาได้ถูกสุดคือ "เที่ยวละ 1,600 บาท"
ไปกลับก็ 3,200 เหนาะ ๆ

ขึ้นรถตู้ปุ๊บก็หลับเป็นตายปั๊บ ช่วยไม่ได้นี่ คนมันเมารถ
ไปถึงแล้วก็ยังเช่ารถพร้อมคนขับพาเที่ยวอีกวันนึง วันละ 1,200 บาท

จริง ๆ มันมีมอเตอร์ไซค์ให้เช่าน่ะนะ
แต่ด้วยความเป็นคุณหนูของแต่ละคน(อ้วก) เลยขี่มอเตอร์ไซค์กันไม่เป็น
จะให้ขี่จักรยานก็ด๊ายยยยย แต่............ เราขี่ไม่เป็น ไม่มีใครยอมให้ซ้อนท้ายอ้ะ

(ใจร้ายกันชะมัด งึม ๆ งัม ๆ)

วันที่ไม่มีรถก็ใช้วิธีเช่ารถโรงแรมไปรับ-ส่งเข้าเมือง เสียไปอีกเที่ยวละร้อย... โอ้

เที่ยวเมืองปายมันเก๊าะเลยกลายเป็นทัวร์คุณนายด้วยเหตุผลหลัก ๆ คือการเดินทางนี่แหละจ้ะ

Photo Sharing and Video Hosting at Photobucket

นอกจากเรื่องรถก็คงเป็นเรื่องที่พัก

เพิ่งไปรู้ทีหลังว่าไอ้ที่พักที่เราจองเนี่ยเค้าเรียกว่า "แพง" สำหรับที่นั่น เพราะปกติเค้าอยู่กันแบบคืนละไม่กี่ร้อย ขณะที่พวกเราพักเป็นพัน ๆ เหอเหอ วิวสวยเห็นแม่น้ำ มีสระว่ายน้ำข้างหน้าด้วยน้า (มีไปงั้น..... ไม่ได้ลงซะหน่อย)

แต่ทิวทัศน์รอบข้างตั้งแต่เชียงใหม่ไปถึงปายนี่สวยน่าประทับใจมากเลย
ขนาดเราหลับ ๆ ตื่น ๆ ยังตื่นขึ้นมาถ่ายรูปได้ ฮะๆๆ

ตลอดทางมีหมอกปกคลุมเป็นระยะ ดีนะที่ฝนไม่ตกหนักเหมือนตอนเครื่องลงที่เชียงใหม่ แค่นี้ก็อันตรายจะแย่ละ

เลยได้ความคิดที่ว่า "ความสวยงามนี่มันมักจะมาคู่กับความอันตรายจริง ๆ ด้วยน้า"
เอ๊ะ งั้นเราคงเป็นคนที่ไม่เป็นพิษเป็นภัยแน่นอน ฮะๆๆ

ที่เที่ยวเมืองปายก็มีหลายที่
ถ้าจะไปแบบลุย ๆ ก็คงต้องขึ้นรถไปทางแม่ฮ่องสอนแล้วล่องแก่งซะ
หรือไม่งั้นก็อาจจะไปดื่มด่ำธรรมชาติตามบ่อน้ำพุร้อนหรือร้านกาแฟข้างทาง
แต่ถ้าใครอยากไปยลโฉมเมืองเล็ก ๆ น่ารัก ๆ ก็เข้าตัวเองไปนั่งจิบอะไรกินข้างทางได้

สุดท้ายไอ้กิจกรรมที่เราได้ทำนี่..... แหะแหะ ยังงงตัวเองว่าไปทำอะไรมา

คืนวันแรกเข้าไปเดินสำรวจตัวเมืองเล่น
น่ารักเอาเรื่องนะเนี่ย เห็นเค้าว่าเป็นที่ถ่ายหนังเรื่อง "รักจัง" ซะด้วย (แต่ไม่เคยดู)

