วัดสวนแก้ว โดย พระราชธรรมนิเทศ หรือ พระพยอม กัลยาโณ
"พระดีศรีสังคม" เชิญชมบรรยากาศภายใน 15 นาที
เดิมชื่อ วัดแก้ว เป็นวัดร้างมา 80 ปี
ภายหลังหลวง
พ่อเทียน ได้เข้ามาพำนัก แต่พื้นที่ของวัดเต็มไปด้วยเรือกสวน
หลวงพ่อไม่สามารถจะบูรณะได้ เพราะขาดบุคลากรที่จะช่วยพัฒนา
พระพยอม ได้เดินทางมากราบหลวงพ่อเทียน เพื่อขอทำโครงการบวชเณรภาคฤดูร้อน
เมื่อเสร็จแล้วก็จะลากลับสวนโมกข์ เมื่อหลวงพ่อเทียนได้อนุญาตให้พำนักแล้ว
ยังได้ช่วยสนับสนุนงานบวชเณรภาคฤดูร้อนด้วยโดยช่วยเป็นพระพี่เลี้ยงให้
หลวงพ่อเทียนได้มอบหมายให้พระพะยอมเป็นผู้ดูแลรักษาวัดต่อไป
ส่วนตัวหลวงพ่อเทียน กลับจังหวัดเลย ที่วัดแก้วนี้
พระพยอมได้พัฒนาพื้นที่ของวัดและเตรียมจำลองสวนโมกขพลาราม
ให้เกิดขึ้นในเมือง ตามคำที่ท่านพุทธทาสเคยปรารภเมื่อคราวที่ยังศึกษาธรรม
อยู่ที่สวนโมกข์ ท่านได้ทุ่มเทชีวิตใจเพื่อการบูรณะวัดอย่างเต็มที่และ
ได้นำทรัพย์ส่วนตัวมาพัฒนาวัดแก้ว ภายหลังได้เปลี่ยนชื่อเป็นวัดสวนแก้ว
เมื่อพัฒนาวัดจนเหมาะสมกับสภาพสิ่งแวดล้อมของวัดแล้ว
จึงมุ่งเผยแพร่พุทธศาสนาอีกครั้งหนึ่ง
พระพยอมรับกิจนิมนต์มาก
ทำให้ทราบถึงปัญหาต่าง ๆ ของคนระดับกลางลงมา
ซึ่งต้องยอมรับว่าบุคคลเหล่านี้มีพฤติกรรมหลงใหล ใฝ่ต่ำเรื่องเพศ
เรื่องเหล้า เมายา ไม่มีสมองที่จะคิดพัฒนาใด ๆ เท่าที่ควร
ทำให้
พระพยอมตัดสินใจที่จะช่วยบุคคลเหล่านี้ให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
พระพยอมจึงได้รวบรวมทุนทรัพย์ส่วนตัวซึ่งมีไม่มากนักนำมาใช้พัฒนาบริเวณวัด
และหาทุนซื้อที่ดินบริเวณใกล้เคียงต่อออกไปอีก เพื่อทำเป็นมูลนิธิสวนแก้ว
ทั้งนี้ เพื่อความสะดวกในการบริหารงานช่วยสังคม
ปัญหาของสังคมทุกวันนี้เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างฐานะ อาชีพ ความรู้ และโอกาส
ซึ่งพระสงฆ์ควรจะมีส่วนร่วมแก้ไขปัญหานี้ด้วย ด้วยปณิธานที่จะช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์
และเผยแพร่ศีลธรรมคำสอน ของ
"พระพุทธเจ้า"เพื่อให้ประชาชนได้รู้จักการใช้หลักธรรม ในการดำเนินชีวิตและแก้ปัญหาด้วยตนเอง
ท่านจึงได้จัดตั้งมูลนิธิสวนแก้วขึ้น
และได้เป็นวัดพัฒนาตัวอย่างประจำปี 2555
จากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ การเดินทาง