ตอนเช้าวันเที่ยวเริ่มต้นจากการไปไหว้พระใน "วัดน้ำฮู"
ซึ่งวัดนี้ถือเป็นวัดศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองปายเลยล่ะ
เพราะมีจุดเด่นคือ มีน้ำไหลออกมาจากเศียรพระพุทธรูปในวัด

ตามวีดีโอเทป (เค้าทำเป็นดีวีดีโฆษณาเลยนา) ที่ทางวัดเปิดให้ดูจะเห็นว่ามีการพิสูจน์แล้ว และก็เป็นจริง ๆ ซะด้วย

อื้ม ศักดิ์สิทธิ์ค่ะศักดิ์สิทธิ์!!!

แถมที่นี่มีอนุสาวรีย์พระนเรศวรกับพระเอกาทศรถ และพระสุพรรณกัลยาด้วยล่ะ

หลังจากนั้นไปต่อที่หมู่บ้านจีน เป็นหมู่บ้านจีน...อะไรหว่า.... จีนฮ่อ เปล่านะ??? นั่นแหละ
ที่เข้ามาตั้งรกรากที่นี่

หมู่บ้านนี้มีจุดเด่นตรงที่ว่าบ้านทำด้วยดินจ้ะ

งง ๆ อยู่เหมือนกัน ดินเนี่ยนะ??? แล้วเวลาฝนตกไม่ละลายเหรอ????
เค้าก็บอกว่าไม่ละลายนา มันเป็นดินผสมฟาง มีไม้ไผ่ทำเป็นกรอบอะไรทำนองนี้
อยู่ได้นานด้วย แถมมีข้อดีคือช่วงร้อนก็ทำให้เย็น ช่วงเย็นก็ทำให้ร้อน

ดีจังแฮะ บ้านแบบนี้น่าจะเอามาสร้างในกรุงเทพบ้าง

พอลองเดินเข้าไปดูด้านใน.... ทำไม๊ทำไมไพล่ไปคิดว่าตัวเองไปเดินดูกระท่อมฮ็อบบิทของลอร์ดออฟเดอะริงส์ได้ไงว้า????

หลังจากนั้นก็ไปต่อกันที่น้ำตกหมอแปง
คนขับรถเค้าขับขึ้นเขาต่อจากหมู่บ้านจีนไปอีกนิดหน่อย
ผ่านพวกหมู่บ้านชาวเขามีคนเฒ่าคนแก่ใส่ชุดชาวเขาเดินไปมาดาวยนะ
เป็นน้ำตกเล็ก ๆ น่ารัก ๆ สวยดี ที่สำคัญ.....เดินไม่เยอะ!!! 55555

ทำอะไรไม่ได้มากเท่าไหร่ ได้แต่ถ่ายรูปนิด ๆ หน่อย ๆ แล้วก็กลับ
ชื่นชมธรรมชาติ(ที่ช๊อบชอบ)พอละ ^_____^

ต่อจากนั้นเราก็เริ่มด้วยการกินบ้าง ฮะๆๆ
ที่ปายมีร้านดัง ๆ ชื่อ "Coffee in Love" อยู่นอกเมืองออกไป
ทำเลที่ตั้งดีมากกกกกกกกกกกกกกกกก

เห็นเค้าว่าส่วนมากไปกินกาแฟกัน แต่เราไม่กินกาแฟนี่

เก๊าะเลยเข้าไปสั่งสตรอเบอร์รี่โซดา พร้อมเค้กอีกสองชิ้น

รสชาติเค้กงั้น ๆ แหละค่ะ
แต่รสชาติวิวที่ได้ดื่มด่ำไปพร้อมกันนี่........ สุดยอด

แถมห้องน้ำที่นี่น่ารักอย่าบอกใครเลย
อาบน้ำได้ ข้างบนหลังคาใสซะด้วย!!!

กินเสร็จแล้วก็ไปเอาออก... ฮ่าๆๆ ด้วยการ "ปีน"

เราสามคนไปปีนสถานที่ที่ชื่อว่า "กองแลน"
ถ้าจะถามว่ากองแลนคืออะไร ให้บอกง่าย ๆ ว่ามันเก๊าะเหมือน ๆ กับไอ้พวก แพะเมืองผี หรือพวกแกรนด์แคนย่อนนั่นแหละนา

แน่นอนว่าเราไม่ยั่นเรื่องนี้เท่าไหร่ เพราะอยู่อังกฤษเดินกับโฮสต์บ่อย
ขนาดเป็นหอบยังเดินเร็วสุดในหมู่สามคนเลย

แต่ไอ้อีกสองคนนี่ดิ..... เต้ยไม่เท่าไหร่ แต่คุณเพื่อนนี่อาการร่อแร่
ขนาดไม่มีอะไรที่พื้นเลยมั๊นก็ยังลื่นอยู่นั่นแหละ ฮะๆๆ

หลังจากหอบแฮ่ก ๆ กลับมาได้แล้ว คราวนี้คนขับรถเค้าก็ส่งเราสามคนแวะถ่ายรูปที่สะพานสงครามโลกครั้งที่ 2 กันก่อน สะพานนี้น่าจะอนุมานได้ว่าเหมือนกับสะพานข้ามแม่น้ำแควนั่นแหละ (แต่หน้าตาดันไปละม้ายคล้ายสะพานพุทธไปซะ)

ไม่มีอะไรมาก เพราะสะพานนี้ปัจจุบันไม่ได้ใช้แล้ว เอาไว้ถ่ายรูปเฉย ๆ
พวกเราก็เลยได้แต่ถ่ายรูปแล้วก็ไปต่อนี่ล่ะ

หลังจากถ่ายรูปแล้วเราก็ไปต่อกันที่ "โป่งน้ำร้อนท่าปาย"
ที่นี่ก่อนจะไปก็ได้ยินกิตติศัพท์แล้ว แต่ไปถึงก็ยังช็อคอยู่ดี

ช็อคอะไรน่ะเหรอ???

ช็อคกับค่าเข้าชมไงล่า!!!!!!!!!!!

สำหรับคนไทยเก็บ 20 บาท
สำหรับคนต่างชาติคิด.......... 400 บาท

โอ้ สาบานได้เลยว่าถ้ามีเพื่อนต่างชาติจะไม่พามาเด็ดขาด มันแพงเกินอะ

แต่ตอนไปถึงก็เจอหนุ่มผมทองสองคน (หน้าตาดีด้วย) ยืนจ่ายตังค์เตรียมเข้าไปอยู่นะ
แหม รวยกันจริ๊งงงง

พวกเราสามคนจ่ายตังค์ 60 บาทเข้าไปแล้ว
เดินไปเดินมา ไอ้โป่งน้ำร้อนมันอยู่ไหนหว่า??? หาไม่เจอ

เห็นสะพานทางขวาก็เลยเดินข้ามสะพานไป
ไป ๆ มา ๆ อ้าว..... ยังไปอีกไกลเลยนี่ แต่ละคนเริ่มงอแง ไม่ไปแล้วๆๆๆๆ

คือเค้านึกว่าเป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติกัน
เพราะก่อนหน้านี้ไปจันทบุรีก็เคยเจอแบนี้

สุดท้ายลงมาเลยลองเอานิ้วแตะ ๆ ไอ้ลำธารที่ข้ามไปตอนแรกหน่อย

อ้าวววววววววววว มันเป็นน้ำร้อนแฮะ!!!!!!!!!!!!

สุดท้ายเก๊าะเลยถอดรองเท้าเอาขาจุ่มกันตามสบาย
แน่นอนว่าร้อนแทบลวก แต่ก็รู้สึกดีเป็นบ้า เท้าหายเมื่อยเลย
ไอ้อ้วนเต้ยยิ่งแล้วใหญ่ เดินไปเดินมาบนนั้นเลยด้วยซ้ำ อารมณ์ประหนึ่งว่ากำลังเข้าห้องอาบน้ำที่ญี่ปุ่น ฮะๆๆ

สุดท้ายกลับมาที่รถถึงเพิ่งรู้ว่า จริง ๆ แล้วเส้นที่เดินไปน่ะถูกแล้ว
ถ้าเดินต่อไปเรื่อย ๆ จะถึงต้นบ่อที่น้ำมันผุดขึ้นมา - -"

ไอ้ขี้เกียจสามคนนี้ไม่มีความสามารถพอ เลยได้แต่น้ำใต้บ่อเท่านั้นแหละ - -"

โธ่...............

หลังจากนั้นขอเรียกว่า "ช่วงเวลากระดี๊กระด๊าของคุณนาย"
เพราะเป็นการกินข้าวและเข้าสปาเจ้าค่ะ

คือคุณเพื่อนตั้งใจว่าจะมาสปาที่นี่ให้ได้
ไม่เข้าใจมันเหมือนกัน ในเมื่อเป็นเจ้าของสปาเองที่กรุงเทพแล้วจะมาเข้าทำแป๊ะอะไรที่นี่ แต่ก็นั่นแหละ สุดท้ายก็ไปด้วยกัน

เริ่มจากกินข้าวก่อน แล้วเต้ยกะเพื่อนก็ไปนวด (แต่เราหลับรอ)
หลังจากนั้นก็ลง "อาบน้ำแร่" กะเค้าซะบ้าง

โอ้... น้ำแร่นี่มันลื่น ๆ ดียังไงไม่รู้
ความจริงมันก็สนุกดีน่ะนะ ถ้าไม่ใช่ว่าเสียเวลาเกือบทั้งบ่ายไปกับกิจกรรมเสริมความงาม (ที่ไม่จำเป็นสำหรับเรา) เนี่ย

แต่ก็อย่างว่านะ ไปเที่ยวกันเป็นกลุ่มนี่นา

หลังจากนั้นต่อด้วยการขี่ช้างมาราธอน ฮ่าๆๆ
ขี่นานตั้งชั่วโมงครึ่ง!!!

ตอนแรกนึกว่าตัวเองโชคดีได้ขี่ลูกช้าง ขี่คนเดียวด้วย ดีจะตาย
แต่ไอ้ลูกช้างตัวนี้อายุ 25 แล้วนะ ทำไมตัวยังเล็กอยู่เลยหว่า???

แล้วไป ๆ มา ๆ ....โห๊ย ช้างใจร้อนนี่ ทำเราจะตกจากที่นั่งหลายรอบแล้ว
เดินทีก็เหวี่ยงสุดยอด................ คิดผิดปะเนี่ย???

แถมยังพ่นน้ำลายตลอดทางอีก ฮ่าๆๆๆ ขำตัวเอง แทนที่จะเอ็นจอยธรรมชาติ ดั๊นมาคอยหลบน้ำลายช้างแทน

หลังจากนั้นโปรแกรมทัวร์ก็ไปจบที่ "วัดพระธาตุแม่เย็น"
ไม่รู้ว่าทำไมที่นี่ถึงได้ชื่อว่าแม่เย็นหรอกนะ

แต่เดาเอาว่าคงเป็นเพราะ.................... วิวที่แสนจะสวยงามตอนเย็น ๆ แน่เลย

เมืองปายนี่สวยเป็นบ้า... อยากไปอยู่จัง

หลังจากนั้นเราก็กลับเข้าเมือง แวะซื้อของกินนิดหน่อย

แล้วก็กลับไปกินข้าวเย็นในโรงแรมซะ

เมืองปายเป็นเมืองที่น่าประทับใจมากเลย
เมืองเล็กๆ ที่ยังคงมีความเป็นธรรมชาติอยู่บ้าง แต่ก็น่าเสียดายเหลือเกินที่หลังจากมันกลายเป็นเมืองท่องเที่ยวแล้วหลาย ๆ อย่างได้เปลี่ยนไป.... เปลี่ยนจนคนท่องเที่ยวอย่างเราเองมาวิตกแทน ว่าถ้ามันเปลี่ยนไปถึงจุดหนึ่ง

เมืองนี้คงจะหมดเสน่ห์ไปแน่ ๆ

อย่าให้มีวันนั้นเลยนะจ๊ะ ปาย

อยากบอกว่าไม่เคยเห็นดาวเต็มฟ้ามานานแล้ว
แต่ได้มาเห็นอีกครั้งที่นี่แหละ ^____________^

Create Date : 20 กันยายน 2550

Last Update : 21 กันยายน 2550 1:29:26 น.

9 comments

Counter : 2291 Pageviews.

มาตามพี่ตู่ไปเที่ยวคนแรกเลย

โดย: Mactopia

วันที่: 21 กันยายน 2550 เวลา:7:04:45 น.

ปายมีอะไรเก๋ๆแบบนี้เยอะจัง

โดย: fairy_tells

วันที่: 21 กันยายน 2550 เวลา:9:55:39 น.

พอลองเดินเข้าไปดูด้านใน.... ทำไม๊ทำไมไพล่ไปคิดว่าตัวเองไปเดินดูกระท่อมฮ็อบบิทของลอร์ดออฟเดอะริงส์ได้ไงว้า???? >> เพราะบ้านมันเล็กและประตูมันกลมไง

ไปทริปคุณนายก็สบายตัวดีน้า แต่ไปทริปลุยๆจะมันส์กว่า ถือว่าไปพักผ่อนหย่อนใจของจริงละกันนิ

ค่าเข้าชม 400 เหวอออ

โดย: froggie IP: 125.27.88.203 วันที่: 21 กันยายน 2550 เวลา:10:36:43 น.

เข้ามาดู

ปล. ใครอยู่บนหลังช้างหน่ะ :P (ช้างตัวเล็กมากเลย แอบเห็นใจ )

โดย: -CheMisTry- IP: 222.123.89.110 วันที่: 22 กันยายน 2550 เวลา:10:25:48 น.

อุ้ย ปายหรอ กี๊ดด เคยเห็นรูปซากุระที่ปายแล้วอยากไปดูมากๆ ฮื้อออ

ปล.อ้อ ที่ถ่ายหนังรักจังหรอ เคยดูๆ

ปล.อีกที สงสารช้างจัง อิอิ

โดย: SeReNe~ IP: 218.108.29.238 วันที่: 23 กันยายน 2550 เวลา:23:21:36 น.

ปายคือที่ไหนในประเทศไทยเหอ

เค้าได้ยินชื่อมานานละแต่ไม่เคยรู้

โดย: ดทรค IP: 123.2.58.33 วันที่: 24 กันยายน 2550 เวลา:21:51:59 น.

หยาบคายยยยยยยยยยย
นั่นมันลูกช้างหรอกน่า มันถึงได้ตัวเล็กไง ฮึ

ปายอยู่ทางเหนือค่ะพี่อ้อน
อยู่ระหว่างเชียงใหม่ไปแม่ฮ่องสอนน่ะค่ะ

เส้นทางระหว่างไปนี่...ขึ้นเขากันน่าดูชมเลยแหละ

โดย: too IP: 203.156.136.66 วันที่: 25 กันยายน 2550 เวลา:11:08:59 น.

วิวสวย ดูน่าเที่ยวจังตู่

แต่อย่างว่าเลย ทริปคุณนายโคตรๆ

ขึ้นเครื่องด้วย

โดย: bowbow IP: 203.148.162.193 วันที่: 26 กันยายน 2550 เวลา:17:13:11 น.

โห บรรยากาศน่าเที่ยวจริงๆเลย

ได้ยินแต่ชื่อ ไม่เคยไปซักกะที

โดย: piggypink IP: 125.24.46.185 วันที่: 27 กันยายน 2550 เวลา:11:56:20 น.